บทที่ 190 คนของเขา ไม่อนุญาตให้คนอื่นเป็นห่วง
“หลินเฉิงจี๋ ปล่อยฉัน” ถังซินออกแรงผลักเธอ “ฉันจะ หายใจไม่ออกแล้ว”
กอดแน่นอยู่นานสักพัก หลินเฉิงจี๋ถึงปล่อย ถังซินถอย หลังไปทันที มองเขาอย่างระแวง
การขัดขืนของหญิงสาวทำให้หลินเฉิงจี๋ผิดหวังมาก แต่นี่ ก็พิสูจน์ได้ว่าบาดแผลที่เขาให้เธอมันตีตราอยู่ในหัวใจเธอ เธอลืมเขาไม่ได้ ก็เลยยิ้มอย่างพึงพอใจ
หลินเฉิงจี้พูด “เชื่อฟังนะ พยายามไม่ต้องสนใจมู่เฉิน หย่วน เขาไม่ใช่คนดี คุณมีอะไรก็บอกผม ถึงอยากจะเปิด บริษัทเป็นของตัวเอง ผมก็ช่วยคุณได้
“พวกคุณก็พอๆ กัน ไม่ต่างกันมากหรอก” ถังซินพูดด้วย ใบหน้าเย็นชา
ทั้งๆ ที่เลิกกันหลายปีแล้ว ปรากฏตัวออกมาอย่างไม่มี เหตุผลอีกครั้ง แสดงความเห็นอกเห็นใจพวกนี้
“คุณไม่เข้าใจ” หลินเฉิงจื้อยากพูดอะไร แต่ก็ยอมแพ้แล้ว “คุณอยากช่วยเขาอีก?”
“ฉันติดหนี้เขา”
สายตาหลินเฉิงจี้จ้องไปที่ใบหน้าถังซินอยู่นาน เขายิ้มขึ้นมา “มู่เฉินหย่วนเก่งจริงๆ เลยนะ ที่แท้ก็รู้นานแล้วว่าความ สงสารและความเห็นอกเห็นใจของผู้หญิงคนหนึ่งมันสำคัญ มาก”
ถังซินขมวดคิ้ว เธอไม่ค่อยเข้าใจ “หมายความว่าไง?”
“ไม่มีอะไร”
เธอยอมช่วยก็แล้วแต่เธอเถอะ ยังไงบริษัทมู่ชื่อก็อยู่ได้ไม่ นานหรอก ความจริงจะปรากฏขึ้นในไม่ช้า
คนของเขา ไม่อนุญาตให้คนอื่นเป็นห่วง!
หลังจากทั้งสองออกมาจากบ้านกลับมาที่โรงแรม หลิน เฉิงจี๋ก็ขังตัวเองไว้ในห้องนอน ราวกับว่าต้องจัดการธุระ ถัง ซินไม่รู้จะไปไหนก็กลับห้องนอนไป
เธอเปิดวีแชท ข้อความมากมายที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน
ข้อความของจู่ซือซือเยอะที่สุด
หลังจากจู่ซือซือมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับกวนชิงเฟิง แล้ว เธอก็หน้าหนาขึ้น ถามสารทุกข์สุกดิบพี่สาวทั้งวัน บ่อย ครั้งให้คนส่งอาหารมาให้เธอที่บริษัทมู่ซื่อ ไม่รู้กระตือรือร้น อะไรขนาดนั้น
ถังซินก็ค่อยๆ ใจอ่อนแล้ว
ไม่มีทางแล้วนี่หน่า คุณแม่ถังก็ให้ซองแดงกับจู่ซือซือแล้ว ด้วย เธอจะไปขัดขวางความรักได้อย่างไร
วันนี้ ถังซินไม่เคยตอบข้อความกลับจู่ซือซือมาก่อนเลย ถือว่าเป็นการยอมรับเธอในฐานะน้องสะใภ้
ยังไม่ทันกดออก จู่ซือซือก็ส่งข้อความมาอย่างบ้าคลั่ง
จ่ซือซือ: ในที่สุดพี่ก็สนใจฉันแล้ว!
จู่ซือซือ: พี่สาวเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ตอนพี่ออกไปทำงาน ข้างนอก คุณหญิงซ่งหน้าไม่อายคนนั้นถือโอกาสมาวอแว กับพี่เฉิน ทั้งคู่ไปสนามบินวันนี้ จะไปฮันนีมูน
จู่ซือซือ: พี่เฉินปิดเครื่องไปแล้ว เกินไปแล้วนะ! แต่พี่สาว ไม่ต้องร้อนรนใจนะ ฉันให้คนตามพวกเขาไปแล้ว ไม่ให้ พวกเขาทำอะไรแม้แต่นิดเดียว!
ข้อความตายเหมือนระเบิด วางระเบิดอยู่ตลอดเวลา
ตอนแรกถังซินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ตอนเห็นคำว่า “ฮันนีมูน” คำนั้น ก็เกิดความรู้สึกบอกไม่ถูก
ที่พวกเขาหมั้นหมายกันไม่ใช่แค่เพื่องานเหรอ ไปฮันนีมูน กันทำไม?
ถังซินผิดหวังอย่างมาก
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร เธอคิดถึงมู่เฉินหย่วนบ่อยครั้ง คิดถึง ตอนเขายิ้มขึ้นมา ตอนเขาสั่งสอนคน ตอนเขาพุ่งเข้ามาปก ป้องเธอ และเขาคนนั้นที่ที่มๆ ตอนเมา
อาจจะเพราะว่ามู่เฉินหย่วนไม่ได้น่าชอบ เย็นชา ไร้เหตุผล แต่เธอเห็นด้านอ่อนโยนของเขา ความรักอันลึกซึ้งแต่ไม่ได้ หน้ามืดตามัว ปกป้องคนของตัวเองได้ไม่ให้คนอื่นมารังแก
เธอสามารถเลื่อนขั้นจากล่ามเป็นผู้นำที่เก่งคนหนึ่งได้ อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดคือการสอนของเขา สิ่งที่เขาสอนเธอ ไม่มีใครสามารถเทียบได้เลย
แต่เธอกับเขาดูเหมือนจะเดินไปด้วยกันไม่ได้
ตอนแรกถังซินอารมณ์ไม่ดี พอเปิดโมเมนท์ในวีแชท เห็น ว่าไม่ใช่รูปถ่ายสนิทสนมของหลี่เจ๋อวี่กับลู่เหวินซู แต่เป็นจู่ ซือซือถ่ายอวดอาหารกลางวันที่กวนชิงเฟิงทำ
เธอเห็นแล้วยิ่งโกรธในใจ บล็อกโมเมนท์ในวีแชทคนพวก นี้ทั้งหมด
ตอนเย็นหกโมงครึ่ง หลินเฉิงจี้มาเคาะประตูห้องถังซิน เขาสวมเสื้อผ้าเต็มยศสีดำ เหมาะอย่างมาก
“เปลี่ยนเป็นชุดราตรีสิ ต้องออกไปข้างนอกแล้ว”
ถังซินเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสายเดี่ยวแหวกขาที่ซื้อที่ร้าน อยากถามเขาว่าจะไปไหน ถ้าไปสถานที่โอ่อ่าระหว่างทางจะได้แวะทำผมที่ร้านเสริมสวย
ไม่คิดว่าหลินเฉิงจี้จะเชิญทีมสไตล์ลิสต์มาโดยตรง
คนเจ็ดแปดคนล้อมรอบถังซิน ตั้งแต่ทรงผม ทำเล็บจนถึง เครื่องประดับที่เหมาะกับชุด ภายในเวลาสั้นๆ หนึ่งชั่วโมง ก็ทำให้ถังซินกลายเป็นเซเลปคนดังที่จะต้องไปร่วมงาน สังคมชั้นสูง
ถังซินมองตัวเองในกระจก จู่ๆ ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนดัง ถึงต้องมีทีมสไตล์ลิสต์ส่วนตัว
สวยจนอึ้งไปเลยจริงๆ!
แม้แต่ตอนที่หลินเฉิงจี๋เห็นเธอออกมา ก็เผยสีหน้าตก ตะลึงเช่นกัน
ระหว่างทางนั่งรถไปโรงแรม หลินเฉิงจี๋ก็อธิบายให้ถังซิน ฟังคร่าวๆ คืนนี้จะไปงานเลี้ยงการกุศลที่ตระกูลดังในหางซี เป็นคนจัดขึ้น มีคนดังมาไม่น้อย น่าจะครึกครื้นมาก
ถังซินพยักหน้าเข้าใจ แล้วเอ่ยถาม “เราไปดูความ ครึกครื้นใช่ไหม?”
“ใช่ ยังไงก็วันสุดท้ายแล้ว ” หลินเฉิงจี๋เอียงตัวมาทัดบ่อย ผมข้างหูให้เธอ ลมหายใจที่รดแก้มเธออบอุ่นมาก “อยาก เหลือความทรงจำที่งดงามไว้บ้าง”
“คุณแค่พูด ไม่ต้องขยับ…… ถังซินเอนร่างกายพิงเบาะ หลัง เธอไม่คล้อยตาม กระแอมไอออกมาปิดบังความ กระอักกระอ่วน เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง “อย่าลืมสัญญาของคุณ ล่ะ”
รอยยิ้มในแววตาหลินเฉิงจี้ค่อยๆ หายไป
เขาตอบอืม
ยี่สิบนาทีผ่านไป รถจอดอยู่ที่ประตูหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่ ชื่อว่าคาร์ลตัน
บันไดปกคลุมด้วยพรมแดงขนนุ่มสีสด สองข้างทางพรม แดงเต็มไปด้วยสื่อ ไฟดวงใหญ่ในมือถ่ายคนที่เหยียบพรม แดงไม่หยุด แสงไฟแสบตา
ก่อนหน้านี้ถังซินเผชิญหน้ากับพายุหนักมาเยอะ เริ่มชิน กับกล้องพวกนี้แล้ว ควงหลินเฉิงจี่เดินจากพรมแดงไปอย่าง เป็นธรรมชาติ ไปถึงห้องโถงงานเลี้ยงชั้นสาม
“คุณชายหลิน”
ทั้งสองเพิ่งเหยียบเข้ามาในห้องโถงงานเลี้ยงสีทองอร่าม ก็มีคนเข้ามาต้อนรับทันที เห็นว่าอายุประมาณสี่สิบห้า ยิ้ม กว้างทักทายหลินเฉิงจื้
หลินเฉิงจี้พยักหน้าเล็กน้อย “ผู้หมวดหนาน”
มือเขาแนบรอบเอวถังซิน เอ่ยแนะนำกับผู้หมวดนาน “นี่ แฟนผม ถังซิน”
“สวยมากจริงๆ ด้วย!” ผู้หมวดหนานยื่นมือออกไป
ถังซินเห็นก็ยื่นมือออกไป ใบหน้ายิ้มเล็กน้อย จับมือกับผู้ หมวดหนานคนนี้อย่างเหมาะสม แต่ในใจแอบหวาดกลัว
ชายคนนี้เธอรู้จัก ชอบปรากฏตัวในนิตยสารทหาร เขาดัง มาก คิดไม่ถึงว่าหลินเฉิงจี๋มาประเทศ Z ไม่กี่เดือนเท่านั้น ก็ รู้จักคนแบบนี้แล้ว
จากนั้น มักจะมีคนเข้ามาทักทายหลินเฉิงจี้ พูดคุยแลก เปลี่ยนกันนิดหน่อย
หลินเฉิงจี๋ยิ้มเบาๆ แล้วเอ่ยแนะนำถังซินข้างกายให้พวก เขา คนพวกนั้นมีความรู้สึกกับถังซินเหมือนกับหลินเฉิงจี้ บางคนก็เหมือนจะรู้จักเธอ
“คุณหญิงถังเหมือนจะเป็นตัวแทนประธานบริษัทมู่ชื่อใช่ ไหม?”
“อืม”
หญิงคนนั้นยิ้มขึ้นมา “ในเมื่อคุณเป็นแฟนของคุณชาย หลิน ทำไมไปช่วยคนอื่นทำธุรกิจล่ะ? ทำให้คนเข้าใจผิดได้ ง่ายๆ ว่าคุณเป็นอะไรกับประธานมู่
คำพูดของหญิงสาวแหลมคม แทงเข้ามาตรงจุดสําคัญ โดยตรง
ถังซินอึ้งไปชั่วขณะ ไม่รู้ควรพูดว่าอะไร
หลินเฉิงจี๋กลับยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาว “แฟนผมชอบ เรียนรู้ เธอเห็นว่าบริษัทมู่ซื่อใหญ่ขนาดนี้ เขาต้องมีจุดแข็ง แน่นอน อยากเรียนรู้ บริษัทมู่ซื่อให้คุณค่ากับคนที่เรียนรู้ มากจริงๆ”
หญิงสาวพยักหน้า “อย่างนั้นเหรอคะ? แต่บริษัทมู่ชื่อมี ปัญหามากมายขนาดนั้น จะล้มละลายอยู่แล้ว คุณหญิงถัง ยังอยู่ที่นั่นมีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่า?”
คราวนี้ถึงซินทนไม่ไหวแล้ว
เธอฟังคำพูดหญิงสาวออก มีความหมายแฝงกลั่นแกล้ง นั้น ริมฝีปากแดงยกขึ้น “ยังไม่ประกาศว่าล้มละลายเลย ไม่ใช่เหรอคะ? วางใจได้เสมอนะคะ ถึงบริษัทมู่ซื่อจะยืนขึ้น มาได้แล้ว ก็ไม่ร่วมงานกับคุณหรอกค่ะ
สีหน้าหญิงสาวเปลี่ยนไปแล้ว
ถังซินยิ่งพูดยิ่งน้ำเสียงเย็นชา “ผู้ชายข้างๆ ฉันคนนี้ก็ไม่ ร่วมงานกับคณเช่นกัน”
หลินเฉิงจี้แค่ยิ้มพูด “คุณว่ายังไงก็อย่างนั้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ