บทที่ 289 สถานการณ์เลวร้าย
“ยอมไม่ได้จริงๆ ..” น้ำเสียงของหลินเฉิงจี้ทั้งหมด หวังทั้งจนใจ มองผู้หญิงคนนั้นอย่างหลงใหล จนอยาก จะวิ่งไปคว้าเธอมากอดเอาไว้
แต่เขาทำไม่ได้ เขาไม่มีสิทธิ์นั้น
ราวกับความโกรธในใจมารวมตัวกัน จนทำให้เขาไอ รุนแรงยิ่งขึ้น ร่างโค้งต่ำลง ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองอ่อนใน มือกลายเป็นสีแดงไปทั้งผืนอย่างน่ากลัว
หลินเฉิงจี๋หน้ามืดตาลาย ไม่สามารถทนต่อไปได้ จน ล้มลงไปกองกับพื้น
ประจวบเหมาะกับที่จงเชิงผ่านมา พอเห็นหลินเฉิง จี้ล้มลงไปกองกับพื้น ก็รีบปรี่เข้าไปประคองทันที จน ผ้าเช็ดหน้าที่อาบเลือดในมือของเขาตกลงไปที่พื้น
หลังจากที่งานจบ แขกเหรื่อต่างก็แยกย้ายกันกลับ รวมทั้งตัวถังซินเองก็เช่นกัน
พนักงานทำความสะอาดวิ่งผ่านถังซินไป พร้อมรุนรถ ถังขยะไปด้วย ในถังขยะนั้นมีของน้อยมาก ผ้าเช็ดหน้า เปื้อนเลือดที่มีริบบิ้นอยู่ด้วยนั้นทำเอาใจเธอเต้นระรัว
เมื่อครู่มีคนได้รับบาดเจ็บในงานเต้นรำหรือ
เธอนึกสงสัย ตามทางเดินที่ผ่านมา มองชายหนุ่ม หลายคนที่ถือกล่องปฐมพยาบาลผ่านหน้าไป ด้วยท่าที รีบร้อน พนักงานที่สวมชุดเครื่องแบบพูดกับพวกเขา ว่า มีแขกคนหนึ่งเป็นลม อาการย่ำแย่มาก
ทันใดนั้นหลี่ซูเจ๋ที่อยู่ข้างกายของเธอก็ชะงักนิ่ง และ หันหน้ากลับไปมองชายที่ถือกล่องปฐมพยาบาล
ถังซินเอ่ยถาม “มีอะไรหรือ”
“ไม่มีอะไร” หลี่ซูเจ๊รีบหันกลับมา และพูดอย่าง ตะกุกตะกัก “เมื่อครู่ได้ยินพนักงานพูดว่ามีแขกเป็นลม ไม่รู้ว่าหมอเพียงไม่กี่คนจะดูแลกันได้ไหม”
“ไม่มีปัญหาหรอก” ถังซินกลั้วขำ “หากหมอช่วยอะไร ไม่ได้ ผู้จัดการของเรือสำราญก็จะติดต่อไปหาหมอที่ อยู่ด้านนอก อย่างไรความปลอดภัยของแขกก็สำคัญ ที่สุด”
หลี่ซูเจ๋จ้องเธอ ด้วยสายตาที่สับสน “ก็จริง”
ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรบ้าง
หลี่ซูเจ๋กลับมาที่ห้องของตัวเอง เพื่ออาบน้ำสระผม ก็ นึกอยากถามจงเซิง แต่ก็กลัวจะเป็นการเปิดเผยเรื่อง ของพวกเขาออกไป สุดท้ายก็วางมือถือลงด้วยความ กระวนกระวาย
ทันทีที่เธออาบน้ำสระผมเสร็จ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
ทันทีที่ประตูเปิดออก ใบหน้ายิ้มเผล่ของลู่เหวินซูก็ โผล่มาทันที “ที่รัก เพิ่งอาบน้ำเสร็จหรือครับ หอมจริงๆ”
“คุณมาทำอะไรกัน
ลู่เหวินซูแสร้งทำตัวน่าสงสาร “ผมกลัวความมืด นอน คนเดียวไม่ได้หรอกครับ”
“คุณก็เปิดไฟนอนสิ” หลี่ซูเจ๋จะปิดประตู แต่เท้าของ เขาก็ขวางประตูเอาไว้ เธอโกรธขึ้นมาทันพลัน “ลู่เหวิน ซู เอาเท้าออกไปนะ
“ที่รักครับ ผมอยากนอนกับคุณ”
“ฉันยังไม่ได้ยกโทษให้คุณนะ” หลี่ซูเจ๋นึกไปถึง รูปภาพในโทรศัพท์ของเขา ก็ไม่สบอารมณ์ทันที
เขาไม่ดึงเท้ากลับ เธอจึงออกแรงปิดประตู เพื่อดัน ฝ่ายตรงข้ามออกไปข้างนอก
ทันใดนั้นลู่เหวินซูก็ร้องขึ้นมา “โอ๊ยเจ็บ ที่รักเท้าของ ผมหักแล้ว”
“คุณหลอกฉันอีกแล้วใช่หรือไม่” หลี่ซูเจ๋บ่นพึมพำ แต่ เมื่อเห็นใบหน้าที่ทรมานของเขา ราวกับว่าเท่านั้นหักจริงๆ จึงรีบเปิดประตูออก และถามอย่างกังวล “หัก หัก จริงๆ หรือคะ เจ็บไหม”
ลู่เหวินซูรีบคว้ามือของเธอไว้ และก็ดึงกันเข้าห้องไป แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
เขาจูบเธอ ก่อนจะหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ไม่เจ็บแล้วครับ”
“ลู่เหวินซู คุณกำลังใช้ความรู้สึกดีๆ ของฉันอยู่นะ” หลี่ ซูเจ๋ทบเขาอย่างแรง ก่อนจะดันเขาให้พ้นทางและเดิน เข้าห้องนอนไป ลู่เหวินซูเองก็ตามไปหน้าตาย
ลู่เหวินซูเอ่ยประจบ “นางฟ้าตัวน้อยอย่าโกรธกันเลย นะครับ ความผิดของผมมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เลยหรือครับ ตอนนี้ผมกลับตัวกลับใจแล้ว ผมไม่มีตา เอาไว้ไปมองใครอีกนอกจากคุณ
“คุณมันห่วยแตก”
“ท่าทางของคุณนี่มัน…” ลู่เหวินซูกระตุกยิ้มที่มุมปาก “ผมรู้สึกว่าพวกเธอสวย จนบางครั้งก็อดที่จะเก็บภาพ เอาไว้ไม่ได้ แต่ไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงๆ นะครับ”
หลี่ซูเจ๋หันกลับมาจ้องเขา ก่อนจะกล่าวด้วยความ โมโห “คุณจะบอกว่าฉันสวยไม่พอที่จะเข้าไปอยู่ใน กล้องของคุณใช่หรือไม่คะ”
“ไม่ใช่…
“ฉันมองเป็นอย่างนั้นค่ะ” หลี่ซูเจ๋เท้าเอวด่าเขา “กล้องของคุณมันมีตั้งร้อยๆ ภาพ ไม่ใช่นางแบบฝั่ง ตะวันตกก็นางแบบในประเทศ รูปของฉันสักรูปก็ไม่มี คุณยังบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอีกหรือ”
“นี่คุณยังให้นามบัตรกับนางแบบพวกนั้นไปด้วยอีก ขายาวเท่าไหร่ งานอดิเรกทำอะไร เวรเถอะ คิดอะไรอยู่ ก็รู้อยู่แล้วไหม บอกว่าไม่ได้คิดจะนัดพวกเขา ผีมันยัง ไม่เชื่อเลย”
ลู่เหวินซูกล่าวสาบาน “หากผมคิดเช่นนั้นจริงๆ ให้ ฟ้าผ่าผมให้ตายก็ได้”
“คุณโดนฟ้าผ่าตายแน่ๆ
“ที่รักผมผิดไปแล้ว ให้อภัยผมสักครั้งเถอะนะครับ” ลู่ เหวินซูดึงมือของเธอขึ้นมาพรมจูบ “เรื่องแบบนี้จะไม่ เกิดขึ้นอีก ผมรักคุณ รักคุณ”
หลี่ซูเจ๋กระชากมือของตัวเองกลับ ทั้งชี้ไปยังมุมห้อง “เข้ามุมสำนึกผิดซะ”
ลู่เหวินซูโวยวายทันที “ที่รัก ไว้หน้าผมบ้าง เข่าของ ผู้ชายล้ำค่าดั่งทองคำ ไม่คุกเข่าได้ไหมครับ
“คุณต้องการฉัน หรือว่าต้องการหน้าคะ”
ลู่เหวินซูไม่อยากนอนบนเตียงที่เหน็บหนาวแต่เพียง ผู้เดียว และอย่างไรก็มีเพียงนางฟ้าตัวน้อยคนเดียว ที่เห็นเขาคุกเข่า หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็เข้ามุม คุกเข่าทันที
หลี่ซูเจ๋คลางในลำคออย่างยินดี พร้อมกระโดดขึ้น เตียง “คุกเข่าครึ่งชั่วโมง
“ที่รักครับ ลดสักนิดเถอะครับ” ลู่เหวินซูมองเธอด้วย ท่าทีน่าสงสาร “หากเข่าของผมพังขึ้นมา ตอนนอนคง หมดแรงน่าดู”
“คุณออกเรื่องลามกอีกแล้วนะ” หลี่ซูเจ๋หยิบหมอนขึ้น มาปาใส่เขา ด้วยใบหน้าแดงจัด “หน้าไม่อาย
“ผมไม่ได้ออกเรื่องลามก คุณคิดไปเอง”
หลี่ซูเจ๋ปาหมอนใส่อีกครั้ง
ลู่เหวินซูเห็นว่ามีประโยชน์ ก็รีบใช้หมอนสองใบนั้น รองเข่าทันที รู้สึกสบายขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เป็นเย่นจิ่งเหนียนที่วิดีโอคอลมาหาเขา
“นี่นายกำลังทําอะไรกัน” เพียงรับสาย เย่นจิ่งเหนีย นก็รู้สึกว่ามุมร่างของลู่เหวินซูมันแปลกๆ “คงไม่ได้ว่า ทะเลาะกับหลี่ซูเจ๋ จนโดนทำโทษให้คุกเข่าบนคีย์บอร์ด หรอกนะ”
“ไร้สาระ ที่รักของฉันไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น” ล่เห วิน กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ฉันแค่คุกเข่าออกกำลัง กายเท่านั้น”
เย่นจิ้งเหนียนยิ้มเยาะเขา “เอาการทำโทษมาเป็นการ ออกกำลังกาย นายให้ความรู้ใหม่กับฉันมากเลยนะ”
“มีเรื่องอะไรไหม ไม่มีอะไรฉันจะวางสายแล้ว”
เย่นจิ้งเหนียนเข้าเรื่องทันที “พี่รองปิดโทรศัพท์ นายไปคุยกับพี่เขาให้หน่อย ว่าการวิจัยครั้งที่สอง ของIxoraเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เงินทุนไม่เพียงพอ”
“โอ้ มาหาเงินนี่เอง” ลู่เหวินซูเข้าใจความหมายของ เขาทันที “แต่การวิจัยเล่นๆ แบบนั้นจะมีประโยชน์ ทั้งหมดมีแค่ห้าเท่านั้น หากผิดพลาดไปทั้งหมด เงิน ร้อยกว่าล้านที่ใช้ไปนี่กลายเป็นน้ำไปในทันทีเลยนะ”
“มีน้องชายแบบนายโคตรเหนื่อย” เย่นจิ้งเหนียนถอน หายใจ “ตอนนั้นฉันต้องตาบอดแน่ๆ ไม่เพียงฉัน ฉัน รู้สึกว่าพี่ใหญ่พี่รองเองก็ตาบอดไปเช่นกัน”
“เฮ้ เจ้าสามนายเกินไปแล้วนะ” ลู่เหวินซูไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้ฉันช่วยไว้ เงินทุนการวิจัยกี่ล้านเมื่อก่อนนั้น มาพร้อมกับลมหรืออย่างไร”
“ไม่คุยกับนายแล้ว อย่าลืมไปคุยกับพี่รองด้วย”
เย่นจิ่งเหนียนมีท่าทีรังเกียจเขา พอกล่าวจบก็วางสาย ทันที ลู่เหวินซูโกรธจนเจ็บไปทั้งอกทั้งใจ
หลี่ซูเจ๋เอ่ยถาม “เป็นอะไร”
“เจ้าสามรังเกียจผม” ลู่เหวินซูกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ผมไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ หากพืชนั้นมันทำให้คนเซลล์ เกิดใหม่ได้ ทั้งยังมีเพียงห้าเท่านั้น หากใช้ไปจนหมด แล้วเป็นเพียงงานวิจัยที่ผิดพลาดขึ้นมา เงินที่ลงทุนไป ก็ถือว่าเสียเปล่าในทันที ให้เขาเอาเงินเหล่านั้นมาวิจัย ยาต้านมะเร็งยังจะดีเสียกว่า รายได้ในภายหลังจะต้อง เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นแน่
ทันทีที่ได้ยินคำว่า เซลล์เกิดใหม่ หลี่ซูเจ๋ก็เพ่งสมาธิ ทันที
เธอแสร้งถามอย่างไม่สนใจ “การแพทย์ต่างวิจัยกัน มาเป็นจวนจะร้อยปีแล้ว ยังไม่สามารถค้นคว้าสมุนไพร ที่จะช่วยเซลล์เกิดใหม่ได้เลย จะมีพืชเช่นนั้นด้วยหรือ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
“มีสิครับ พี่รองเป็นคนหาเจอ” เพราะเป็นแฟนของ ตัวเอง ลู่เหวินซูจึงไม่ได้ปกปิดอะไร ทั้งยังบอกกับ เธออีกว่ามู่เฉินหย่วนได้พาถังซินไปตุรกีเพื่อไปดู พืช|xoraชนิดนี้อีกด้วย
แต่เดิมIxoraนั้นสามารถเดินทางกลับทางอากาศได้ วิจัยได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร หากเกิดอุบัติเหตุ หรือ ระเบิดขึ้น ก็จะรักษาทั้งห้าต้นนั้นไว้และส่งกลับมาได้
กลุ่มวิจัยของเย่นจิ่งเหนียนวิจัยIxoraจนมาถึง กระบวนการที่สองแล้ว ประสบความสำเร็จเป็นอย่าง มาก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ