ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 248 คุณมู่ คุณทําอาหารเป็นด้วยเหรอเนี่ย



บทที่ 248 คุณมู่ คุณทําอาหารเป็นด้วยเหรอเนี่ย

ถังชิน : เขากับโมโมยผงหยินเป็นอะไรกันเหรอ

กวนชิงเฟิง : คุณป้าของโมโมยผงหยินแต่งงานกับกวนลิ่ หลั่ง โมโมยผิงหยินเป็นถังตี้ (ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นน้องชายฝั่ง พ่อ)

ก้นบึ้งของหัวใจถังซินมีความเหน็บหนาวพรั่งพรูออกมา

ที่แท้ผู้หญิงที่ชื่อโมโมยผิงหยินมีภูมิหลังอย่างนี้นี่เอง ไม่ เพียงแต่เป็นครอบครัวเดียวกันกับพ่อคนเก่า หนำซ้ำเขายัง เป็นคู่หมั้นของแฟนเก่าเธอด้วย

เรื่องคลับเฮาส์ ไม่แน่ว่าหลินเฉิงจี้อาจจะไปหาเกาพินถึง ให้ทําก็ได้

“เป็นอะไรไปเหรอ” มู่เฉินหย่วนเห็นสีหน้าเธอไม่ดีจึงถาม “เห็นอะไรเหรอ”

ถังซินเม้มปาก “โมโมยเหม่ยซีเป็นคนของหลินเฉิงจี๋”

“จริงเหรอ” มู่เฉินหย่วนเลิกคิ้วขึ้นแต่กลับไม่แปลกใจ “ผม รู้นานแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ดังนั้นพอเธอเข้ามาใน ตระกูลมู่ก็เลยไม่ได้ใช้เธอมาก เรื่องใหญ่ส่งให้ผู้ช่วยจาง หมด”

“เขาทำไมถึงได้…” ถังซินสะอื้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เธอคิดว่าหลินเฉิงจี้ขีดจำกัด เรื่องพวกนี้เขาไม่ทำแน่นอน ที่แท้เขาก็เป็นคนแบบนั้นมาตลอด แค่เธอมองเขาดีเกินไป

“เรื่องพวกนี้ผมจะจัดการเอง คุณเลิกคิดถึงได้มันแล้ว” มู่ เฉินหย่วนคว้ามือเธอมาจูบแล้วเปลี่ยนเรื่อง “มื้อเที่ยงอยาก กินอะไรล่ะ ผมทําให้คุณกิน

“คุณเนี่ยนะ” ถังซินหันหน้าไปมองเขาด้วยสีหน้า ประหลาดใจมาก “คุณทําอาหารเป็นด้วยเหรอคะ”

“ไม่เป็นหรอก”

หลังจากที่ซื้อผักผลไม้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาได้แล้ว มู่เฉิน หย่วนก็พาถังชินกลับไปที่วิลล่า พอแตะคีย์การ์ด ทั้งสองคน ก็ได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากข้างในแต่ไม่ชัด ไม่รู้ว่ามีโจร เข้ามาหรือเปล่า

“คุณยืนอยู่ตรงนี้นะ ผมจะเข้าไปดูก่อน

พอเข้าไปมู่เฉินหย่วนก็เห็นคนสองคนลับ ๆ ล่อ อยู่ในห้อง รับแขกไม่รู้ว่าทำอะไร

“ผู้ช่วยจาง” มู่เฉินหย่วนจำคนในนั้นหนึ่งคนได้จึงพูดอย่าง น่าหวาดกลัว “นายไม่ทำงานทำการ ถ่อมาทำอะไรที่วิลล่า ฉัน แล้วเข้ามาได้ยังไงเนี่ย
ผู้ช่วยจางรีบหดหัวกลับแล้วทักทายเขาเบา ๆ “ประธานมู่ คุณกลับมาแล้วเหรอครับ”

มู่เฉินหย่วนมองเขาอย่างไร้อารมณ์ แล้วละสายตาไปมอง ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ อีกคนที่ยังคงกำลังยัดอะไรอยู่ข้างหลังตู้ ข้างหู ผมขาว ๆ ด้วย

“พ่อ…”

“ร้องเสียงดังทำไม ฉันไม่ได้หูหนวกนะ” ท่านมู่เอาของยัด เข้าไปเสร็จถึงได้ลุกขึ้นแล้วมองบนใส่มู่เฉินหย่วน “ฉันมาดู แกหน่อยไม่ได้หรือไง”

มู่เฉินหยวนถาม “เมื่อกี้ท่านกำลังทำอะไร

ท่านมู่อ้างเหตุผล “บ้านแกหนูเยอะ เมื่อกี้ฉันจับหนูให้แก”

ถังซินที่อยู่ด้านนอกได้ยินความเคลื่อนไหว ดูเหมือนเป็น เสียงของผู้ช่วยจาง พอเธอเข้าบ้านนอกจากจะเจอผู้ช่วยจาง แล้วท่านมู่ก็อยู่ด้วย “ท่านมู่ ท่านสบายดีแล้วเหรอคะ”

“อยู่โรงพยาบาลมาสักพัก ดีขึ้นมาแล้วละ” ท่านมู่ยิ้ม ตาหยีแล้วพูด “นี่ไม่ใช่กลัวว่าเฉินหย่วนอยู่คนเดียวแล้วจะ เหงาเกินไปก็เลยมาดู ๆ เขาหน่อยสินะ”

ถังซินเขินจนไม่รู้ว่าวางมือไว้ตรงไหนดี
เป็นวิลล่าของ เฉินหย่วนแท้ ๆ แต่ทุกครั้งเธอมาเปิดเผย เหมือนกับเป็นบ้านของตัวเอง

ทำเกินไปหรือเปล่านะ

“หนูนึกขึ้นมาได้ว่ามีธุระพอดี ถ้างั้นหนู…”

พอถังซินคิดหาข้ออ้างปลีกตัวออกมา ท่านมู่ก็ไอแรง ๆ สองที ผู้ช่วยจางรีบไปพยุงเขา “คุณท่านไม่เป็นไรใช่ไหม ครับ ดูท่าทางต้องส่งท่านไปโรงพยาบาลแล้ว”

ท่านมู่พยักหน้าหงิก ๆ “เฮ่อ ฉันมันแก่แล้ว…

“ประธานมู่ คุณถัง ผมพาคุณท่านไปก่อนนะครับ” ผู้ช่วย จางพยุงท่าน ออกไป

ตอนใกล้จะไปแล้วท่านมู่ก็เข้าไปใกล้ ๆ มู่เฉินหย่วนที่อยู่ ข้างหน้าแล้วเตือนเบาๆ “นั่นฉันไปหามาเองเลยนะ ถ้าแก กล้านํามันพังต่อไปอย่ากลับไปหาฉันอีก”

พอเจอหน้าถังซินก็ยิ้มอย่างอบอุ่นทันที “เสี่ยวถังฉันไปนะ คราวหน้ามาอีกนะ”

“ค่ะ” ถังซินยังอึ้งนิด ๆ เลยถามออกไปทันที “ท่านไม่ เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหมคะ ให้ประธานมู่ไปส่งท่านไหมคะ ยังไง เขาก็ไม่มีธุระอะไร

“ฉันไม่ต้องการหรอก”
ท่านมู่โกรธจน “หึ ๆ” ออกมา แล้วพาผู้ช่วยจางออกไป

ความเย่อหยิ่งของคุณท่านทำเอาถังซินกลืนไม่เข้าคายไม่ ออก คิดในใจว่า : มู่เฉินหย่วนทำให้เขาโกรธอีกแล้วได้ยัง ไงเนีย

พอกลับมาแล้ว เธอเห็นมู่เฉินหย่วนดูในตู้แต่ก็ไม่รู้ว่าดู อะไรจึงถามออกไป “เมื่อกี้ฉันได้ยินท่านมู่บอกว่าบ้านคุณมี หนู มีจริง ๆ เหรอคะ”

ยังคงมองเข้าไปข้างในอยู่

สุดท้ายหัวก็ยังไม่ขยับอีก มู่เฉินหย่วนคว้าไหล่ของเธอ แล้วพาเธอไปที่ห้องรับแขก “อืม มันตายอยู่ในมุมตู้ คุณอย่า ไปมองมันจะดีกว่านะ เดี๋ยวจะกินข้าวไม่ลง

“งั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ” ถังซินสั่นไปทั้งตัว ขยะแขยงมาก

มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบา ๆ

หนูที่ไหนกันล่ะ

ความจริงคือ…

ถังซินคิดว่า เฉินหย่วนล้อเล่น คิดไม่ถึงว่าเขาจะหิ้วผัก เข้าไปทําในครัวจริง ๆ เธอก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพราะอยากลอง ดูว่าเขาจะทํากับข้าวอะไรออกมา
ยังไงซะถ้ากินไม่ได้ก็สั่งข้าวกล่องก็ได้

หลังจากที่ถามพยาบาลที่จ้างมาเรื่องอาการของคุณแม่ยัง เธอก็โทรไปลางานกับคุณฉิน

“กี่เดือนนะ” คุณฉิน ง จากนั้นก็ถามเธอว่า “มีเรื่องอะไร สำคัญเหรอ คุณถึงขอลาหยุดนานขนาดนี้”

ถังซิน “อืม” หนึ่งที “มีเรื่องที่สำคัญมากที่ต้องจัดการ โครงการรถไฟความเร็วสูงก็ได้มาแล้ว เรื่องอื่นที่เหลือท่าน ประธานหลานก็โอเคแล้ว ถ้าท่านคิดว่านานเกินไป จะไล่ฉัน ออกก็ได้นะคะ”

“ได้ยังไงล่ะ คุณเป็นอายุน้อยที่มีความสามารถฉันปล่อย คุณไปไม่ได้หรอก” คุณฉินหัวเราะแล้วจึงพูด “ไม่เป็นไร แม้ว่าคุณจะไปทำธุระของคุณ แต่ฉันกับบริษัทจะรอคุณกลับ มาเอง”

ถังซินหัวเราะเบา ๆ “ขอบคุณท่านนะคะ

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

พอวางสายแล้วถังซินก็โล่งอกไปทีแต่ก็ยังรู้สึกไม่อยาก ลาหยุดเหมือนกัน

เธอเพิ่งจะได้โครงการใหญ่มา ยังไม่ทันที่มันจะเริ่มต้นก็ ต้องจําใจส่งให้คนอื่นเสียแล้ว พอเธอกลับไปเหอชวนแล้ว ทางนั้นก็คงจะเริ่มก่อสร้างไปแล้ว
ถังซินวางมือถือลงแล้วไปห้องครัว เห็นมู่เฉินหย่วนกำลัง ยุ่งอยู่หน้าเคาเตอร์ในครัว อย่าไปพูดว่าเหมือนมาก เพียง แต่ว่าหาทางเขาดูไม่ค่อยเข้ากับครัวเท่าไหร่

เห็นชายหนุ่มใส่เสื้อขาวกางเกงดำ แต่งตัวเนียบมาก เธอ ก็เบะปากแล้วพูดประชด “คุณมู่คะ คุณผัดกับข้าวไม่ใส่ น้ำมันเหรอคะ” มู่เฉินหย่วนหันหน้ามามองเธอแว๊บหนึ่ง “ใส่ สิ ผมใส่อยู่แล้ว”

“แล้วคุณแต่งตัวแบบนี้… ” ถังซินมองเขาขึ้นลง ๆ สายตา ดูเหยียด ๆ แต่งตัวอย่างกับไฮโซ ถ้าไม่รู้คงคิดว่ากำลังถ่าย คลิปอยู่นะเนี่ย”

มู่เฉินหย่วนก้มหน้ามอง ใส่แบบนี้ไม่เหมาะจริง ๆ แต่สอง มือเขาสกปรกจริง ๆ เลยได้แต่ยกมือขึ้นทําท่าทางใส่ถังซิ นว่าก็ช่วยไม่ได้นี่ “ถ้างั้นก็รบกวนคุณถังหน่อยนะครับ”

“ทำเองสิคะ ผ้ากันเปื้อนก็แขวนอยู่บนกำแพงอยู่”

“ไม่เอาน่า มือผมสกปรกนะ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาทำ เสียงออดอ้อน “ถ้ายังชักช้าอีกบ่ายนะถึงจะได้กินข้าว คุณ ไม่หิวจริง ๆ เหรอ

ถังซินหูแดงไปหมด บ่นอุบอิบน่าหงุดหงิดจริง ๆ แต่ก็ยัง หยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนกับตะขออยู่ลงมา

“ก้มลงมาอีกหน่อยสิ คุณสูงเกินไปนะ
มู่เฉินหย่วนจนปัญญาก้มตัวต่ำลงมาอีกนิดหน่อย

พอถัง นผูกผ้ากันเปื้อนเสร็จ พอจะถอยหลังก็โดนจูบริม ฝีปากอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเอามือปิดปากทันที ทั้งตกใจทั้ง โมโหจ้องมองตัวผู้ก่อเหตุ

“โทษที ตัวคุณมันหอมอ่ะ” ชายหนุ่มยิ้ม ๆ สายตาเต็มไป ด้วยความขี้เล่นซุกซน “มันห้ามใจไม่ไหวอ่ะ”

“อีตาลามก”

“ฮะ ว่าไงอีกนะ” มู่เฉินหย่วนทำท่าจะจูบเธออีก ถังซิน ถอยหลังเรื่อย ๆ ในตัวแล้ววิ่งหนีอย่างไว ทําเอาชายหนุ่ม หัวเราะไปสองสามที นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อาหารมื้อเที่ยงก็วางโต๊ะเสร็จสรรพ

“นี่คืออาหารที่คุณใช้เวลาทำออกมาหนึ่งชั่วโมงเหรอ” ถัง ซินลากเก้าอี้มานั่ง บนโต๊ะมีกับข้าวสี่อย่าง หน้าตาดูดีมาก “ดูไม่เลวเลยนะคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ