ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 170 ฉันไม่ได้แสดงละครตบตา



บทที่ 170 ฉันไม่ได้แสดงละครตบตา

มู่จิ่นเซวียนพูดเสริมขึ้นมา “จะว่าไป ประธานถังก็จงรัก ภักดีต่อบริษัทมู่ซือ ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจดูแลหลานมู่ ถ้า ไม่รู้นี่ยังคิดว่าชอบหลานเฉินหย่วนอีกด้วยนะ!”

คำเหน็บแนมคำแล้วคำเล่า ทำให้ถังซินถึงกับขมวดคิ้ว

คนพวกนี้ดูเหมือนจะเจาะจงเธอเป็นพิเศษ แต่ในความ เป็นจริงแล้วพวกเขามุ่งเป้าไปยังมู่เฉินหย่วน เธอไม่อยาก ใหมู่เฉินหย่วนอึดอัด ในขณะที่กำลังเอ่ยปากพูด ท่านมู่ก็จับ มือของเธอ “ไม่เป็นไร

ถังซินเม้มปากไม่พูดจา

“ประธานถัง อดีตแม่สามีของเธอมาแล้ว ไม่ทักทายหน่อย หรอ?” มู่จิ่นเซวียนเริ่มมีปฏิกริยาขึ้นมาบ้าง “เสียดายไม่รู้ว่ามู่ หยางซิ่วไปไหนซะแล้ว ถ้าเธอมาด้วยคงคึกคักน่าดู”

มู่จิ่นหลิงยิ้มพร้อมกล่าว “ดูท่าประธานถังอาฆาตมาก เลยนะ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นสิ อย่างไรก็ตามหยางซิ่วเป็น คนนอกใจก่อน แม่สามีก็ให้ท้ายอยู่ด้วย ถ้าเป็นฉันนะ ฉันก็ ไม่ทักทายหรอก”

“พอได้แล้ว พูดให้มันน้อยๆ หน่อย” มู่เจิ้งหย่าแสร้งทำ เป็นให้สงบศึกกัน”

“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย” มู่จิ่นหลิงน้อยใจ “ฉันแค่รู้สึกว่าถังซินเป็นคนเก่งมาก เป็นแค่ล่ามคนนึงแต่กลับได้มานัง ถึงตำแหน่งนี้ สายตาช่างกว้างไกล ล้วนจับจ้องแต่ผู้ชายใน ตระกูลมู่”

เวลานี้ มู่เฉินหย่วนเริ่มออกเสียงขึ้นมาบ้าง สีหน้าจืดชืด “ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ ฉันก็จะช่วยเธอ”

เขาเรียกคนใช้ให้ย้ายเวทีอันสูงใหญ่เข้ามา

หลังจากที่รอให้คนรับใช้นำเวทีอันสูงใหญ่ที่สูงกว่าหนึ่ง เมตรเข้ามาในห้องรับแขกนั้น มู่เฉินหย่วนก็ชี้มือชี้ไม้ “จิ่น หลิง จิ่นเซวียน พวกเธอขึ้นไปพูดบนเวทีซิ ให้ทุกคนคึกคัก กันหน่อย”

ขึ้นไปบนเคาว์เตอร์ งั้นมันจะต่างอะไรกับการแสดง กายกรรมกันล่ะ?

มู่จิ้นหลิงไม่คิดว่ามู่เฉินหย่วนจะร้ายขนาดนี้ ถึงกับกลั้น สีหน้าไว้ไม่อยู่ “คอฉันไม่ค่อยดี”

“งั้นเอากาน้ำชาขึ้นไปข้างบนด้วยละกัน คอจะได้ชุ่มขึ้น หน่อย” มู่เฉินหย่วนทำน้ำเสียงบีบคั้น “ขึ้นไป”

มู่จิ้นหลิงมองไปยังมู่เจิ้งหย่า

มู่เจิ้งหย่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด มู่เฉินหย่วนก็พูดขึ้นมา “แค่สองคนคงคึกคักไม่พอแน่นอน”
ภายในคําพูดแฝงไปด้วยความหมายอย่างเต็มเปี่ยม มู่เจิง หย่าสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ก็ยังไม่พูดไม่จา

หลานคนนี้ พูดออกมาแล้วย่อมทำตามที่ตัวเองพูดเสมอ เธอเข้าใจดี

มู่เจิ้งหย่าไม่ได้มีการเข้ามาช่วยเหลือ ท่านมู่ก็ไม่ได้ให้ ความสนใจแต่อย่างใด หลังจากที่มู่เฉินหย่วนเอ่ยคำว่า “ขึ้น ไป” อีกครั้งนั้น มู่จิ่นหลิงและมู่จิ่นเซวียนก็ทำได้เพียงต้อง ข็นไปตามคําสั่ง

มู่เฉินหย่วนมองไปยังพวกเขา พลันยิ้มเยาะพร้อมสายตา ที่เย็นชา “พูดคุยกันหน่อยสิ อย่าอึดอัดกันขนาดนั้น”

การบีบคั้นที่หนักหน่วงทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนมีอะไร มาทิ่มแทงที่หัว พูดออกมาอย่างตะกุกตะกักไม่ว่าจะพูด อะไรก็ตาม ในทางกลับกันก็ไม่สามารถหยุดพูดได้ กระหาย น้ำก็แค่ดื่มชา เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงช่วงที่ทานอาหาร ทั้ง สองคนจึงลงมาได้

วันนี้นอกจากมู่หยางซิ่ว มู่เจิ้งเฉิงและลูกชายคนโตของ เขาแล้ว คนอื่นก็มากันหมด ท่าน ได้จัดให้มู่เฉินหย่วนและ ถังซินนั่งทางด้านซ้ายมือของตนเอง

คนรับใช้ได้เทเหล้าให้กับคนในบ้านตามลำดับ

ถังซินได้กลิ่นหอมอบอวน แต่ยังไม่ทันยกขึ้นดื่ม แก้วก็ถู กมู่เฉินหย่วนยกออกไปให้กับคนรับใช้
ภายในคําพูดแฝงไปด้วยความหมายอย่างเต็มเปี่ยม มู่เจิง หย่าสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ก็ยังไม่พูดไม่จา

หลานคนนี้ พูดออกมาแล้วย่อมทำตามที่ตัวเองพูดเสมอ เธอเข้าใจดี

มู่เจิ้งหย่าไม่ได้มีการเข้ามาช่วยเหลือ ท่านมู่ก็ไม่ได้ให้ ความสนใจแต่อย่างใด หลังจากที่มู่เฉินหย่วนเอ่ยคำว่า “ขึ้น ไป” อีกครั้งนั้น มู่จิ่นหลิงและมู่จิ่นเซวียนก็ทำได้เพียงต้อง ข็นไปตามคําสั่ง

มู่เฉินหย่วนมองไปยังพวกเขา พลันยิ้มเยาะพร้อมสายตา ที่เย็นชา “พูดคุยกันหน่อยสิ อย่าอึดอัดกันขนาดนั้น”

การบีบคั้นที่หนักหน่วงทำให้ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนมีอะไร มาทิ่มแทงที่หัว พูดออกมาอย่างตะกุกตะกักไม่ว่าจะพูด อะไรก็ตาม ในทางกลับกันก็ไม่สามารถหยุดพูดได้ กระหาย น้ำก็แค่ดื่มชา เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงช่วงที่ทานอาหาร ทั้ง สองคนจึงลงมาได้

วันนี้นอกจากมู่หยางซิ่ว มู่เจิ้งเฉิงและลูกชายคนโตของ เขาแล้ว คนอื่นก็มากันหมด ท่าน ได้จัดให้มู่เฉินหย่วนและ ถังซินนั่งทางด้านซ้ายมือของตนเอง

คนรับใช้ได้เทเหล้าให้กับคนในบ้านตามลำดับ

ถังซินได้กลิ่นหอมอบอวน แต่ยังไม่ทันยกขึ้นดื่ม แก้วก็ถู กมู่เฉินหย่วนยกออกไปให้กับคนรับใช้พลัน พร้อมยิ้มแห้ง “ครั้งนั้นพวกเขาแค่ทะเลาะกันเล่นๆ แค่ นั้นแหละ”

“เพิ่งจะพูดบนเวทีนานขนาดนั้น ยังมีสติขนาดนี้เชียว หรอ?” ท่านมู่มองไปที่เธอครู่หนึ่ง “เฉินหย่วนอยู่กับถังซิ นทกวัน เธอจะคิดเยอะทําไมกัน

มู่จิ้นหลังกล่าว ฉันไม่ได้กลัวเฉินหลวนจะถูกหลอก…”

“เธอกำลังบอกว่าถังซินมีปัญหา?”

“คุณลุงคะ เธอจะมีปัญหาหรือไม่มีทุกคนเค้ามองออก ไม่ ต้องให้หนูพูดหรอก”

มู่จิ่นหลิงซุบซิบ “ทีฉันท้องครั้งนั้น ไม่เห็นจะดีใจขนาดนี้

เลย”

ท่าน ตอบแบบไม่ไว้หน้า ในครอบครัวของพวกเรา เธอ เป็นแค่หลานสาว ส่วนถังซินเป็นถึงลูกสะใภ้ฉัน เขาท้องฉัน ก็ต้องดีใจมากอยู่แล้ว!”

“คุณลุง บ้าไปแล้วหรอ?” ไม่เพียงแต่สีหน้าของทุกคนใน ตระกูลมู่ที่เปลี่ยนไป มู่จิ่นหลิงก็เช่นกัน “แต่ก่อนเธอแต่งกับ หยางซิ่ว แล้วตอนนี้จะมาแต่งกับเฉินหย่วนได้ยังไง?”

เดิมทีคนในตระกูลมู่ไม่ค่อยพอใจกับฐานะของมู่เฉินหย่วน ไม่ค่อยสมฐานะ แต่เนื่องจากท่านมู่เป็นใหญ่ในครอบครัวนี้ เขาจึงมอบอำนาจให้กับ เฉินหย่วน
มู่เฉินหย่วนกำลังที่จะมีลูก หมายความว่าอะไรทุกคนน่าจะ รู้อยู่แก่ใจ

มู่เจิ้งหย่ากล่าวด้วยเสียงที่เรียบสงบ “ใช่ จะว่าไปเฉิน หย่วนก็มีนัดแต่งงานกับตระกูลซ่ง แต่พี่ยอมรับถังซินแบบนี้ แล้วหนูซ่งล่ะจะว่ายังไง?”

“เป็นแค่การหมั้น ไม่ได้แต่งสักหน่อย” ท่านมู่แกว่งมือ “พอถึงเวลาเฉินหย่วนก็ต้องจัดการ”

“พี่คะ…”

“พอได้แล้ว พวกเธอน่ะ!” ท่านมู่สีหน้าหดหู่ ไม่ไว้หน้าใคร ทั้งนั้นแล้ว “พวกเธอแต่ละคนก็แต่งานมีลูกกันแล้ว ลูกชาย ฉันก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรที่จะแต่งงานได้แล้ว!”

“ก่อนที่ถังซินจะแต่งงานกับหยางซิ่วเป็นยังไงบ้างล่ะ เฉิน หย่วนก็มีความสัมพันธ์เป็นหลานของลูกพี่ปู่ พอพวกเธอแต่ งงานก็เอามารวมกัน ฉันก็ไม่เคยถาม ลูกชายฉันยังไม่ได้แต่ งงาน ก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของพวกเธอแล้วหรอ?”

มู่เจิ้งหย่าเห็นเขาเริ่มโกรธ จึงยิ้มพร้อมกล่าว “พี่คะ พวก เราแค่กังวลว่าเฉินหย่วนจะจัดการได้ไม่ดี ถังซินเป็นคน ฉลาด พวกเราต่างก็ชื่นชอบและยินดีต้อนรับเธอ”

คนอื่นๆ ก็ต่างคล้อยตามกัน

สีหน้าของท่าน เริ่มดีขึ้น “โอเค ทานข้าวกันเถอะ”
ถังซินคาดไม่ถึงเลยว่า ยังไม่ทันได้จับตะเกียบก็ต้องมา เล่นละครตบตาเสียแล้ว ท่านมูไม่เพียงแต่ปกป้องมู่เฉิน หย่วน แต่ยังปกป้องเธออีกด้วย แต่ว่า

เธอไม่ได้ท้องจริงๆ นี่!

ถังซินหันตัวไปประชิดมู่เฉินหย่วน พร้อมกล่าวด้วยเสียง เบา “ประธานมู่ จะไม่อธิบายให้ท่านมู่ฟังเป็นการส่วนตัว หน่อยหรอ?”

“อธิบายอะไร?”

“คุณก็รู้อยู่แก่ใจ!” ถังซินชำเลืองมองเขาด้วยสายตาที่ เหี้ยมโหด พลันกัดฟันพูด “ไม่บอกตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าต่อไปท่า นมู่ถามว่าทำไมท้องยังไม่โตจะทำยังไง?”

มู่เฉินหย่วนจับที่ริมฝีปาก น้ำเสียงอึมครึม “เข้ามาใกล้ๆ สิ เดี๋ยวฉันจะบอกให้”

ถังซินมองเขาด้วยสายตาที่สงสัย แต่ดูท่าเขาไม่เหมือน กับคนที่กำลังหลอกตัวเองอยู่ จึงขยับหัวเข้าไปใกล้ หลัง จากนั้นเขาก็จูบเธอต่อหน้าผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบโต๊ะ

มู่จิ่นหลิงตกใจจนทำตะเกียบหล่น

หลังจากท่านมู่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มมีความสุข พลันไอแค่กๆ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม “กินข้าวได้แล้ว สำรวมหน่อย! ”
มู่เฉินหย่วนปล่อยถังซิน พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เธอให้ผมจูบ”

ถังซินหยิกไปที่เอวของมู่เฉินหย่วนหนึ่งยก

คุณอามู่ที่เย็นชาได้จากไปแล้ว กลับกลายเป็นคนที่โกหก ไร้ศีลธรรม!

หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว คนอื่นๆ ก็ได้นั่งรถท่องเที่ยว ไปยังสระบัว ที่นั่นมีโต๊ะเก้าอี้ดีๆ ให้นั่ง มีน้ำชาและขนมไหว้ พระจันทร์ ให้กับทุกคนได้นั่งชมจันทร์

ถังซินเห็นมู่เฉินหย่วนมานั่งใกล้ๆ ก็ได้ผลักเขาออก

พอนึกถึงเรื่องบนโต๊ะอาหารขึ้นมาแล้ว ถังซินก็โมโหเป็น ฟืนเป็นไฟ พลันพูดแขวะเฉินหย่วนตลอดทาง “ประธานมู่ คุณจะเกินไปแล้วนะ อยากจะแสดงละครตบตาพวกเขาก็ไม่ จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้”

มู่เฉินหย่วนกล่าว “ฉันไม่ได้แสดงละคร”

หืม??

ถังซินหยุดเดินพลันก้มหัวลง ประจวบกับเฉินหย่วนมองมา ที่เธอพอดี สายตานุ่มลึก

“ถังซิน…”
มู่เฉินหย่วนเพิ่งจะเริ่มพูด แต่เหมือนถังซินรู้ว่าเขาจะพูด อะไร จึงรีบร้อนขัดคำพูดเขา “ประ ประธานมู่ ฉันเพิ่งนึกได้ ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในบ้าน คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะ กลับไปเอาโทรศัพท์!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ