ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 158 อ้าว ลูกเขยเองเหรอ



บทที่ 158 อ้าว ลูกเขยเองเหรอ

ถังซินสีหน้าดูอายมาก ยิ้มแห้ง ๆ รีบหันตัวหนีอย่างไว ด่า ตัวเองอย่างแรงอยู่ในใจ แย่จริง ๆ ต้องกําเริบเสืบสานใน ๆ บ้านของคนอื่นขนาดนี้เลยหรือไงเนี่ย

มู่เฉินหย่วนเห็นมือถือบนโต๊ะกาแฟของถังซินดังเลยเอา มือผิดเพลง

“ถังซิน โทรศัพท์คุณ

“น่าจะเป็นพี่หนุ่มส่งของนะคะ” ตอนนี้ถังซินไม่อยาก เผชิญหน้าเขาเพราะว่าเขินนิดหน่อย “ประธานมู่คะ คุณรับ เถอะค่ะ”

พอมู่เฉินหย่วนเห็นชื่อคนโทรมาเป็นตัวอักษร “คุณแม่ สองตัวก็ยัก ๆ คิ้ว

ไม่ใช่หนุ่มส่งของสักหน่อย

เพียงแต่พอเห็นถังซินสองมือเต็มไปด้วยแป้ง ยุ่งมาก เขา เลย “อืม” แล้วรับสาย เปิดล่าโพง “สวัสดีครับ”

“อ้าว ลูกเขายเองเหรอ ! ” คุณแม่ถังฟังออกว่าเป็นเสียง จองมู่เฉินหย่วน “ที่รักล่ะ”

ตายห่า !
พอได้ยินว่าเป็นเสียงแม่แถมยังมีคำว่าลูกเขยอีก ถังซินยิ่ง เกือบพุ่งออกมา เธอพุ่งมาข้าง ๆ เฉินหย่วนแล้วแย่งมือถือ กลับไปเร็วจ์

ถังซินปิดลำโพง กัดฟันพูดใส่แม่ แม่ แม่เรียกลูกขงลูกเข ยอะไรเนี่ย”

คุยโทรศัพท์ไปก็ยังแอบมองไปข้างนอก ดูเหมือนว่ามู่เฉิน หย่วนไม่ได้ตกใจ สีหน้ายังคงราบเรียบ

“นั่นมันเสียงลูกเขยไม่ใช่เหรอ”

“ใช่…ไม่ใช่ลูกเขยแม่” ถังซินพูดแก้ เธอรู้สึกอยากตาย มาก “แม่โทรมาหาหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ

“พวกเธอสองพี่น้องไม่กลับมานานมากแล้ว แม่ก็เลยถาม สารทุกข์สุขดิบของพวกเธอดู

คุณแม่ถังถามถังซินว่าเมื่อไหร่จะกลับมากินข้าว หมักไวน์ เอาไว้สองถังอยากให้เธอมาเอากลับไป พรุ่งนี้ถังซินก็กลับ แล้ว พอคุยจบก็รีบวางสายอย่างไว

มู่เฉินหย่วนก็เข็นวีลแชร์เข้ามา “เมื่อกี้ผมรับโทรศัพท์ ทำไมแม่คุณเรียกผมว่าลูกเขยล่ะ”

เขาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะเสียงเหมือนกับมู่หยางซิว

“ต๊ะ ระ เรื่องนี้เหรอคะ” ภายใต้สายตาไต่สวนของเขา ถังซินติด ๆ ขัด ๆ เลยพูดตะกุกตะกัก “แม่ฉันมีปัญหาการฟังนะ คะ แม่คิดว่าเป็นมู่หยางซิวค่ะ”

มู่เฉินหย่วนหน้าจ๋อย

ถังซินก็ตกใจไปหมด ไม่เข้าใจทำไมเขาถึงหน้าจ๋อยเลย ฝืนใจพูดต่อ “แม้ว่าฉันกับมู่หยางซิวจะเหินห่างกัน แต่แม่ฉัน ชอบมู่หยางซิวมากนะคะ”

“แม่คุณนี่ ‘ดี’จริง ๆ เลยนะ” มู่เฉินหย่วนหัวเราะอย่างเย็น ชา ไม่รู้ว่าไปโกรธอะไรมา “ลูกเขยที่ชอบออกนอกลู่นอก ทาง แถมยังรังแกลูกสาวตัวเอง เธอก็ชอบเหรอ ! ”

ถังซินอดที่จะพูดไม่ได้ “นอกจากมู่หยางเซินจะออกนอกลู่ นอกทางแล้ว แต่ตัวเขาก็ถือว่าใช้ได้นะคะ”

อีกอย่างเธอก็มีปัญหาด้วย

“พอแล้ว ผมไม่อยากฟัง” ชายหนุ่มน้ำเสียงยิ่งเย็นชา พูด จบก็เข็นวีลแชร์ออกไปเลย ทิ้งถังซินทำหน้างงอยู่ในครัว

เธอพูดอะไรผิดไปเหรอ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ถังซินถึงรู้สึกว่าลุงมู่โกรธอยู่ หน้า บึ้งตึง เมินใส่ อีกอย่างพอเห็นเธอเกี๊ยวหมูที่เธอต้มแล้วก็ วางตะเกียบทันที ถังซินเจ็บปวดมาก

ถังซินคิดอยากจะพูดอยากกินก็ไม่ต้องกิน แต่พอเห็นคู่เฉินหย่วนวางขาลงบนวีลแชร์ ก็เลยอดกลั้นเอาไว้อีก ตก ดึกเลยขับรถออกไปหาเนื้อวัวสด ๆ เคี่ยวหม้อไฟเล็ก ๆ หนึ่ง หม้อ

วันต่อมา เฉินหยวนก็ยังโกรธอยู่จึงเมินใส่เธอ

ถังซินทำอาหารเช้าเสร็จก็ออกไปเลย ขณะที่กำลังขับรถ ไปบ้านคุณแม่ถังก็ยังโทรไปหากวนชิงเฟิงด้วย

เสียงสาวน้อยพูด

“เธอบ้าเหรอ กวนคนนอนหลับแต่เช้ามืดเลย

ถังซินตกใจ

ยังไม่ทันที่เธอจะตอบโต้กลับ เสียงพูดไปด่าไปของผู้ หญิงก็หายไปแล้ว เสียงแหบแห้งของกวนชิงเฟิงดังขึ้นมา แทน “เจ๊ เจ๊โทรหาผมมีไรเหรอ”

“นายไม่ได้อยู่โรงเรียนหรอกเหรอ ฉันรับนายกลับมากิน ข้าวบ้านนะ”

“สองสามวันมานี้เป็นวันหยุด อยู่ข้างนอก เจ๊ไปรอผมที่นั่น เหมือนเดิมนะ อีกสิบนาทีผมก็ถึงแล้ว”

ถังซิน “เออ” หนึ่งที แต่ก็ยังอดไม่ได้ “ผู้หญิงคนนั้นเมื่อกี้ เป็นใคร นิสัยแย่มากเลย
“ไม่มีอะไร ผมล้างหน้าบ้วนปากก่อนนะ”

กลัวถังซินจะถามมากไป กวนชิงเฟิงก็เลยวางสาย

เขากลับเข้าห้องไปใหม่อย่างอารมณ์เสีย หิ้วจู่ซือซือขึ้น มาจากเตียง “คุณจู่ บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่ามายุ่งกับของ ของผม”

“มันเสียงดังอ่ะ ฉันนอนแล้วนะ” จู่ซือซือพูดอู้อี้ ไม่ได้ ลืมตา ทิ้งหัวลงบนอกของเขา

กวนชิงเฟิงอยากจะเอาคืนเธอหลายล้านรอบ แต่ก็อดกลั้นเอาไว้

ยังไม่ทันที่หัวของสาวน้อยจะหล่นลงมาที่ตัว กวนชิงเฟิงก็ ทิ้งเธอลงบนเตียงแล้วหันตัวไปห้องน้ำเลย

จู่ซือซือโดนเทเลยไม่มีอารมณ์จะนอน นวด ๆ ตา หาว แล้วไปห้องน้ำ อ้าปากรอให้กวนชิงเฟิงเอาแปรงสีฟันยัดใส่ ปาก

เธอแปรงฟันไป ถามไป “วันนี้กินอะไรคะ”

“สั่งข้าวกล่อง” กวนชิงเฟิงรวดเร็วมากไม่กี่นาทีก็ล้างหน้า บ้วนปากเสร็จแล้ว “ผมมีธุระต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย”

จู่ซือซือหันไปจ้องเขา เลิกแปรงฟัน “ฉันไม่ยอม พี่เฉินเรียกเหรอคะ มีธุระคุณให้เฉินคางไปก็เหมือนกันแหละ ยัง ไงฉันก็ไม่กินข้าวกล่อง”

กวนชิงเฟิงเส้นเลือดดำกระตุกอย่างแรง “ก็แค่กินข้าว กล่องมื้อเดียวเอง”

“มื้อเดียวก็ไม่ได้ค่ะ”

“ยังไงฉันก็ไม่อยากกินข้าวกล่อง ทั้งสกปรก แถมยังไม่ อร่อยด้วย” จ่ซือซือมองเขาอย่างน่าสงสาร “ฉันอยากกิน ข้าวที่คุณทํา ดึกหน่อยก็ได้

กวนชิงเฟิงรำคาญการออดอ้อนของเธอมาก แทบจะทน ไม่ไหวกว่าตอนที่อารมณ์เสียเสียอีกแต่ก็จนปัญญา “วันนี้ผม กลับไปกินข้าวบ้าน ถ้างั้นเดี๋ยวผมเอามาให้คุณด้วยนะ

จู่ซือซือแปลกใจมาก “ที่แท้แม่คุณก็อยู่หนานเฉิงนี่เอง ฉัน นึกว่าอยู่ไกลกับคุณมากเสียอีก”

“แล้วคุณจะกินไม่กินล่ะ

“ให้ฉันไปบ้านคุณด้วยดีกว่า” จู่ซือซือจับไหล่ของเขา ทำ หน้าจริงจังมาก “ยังไงเช้านี้ฉันยังไม่ได้บอกอะไรเลยว่าจะ ไปทักทายแม่คุณ

“แม่ผมไม่ชอบให้คนนอกมารบกวน” กวนซิงเฟิงปัดมือของเธอออกแล้วยัดแปรงสีฟันใส่ปากเธอ “วันนี้จะกินข้าว กล่องหรือให้ผมเอาข้าวมาให้เลือกมา

จ่ซือซือเบะปาก กัดแปรงสีฟันพูดจึมงำ “เอาข้าวมาให้

กวนชิงเฟิง นตัวออกไปเลย

จ่ซือซือแปรงฟันเสร็จก็รู้สึกสิ้นหวัง พุ่งออกไป ดูความ เคลื่อนไหวของกวนชิงเฟิงอย่างระมัดระวัง พอเขาออกจาก ประตูไปแล้วก็ใส่เสื้อผ้าอย่างลวก ๆ แล้วก็รีบตามออกไป

เธอนั่งรถตามหลังไป คิดว่ารถที่กวนชิงเฟิงนั่งจะตรงไปที่ บ้านแม่เขาเลย คิดไม่ถึงว่าเขาจะลงที่สี่แยก

ข้างทางแยกมีรถ BC จอดอยู่ เขาเปิดประตูรถเข้าไปลง

จ่ซือซือยืดคอขึ้นมาเพ่งดู ผู้หญิงที่นั่งฝั่งคนขับก็คือถังซิ นนั่นเอง หัวเราะไปด้วยพูดอะไรกับกวนชิงเฟิงไปด้วย แถม ยังใส่เข็มขัดนิรภัยให้เขาอย่างสนิทสนมด้วย

“ยัยจิ้งจอกแปลงร่างยั่วผู้ชาย” จู่ซือซือก่นด่าออกมา โมโหแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว

ยัยจิ้งจอกแปลงร่างยั่วผู้ชายเป็นคู่อริเก่าแต่ชาติก่อนของ เธอหรือเปล่านะ ชาตินี้แย่งพี่เฉินกับเธอจนทำให้พี่เฉินตัด หางปล่อยวัดเธอ ยังจะมาแย่งบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธออีก เลวจริง ๆ เลย
เห็น BC ขับออกไป จู่ซือซือพูดด้วยความโกรธว่า “โชเฟอร์เร็วเข้า ตามรถคันหน้าไป

“เอ้ย เอ้ย คุณ… ” คนขับรถเห็นจู่ซือซือรู้สึกคุ้นหน้านิด หน่อย ดูเหมือนเป็นซุปตาร์คนไหนสักคน เพียงแต่ว่าเธอ อารมณ์ร้อนไปหน่อยก็เลยไม่ถามอีก แล้วรีบขับรถออกไป

ตั้งแต่จู่ซือซือออกมา กวนชิงเฟิงก็รู้ตัวแล้ว แต่แค่ไม่พูด เท่านั้น

กวนชิงเฟิงมองกระจกมองหลัง เห็นรถแท็กซี่ที่จู่ซือซือนั่ง ยังตามมาอยู่ก็ให้ถังซินขับไปทางอื่น พอเจอสี่แยกก็เลี้ยว สลัดรถแท็กซี่ที่อยู่ด้านหลังทิ้งไปเลย

ถังซินก็เห็นความผิดปกติเช่นกัน เธอลังเล ๆ แต่ก็ถามกวน ชิงเฟิงว่า “นายเงินไม่พอใช้หรือไง สาวน้อยคนนั้นไม่ใช่ ย่อยเลย นายไม่ได้ให้เบอะร์เธอไปใช่ไหม”

พอกวนชิงเฟิงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เบะปาก “เจ๊ ผมไม่ ได้ทำเรื่องพรรค์นั้นหรอก”

แต่ถังซินกลับพูดว่า “ไม่เป็นไร นายโตขนาดนี้แล้ว รู้เรื่อง พวกนั้นบ้างก็ดี เพียงแต่ว่าต้องป้องกันให้ดีนะ ก็เพื่อความ ปลอดถัยของนายด้วยถ้าอยากจะ…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ