บทที่ 163 พี่ชาย ไม่ใช่ว่าคุณตั้งใจดีมให้เมาใช่ไหม
“ฮ่าๆ ….. คุณ เขาล้อเล่นเฉยๆ อย่าถือว่าเป็นเรื่องจริง เลย!” ถังซินรีบอธิบายให้ผู้บริหารระดับสูงฟัง “พอดีฉันกลัว ขาของคุณ ไม่ค่อยสบายเลยแวะมาดูน่ะค่ะ”
พวกผู้บริหารระดับสูงพูดอ๋อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เชื่อจริงๆ
พวกเขาก็ไม่ได้ตาบอด เห็นถังซินออกมาจากห้องนอน นี่ เรียกว่าแวะมาดูหน่อยงั้นหรอ?
“คุณถึงคุณสบายใจได้ พวกเราเข้าใจหมดแล้ว”หนึ่งใน ผู้บริหารระดับสูงตอบ “ในตอนนี้สถานการณ์ของคุณมู่ยัง ไม่แน่นอน เรื่องที่คุณท้องเราจะเก็บไว้เป็นความลับอย่าง แน่นอน รอให้พวกคุณพูดกับทุกคนเองภายหลังจะดีกว่า”
“ใช่ๆ พวกเราเข้าใจน่า
ถังซิน “……….”
เธอไม่ได้ท้องสักหน่อย ไม่ได้ท้อง!
แต่คำพูดที่ออกจากปากของคุณมู่แล้ว ต่อให้ถังซินจะ อธิบายก็ไม่มีใครเชื่อ
เหล่าผู้บริหารเดินลงบันไดไปทีละคนๆ
ก่อนที่กาวเหม่ยซีจะเดินไปยังหันมาพูดกับถังซินว่า “คุณถัง ฉันมีเพื่อนอยู่ต่างประเทศเยอะเลย ถ้าคุณต้องการก็บอก ฉันได้เลย”
“ที่รัก คุณไม่สบายหรอ?” มู่เฉินหย่วนดันรถเข็นเข้ามา เห็นว่าสีหน้าเธอไม่ค่อยดี “ให้ผมเรียกแพทย์ประจําบ้านมา ไหม?”
ถังซินปฏิเสธด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง!”
สิ่งที่เธออยากทําตอนนี้คือ ตีคน!
หลังจากที่เกาเหม่ยหยวนจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับที่พักไป เธอถอดเสื้อโค้ทแขวนไว้ และเข้าไปในห้อง หนังสือ
เธอเห็นหลินเฉิงจี่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข้าชุดของโต๊ะไม้สีแดง กำลังวิดิโอคอลกับใครสักคนอยู่ เธอพูดสำเนียงลอนดอน และนั่งไขว่ห้างอยู่
เธอเหลือบมาที่ถังซินแล้วหันไปพูด2-3ประโยคกับคนใน สายแล้วก็ถอดหูฟังออก
“เธอพึ่งทำธุระเสร็จหรอ?”
“ใช่ เรื่องที่บริษัทมู่ชื่อเนี่ยแหละ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” กาวเหม่ยซีเดินมากอดเธอจากด้านหลัง “วันนี้ฉันไปประชุมที่บ้านของคุณมู่ด้วยนะ เจอเรื่องดีดีมาด้วยแหละ
กาวเหม่ยซีเสียบแฟลชไดร์ฟเข้าที่คอมพิวเตอร์ เปิดคลิป เสียงอันหนึ่ง เสียงของเฉินหย่วนดังขึ้นมาบอกว่าถังซินทั องแล้ว วันหลังคงจะไปที่บริษัทไม่บ่อยนัก
“อยู่ๆถังซินก็ท้องหรอ เธอว่ามันไม่ประหลาดไปหน่อย หรอ?” เกาเหมยซีจ้องไปที่หลินเฉิงจี๋แต่พบว่าเขาไม่มี ปฏิกิริยาตอบสนองอะไร
เธอก็เลยตั้งใจพูดแหย่ไปว่า “เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่ามู่เฉิน หย่วนมีใจให้ถังซิน แต่อยู่ดีๆเขาก็ไปหมั้นกับคุณหนูซ่ง แต่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีใจให้ถังซินจริงๆนะ
“ถ้าเขาไม่พูด ใครจะไปรู้ว่าถังซินท้องแล้วล่ะ?”
“จริงๆก็น่าประหลาดใจอยู่นะ” หลินเฉิงจี๋เปิดปากพูดใน ที่สุด “ดูเหมือนว่ามู่เฉินหย่วนกับซ่งจิ้งเหอจะทำข้อตกลง กันนะ หมั้นให้โลกภายนอกรับรู้”
เกาเหมยซีตอบว่า “เรื่องของบริษัทมู่ชื่อไม่ได้ส่งผลกระ ทบอะไรต่อบริษัทซ่งอยู่แล้ว ได้ยินมาว่าซ่งจิ้งเหอยังขึ้นไป ถึงระดับสูงของบริษัทซ่ง และประธานซึ่งยังอยากจะแบ่งหุ้น ส่วนให้เธออีกด้วย”
“มู่เฉินหย่วนใจกว้างจริงๆ” หลินเฉิงจี๋ตอบ “ก็แค่งานหมั้น งานหนึ่งแต่กลับทำให้ลูกนอกสมรสอย่างซ่งจิ้งเหอได้รับ การยอมรับในตระกูลข่ง
กาวเหม่ยซีหัวเราะแบะพูดเล่นๆว่า “ไม่แน่มูเฉินหยวนอาจ จะอยากได้ทั้งสองคนก็ได้ ถึงแม้ว่าซ่งจิ้งเหอจะเป็นลูกนอก สมรสแต่เธอก็ฉลาดและมีความรู้ ดูจากที่ตระกูลซ่งให้เธอ อยู่ต่อก็น่าจะรู้แล้ว”
หลินเฉงจี้ถอดแว่นออก และคลึงบริเวณหัวคิ้วทั้งสอง “ทําไมเขาคิดว่าเป็นเรื่องของเขากันนะ ฉันแค่ต้องการบริ ษัทมู่ซื่อ หรือว่าทางมู่เจิ้งเฉิงหลุดปากนะ?”
“อะไรจะหลุดปากง่ายขนาดนั้น”กาวเหม่ยซีใช้มีวาด วงกลมบนอกของตัวเอง “เขาน่ะได้แต่หวังให้ลูกน้องของ เขาต่อต้านบริษัทมู่ชื่อแล้วให้ตัวเองกลายเป็นราชา”
หลินเฉิงจี๋ยิ้ม ในแววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ทำห้างสรรพสินค้ามานานขนาดนี้แล้ว แค่กลยุทธ์เล็กๆ ของมู่เฉินหย่วนก็ยังดูไม่ออก”เขาตอบ
“งั้นก็บังคับให้เขาพูดสิ เขายังลูกชายสองคนไม่ใช่หรอ ดูซิว่าเขาจะเลือกใคร
“คุณนี่ร้ายจริงๆ”กาวเหม่ยซียิ้มและกัดติ่งหูของเขาเบาๆ “มู่ซื่อใหญ่ขนาดนี้ คุณจะกินไหวได้ยังไงเดี๋ยวก็อิ่มตาย หรอก”
“งั้นก้แยกออก แล้วค่อยๆกิน
“แล้วฉันล่ะ?” กาวเหม่ยซีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแล้วค่อยๆโอบเขาไว้ ทำให้ร่างกายถึงกับอ่อนยวบ เธอจูบแก้ม ของฝ่ายชาย
หลินเฉิงจี๋เบี่ยงหน้าออก ตอบว่า “ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ เธอออกไปก่อน”
“Corbat”
“ออกไป” เสียงเขาเปลี่ยนเป็นแข็งขึ้น
กาวเหม่ยซีมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ แล้วปล่อยมืออย่าง เสียดาย ออกไปจากห้องอ่านหนังสือ
เมื่อเหลือเพียงหลินเฉิงจี่อยู่ในห้อง เขาดึงเน็กไทด์ออก แล้วเปิดวิดิโอดูอีกครั้ง เสียงของผู้ชายดังอยู่ในห้อง เขาดู แล้วรู้สึกสงบลงบ้าง
พรม เขาปิดโน๊ตบุ๊คลงด้วยความแรง ปรากฏรอยร้าวบนที่ ปิด มือของเขาเกร็งจนเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน
หลังจากที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน เขาก็หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมากดหมายเลข
“จงเซิง ผมมีเรื่องให้คุณทำ
เมื่อจงเซินได้ยินก็จะปฏิเสธเขา พูดอย่างเป็นกังวลว่า “เอ่อ คุณชาย หมอบอกว่า ให้ผม…
หลินเฉิงจี้พูดขัดเขาว่า “จงเชิง เมื่อก่อนคุณไม่ได้เรื่อง มากขนาดนี้นี่”
“คุณชายครับ ผมไม่อยากมีปัญหากับคุณ”
“สรุปจะไปหรือไม่ไป?” หลินเฉิงจี้ถาม “ถ้าไม่ไปฉันจะได้ หาคนอื่น”
หลังจากนั้นสักพัก จงเซิงตอบว่า
“ไปครับ”
เมื่อคืนถังซินฝันร้าย
เธอฝันว่าตัวเองหนีกลับมาจากประเทศหนึ่ง ก็รีบเปลี่ยน ชื่อและแต่งงานกับมู่หยางซิว แต่ในวันแต่งงาน ตอนที่ทั้ง สองกำลังจะแลกแหวนกัน หลินเฉิงจี๋ก็ปรากฏตัว
เขาไม่พูดอะไรเลย ส่งยิ้มให้เธอ และควักปืนออกมายิงมู่ หยางซิวตาย
ถังซินตกใจจนสะดุ้งตื่น
“ทำไมถึงฝันแบบนี้กันนะ?” เธอเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของ เธอ
เธอหย่ากับมู่หยางซิวตั้งนานแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ตั้งแต่คืนฝนตกคืนนั้นก็ไม่เห็นหลินเฉิงจื้อีกเลย ทำไมเธอ ถึงฝันถึงเขากันนะ?
หลังจากที่เธอล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว เดินหาวลงไปชั้น ล่าง นึกถึงมู่เฉินหย่วนเลยเดินไปเคาะที่ห้องของเขา
“คุณมู่คะ”
เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเธอโต้รุ่งผ่านไปยังไง เพียงแค่หยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาเธอก็กลัวว่าเขาจะทำเรื่องน่าตกใจอะไรอีก
ผ่านไป12ชั่วโมงแล้ว เขาคงสร่างเมาแล้วสินะ
หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องนอนของมู่เฉินหย่วนก็เปิด ออก เขาใส่ชุดอยู่บ้าน ผมยุ่งเล็กน้อย แต่ยังทำอะไรกับ หน้าตาที่หล่อเหลาของเขาไม่ได้เลย
“ที่รัก อรุณสวัสดิ์”
ที่รัก??
ถังซินถึงกับลืมหาว เธอจ้องไปที่มู่เฉินหย่วนอีกครั้ง
ดูยังไงก็งดงามจริงๆ แต่สายตาอบอุ่นมากแฝงไปด้วย ความสงสัย ดูยังไงก็ไม่ใช่มู่เฉินหย่วนในเวลาปกติ!!
ถังซินเอามือมาจับที่อกตัวเอง ถามมู่เฉินหย่วนอย่างตะกุกตะกักว่า “คุณดื่มเหล้าอีกแล้วหรอ
“อ่า เหมือนจะใช่นะ “ก็คือไวน์ในเหยือกแก้วขนาดใหญ่ที่ อยู่ในห้องครัว รสชาติดีทีเดียว แต่เหมือนจะเผ็ดไปหน่อย
เธอน่าจะเอาเหล้าโยนทิ้งไปซะ ทำไมถึงไว้ในห้องครัวกัน
นะ
“ที่รักคุณใส่เสื้อยังไม่เสร็จดีเลย” มู่เฉินหย่วนเห็นสายรัก แขนเสื้อของเธอหลวมแล้วก็ตั้งใจมัดให้เธอ นิ้วเขาสัมผัส โดนบริเวณเอวของเธออย่างไม่ตั้งใจ
ถังซินชาไปทั้งตัว หน้าแดงและก้าวถอยหลังไป “ฉันไป ทำอาหารเช้าก่อนนะ คุณอยากกินอะไร?”
มู่เฉินหย่วนมองหน้าเธอด้วยสายตาลึกซึ้งและอ่อนโยน “ที่รักทำอะไรก็ได้ ผมชอบกินหมดเลย”
ช่าง ช่างยั่วยวนอะไรขนาดนี้
ถังซินไม่สามารถอยู่ตรงนี้ต่อไปได้ เลยรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ