บทที่ 153 ผมไม่เคยรู้สึกว่าคุณรบกวนผมนะ
“ว้าว เธอน่ารักขนาดนี้ เหมาะกับคำว่านางฟ้าน้อยมาก” ลู่เหวินซูหัวเราะชอบใจแล้วพูด “ผมรับรองว่าน้องชายคุณ ต้องหาผู้หญิงที่สวยกว่านี้ได้”
ถังซินถามกลับ “ทําไมคุณไม่หาให้ตัวเองล่ะคะ”
“เพราะผมค่อนข้างรักเดียวใจเดียว ผมตกหลุมรักนางฟ้า น้อยตั้งแต่แรกพบแล้ว”
ถังซินมองเขาหัวจรดเท้าแล้วก็หัวเราะเยาะ “คุณพูดแบบ นี้กับผู้หญิงมากี่คนแล้วคะ หกสิบคนแล้วไหมเนี่ย”
“ดูคุณพูดสิ ผมเป็นคนเจ้าชู้แบบนั้นเหรอไง” ลู่เหวินซู พึมพำ เปิดประตูรถด้านคนขับแล้วผลักเธอเข้าไป “ที่รัก ฝากรถด้วยนะ”
ถังซินจนปัญญามาก “อย่าเลี่ยนนักสิคะ ฉันจะอวกแล้ว”
ลู่เหวินซูหน้าไม่อาย ถังซินเถียงเขาไม่ชนะ ทำได้แต่ เป็นคนขับรถไป ส่วนเขาก็ไปนั่งข้างหลังคุยกับหลี่ซูเจ๋ สนุกสนาน ขุดคุ้ยเรื่องที่เธอชอบ
เมื่อรถมาถึงเขตวิลล่าที่มู่เฉินหย่วนอยู่ ลู่เหวินซูก็ยังไม่ หุบปาก พอได้ยินว่าหลี่ซูเจ๋ชอบเสื้อผ้าแบรนด์อะไรก็รีบ บอกว่าจะขอบัตรเพื่อนมาสองใบทันที
ถังซินเปิดประตูรถ หัวเราะแห้ง “คุณ คุณหน้าบางลง หน่อยได้ไหมคะ”
“ผมคุยกับซูเจ๋ ไม่อายตรงไหนล่ะ”
“จริงด้วย ฉันว่าเขาคุยสนุกดีนะ” หลี่เจไม่ได้คิดอะไร ลู่ เหวินซูปากหวาน ตาบอดอยู่แล้ว แม้ว่าแต่งตัวเหมือนไก่ ตัวผู้ไปหน่อย”
ลู่เหวินซูตัดสินใจแล้วว่ากลับไปแล้ว เขาจะไปขึ้นแบลคลิ สแบรนด์นี้
ถังซินเคยมาดูแลมู่เฉินหย่วนก่อนหน้านี้แล้ว ยังไม่ได้คืน คีย์การ์ด แต่เธอกลัวจะทำให้เข้าใจผิดเลยถือของตามหลัง ไปให้ลู่เหวินซูเปิดประตู
ห้องรับแขกไม้จันทร์หอมสดชื่นมาก ๆ แต่ดูเหมือนว่าม เฉินหย่วนจะไม่อยู่
ถังซินเห็นลู่เหวินซูยังเข้าใกล้หลี่ซูเจ๊ก็มองบน ถอด รองเท้าก่อนแล้วค่อยเข้าไป พอจะวางของบำรุงก็ได้ยินคน คุยกันไม่ชัด
เธอเดินไปทางเคาน์เตอร์บาร์ แม่บ้านสองคนกำลังคุยกัน อยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นถังซิน คนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น “เธอว่าขาประธานมู่ขาพิการแล้วจริง ๆ หรือเปล่า”
“แน่นอนสิ” อีกคนพูดเบาๆ ได้ข่าวว่าจะยืนไม่ได้ตลอดชีวิตเลยนะ น่าสงสารจริง ๆ อายุยังน้อยขนาดนี้ก็ต้องมานั่ง วีลแชร์ไปทั้งชีวิตแล้ว”
“ไม่หรอกมั้ง เธอว่ามีเงินมากมายแต่ขาพิการจะไปมี ประโยชน์ไหม”
“ฉันว่าคุณผู้หญิงสกุลซ่งคนนั้นไม่ช้าก็เร็วต้องถอนหมั้น แน่เลย ใครอยากจะแต่งงานกับคนพิการล่ะ
คำพูดของแม่บ้านทั้งสองคนพูดไม่เกรงใจใคร รุนแรงได้ ความปราณี ราวกับว่าเอามีดมาแทงตัวถังซิน
ถ้าลุงมู่ได้ยินคำพวกนี้ จะเสียใจแค่ไหน
เขายังน่าเวทนาไม่พออีกเหรอ
ไฟที่ไหนไม่รู้ลุกโชนขึ้นมาในใจถังซินจึงวางของบำรุงลง บนเคาน์เตอร์บาร์อย่างแรง
แม่บ้านทั้งสองคนได้ยินก็หันตัวมาเห็นถังซินก็ตกใจจนตัว
โยน
พวกเธอก็ดูข่าวเหมือนกัน รู้ว่าตอนนี้ถังซินเป็นผู้รักษาการ ประธานของตระกูลมู่แน่นอนจึงกลัวจนตัวสั่น
“ประ ประธานถัง…
“เสียงประธานถังน ฉันมิกล้าค่ะ” ถังซินหัวเราะอย่างเย็น ชา “ใครจะไปรู้ละ ต่อหน้าเรียกฉันประธานถัง ลับหลังจะเอา ฉันไปเม้าท์ยังไงบ้าง
แม้บ้านสองคนหน้าถอดสี
ถังซินยังคงพูดอย่างเย็นชา “พวกเธอโดนไล่ออกแล้ว เก็บของออกไปซะ ต่อไปไม่ต้องมาแล้ว”
แม่บ้านคนหนึ่งรีบพูด “ประ ประธานถังคะ พวกเราผิดไป แล้วค่ะ ได้โปรดให้อภัยด้วยนะคะ พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว
“ฉันไม่อยากพูดซ้ำ” ถังซินสีหน้าเย็นชานิด ๆ ไม่รู้สึก ซาบซึ้งใด ๆ “แม้ว่าพวกเธอจะเก่งแค่ไหน ฉันก็ไม่ชอบ ฉัน เกลียดคนที่นินทาลับหลังคนอื่นที่สุด”
ลู่เหวินซูเดินมาหา ถามด้วยความสงสัย “พวกเธอก่อเรื่อง อะไรเหรอ”
“พวกเขาไม่ได้ก่อเรื่องอะไรกับฉัน แต่ก่อเรื่องกับประธาน ม่” ถังซินเล่าเรื่องให้เขาฟังอย่างคร่าว ๆ หนึ่งรอบ “ไล่ พวกเขาสองคนออกไป ฉันจะเลือกแม่บ้านสองสามคนให้ ประธานมู่เอง”
“ไอ้หย่า แย่จริง ๆ เลยนะ คิดไม่ถึงว่าจะนินทาลับหลังเจ้า นายตัวเองด้วย” ลู่เหวินซูพูดอย่างไม่พอใจ แต่แอบส่ง ก ทางสายตาให้แม่บ้านสองคนตอนที่ถังซิ่นไม่เห็น
“ยังไม่เก็บของไปอีก”
แม่บ้านทั้งสองคนไม่กล้าพูดอะไร กลัวจนรีบเผ่นหนีไป เก็บของ
ถังซินจัดการเคาเตอร์บาร์แล้วมองเหยียด ๆ ลู่เหวินซูแว๊บ หนึ่ง “คุณลู่คะ ช่วยปรับปรุงความผิดปกติของตัวคุณด้วย หน้าตาดี แต่ใจอาจจะไม่สะอาดก็ได้นะคะ”
“ผมไม่ได้เลือกนะ พี่สามเลือกนะ” ลู่เหวินซูโยนขี้ให้เย่น จิ้งเหนียน
ถังซิน “หึ” หนึ่งที ไม่เชื่อใจเขา “ฉันรู้ว่าคุณเย่นเป็นคนยัง ไง เขาไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้แน่นอนค่ะ”
“คุณมันงมงาย” ลู่เหวินซูวิจารณ์ เล็งเป้าด้วยสายตาแล้ว แกล้งทำเหมือนโดนรังแกขอความเห็นใจใส่หลี่ซูเจ๋ทันที “นางฟ้าน้อยคุณดูสิ ถังซินเธอแกล้งผมอ่ะ คุณให้ความเป็น ธรรมผมหน่อยสิ
“พวกเธอพูดอะไรเหรอ” หลี่ซูเจ๋ถาม ตอนเธอเข้ามาดู วิลล่าอันหรูหรา ก็ปอกเปลือกส้มในมือด้วย “ว้าว ส้มหวาน มาก อร่อยมากเลย”
“จริงเหรอ ผมอยากลองชิมด้วย” ลู่เหวินซูอ้าปากให้
หลี่ซูเจ๋แกะส้มสองกลีบยัดใส่ปากเขาไป
บอกตามตรง ลู่เหวินซูรู้สึกว่าไม่อร่อย แต่นางฟ้าน้อยป้อน ให้เอง เขาจึงดีใจสุดขีด “อร่อยมาก ตอนเราไปเดี๋ยวเอาไป สองสามลูกด้วย”
หลี่ซูเจ๋แอบถาม “ไม่ดีมั้งคะ ประธานมู่เขาจะว่าเอาเหรอ คะ”
“แค่ส้มสองสามลูกเอง ไม่เป็นไรหรอก”
ถังซินมองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่รู้ว่าหลี่ซูเจ๋โง่หรือว่าลู่ เหวินซูเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว พยายามอยู่ไม่นานก็ตีสนิท กับหลี่ซูเจ๋ได้แล้ว
จะว่าไปแล้ว เธอว่าผู้ชายที่คิดอะไรก็พูดแบบนั้น ดูเหมือน จะค่อนข้างอันตรายนะ
“พวกคุณมาได้ไงเนี่ย”
มู่เฉินหย่วนที่ได้ยินความเคลื่อนไหว ในที่สุดก็ออกมาจาก ห้อง เห็นลู่เหวินซู ถังซินและหลี่ซูเจ๋ยืนเอะอะโวยวายกัน เสียงดังอยู่หน้าบันได
เขาตามองดูถังซินอยู่นาน
ไม่รู้ว่าถังซินกำลังหลบหน้าเขาหรือเปล่า ช่วงนี้ไม่ได้ ติดต่อกับเขาเลย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาที่นี่
“พี่รอง” ลู่เหวินซูหัวเราะอย่างดีอกดีใจทักทายมู่เฉินหย่วน “วันนี้ผมไปหาถังซินที่บริษัท เธอบอกว่ามีเรื่องงานจะ ถามพี่ ผมก็เลยพาเธอแล้วก็หลี่ซูเจ๋มาด้วย”
หลี่ซูเจรีบทักทาย “สวัสดีค่ะ ประธานมู่
มู่เฉินหย่วนกดเบาๆ ใช้ลงบันไดมาด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ ติดตั้งอยู่กับบันไดลงมาด้านล่าง
ถังซินเห็นชายหนุ่มลงมาข้างล่าง ใส่ชุดอยู่บ้านแบบสบาย ๆ ใบหน้าอ่อนโยนและสง่างาม หายใจเร็วขึ้นมา จู่ ๆ ก็ไม่รู้จะ ทําตัวต่อหน้าเขายังไงเลยไปล้างผลไม้ในครัว
ลู่เหวินซูตาหลอกแหลก มีแผนการขึ้นมาในใจ โอบไหล่ หลี่ซูเจ๋ทันที “นางฟ้าน้อยไป ผมพาคุณไปดูสวนดอกไม้นะ ไปเก็บกุหลาบหายากเอากลับไปปลูกกันหน่อย”
“จริงเหรอคะ” ความจริงหลี่ซูเจ๋เห็นสวนดอกไม้ตั้งแต่แรก แล้ว เห็นพันธุ์หายากมากมายเลย แต่เกรงใจเลยไม่ไป ลู่เห วินซูพูดขนาดนี้จึงรีบเร่งเขาไป
ไม่นาน ห้องรับแขกใหญ่ก็เหลือแค่มู่เฉินหย่วนคนเดียว
มู่เฉินหย่วนกดปุ่มเปิดวีลแชร์ วีลแชร์เคลื่อนไปที่ห้องครัว อย่างช้า ๆ เขาเห็นถังซินหันหลังให้ตัวเองอยู่ “ช่วงนี้ทำไม คณไม่ส่งวีแชทมาหาผมล่ะ”
“บริษัทไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โตนี่คะ” ถังซินพูดแต่ไม่หัน ตัวกลับมา “ฉันถามคุณลู่ก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ อีกอย่างประธานมู่ถ้าไม่มีคนรบกวนจะได้พักฟื้นดี ๆ”
“ผมไม่เคยรู้สึกว่าคุณรบกวนผมนะ
ถังซินใบหูแดงขึ้นมาทันที ทำแอปเปิ้ลหลุดมือหล่นลงไป ในอ่างน้ำ เธอรีบเก็บขึ้นมาล้างต่อ
มู่เฉินหย่วนประสานมือรออย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปสิบกว่านาทีแล้ว ถังซินก็ยังไม่มีทีท่าจะหันมา เขา จึงขยับปาก “ถังซิน คุณไม่ได้มาทักทายผมเหรอ จะหันหลัง ให้ผม ล้างผลไม้จนฟ้าสว่างเลยหรือไง”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ