ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 168 หรือคณจะรับผมเป็นน้องชายก็ได้



บทที่ 168 หรือคณจะรับผมเป็นน้องชายก็ได้

ตั้งแต่นั้นมา ครั้งนั้นที่โรงแรม เธอรู้สึกว่ามันเป็นความผิด พลาดของเวลา จำได้อย่างชัดเจนว่าเป็นวันอังคาร เพียงชั่ว พริบตาก็กลายเป็นวันพฤหัสเสียแล้ว

เอาเข้าจริง เธอได้ลืมเรื่องเย็นวันพุธไปอย่างสนิท

“บ้าจริง ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?” ความทรงจำเหล่านั้น มันช่างชัดเจน ถังซินกลิ้งไปมาบนเตียง “ถ้ารู้ว่ายานั้นมันจะ มีผลแบบนี้ ฉันไม่กินมันหรอก!”

ตอนนี้ได้รู้แล้ว จะให้เธอไปเผชิญหน้ากับมู่เฉินหย่วนอีก ได้ยังไงกัน ทําตัวไม่ถูก

ประจวบเหมาะกับกาวเหม่ยซีได้ส่งข้อความในวีแชทมา พอดิบพอดี บอกว่าตระกูลมู่มีธุระด่วน ถังซินจึงตบปากรับคำ ทันที เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบเดินออกไป ทั้งยังไม่ลืมที่จะ เรียกคนใช้มายังคฤหาสถ์

“ถังซิน!”

ถังซินเดินเข้ามาจากประตูบานหมุน และถูกใครบางคนชน เข้าจากทางด้านหลัง หลี่ซีเจ๋เดินมาประกบข้างเธอ ” แปลก จริง คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาที่บริษัท ไม่กลัวประธานมู่เขา จะไม่พอใจหรอ?”

ถังซินมองด้วยสายตาที่เย็นชา “ไปให้พ้น”
“เธอไม่ใช่ถังซินคนเดิมที่ฉันรักแล้ว เธอดุร้ายขึ้น” หลี่ซู เจ๋แสร้งทำเป็นข้องใจ พลันถาม “ดูเหมือนสีหน้าเธอไม่ค่อย ดีเลยนะ ทำไมหรอ ประธานมู่มารังควานเธอหรอ?”

หล่อนได้ใช้คำพูดคำหนึ่งที่ทำให้คิ้วของถังซินถึงกับ กระตุกขึ้น “เธออย่าคิดมากเลย”

“สีหน้าของเธอมันบอกฉันน่ะ”

11

“งั้นตอนสายเธอจะกลับไปมั้ย? ถ้าไม่กลับงั้นเราไปหา อะไรกินกัน ฉันไปเจอร้านสเต็กร้านนึงอร่อยมาก!”

“ไม่กิน!”

อ๊ะ ถังซินเธอชักจะเริ่มเหมือนประธานมู่ขึ้นทุกวันแล้วนะ ทั้งเย็นชาทั้งไร้ความรู้สึก”

หลี่ซูเจ๋ได้เบียดตัวของถังซินเข้าไปในลิฟท์ และใช้บัตร ของตัวเองรูดไปยังชั้นบน หลังจากเข้าไปยังด้านในแล้ว ขณะที่ประตูลิฟท์กำลังเลื่อนปิดลง กลับมีมือข้างหนึ่งสอด เข้ามา

ไง อรุณสวัสดิ์”
ด้านนอกประตูปรากฏร่างของลู่เหวินซูในชุดสูทสีดำ พูด ได้ว่าร่างกายและขาอันสูงยาวในชุดสูทนั้น ช่างดึงดูด สายตาได้เป็นอย่างดี โดดเด่นเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่ เพราะใบหน้าของเขา ถังซินก็คงไม่แน่ใจว่าคนคนนี้คือลู่ เห วินซ “เธอมาได้ยังไงกัน?”

“สภาพของบริษัทมู่ซือนับวันยิ่งแย่ลง ไม่ได้กลัวคุณจะยุ่ง นะ แค่มาช่วยคุณ” ลู่เหวินซูเข้ามาในลิฟท์ พอพูดจบก็หัน หน้าไปตีสนิทกับหลี่ซูเจ๋ “พี่สาว กินข้าวเช้าหรือยังครับ?”

“อ่า” หลี่ซูเจ๋พยักหน้าเล็กน้อย ตาทั้งสองข้างมองไปยังลู่ เหวินซู “แบบนี้คุณก็หล่อดีนะ ฉันว่า ต่อไปอย่าใส่อะไรให้ มันเยอะแยะนักเลย มันดูไม่ค่อยดี”

ลู่เหวินซูเม้มมุมปากพลันหัวเราะ ใช่ ใช่ ถ้าหากชอบ ผม จะใส่มันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยก็ได้!”

ถังซินกลอกตามองบน

เจ้าคนนี้เหมือนกับตะพาบน้ำไม่มีผิด สกิลการจีบสาวแย่ มาก!

ในขณะที่ลิฟท์กำลังเลื่อนขึ้นไปยังชั้นบน ลู่เหวินซูก็ชวน หลี่ซูเจ๋หาเรื่องคุย และยังเข้าไปใกล้ชิดกับเธอ สภาพของ เขาในสายตาของถังซินราวกับไม่ได้เจอเด็กสาวมายาวนาน

หลังจากที่หลี่ซูเจ๋ถึงชั้นบนแล้ว ลู่เหวินซูรีบพูดขึ้นว่า “กลางวันไปทานข้าวด้วยกันนะ ผมเลี้ยง”
“ได้สิ แต่ฉันเลี้ยงคุณนะ ถือว่าขอบคุณสําหรับกระถาง ดอกไม้ที่คุณให้”

ลู่เหวินซูยิ้มแป้น

ถังซินมองลู่เหวินซูครู่หนึ่ง พลันหัวเราะเยาะพร้อม กล่าว “ผิดแผนฉันจริงๆ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าเธอจะมา ฉันจะเปิด โทรศัพท์ไว้รอถ่ายวิดีโอ ให้เธอได้เห็นธาตุแท้ของตัวเอง!”

ผมดูเป็นคนโรแมนติกมั้ย? ลู่เหวินซูยื่นมือออก แล้วกดไป บนไหล่ของถังซิน “ผมมั่นใจในความสง่าของตัวเองมาก ถ้า ผมไปเป็นดารา คนอื่นก็คงไม่เข้ามาแล้วก็ออกไปเป็นว่าเล่น แบบนี้หรอก”

“ใช่ “บทบาท” บางบทเนี่ย ร่างกายของเธอก็สามารถทำ มันได้ ถังซินทุบตีเขาด้วยข้อศอก ‘เธอก็ลองเดินส่องใน บริษัทดูสิ บริษัทมู่ซือผู้หญิงสวยเยอะแยะ

งั้นไม่อะ ผมชอบนางฟ้าคนนั้น”

“คนเค้าไม่ได้ชอบ คิดเองฝ่ายเดียวอยู่นั่นแหละ!” ถังซิน ตอบแบบไม่สบอารมณ์นัก

“ความรู้สึกเดี๋ยวมันก็ค่อยๆ แสดงออกมาเอง ผมไม่รีบ” ลู่ เหวินซูยิ้มมุมปากพลันบอกปัดถังซิน “ถ้างั้นคุณก็รับนางฟ้า คนนั้นมาเป็นน้องสาวสิ?

“ทําไมกัน!”
“ก็ถ้าหากผมเจอเธอ ผมก็เป็นน้องชายของคุณแล้วไง คุณ พูดเองไม่ใช่หรอว่า เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน”

11

11

“หรือว่าคุณจะรับผมเป็นน้องชายก็ได้นะ”

“เธอจะบ้ารึไง!” ถังซินมองลู่เหวินซูที่โง่เขลาอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าเย็นยะเยือก “เธอแก่กว่าฉันกี่ปี ไม่กระดากปากบ้าง หรอ ที่เรียกฉันพี่สาว ฉันยังอึดอัดที่จะพูดเลย”

ลู่เหวินซูยิ้มแป้น “แล้วมันจะเป็นอะไรล่ะ หน้าฉันก็ยังเด็ก อยู่เลย!”

ถังซินไม่อยากเปลืองคำพูดกับเขา

ตอนนี้เธอรู้สึกหงุดหงิด อย่างแรกเลยคือมีน้องชายเป็น เขาคนนี้ ยังไม่ทันย่อยดี แม่ของลู่เหวินซูก็ให้ยามาหนึ่งเม็ด ให้สมองของเธอกระตุ้นความทรงจํา น่าหงุดหงิดจริงๆ !

พอถึงซินมาที่บริษัท ซือ ก็ได้เปิดการประชุมสามงาน ทุก การประชุมล้วนมีลู่เหวินซูอยู่ด้วย

ลู่เหวินซูมานั่งบริษัทมู่ซื่อเป็นประจำ แต่หลายวันมานี้ถึง ซินได้แต่อยู่ดูแลมู่เฉินหย่วนอยู่ที่คฤหาสถ์ ไม่ได้ใส่ใจเท่า ไหร่ เนื่องจากหยวนเย่ถูกจับเพราะโกงบริษัท เขาจึงต้องมา นั่งในตำแหน่งผู้จัดการแผนกระหว่างประเทศแทน
ผู้ชายคนนี้โดยปกติชอบทำตามใจชอบ พูดกับคนอื่นก็ไม่ สุภาพเรียบร้อย แต่พอถึงการเปิดประชุม ปัญหาที่เกี่ยวข้อง กับบริษัทนั้น คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นกลับตรงกันข้าม ทำให้ผู้คนตกใจกันอย่างมาก

ทันใดนั้นถังซินรู้สึกว่า เมื่อเปรียบเทียบลู่เหวินซูที่เป็น คนทำธุรกิจมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเองยังถือว่าอ่อน ประสบการณ์นัก

แล้วไม่รู้ว่าท่านไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงกล้ายกบ ริษัทให้กับเธอ

หลังจากที่เปิดการประชุม ถังซินก็ได้จัดการเอกสารต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อน เป็นเพียงปัญหาต่างๆ ของบริษัทย่อย เท่านั้น เงินทุนทั้งหมดถูกสั่งห้ามเคลื่อนไหว พนักงานก็ ต่างหนีหาย

ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องกับมู่เฉินหย่วน บริษัทก็จะล้มมิล้มแหล่ แคปัญหาเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้บริษัทล้มได้

ข่าวด้านลบต่างๆ ของบริษัทมู่ซือ จากสถิติของหม่านเจียง หงทำให้ถังซินถึงกับหมดแรง เธอทุ่มเทกับงานมาก ขนาด หลี่ซูเจ่เรียกเธอไปกินข้าวกลางวันเธอก็ยังไม่ไป

“ประธานถัง”

เลขาคนหนึ่งในแผนกเลขานุการหิ้วกล่องเก็บความร้อน เข้ามาในห้องผู้อำนวยการ และมอบให้กับถังซิน “นี่เป็นอาหารกลางวันทีคนแซ่หลินคนหนึ่งฝากมาให้ค่ะ ฉันลอง ตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”

ถังซินขมวดคิ้วเล็กน้อย

แซ่หลินหรอ งั้นก็มีแค่ผู้ชายคนนั้น

ตรงกันข้าม เธอไม่ได้ให้เลขาโยนข้าวกล่องนั้นทิ้ง กลับ เปิดฝากล่องนั้นออก ด้านในมีบัตรอยู่หนึ่งใบ อีกชั้นของ กล่องข้าวเป็นซุปไก่สีขันกับหมูเส้นผัดกระเทียม

เธอคลี่แผ่นกระดาษออก

(กินข้าวดีๆ ล่ะ ผมรอพบเจอคุณอยู่

หลังจากทานเสร็จ ถังซินก็ได้โยนบัตรนั้นลงในถังขยะ ภายในใจไม่มีความรู้สึกใดๆ สักนิด

ไม่เจอหรอก

ช่วงเย็นถังซินก็ไม่ได้กลับไปหามู่เฉินหย่วนที่คฤหาสถ์ หากแต่กลับคอนโดไปกับหลี่ซูเจ๋ด้วยกัน หลี่ซูเจ๋หายใจ เฮือกใหญ่ด้วยความประหลาดใจ พลันถามอาการของถังซิน ถังซินก็ตอบแบบขอไปที

ไม่กี่วันต่อมา ถังซินแสร้งทำเป็นว่างานที่บริษัทเยอะ พอ ทำงานที่บริษัทเสร็จก็กลับคอนโด และนับตั้งแต่หลังจากที่ ลู่เหวินซูนัดกินข้าวกลางวันกับหลี่ซูเจ๋ เขาก็เริ่มจะเอาใหญ่หน้าด้านไร้ยางอายขึ้นมา ไม่ว่าถังซินจะมาถึงบริษัทในตอน เช้ากับหลี่ซูเจ๋กี่โมง ก็จะเจอกับเขาโดยบังเอิญ

ถังซินได้ชินไปแล้ว

“ประธานถัง” กาวเหม่ยซีมาหาถังซินตั้งแต่เช้าตรู่ สอบถามด้วยถ้อยคำสุภาพ “ของขวัญวันไหว้พระจันทร์ได้ เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณลองดูหน่อยว่ามีอะไรขาดตก บกพร่องมั้ย”

ถังซินชะงักเล็กน้อย “วันนี้วันไหว้พระจันทร์หรอ?”

กาวเหม่ย กล่าว “ใช่ค่ะ เมื่อวานได้ประกาศออกไปแล้ว วันนี้บ่ายสามพวกคนงานก็เลิกงานกันแล้ว”

งั้นไม่ใช่มู่เฉินหย่วนกลับไปฉลองกับครอบครัวแล้วหรอ?

“ประธานถัง?”

“หืม?” ถังซินรีบตั้งสติ เธอดูไปยังใบแสดงรายการสินค้า พลันถามกาวเหม่ยซี “ยังมีบัตรซื้อสินค้าอยู่มั้ย?”

“มีค่ะ”

“งั้นแจกบัตรซื้อสินค้าให้กับคนที่มีตำแหน่งสูงทุกคน ใบ ละหนึ่งหมื่นนะ”

“โอเคค่ะ”
หลังจากที่กาวเหมียซีเดินจากไป ถังซินได้ยกโทรศัพท์ขึ้น อยากจะส่งข้อความไปหามู่เฉินหย่วน แต่แล้วความรู้สึกนั้นก็ หยุดชะงักลง

เธอเป็นอะไรกัน จะไปฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่บ้าน ตระกูลมู่ทําไม?

จะว่าไป สองสามวันมานี้เธอไม่ได้ไปที่คฤหาสถ์เลย มู่เฉิน หย่วนไม่ค่อยสนใจเธอ ไม่โทรหาไม่ส่งข้อความ ทำไมเธอ ต้องโทรไปถามว่าเขายุ่งมั้ยด้วยล่ะ!

ในใจของถังซินโมโหเล็กน้อย ขณะที่กำลังวางโทรศัพท์ ลงนั้น สายของมู่เฉินหย่วนก็ดังขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ