ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 164 พีเฉิน เรียกมันทําไม



บทที่ 164 พีเฉิน เรียกมันทําไม

ขณะที่ถังซินกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในห้องครัว มู่เฉิน หย่วนก็มองดูเธออยู่ที่ปากประตู ไม่เคลื่อนย้ายสายตาไป ไหน ถังซินหันกลับมามองเขาหลายครั้งก็ยังคงเห็นเขามอง เธออยู่ ทำให้เธอร้อนรนอยู่ไม่สุข

“อาน้อย คุณอ่านหนังสือพิมพ์ไปไม่ได้หรอ?”

จ้องมายังเธอซะขนาดนี้ เธอรู้สึกเหมือนทำกับข้าวแขนขา กางไม่ค่อยสะดวก

มู่เฉินหย่วนไปอ่านหนังสือพิมพ์ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็กลับ มาอีกครั้ง พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันไปดูมาแล้ว ในหนังสือพิมพ์ไม่มีสาวสวยๆ เลย”

ถังซินหน้าแดงอีกครั้ง

อาหารเช้าเป็นโจ๊กฟักทองบำรุงร่างกายและซาลาเบา

มู่เฉินหย่วนคีบซาลาเบาขึ้นมาแล้วกัดเข้าปาก น้ำซุปก็ได้ กระเด็นกระดอนไปทั่ว คล้ายกับเขาถูกทำให้ตกใจกลัว

“ฟู่!” แวบแรกที่ถังซินได้เห็นสีหน้าของมู่เฉินหย่วน เธอ รู้สึกมึนเล็กน้อย และไม่สนใจซุปที่อยู่บนตัว เธอยิ้มพร้อม เป่าออกมา หลังจากยิ้มจนพอแล้ว เธอก็ได้สอนเขากินซา ลาเบาอย่งเคร่งขรึม
” นําส้มสายชู” ถังชินใช้ตะเกียบจ่มไปที่ด้านบนของเกียว ให้เป็นรูเล็กๆ แล้วเทน้ำส้มสายชูเข้าไป “หลังจากทำแบ บนี้แล้ว ความร้อนจากด้านในก็จะออกมา เวลากินจะได้ไม่ พ่นออกมาเรี่ยราด”

“แบบนี้นี่เอง” มู่เฉินหย่วนเข้าใจในสิ่งที่สอน พลันกัดซา ลาเบาที่ถังซินได้ทำไว้เรียบร้อยแล้วไปอีกคำพร้อมกล่าว ชม “อร่อยสุดยอด ฝีมือการเข้าครัวของแม่สาวนับวันยิ่งดี ขึ้นนะ”

ถังซินชำเลืองมองเขาครู่หนึ่ง “เมื่อก่อนฝีมือชั้นไม่ดีงั้น หรอ?”

“เมื่อก่อนก็ดี”

หลังจากที่ทานไปสักพัก สายตาของถังซินก็ได้เลื่อนไป ยังใบหน้าของชายหนุ่มพร้อมเอามือเท้าคาง มองขนตา อันเรียวยาวของเฉินหย่วน คล้ายกับพัดอันเล็กๆ สองอัน ใบหน้าด้านข้างนั้นดูดีเป็นอย่างมาก

เธอยื่นมือออกไปบีบคลึง

มู่เฉินหย่วนหันหน้ามามองเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความ รู้สึกสงสัย

ถังซินเพิ่งรู้สึกได้ว่าตัวเองทำเรื่องโง่อะไรลงไป จึงรีบชักมือกลับพร้อมมองซ้ายมองขวา “แค่กๆ ฉันเห็นผมของลุง น้อยมันมันน่ะ ควรจะสระได้แล้วนะ”

“แต่สภาพนี้ฉันไม่ค่อยสะดวกน่ะสิ” มู่เฉินหย่วนชี้ไปยัง วิลแชร์ที่ตนนั่งอยู่ “คนสวย คุณช่วยผมหน่อยละกัน”

ถังซินพยักหน้าภายใต้จิตสำนึก

สองวินาทีผ่านไป เธอหมุนตัวพร้อมเอาฝ่ามือมาปิดหน้า ของตัวเอง “ถังซินเธอบ้าไปแล้วหรอ เธอจะพยักหน้าทำไม สมองถูกประตูหนีบไปแล้วหรอ!”

แต่ว่าเรื่องที่ตัวเองรับปากไว้นั้น แค่แข็งใจทำเดี๋ยวมันก็ ผ่านไป

หลังจากทำความสะอาดห้องครัวเสร็จ ถังซินก็ขึ้นไปหามู่ เฉินหย่วนที่ชั้นบน เป็นครั้งแรกที่เธอเหยียบเข้าไปในห้อง นอนของเขา ลักษณะภายในห้องนอนนั้นดูสูงส่ง มีไม้จันทร์ ที่ซีดจางซึมซาบไปทั้งหัวใจ

ถังซินใช้รีโมทคอนโทรลเปิดม่านในห้องอาบน้ำให้เลื่อน ขึ้น ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ได้สาดส่องเข้ามาอบอุ่นลูกตา

“วันนี้อากาศไม่เลวเลยนะ” ถังซินมองวิวทิวทัศน์ภายนอก ผ่านกระจกบานยาว พร้อมพูดกับเฉินหย่วน “ลุงน้อย รอสัก ครู่เดี๋ยวฉันจะพาคุณออกไปนั่งเล่น”

“โอเค”
เธอรูดแบนเสือยืน คิดจะประคองพามู่เฉินหย่วนไปยัง อ่างล้างหน้า เฉินหย่วนส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมไปเองได้”

ถังซินถอยออกไปเล็กน้อย มองมู่เฉินหย่วนดันวิลแชร์ ออกแรงลุกจากด้านใน สองมือโอบประคองขาหนึ่งขา ค่อยๆ หย่อนตัวลงไปนั่งเก้าอี้เอน หลังจากนั้นก็ทำอีกข้าง หนึ่ง

เพียงแค่การกระทำง่ายๆ อย่างหนึ่ง แต่เขากลับใช้เวลา ไปสิบกว่านาที เหงื่อไหลย้อยท่วมหัว

ถังซินรู้สึกเสียใจ บีบกำปั้นแน่น

รอให้จัดการธุระของบริษัทมู่ซือให้เสร็จสรรพ เธอจะพามู่ เฉินหย่วนไปต่างประเทศ จะต้องมีโรงพยาบาลที่รักษาขา ของเขาได้อย่างแน่นอน!

คำว่าให้คนสระผมให้ ถังซินทำมันได้อย่างคล่องแคล่ว บางครั้งก็ยังถามมู่เฉินหย่วนว่าต้องการน้ำหนักมือที่หนักมั้ย

“คุณลุง คุณอย่าขยับ ก้มหัวลงหน่อย”

“ต๋อีกนิด”

ถังซินก้มหน้าเผชิญกับดวงตาอันล้ำลึกของเฉินหย่วน ใจ ของเธอเต้นพร้อมกล่าวอย่างใจไม่ดีว่า “ลุงน้อย คุณหลับตา ฟองจะได้ไม่เข้าไปในตาคุณ”
มู่เฉินหย่วนยังคงมองไปยังเธอ สายตาอบอุ่น แม่สาว เธอดูดีมาก”

ถังซินไม่มีแรงต้านทางต่อคำพูดนี้ ไม่พูดไม่จา หูทั้งสอง ข้างกลับแดงขึ้น

หลังจากที่สระผมเสร็จ ถังซินไปหยิบผ้าขนหนูแห้งมายืน หนึ่งให้มู่เฉินหย่วนเข็ดผม เขาไม่ทันได้รู้สึกตัวว่าเสื้อผ้า ของตัวเองได้เปียกโชกไปทั้งหมด จึงถอดเสื้อออก เผยให้ เห็นรูปร่างอันงดงามมีเสน่ห์

มู่เฉินหย่วนเห็นถังซินมองมายังเขาหลายครั้ง จึงดึงเธอ เข้ามาไว้ในอ้อมกอด

เอ้ย คุณดึงฉัน” ถังซินถูกดึงอย่างไม่ทันตั้งตัว ล้มลงนั่ง บนตัวของเฉินหย่วน ยังไม่ได้ถามอะไร ก็ถูกจูบที่ร้อนแรง ปิดกั้นคำถามที่ค้างคา ฝ่ายชายเปิดริมฝีปาก จูบได้อย่าง อบอุ่นกินใจพร้อมจับมือของเธอ ทั้งสองประสานนิ้วทั้งห้า เข้าด้วยกัน

ปลายจมูกเต็มไปด้วยลมหายใจของเขา หัวของถังซินรู้สึก ปั่นป่วนขึ้นมา

ผ่านไปสักพักหนึ่ง มู่เฉินหย่วนก็ปล่อยเธอพร้อมขยับริม ฝีปากเข้าไปใกล้แก้มเธอ พลันหายใจอย่างร้อนแรง

“แม่สาว คณดูดีมาก”
หลังจากนั้น ก็ขยับริมฝีปากไปเหนือคางของเธอ แล้วขยบ ลงไปเรื่อยๆ

ร่างกายของถังซินสั่นระริก งุนงงเล็กน้อย หลังจากที่เธอ รับรู้ถึงความร้อนแรงของเขา ฝ่ามือหนึ่งก็ได้ตบไปบนปาก ของเฉินหย่วน ไม่ง่ายที่เธอจะเรียกเสียงของตัวเองกลับคืน มา เธอพูดอย่างตะกุกตะกัก “พอ พอได้แล้ว”

มู่เฉินหย่วนจ้องมาที่เธอพร้อมใช้สายตาถามว่าเพราะอะไร กัน ลมหายใจที่ปลายจมูกรดลงยังกลางฝ่ามือของถังซิน ถัง ซินรู้สึกคันยุบยิบที่ฝ่ามือพลันเงยหน้าขึ้นมองเฉินหย่วน

ในช่วงเวลานี้ เครื่องกระจายเสียงก็ได้แพร่เสียงพูดของ หญิงสาวที่กระฉับกระเฉง “เจ้านาย คุณมีแขกผู้เข้าพักราย ใหม่!”

ริมฝีปากของถังซินกับเฉินหย่วนห่างกันเพียงหยิบมือ เดียว แต่ดันถูกเครื่องกระจายเสียงขัดจังหวะเสียก่อน ถังซิ นรีบร้อนลงมาจากร่างของเฉินหย่วน “ฉันจะไปดูว่าใครมา” พร้อมปืนออกไป

บ้าจริง เกือบจะทำผิดลงไปแล้วมั้ยล่ะ

หลังจากที่ถึงชั้นล่าง ใจของถังซินยังคงเต้นอย่างบ้าคลั่ง เธอตบหน้าตัวเองพร้อมเปิดประตูออก

“ว่าไง ทำไมถึงเป็นวิญญาณหมาป่าเน่าคนนี้ไปได้ล่ะ” พอประตูเปิด จู่ซือซือที่อยู่ด้านนอกเห็นถังซินก็วางท่าใส่”

ทำไมเธอถึงมาอยู่ในบ้านของพีเฉินได้ล่ะ?”

ถังซินกำลังขยับปาก จู่ซือซือก็กวาดสายตาไปยังร่างของ เธอ เห็นเสื้อผ้าของเธอเปียกแนบชิดไปกำลำตัว คล้ายกับ อารมณ์เห็นผีไปชั่วขณะ “เธอทำอะไรน่ะ คิดจะข่มขืนพี่เฉิน หรอ!”

“เธอคิดเยอะไปละ” สีหน้าของถังซินไม่เป็นธรรมชาติ อย่างมาก

จู่ซือซือสบถเสียงต่ำ ผลักถังซินออกพร้อมถลันเข้าไปใน บ้าน ทั้งเรียกพี่เฉิน ทั้งขึ้นชั้นสองไปด้วย ถังซินมองจู่ ซือซืออย่างจนปัญญาพลันปิดประตูใหญ่ลง

หลังจากที่รอถังซินตามขึ้นมายังชั้นบน ก็พบจู่ซือซือยืน เผชิญหน้าอยู่กับมู่เฉินหย่วน ตำหนิเธอด้วยความโกรธแค้น

“พี่เฉิน พี่พาผู้หญิงคนนี้เข้ามาได้ยังไง ไม่รู้หรอว่ามัน เหยียบเรือสองแคม กำลังแกล้งพี่เล่นอยู่ นี่ถ้าฉันมาไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรบ้าง!”

ถังซิน “.

เธอไม่มีอะไรทำรึไง มาที่นี่เพื่อจะพูดแค่นี้หรอ?” มู่เฉิน หย่วนเอ่ยถามจู่ซือซือ

จ่ซือซือกระทืบเท้า พร้อมกล่าวอย่างพึมพัม “ที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าฉันส่งข้อความวีแชทไปหาพี่แล้วไม่ตอบหรอกหรอฉันเลยต้องมาหาพีทีนี้ พีเฉิน ฉันก็แค่เป็นห่วงพ แต่พทา เหมือนไม่อยากเห็นหน้าฉันอย่างนั้นแหละ!”

“แม่สาว เข้ามา”

จ่ซือซือหันกลับไปอย่างทันใด เห็นว่าชื่อที่เขาเรียกนั้นคือ ถังซิน พลันจ้องไปยังเธออย่างไม่เชื่อสายตา “พูดซิพี่เฉิน พี่เรียกมันมาทําไมกัน พวกเธอ…….

หลังจากทีรอถังซินเดินเข้ามา มู่เฉินหย่วนกล่าว “อย่า หยาบคาย เรียกว่า อชะ”

“ไม่ใช่นะ คุณจู่ อย่าเข้าใจผิด!” ถังซินตกใจจนขนลุกชูชัน ทั้งร่างกาย “ประทานมู่เขา…

“พี่เฉิน พี่ให้ฉันเรียกมันว่าซ้อหรอ?” จ่ซือซือยกระดับ น้ำเสียงของตัวเองให้สูงขึ้น หยุดการอธิบายของถังซิน “เพราะอะไรพี่ถึงชอบนังวิญญาณหมาป่าเน่านี่ ฉันไม่ใช่ที่รัก ของพี่แล้วหรอ? ”

มู่เฉินหย่วนกล่าว “ฉันไม่เคยให้เธอเป็นที่รักของฉันสัก หน่อย”

“พี่เฉิน พี่พี่พี่…..” จ่ซือซือโกรธจนจะร้องไห้ “ฉันแค่ไม่ได้ 11 มาหาพี่แปปเดียว ในใจพี่ก็ไม่เหลือที่ว่างแล้วหรอ?”

เห็นมู่เฉินหย่วนพยักหน้าอย่างสัตย์ซื่อ ถังซินที่อยู่ด้าน ข้างก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหัวเราะออกมา
ทำยังไงได้ล่ะ ก็มันน่าหัวเราะจริงๆ หน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ