บทที่ 133 คุณถัง ชื่อนี้ของคุณมีความคลุมเครือ
เมื่อเห็นถังซินเจ็บปวดขนาดนี้ บนใบหน้าของพยาบาลที่ ปลอมตัวมาก็แสยะยิ้มมากขึ้น เธอดึงเข็มฉีดยาออกมาอีก ครั้งและคิดที่จะทิ่มไปตรงที่คอของถังซิน ทันใดนั้นประตู ห้องคนไข้ก็ถูกถีบออกอย่างแรง
บอดี้การ์ดที่เข้ามาก็รีบชักปืนที่เอวออกมาอย่างรวดเร็ว และลั่นไกปืนไปที่แขนของเธอ
อ๊ะ!
บอดี้การ์ดคนนั้นชักปืนและลั่นไกไม่ถึงสองวินาที พยาบาลปลอมตอบโต้ไม่ได้ ที่แขนมีเลือดไหลหยด เข็ม ฉีดยาที่อยู่ในมือตกลงไปที่พื้น
บอดี้การ์ดสองคนได้รีบโผเข้าหาพยาบาลปลอม คิดไม่ ถึงเลยว่าพยาบาลปลอมได้มีการเตรียมการไว้แล้ว แขนยัง ต่อสู้ดิ้นรน เธอเอาลิ้นเลียไปทางแก้มขวา กัดแคปซูลที่ซ่อน อยู่ข้างในให้แตกแล้วกลืนลงไป
ยานั้นได้ไหลลงไปตามลำคอข้างในและเริ่มที่จะออกฤทธิ์ เมื่อบอดี้การ์ดคนหนึ่งรู้สึกตัวว่ามีอะไรผิดปกติจึงรีบบีบไปที่ ขากรรไกรของพยาบาลปลอม แต่กลับพบว่ามุมปากของเธอ นั้นมีเลือดไหลออกมา เธอได้ตายไปแล้ว
เย่นจิ่งเหนียนมาช้ากว่าบอดี้การ์ดทั้งสองคน เมื่อเข้ามา ห้องคนไข้ก็เห็นถังซินนอนอยู่ที่พื้น เลือดที่ไหลออกมาจากแผลที่แก้มด้านขวา ทำให้เขามีหน้าตาที่ตกใจ รีบประคอง เธอขึ้นมา เขาลากรถเข็นคันเล็กที่พยาบาลปลอมได้ลาก เข้ามา และพลิกค้นหายาข้างในเพื่อที่จะฆ่าเชื้อแผลให้กับ ถังซินอย่างรวดเร็ว และยังให้บอดี้การ์ดโทรศัพท์หาลู่เหวิน ซู ให้รีบส่งกล่องของเขามาให้
ความเย็นของยาทิงเจอร์ไอโอดีนทำให้แผลของถังซินนั้น ปวดแสบปวดร้อน เธอร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นเย่นจิ้งเห นียนทำแผลอย่างชำนาญขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “คุณเย่น เมื่อก่อนคุณเป็นหมอหรอ?”
“ก็ไม่เชิง ฉันเป็นคนของสถาบันวิจัยMORI”
“สถาบันวิจัย MORI” ถังซินพูดย้ำคำพูดของเขาอีกครั้ง วินาทีต่อมาก็ได้ถูกทำให้ตกตะลึงจนตาค้าง
บาดแผลไม่รู้สึกเจ็บแล้วแม้แต่นิดเดียว
สถาบันวิจัยMORI เป็นที่ที่เหมือนสถาบันที่5 ที่ให้บริการ สหประชาชาติ แต่ไม่ถูกผูกมัดกับสหประชาชาติ ปัจจุบันมี เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยในระดับสากล ยารักษา โรคทั้งหลายก็มาจากการค้นคว้าและวิจัยของMORI
ถ้าบอกว่าถังซินเรียนสถาบันแปลอักษรที่นิวคาสเซิลถือว่า เป็นที่ที่เข้ายากที่หนึ่ง จะต้องใช้เงินและความรู้มาก ถ้า อย่างนั้นMORIก็เท่ากับขั้นนรก ถ้าจะเข้าอย่างน้อยจำเป็น ต้องมีหนังสือรับรองจากครูที่ปรึกษาหกคน แถมยังต้องเผย แพร่วิทยานิพนธ์และผลการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับด้านการแพทย์ออกสู่ระดับสากล
“คุณเย่น…คุณเก่งมากเลย” เมื่อเจอกับบุคคลที่ไม่ธรรมดา ถังซินต้องระวังคำพูดเป็นพิเศษ ต้องคิดให้ละเอียด คนที่อยู่ รอบข้าง เฉินหยวน จะมีคนไม่เก่งบ้างไหม?
เย่นจิ้งเหนียนยิ้มเล็กน้อย “ไม่ขนาดนั้น ผมแค่มีพรสวรรค์ ในด้านการวิจัย คณถังก็เก่งเหมือนกัน จัดการดูแลบริษัท ชื่อได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเปลี่ยนมาให้ผมทํา ผมคงทําไม่ ได้”
ถังซินรีบชื่นชมซึ่งกันและกัน “ทุกคนเก่งหมด เก่งเหมือน กัน
ผ่านไปซักพัก ถังซินก็คิดขึ้นมาได้เกี่ยวกับคนที่ปลอมตัว มาเป็นพยาบาล แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เธอได้ตายไปแล้ว และตอนนี้สีหน้าของบอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ดูแย่ พวกเขาได้ ขอรับโทษจากเย่นจิ้งเหนียน
“คาดว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะดูลาดเลามาก่อนแล้ว ปลอมตัว ได้ชำนาญขนาดนี้ พวกนายตรวจไม่พบก็ถือว่าไม่โทษพวก นาย” เย่นจิ้งเหนียนไม่ได้ตำหนิ เพียงแค่ให้พวกเขาเอาร่าง ของเธอไปจัดการทิ้ง
ไม่นานลู่เหวินซูก็มาถึง
“ให้คนเรียกฉันมา เกิดอะไรขึ้นหรอ?” ลู่เหวินซูยกกล่อง หนึ่งเข้ามาในห้องคนไข้ เมื่อเห็นรอยแผลที่บนใบหน้าของถังซิน ก็ทําให้เขาตกใจ “ไปทำอะไรมา?
“มีคนคิดอยากจะลอบฆ่าพี่รอง โชคดีที่ตอนนั้นคุณถังอยู่ที่ นี่จึงบัดขวางไว้
เย่นจิ่งเหนียนตอบออกมาทันที และรับกล่องไม้เล็กจากใน มือเขามา เมื่อเปิดออก ก็มีกระปุกที่เป็นแก้วนับไม่ถ้วน ทำให้ ถังซินดูแล้วลายตา และที่น่าแปลกประหลาดใจคือ กล่องดู เล็กแต่ข้างล่างก็ยังมีอีกชั้น ใส่อุปกรณ์ในการรักษาพยาบาล ต่างๆที่ถังซินก็แยกไม่ออก
เย่นจิ่งเหนียนคลำไปที่ขวดเล็กๆไม่กี่อัน นำเอาผงไม่ กี่ชนิดมารวมเข้าด้วยกัน ใช้เครื่องมือช่วยในการช่วย ระมัดระวังขณะที่ทาลงบนแผลไปมา
ผงแป้งนี้เมื่อดมแล้วจะมีกลิ่นไม้อ่อนๆ เมื่อโดนแผลจะรู้สึก คันยิบๆ แต่ไม่เจ็บ
หลังที่ทำแผลให้ถังซินเสร็จแล้ว เย่นจิ่งเหนียนถึงได้พูด ว่า “ยานี้มีประสิทธิภาพดี ไม่ทําให้หน้าเธอมีแผลเป็น แต่ ผิวหนังของเธอได้เวอะออกมา ถ้าจะให้ฟื้นคืนกลับมาคง ต้องรอหลายวัน
“ไม่เป็นไรแค่ไม่เป็นแผลเป็นฉันก็พอใจแล้ว”
ถังซินมองไปทางเขาและพยักหน้า บนใบหน้ามีรอยแผล แบบนี้ มีไม่กี่ที่ที่จะทำให้ไม่เหลือรอยแผลเลย แต่ว่าเย่นจึง เหนียนพูดแบบนี้ เธอจึงเชื่อว่าเขาต้องทำได้
โชคดีที่หน้าไม่เป็นไร ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้ถ้าเธอดู กระจก คาดว่าในใจคงรับไม่ได้
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รักความสวยงาม
“ได้ภาพกล้องวงจรปิดมาแล้ว ในขณะที่พี่รองพักรักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาล พยาบาลที่ปลอมตัวมาก็ปรากฏที่แผนก ฉุกเฉินของโรงพยาบาล
ในขณะที่เย่นจิ่งเหนียนทำแผลให้กับถังซิน ลู่เหวินซูก็รีบ ออกไปเอาภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่กี่นาทีก็ถือไอแพดเข้า มา และให้ทั้งสองคนดูภาพบนหน้าจอไอแพด
ลู่เหวินซูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เธอปลอมตัวได้เก่งมาก ขั้นตอนการลงมือของเธอนั้นสมบูรณ์ ไม่กี่วันมานี้ได้อยู่ที่ แผนกฉุกเฉินตลอด หลังจากที่ทำความคุ้นเคยกับพยาบาล คนอื่นๆแล้ว จึงออกตัวช่วยงาน เอาบัตรชั้นบนของพยาบาล อีกคน เอายามาส่งแทน ถ้าพวกคุณรู้ก็จะไม่ถูกหลอก”
“นี่พูดยังไงเนี่ย!” เย่นจิ้งเหนียนรอยยิ้มเย็นชาและพูดขึ้น ว่า “นายรู้มั้ยถ้าไม่เป็นเพราะว่าความระมัดระวังรอบคอบของ เธอ พี่รองเกือบจะไม่มีชีวิตแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าคนคนนี้ยังมี พรรคพวกอีกมั้ย
“ได้ได้ ฉันพูดผิดไปแล้ว” ลู่เหวินซูไม่กล้าที่จะงัดกับเขา ทําหูทวนลม หลังจากที่ถังซินดูภาพจากกล้องวงจรปิดครบ หมดแล้ว จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้น ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “แท้ ที่จริงแล้วใครกันนะที่มีแผนเช่นนี้ กล้าส่งคนมาลอบฆ่าคุณอามู่ที่โรงพยาบาล?”
ลู่เหวินซูรีบมองไปทางถังซิน และยิ้มแบบมีเล่ห์ “คุณ อาม่? คุณถัง เรียกชื่อนี้ดูคลุมเครือจัง ดูท่าทางคุณพูดออก มาโดยไม่ต้องหยุดคิด เมื่อก่อนก็คงเรียก รองผมแบบนี้ใช่ มั้ย?”
หลังจากที่ถังซินได้สติว่าตนเองเรียกผิดนั้น ก็ถูกลู่เหวินซู หยอกล้อจนหูแดง
เธอแกล้งพูดอย่างไม่สะทกสะท้านขึ้นว่า” เมื่อก่อนฉันเคย แต่งงานกับหลานแท้ๆของประธาน ได้ประประมาณปีกว่า นั่นก็คือมู่หยางซิว ก่อนที่ยังไม่ได้หย่าฉันกับหยางซิวมักจะ เรียกประธานม่ว่าคุณอา
“ดังนั้นบางครั้งก็เลยสับสน
“สุดยอด! น่าตื่นเต้นอะไรขนาดนี้?” ลู่เหวินซูพึ่งกลับมา จากนิวยอร์ก ไม่สนิทกับถังซิน จึงไม่รู้เรื่องราวเมื่อก่อนของ เธอ เมื่อเห็นเธอพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เขามีปฏิกิริยาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว จึงเอ่ยถามอย่าง สนใจใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง “ทำไมถึงหย่าหล่ะ หรือว่าชอบพี่ รองของผมเข้าแล้ว?”
ถังซิน…
เย่นจิ้งเหนียนใช้ศอกกระแทกไปที่เขาหนึ่งที ลู่เหวินซูร้องโอ๊ย สีหน้านั้นเจ็บปวด
“คุณถัง สมองของเขามีปัญหานิดหน่อย คุณไม่ต้องสนใจ เขา” เย่นจิ้งเหนียนพูดอย่างนุ่มนวล “ดึกมากแล้ว คืนนี้คุณ ถังพักผ่อนที่นี่เถอะ ถ้าหิวแล้ว ก็บอกผมได้
ถังซินลังเลใจอยู่ซักพัก จากนั้นก็พยักหน้า
เธอขับรถมา ถ้าจะกลับไปก็คงไม่นาน เมื่อคิดได้ว่ามู่เฉิน หย่วนพึ่งจะถูกลอบฆ่า จึงไม่ค่อยวางใจ และพรุ่งนี้เช้าอาจ จะต้องให้เย่นจิ่งเหนียนช่วยเปลี่ยนยาที่แผลให้ คืนนี้นอนที่ นี่ก็ดีเหมือนกัน
หลังจากที่เย่นจิ้งเหนียนกำชับถังซินไปไม่กี่ประโยค ก็ ออกไปกับลู่เหวินซู บังเอิญไปพบวี่เหวินถึง
“เกิดอะไรขึ้น” วี่เหวินถึงขมวดคิ้วและทำหน้ารีบเร่ง เขา มองไปทางห้องคนไข้ และเอ่ยถามเย่นจึงเหนียนอีกครั้ง “ฉันเห็นไอ้สี่ส่งข้อความหา ฉันเลยมา มู่เฉินหย่วนเกิด ปัญหาหรอ?”
“ไปที่อื่นก่อนแล้วค่อยคุย
เย่นจิ้งเหนียนเห็นในห้องมีถังซินอยู่จึงเป็นกังวลไม่กล้า พูด หลังจากที่เดินไปที่ซอกมุมไกลลับตาคน จึงเอาเรื่อง ราวทั้งหมดพูดให้วี่เหวินถิงฟัง เมื่อวี่เหวินถิงฟังจบสีหน้าก็ เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
เย่นจึงเหนียนพูดวิเคราะห์อย่างใจเย็น “ก่อนหน้านี้คุณ ม่ซื่อก็ได้วางแผนเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อที่จะหลีก เลี่ยงหูตาคนอื่น จึงไม่น่าที่จะมาลอบทำร้ายพี่รองที่โรง พยาบาล”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ