บทที่ 145 ลุงมู่ขนตางอนจริง ๆ
ทุกคนในห้องส่วนตัวต่างก็มองกันไปมองกันมา ไม่มีใคร อยากหยิบไวน์ขึ้นมาดื่ม มู่เฉินหย่วนพูด “ถ้ามือทุกคนไม่มี แรง คุณมู่เรียกให้คนมายกขวดป้อนให้ก็ได้นะ
พอโบกมือ พนักงานเสิร์ฟสิบกว่าคนก็เข้ามาจากด้านนอก ทีละคน ยืนด้านหลังมู่เฉินหย่วนอย่างเป็นระเบียบ
คุณหานน้อยเห็นไวน์ที่ดื่มไม่หมดเหล่านี้ เกรงว่าวันนี้จะ ออกจากห้องส่วนตัวไม่ไหว ด่ามู่จิ้นเซียนอยู่ในใจไปหนึ่ง ฉาก แล้วพูดกับทุกคนอ่อย ๆ “ยังไม่รีบดื่มอีก อยากอยู่ที่นี่ ต่อหรือไง”
พอมีคุณหานน้อยนํา คนอื่น ๆ ก็ทยอยกันเปิดขวดไวน์ แต่ รีบกันดื่มไวน์แดง เหมือนกับตอนที่ถังซินเพิ่งเข้ามาในห้อง ส่วนตัว ส่งเสียงเอะอะโวยวายกัน
มู่จิ้นเซียนก็ฝืนดื่มไวน์เข้าไปด้วย
ตั้งแต่มู่เฉินหย่วนมา ถังซินก็ยืนข้างอยู่ข้าง ๆ เขา ไม่พูด ไม่จามาตลอดรวมถึงตอนนี้ก็มองคนเหล่านั้นดื่มไวน์อย่าง เย็นชา ใจสงบนิ่งมาก ไม่หวั่นไหวใด ๆ เลยสักนิด
มีมู่เฉินหย่วนหนุนหลังอยู่ ถ้าเธอพูดแทนคนเหล่านี้ สมอง เธอก็มีปัญหาแล้วล่ะ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“คะ” ถังซินได้สติกลับมา
เห็นมู่เฉินหย่วนจ้องหน้าของตัวเอง เธอก็เลยลูบ ๆ คราบ เลือด แผลที่โดนมู่จิ้นเซียนตบฉีกออกแล้ว สติ๊กเกอร์บาง ๆ ไม่อาจห้ามไม่ให้เลือดหยุดไหลได้
“เมื่อกี้โดนมู่จิ้นเซียนตบไปหนึ่งที” พูดไปได้ครึ่งเดียว กระเพาะของถังซินก็ปั่นป่วน เอาปิดปากแล้วเดินโซเซไป ห้องน้ำ
มาก้มลงไปที่ชักโครกอวกก็พุ่งพรวดออกมา
อวกเสร็จก็รู้สึกสบายขึ้นเยอะ
มู่เฉินหย่วนเข็นวีลแชร์เข้ามา หยิบกระดาษทิชชูให้เธอ “ไม่สบายท้องเหรอ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ถังซินคิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้ามา พอ เธอได้กลิ่นเปรี้ยว ๆ นั้นก็ทนไม่ไหว เลยพูดอย่างอาย ๆ “ประธานมู่คะ คุณออกไปเถอะค่ะ ตรงนี้มันสกปรกเกินไปนะ คะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” มู่เฉินหย่วนมือยาว เอื้อมมือข้ามถังซิน ไปกดชักโครก ไม่ให้เธอยืนขึ้น “ผมช่วยคุณเช็ดหน้าหน่อย นะ เลือดไหลแล้วนะ”
ถังซินนําหน้าอาย ๆ
ไม่ต้องก็ได้มั้ง อีกอย่างเธออายมากจริง ๆ นะ
ถัง นอยากจะปฏิเสธ แต่มู่เฉินหย่วนเรียกให้คนเอาน้ำยา ล้างเครื่องสําอางมาให้ เทลงบนสำลีแล้วเช็ดรองพื้นบน ใบหน้าให้เธออย่างระมัดระวัง ถังซินรู้สึกอึดอัดไปหมดทั้ง ตัว
“หน้ายังมีแผลอยู่ จะแต่งหน้าได้ยังไงล่ะ”
“วันนี้นัดประธานหานกินข้าว ฉันกลัวว่าเขาจะเห็นหน้าฉัน เป็นแบบนั้นแล้วจะรู้สึกไม่ดี” ถังซินพูด พยายามโน้มตัวไป ด้านหลังไม่ให้โดนตัวเขา “คุณเยี่ยนติดแผ่นสติ๊กเกอร์ให้ ฉัน บอกว่าถ้าติดแล้วแต่งหน้าได้ค่ะ”
มู่เฉินหย่วนมองลึกลงเข้าไปแล้วถามอีกประโยค “นัด ประธานหานไม่ได้เหรอ”
“ใช่ค่ะ วันนี้ฝนตกเดินทางไม่ค่อยสะดวก ฉันนั่งรถเมล์ไป ตามนัดค่ะ” ถังซินพูดถึงเรื่องนี้ก็โมโหขึ้นมา น้ำเสียงมีการ บ่นอยู่บ้าง “ฉันกลัวจะไปสายก็เลยจะโทรบอกประธานหาน สักหน่อย”
“ประธานหานบอกจะรอฉัน แต่สุดท้ายพอฉันขี่จักรยาน เสือภูเขาไปถึงโรงแรมตรงเวลา พนักงานกลับบอกว่า ประธานหานออกไปแล้ว ฉันโมโหมาก ๆ แต่เลยต้องมาหา คุณหานน้อยที่นี่”
“ทำไมไม่บอกผมล่ะ”
ถังซินเม้ม ๆ ปาก “เรื่องพวกนี้เป็นงานของฉันอยู่แล้ว อีก อย่างประธานหานมีอิทธิพลในแผ่นดินใหญ่มาก ฉันคิดว่าถ้า เขาซื้อหุ้นของตระกูลมู่ เวลาไปหาประธานคนอื่น ๆ ก็จะได้ ง่ายขึ้นเยอะเลย”
มู่เฉินหย่วนหยุดเช็ดเครื่องสำอางให้เธอชั่วขณะ
ถังซินมองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจจึงรีบถาม “ประธานมู่คะ ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ”
“เปล่า” มู่เฉินหย่วนพูด หลังจากที่เช็ดเครื่องสำอางให้เธอ แล้วก็ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดหน้าให้เธอเบา ๆ อีก “เขาดูถูกหุ้น เหล่านั้น คุณก็เปลี่ยนคนสิ”
“คนเหล่านี้คือคนที่ประธานมู่เชื่อมั่น…
“ไม่ต้องพูดถึงความไว้วางใจหรอก ทุกคนต่างก็ทำเพื่อผล ประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้นแหละ” มู่เฉินหย่วนยิ้มนิ่ง ๆ “คุณ ดูสิ เมื่อพวกเขาไม่รู้ภูมิหลังของตระกูลมู่ ใครจะยอมซื้อหุ้น ตระกูลมู่ล่ะ”
“ถังซิน คุณต้องรู้ว่าโลกใบนี้มีนักธุรกิจฉลาด ๆ มากมาย พวกเขาก็รู้ว่าจะหาเงินกันยังไง ต่อไปคุณนัดใครไม่ได้ก็ไม่ ต้องไปสนใจเขา เดี๋ยวก็มีคนที่ฉลาดมาหาคุณเองแหละ”
“ถ้างั้นต้องรอไปอีกถึงเมื่อไหร่คะ มู่เจิ้งหย่าพวกเขากำลัง แอบรับซื้อหุ้นกันอยู่นะคะ” ถังซินกังวลใจนิด ๆ “ยิ่งไปกว่า นั้นตอนนี้ตระกูลมู่ปิดลบ โรงงานก็ปิดหมดแล้ว ถ้าเล่นถอนออกไปล่ะคะ”
มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบา ๆ “แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ผมใช้ เงินของผมจ่ายเงินเดือนให้คุณนะ”
“ประธานมู่คะ นี่มันไม่ใช่เวลามาล้อเล่นนะคะ” ถังซินโกรธ จนปัดมือของเขาออก “ตอนที่สร้างตระกูลมู่ขึ้นมา ป้าของ คุณสองสามคนไม่มีใครออกแรงเลย พอตระกูลมู่เติบโตขึ้น แล้วแต่ละคนก็กลับมาเอาเปรียบ
“ตระกูลมู่เป็นของท่านมู่ ท่านมู่ให้สิทธิ์ในการสืบทอด ตระกูลกับคุณ ถ้าอย่างนั้นตระกูลมู่ก็คือของคุณ เรื่องอะไร จะให้พวกเขาแย่งมันไปด้วยล่ะคะ”
“พวกเขาไม่ชอบหลานชายอย่างคุณ ฉันว่าประธานมู่คะ คุณอย่าไปมีเยื่อใยให้เกียรติพวกเขาเลย ใครเขากลัวกันล่ะ สมัยนี้มีเงินถึงถือว่าใหญ่ที่สุด มีเงินแถมยังมีคนสนับสนุน อยู่เป็นกอง ไม่เหมือนพวกเขาที่เอาแต่ไฝว้กันเอง”
มู่เฉินหย่วนเห็นเธอพูดพล่ามไม่หยุด รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ ปรากฏบนดวงตาของเขา
บางครั้งฟังผู้หญิงคนนี้พูดก็ดูน่ารักดีนะ
“ประธานมู่คะ คุณฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่าคะ” ถังซินปัดผม ที่เกะกะอยู่บนแก้มออกแล้วมองเขา “ถ้าคุณยังเฉยเมยอีก ฉันจะไม่ช่วย…อืม ! ”
มู่เฉินหย่วนจับหัวของเธอเอาไว้แล้วประกบริมฝีปากบาง ลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เปิดปากเธอออกแล้วสอดลิ้นเข้าไป จูบอย่างดูดดื่ม
ถังซินรู้สึกเหมือนกับไฟดับ เบิ่งตาโตจนมองเห็นขนตาที่ หนาและงอนของเขา
ขนตานี้งอนจริง ๆ
จนกระทั่งสูดลมหายใจของมู่เฉินหย่วนเข้าไปเต็ม ๆ ถัง ซินถึงได้สติกลับคืนมา จึงใช้แรงผลักเขาออกแล้วเอามือ ปิดปากเอาไว้แถมยังตัวสั่น หน้าแดงหูแดงไปหมดอยู่ด้วย
มู่เฉินหย่วนก็อึ้งไปเล็กหน้อยเช่นกัน จึงใช้นิ้วถู ๆ คิ้ว
เมื่อกี้เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากกอดเธอมากเหมือนกัน จากนั้นสายตาก็มองต่ำลงไปที่ปากเล็ก ๆ ของเธอ เลยอดที่ จะจูบไปไม่ได้ เหมือนกับต้องมนต์สะกดเสียจริงเชียว
“ถังซิน เมื่อกี้…”
“เมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น” ถังซินใช้มือปิดปากของ เขาเอาไว้ แม้แต่คอก็มีเลือดฝาดสีชมพูขึ้นมาไปหมด “ประธานมู่เช็ดเครื่องสำอางเก่งมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
มู่เฉินหย่วนเห็นเธอออกจากห้องน้ำไปเหมือนกับหนึ่ง ก็ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา
ในระหว่างที่ถังซินกับมู่เฉินหย่วนคุยกันอยู่ในตอนนั้น ทุก คนที่อยู่ด้านนอกดื่มจนเมาไปแล้วก็วิ่งกันมาอวกในห้องน้ำ สุดท้ายก็ยังเหลือไวน์ขาวบนโต๊ะสิบกว่าขวด ทุกคนหน้าดู ไม่โอเคกันหมดแล้ว
ต้องโทษคุณหานน้อยกับมู่จิ่นเซียน
หลังจากที่มู่เฉินหย่วนออกมาจากห้องน้ำ แต่ละคนก็โผ เข้าไปขอร้องให้ยกโทษให้กันใหญ่ เปลี่ยนเป็นพูดจาดี ถึง ขนาดผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็ยังร้องไห้ที่โดนกลั่นแกล้ง
“ผมว่าทุกคนดูเมาแล้วจริง ๆ ดื่มไวน์ขาวไม่หมดก็ไม่บังคับ ทุกคนแล้ว” มู่เฉินหยวนกวาดสายตามองหน้าทุกคน จะ ออกไปก็ได้นะ”
สุดท้าย สายตาของเขาก็มาหยุดอยู่ที่มู่จิ้นเซียนแล้วพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณจินเซวียนดูท่าจะเมามาก ทุกคนมา ช่วยกันตบ ๆ ทีละคน ๆ ล้าง ๆ สมองเขาหน่อยเถอะ”
“ประธานมู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะล่วงเกินประธานถัง แต่ ผมก็เป็นถังตี้ (ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นน้องชายฝั่งพ่อ) ของพี่นะ” มู่จิ้นเซียนนําหน้าไปอย่างใจร้อน สีหน้าซีดเซียว “พ่อผม เป็นลุงของพี่นะ พี่จะให้คนพวกนี้มาตบหน้าผมเหรอ”
นี่มันช่างน่าอัปยศอดสูเสียเหลือเกิน
มู่เฉินหย่วนหัวเราะเยาะเย้ย นิ้วเคาะที่ท้าววีลแชร์อย่างไม่ สนใจใยดี “เมื่อกี้นายเพิ่งบอกว่าฉันเป็นแค่หมาตัวหนึ่งของตระกูลมู่ ไม่คู่ควรที่จะใช้แซ่มู่ ตอนนี้มานับญาติกับฉันแล้ว เหรอ”
“ถ้านับญาติกับลูกพี่ลูกน้องอย่างนาย ฉันขยะแขยงวะ” มู่ เฉินหย่วนเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาและไม่อยากแสแสร้งใส่มู่ จิ่นเซียนเช่นกัน “นายทำให้ฉันขายหน้า แถมยังทำร้ายคน ของฉันด้วย แล้วอยากจะสะบัดก้นหนีไปงั้นเหรอ”
“มู่จิ้นเซียน พ่อนายสอนนายทำตัวกับคนอื่นไม่ได้ เดี๋ยว ฉันจะสอนนายเอง หรือตะให้ทุกคนตบหน้านาย หรือจะให้ ฉันกรอกไวน์ขาวบนโต๊ะลงท้องนายไป
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ