ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 166 เขาไม่ได้เป็นตัวอันตราย



บทที่ 166 เขาไม่ได้เป็นตัวอันตราย

ถังซินยากที่จะเข้าใจ

ลู่เหวินซูส่งอะไรให้เธอกันนะ มันมีความลับอะไรกัน

มู่เฉินหย่วนเอ่ยปากถาม “เป็นอะไรไป

“ป่าว แค่ข่าวไร้สาระในโทรศัพท์น่ะ” ถังซินจับโทรศัพท์ ยัดเข้าไปในกระเป๋า แล้วดันถังซินให้เดินไป “แถวทะเล สาบคนเยอะดีจัง พวกเราไปดูแถวนั้นกันดีกว่า!”

หลังจากที่ถึงทะเลสาบ ถังซินเห็นกลุ่มป้าสิบกว่าคนใส่ กระโปรงเหมือนกันกำลังเต้นประกอบเสียงเพลง ต่างก็ระบำ กลองเอว ทั้งเต้นทั้งตีกลองไปด้วย ดูเหมือนจะยินดีมีความ สบก้น

ถังซินลากมู่เฉินหย่วนไปหาที่นั่ง พร้อมหยิบส้มจาก กระเป๋าออกมาแกะ

“พวกป้าๆ ดูกระปรี้กระเปร่าเนาะ ฉันว่าหลังจากปีนี้ไป พวก เขาต้องเต้นไม่ออกแน่ๆ” ปากก็พูดไป อีกมือหนึ่งก็หยิบส้ม ยัดใส่ปาก เฉินหย่วน “กินส้มซักหน่อย มันทำให้แข็งแรง”

มู่เฉินหย่วนชำเลืองมองเธอครู่หนึ่ง

พวกป้าๆ เต้นกันมาครึ่งวัน เหงื่อท่วมไปทั้งตัว แต่รอยยิ้ม บนใบหน้ากลับไม่ลดลงเลยสักนิดเดียว ดื่มน้ำแล้วก็พักผ่อน

ป้าคนหนึ่งเห็นถังซินกับหมู่เฉินหย่วนที่นั่งอยู่ทางด้านนั้น ก็พุ่งเข้ามาคว้ามือของถังซิน “แม่หนู มาสนุกด้วยกันสิ

“ไม่ไม่” ถังซินโบกไม้โบกมือ ยิ้มให้กับคุณป้าพร้อมกล่าว “พวกคุณสนุกกันก็ดีแล้ว”

“ไอหยา มาเถอะ” คุณป้าจับมือลากถังซินอยู่ตลอด ยัง กล่าวอีกว่า “การเต้นแบบนี้มันง่าย ลดน้ำหนักได้ด้วย แถม ยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกด้วยนะ!”

หา?

เธอก็มีความสุขดีหนิ ต้องปรับอะไรตรงไหนอีก?

ในหัวของถังซินมีแต่คำถาม ถูกคุณป้าลากเข้ามาตรงก ลางแปลงดอกไม้ แถมยังเอากลองเอวมาติดให้เธอใช้กับ เพลงอีก ด้านหนึ่งก็ดูคุณป้าเต้น อีกด้านหนึ่งก็เต้นแบบง งงวย

การเต้นแบบนี้มันง่ายจริงๆ ก็แค่ขยับเท้า สะบัดเอว ตี กลองเอวด้วยจังหวะที่หนัก

หลังจากที่ถังซินเต้นจนมือไม้อ่อนสักพักแล้ว ก็เริ่มเข้าใจ จังหวะ รู้สึกสนุกขึ้นมาบ้าง เต้นได้คล่องแคล่วขึ้น อีกทั้งมู่ เฉินหย่วนที่นั่งหลบอยู่ในที่ร่มก็มองดูเธออย่างเงียบเงียบ
มู่เฉินหย่วนที่ไม่เคยเห็นการเต้นในที่สาธารณะแบบน มองเห็นการเต้นของถังซินที่ดูเวอร์วัง ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม อ่อนออกมา

ผู้หญิงคนนี้บางทีก็ดูน่ารักดีนะ

หลังจากที่คุณป้าเต้นไปสักพัก เพลงก็ได้เปลี่ยนเป็นเพลง ชนเผ่าที่จังหวะร้อนแรง พวกป้าๆ ก็เต้นประกอบกับเพลง หมุนเอวรอบแล้วรอบเล่า ประจวบกับถังซินได้พอดี จึงร้อง ควบคู่ไปด้วย

ถังซินหมุนเอวไปสักพัก หันหลังกลับไปเจอกับสายตาขอ งมู่เฉินหย่วนพอดิบพอดี เห็นเขาจ้องมายังตัวเองแล้วยิ้ม จึงรีบหันตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าแดงก่ำ ร้อนผ่าว ผ่าว

จบกัน ตัวเองเต้นได้น่าตลกขนาดนั้นเลยหรอ?

หลังจากจบการเต้นที่ยากลำบากแล้ว ถังซินถึงกับเหงื่อ ท่วมตัว เธอได้นำกลองเอวไปคืนให้กับคุณป้า

“ขอบคุณค่ะ”

“ขอบคุณอะไรกัน เธอมีความสุขก็โอเคแล้วหนิ” คุณป้า ยิ้มพร้อมกล่าว พลันเอามือจับเธอ “แฟนของหนูดูหนูเต้นมี ความสุขดีนะ ไม่ละสายตาจากตัวหนูเลย แม่หนู พวกเธอยัง เด็ก มีความสุขในทุกๆ วันเป็นสิ่งสำคัญ วันเวลาจะเปลี่ยนไป ในวันที่ดีแน่นอน”
ถังซินรู้ว่าคุณป้าต้องเห็นมู่เฉินหย่วนนงวิลแชร์ ถึงพูดกับ เธอเช่นนี้ เธอพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมเดินกลับไปหามู่เฉิน หย่วน

มู่เฉินหย่วนยื่นกระดาษเช็ดหน้าให้กับเธอ “เต้นได้สวย

มากเลย”

“แค่กๆ ขะ ขอบคุณ” ถังซินไออย่างรุนแรง เธอรู้ว่าสภาพ เธอที่เพิ่งเต้นมานั้นตลกมาแน่นอน ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีการ ตอบสนอง มอง เฉินหย่วนแบบงงงวย

มีอะไรไม่ถูกงั้นหรอ

ถังซินเอ่ยถาม “ประธานมู่?”

มู่เฉินหย่วนมองมายังเธอพร้อมยักคิ้วเล็กน้อย “หืม?”

“ฉะ ฉันแค่เรียกเฉยๆ” ถังซินไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้ว เธอพูดอะไรก็ดูเหมือนจะไม่มีแรง คุณอามู่สร่างเมา แล้ว เธอเพิ่งจะเต้นรำต่อหน้าเขา ทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ!

เธอไม่รู้ว่าจะคุยกับมู่เฉินหย่วนยังไงดี มองเห็นรถไอศกรีม คันเล็กๆ ที่อยู่ไกลออกไป จึงรีบบอกว่าจะไปซื้อ แล้ววิ่งออก ไปอย่างรีบร้อน

มู่เฉินหย่วนชาเลืองมองเธอจากทางด้านหลัง รู้สึกอึดอัด ใจเล็กน้อย “ฉันเป็นตัวอันตรายหรอ?” บอกจะไปก็ไป
หลังจากที่อยู่หน้ารถไอศกรีมต้นเล็กแล้ว ถึงซนเอยถาม “เฒ่าแก่ มีน้ำแร่มั้ยคะ?”

“มีสิ! ”

ไอศกรีมมันแข็งเกินไป ถังซินเลยไม่อยากให้เฉินหยวน กิน จึงซื้อน้ำให้เขาแทนขวดหนึ่ง แล้วซื้อไอศกรีมให้กับ ตนเอง ขณะที่กำลังจ่ายเงิน ก็มีเด็กชายคนหนึ่งเดินมาข้างๆ ถังซินมองไปยังเด็กคนนั้น เห็นเขาใส่หมวกลักษณะคุ้นหู คุ้นตา “ฉางผิง?” เด็กชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมใบหน้า ที่ใส่ผ้าปิดปาก เมื่อมองเห็นถังซินก็ตาลุกเป็นประกาย “พี่ สาว บังเอิญจังเลย!”

เด็กชายที่กำลังพูดกำลังจะถอดผ้าปิดปากออก

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง เธอใส่เถอะ” ถังซินยั้งให้เขาเอาผ้า ปิดปากออก พลันหันไปมองมู่เฉินหย่วนครู่หนึ่ง เธอกลัวว่า เฉินหย่วนจะเห็นหน้าตาของฉางผิง

ฉางผิงกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่ตอนผมกิน ไอศกรีมก็ต้องถอดผ้าปิดปากออกนะ”

ถังซิน “.….

หลังจากที่ทั้งสองคนได้ไอศกรีมแล้ว ก็เดินไปหลังรถคัน เล็ก ฉางผิงได้ถอดผ้าปิดปากออก

อันที่จริงแล้ววันนี้ฉางผิงออกมาเล่นกีฬากลางแจ้ง เลยผ่านมาทางน กะว่าจะไปเดินเล่นททะเลสาบสกสองสามรอบ ก็กลับ ไม่คิดเลยว่ามาซื้อไอศกรีมแล้วจะมาเจอพี่ที่นี่

“เธออายุเท่าไหร่กันถึงมาเล่นกีฬากลางแจ้ง?” ถังซิน เอ่ยถาม “กิจกรรมพวกนั้นเป็นของวัยรุ่นทั้งนั้น เอาที่ตัวเธอ เหมาะสม ไม่อย่างนั้นร่างกายจะอยู่กับเราได้ไม่นานนะ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่อาทิตย์ละสองสามครั้งเอง” ฉางผิง กล่าวพร้อมยืนขึ้นแล้วให้ถังซินดู “พี่ครับ ดูสิ ผมสูงแล้ วนะ!”

ถังซินคาดคะเน ก็จริงอยู่

นึกถึงร่างสูงโปร่งของวี่เหวินถึง ฉางผิงสูงไวขนาดนี้ก็ สมควรอยู่ ยีนส์ของเขาดี

หลังจากที่คุยเรื่องทั่วไปกันเสร็จ ถังซินก็นึกเรื่องที่อยู่ใน ใจเรื่องนั้นขึ้นมาได้ อดไม่ได้ที่จะถามฉางผิง “เธอแซ่ซ่ง เป็นแซ่ของพ่อหรือแม่เธอหรอ?”

“แชของแม่ครับ” ฉางผิงกล่าว “แม่บอกว่ารอพ่อปลดจาก ทหารกลับมาก่อนถึงจะใช้แซ่ของพ่อครับ”

“แม่ของเธอ ใชที่ชื่อซ่งจิ้งเหอรึเปล่า?”

ฉางผิงไม่พูดไม่จา เริ่มระมัดระวังตัว

เขาเป็นแบบนี้ถังซินก็เข้าใจ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนก็เคยไปมาหาสู่กันสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น “ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ฉันรู้จักแม่ของเธอ ตอนที่เจอเธอ ฉัน รู้สึกว่าตาของเธอคล้ายกับแม่มาก”

“จริงหรอครับ?”

ถังซินพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมดึงเขาออกไป เธอชี้ให้ เขาดูมู่เฉินหย่วนที่นั่งอยู่ทางด้านโน้น “เธอได้อ่านหนังสือ พิมพ์บ่อยๆ ใช่มั้ย ผู้ชายคนนั้นคือประธานมู่แห่งบริษัทมู่ซือ เป็น..……..

“ผมรู้ครับ เค้าหมั้นกับแม่ผมไว้แล้ว” ฉางผิงตัดบทพูดถัง ซิน เขาชำเลืองมองมู่เฉินหย่วนครู่หนึ่ง พร้อมกล่าวแบบก ระซิบ “หล่อไม่เท่าพ่อผม

ถังซินคิดในใจ : นั่นคือคนที่เธอจะเรียกว่าพ่อในอนาคต

นะ!

“พี่ครับ พี่ชอบเขารึเปล่า?” ฉางผิงมองมายังถังซินแบบ ฉับพลัน กล่าวแบบดีใจ “ถ้าหากพี่ชอบก็ให้เขายกเลิกการ หมั้นกับแม่ผมสิ ผมต้องให้พี่ช่วยพูดแล้วล่ะ!”

“ฉัน…….แค่กๆ พวกเราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่านะ” ถังซิน ไม่อยากพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฉันรู้ มาเรื่องนึง แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่ เธออยากฟัง มั้ย?”

หลังจากที่เธอรู้ว่าฉางผิงเป็นลูกของวี่เหวินถึงและซ่งจิ้งเหอแล้ว ก็อยากที่จะนำเรื่องของวเหวนลงมาบอกกล่าวแก ฉางผิง มิฉะนั้นซ่งจิ้งเหอและมู่เฉินหย่วนคงได้แต่งงานกัน จริงๆ ความสัมพันธ์นั้นช่างดูอัดอัด

แค่พูดว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้

ฉางผิงแปลกใจว่าเป็นเรื่องอะไร จึงเอ่ยปากถาม “พี่พูดมา เถอะ ผมยอมรับได้

“ที่จริงแล้ว…… ” ถังซินขยับปาก กำลังจะพูดอะไรกับฉาง ผิง แต่เสียงโทรศัพท์ของฉางผิงกลับดังขึ้น

เขาไปรับโทรศัพท์บริเวณข้างๆ หนึ่งนาทีผ่านไป กลับมา พูดกับถังซินอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ครับ แม่ผมเอาของขวัญที่ พ่อของผมให้มาจากบ้านพ่อเพื่อนมาให้ กำลังอยู่ระหว่าง ทางกลับ ผมต้องไปก่อนแล้ว!”

“อืม ไปเถอะ” ถังซินไม่คิดจะพูดเรื่องนั้นกับเขาต่อแล้ว “เรื่องที่เรารู้จักกัน อย่าบอกแม่ของเธอนะ โอเคมั้ย แม่เธอ ไม่อยากให้ใครรู้จักเธอ งั้นเธอก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับ ฉัน”

“ผมรู้ครับ” ฉางผิงพยักหน้าเล็กน้อย “แต่ว่าในใจผม พี่ก็ คือเพื่อนของผม พี่ครับ ถ้าหากพี่ชอบคุณลุงคนนั้นก็บอกผม นะ ผมเต็มใจที่จะให้เขายกเลิกการหมั้นกับแม่ผม”

ถังซินอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ของวเหวินถึงกับมูเฉินหยวนแล้ว คำว่า “คุณลุง” ที่ฉางผิงพูดออกมานั้นดูไม่มีความเคียดแค้น เลยแม้แต่น้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ