บทที่ 116 เพราะเธอหึงแล้วน่ะสิ
ขณะที่เดินตามถังซินเข้าไปในลิฟต์ร่างของหลี่ซูเจ๋ก็สั่น เทาไปทั่วร่างและอดไม่ได้ที่จะพูด “เธออย่าโกรธแล้วไปลง ที่รถได้มั้ย มันจะไปรู้อะไรด้วยล่ะ ถ้ามันพังขึ้นมาเราก็ต้อง เอาไปซ่อมอีกนะ”
ถังซินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “มีอะไรให้ฉันต้องโกรธหรอ”
“ดูหน้าเธอซิ คนอื่นดูแป๊บเดียวก็รู้แล้ว นับประสาอะไรกับ ฉัน” หลี่ซูเจ๋กระแอมขึ้น “ถ้ามันยากเกินจะทำใจได้เธอก็คุย กับท่านประธานมู่ให้ชัดเจนไปเลยสิ บอกว่าไม่อยากให้เขา แต่งงานแค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรอ?”
“ประธานมู่จะแต่งงานแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน
“เธอหึงแล้ว”
“ฉันไม่ได้หึง”
“ถ้าไม่ได้หึงแล้วเธอจะโมโหทำไมตอนที่ได้ข่าวว่าท่าน ประธานมู่จะแต่งงาน
“ฉันไม่ได้โมโห ฉันก็แค่… ” ก็แค่อะไรถังซินก็พูดไม่ออก แล้ว ทำแค่เอามือขึ้นมือทัดผม ภายในใจร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงได้โมโหขนาดนี้
ราวกับว่าหลี่ซูเจ๋จะเข้าใจทุกอย่างแล้ว “ดูสิ เธอหึงเขา แค่เธอไม่กล้าที่จะยอมรับเท่านั้นเอง ทำไมเธอไม่เด็ดขาดเลย ล่ะ ท่านประธานมู่ทั้งหล่อทั้งรวย เธอเองก็ไม่แพ้กันนะ!”
“จบจากนิวแคสเติล สิ่งนี้ก็ไม่สามารถลบล้างฐานะทาง สังคมของที่บ้านเธอได้เลยนะ ความฉลาดหลักแหลมของ เธอประธานมู่ก็รู้ ไม่งั้นคงไม่คิดแผนกใหม่เพื่อให้เธอไปเป็น ผู้จัดการหรอก ผู้บริหารกับพนักงาน มันก็แค่ตำแหน่งที่ต่าง กันเท่านั้นเอง”
“ฉันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเขาเองก็เป็นลุงของ…มู่ หยางซิว”
หลี่ซูเจ๋ทําเสียงเข้าใจขึ้นมาที “อะไรนะ ที่จริงแล้วเธอแค่ กลัวความสัมพันธ์นี้เองหรอ ไม่มีอะไรที่เธอต้องใส่ใจนัก หรอก เธอกับมู่หยางซิวต่างก็หย่ากันหมดแล้ว พวกเธอเป็น อิสระ คนตระกูลมู่เองก็ไม่สามารถเจ้ามายางกับเรื่องความ รักได้” ถังซินที่ฟังอยู่นั้นภายในใจก็หงุดหงิดมากขึ้น จึง ตัดบทเธอทันควัน “ไม่ต้องพูดแล้ว ถึงฉันมีแผนในใจแล้ว แต่ตอนนี้ประธานมู่ก็มีกำหนดการงานแต่งแล้ว งั้นก็ช่างมัน เถอะ”
“แต่เธอ…”
ขณะที่หลี่ซูเจ๋ขมุบขมิบปากอยู่นั้น ถังซินก็มุ่นคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไปที่เธอ ก่อนที่จะค่อยๆมองบน
หลี่ซูเจ๋รู้ว่าภายในใจของเธอขุ่นมัว จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
อีก
ทั้งสองคนเดินเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าแล้วลากรถเข็น โดยไม่พูดไม่จา เลือกผลไม้ก็แล้ว จ่ายเงินก็แล้วก็ยังไม่มี ใครพูด เพราะความหงุดหงิดในจิตใจทำให้ถังซินไม่อยาก พูดอะไร ในขณะที่หลี่ซูเจ๋มีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดนั้น กลับถูกห้ามไว้
“พี่ครับๆ ของของพี่หล่นแล้วครับ”
ถังซินถือถุงพะลุงพะลังและกำลังจะเดินแยกออกจากหลี่ ซูเจ๋อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเล็กๆที่เรียกมาจากทางด้านหลัง ของเธอและเด็กผู้ชายคนนั้นก็เดินมายังด้านหน้าของถังซิน เพื่อห้ามไม่ให้เธอเดินต่อ
“พี่ครับ กุญแจรถอันนี้ของพี่ใช่มั้ยครับ?” ฝ่ามือถือกุญแจ หนึ่งพวก เจ้าตัวเล็กโยนกุญแจที่อยู่ในมือ
เจ้าตัวเล็กใส่เสื้อผ้าของหลุยส์วิคตอง แม้จะอายุยังน้อย แต่ดูมีคลาสไม่ใช่เล่น อีกทั้งยังสวมหมวกเบสบอลสีดำอีก ซะด้วย ปากสีแดงระเรื่อฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ คิ้วเรียง เส้นดกดำ พ่อแม่ต้องหน้าตาดีแน่ๆ
ถังซินพลิกกระเป๋าดูสักครู่ ก็ไม่เห็นกุญแจรถจริงๆ “ขอบใจ จ้ะ” เธอยื่นมือไปหยิบกุญแจรถกับเด็กน้อย และไตร่ตรองดู ว่าไปทํากุญแจหล่นไว้ตอนไหน
“ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้าพี่ต้องระวังหน่อยนะครับ” พูดจบ เจ้าตัวเล็กก็เหลือบไปเห็นเชือกรองเท้าส้นสูงของถังซิน หลุดอยู่ เขาจึงค่อยๆนั่งคุกเข่าลงไปเพื่อช่วยเธอผูกเชือกรองเท้า
หลี่ซูเจ๋อึ้งไปที “โห เด็กคนนี้ช่างน่ารักซะจริงๆ! อย่าให้ เจ้าตัวเล็กเรียกเราว่าป้านะ ที่เขาเรียกพวกเราว่าพี่ครับๆ น้ำ เสียงที่เรียกพวกเรานั้นช่างหวานละมุนจริงเชียว งุ้ยยยย หนุ่มน้อยผู้อบอุ่น”
ถังซินเองก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวเล็กคนนี้จะใส่ใจรายละเอียด เล็กๆน้อยๆได้มากขนาดนี้
เธอเกรงว่าถ้าให้เงินเป็นการตอบแทนคงจะไม่ควร จึง หยิบยาคูท์ที่อยู่ในถุงชอปปิ้งพร้อมยิ้มและเอ่ยขึ้น “หนูเอา กุญแจมาคืนพี่แถมยังช่วยพี่ผูกเชือกรองเท้าอีก พี่ไม่รู้จะ ตอบแทนยังไง อ่ะ นี่จ้ะ พี่ให้”
“ไม่เป็นไรครับ มือมันไปเอง” เจ้าตัวเล็กโบกมือปฏิเสธ และไม่รับไว้
ถังซินดึงมือเขาขึ้นมาและวางยาคูท์ลงไปบนมือเขา ถือซะ ว่านี่เป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่พี่ให้หนูละกันนะ ถ้าไม่ใช่ เพราะหนู ป่านนี้พี่คงไม่มีทางที่จะขับรถกลับบ้านได้แน่ๆ เลย”
“ใช่ๆ หนูรับไว้เถอะ ยาคูท์อันนี้อร่อยมากๆเลยนะ” หลี่ซู เจ๋เห็นว่าเจ้าตัวเล็กน่ารักน่าชังจึงยื่นมือไปหยิกแก้มเขาเบา สองที น่ารักมากๆ!
เจ้าตัวเล็กกำลังจะยื่นมารับของ ทว่ากลับมีผู้หญิงวัยสามสิบคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างร้อนรน
“คุณชายน้อยทําไมเดินเร็วขนาดนี้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้น อีกทั้งยังรีบหยิบผ้าปิดปากยื่นให้เขา “บอกไปแล้วไม่ใช่หรอ คะให้ใส่ผ้าปิดปาก ข้างนอกฝนมันเยอะ
เจ้าตัวเล็กตอบอย่างหงุดหงิด “ในห้างมีฝุ่นที่ไหนกันเล่า ใส่ป้าปิดปากทั้งวัน อึดอัดจะตาย”
“มีอยู่แล้วค่ะ ในห้างคนเดินกันให้พล่าน” หญิงสาวเอ่ย มองเห็นในมือเจ้าตัวเล็กถือนาคูท์จึงรีบท้วงขึ้น “คุณชาย น้อยไปเอาอันนี้มาจากไหนคะ?”
ถังซินรีบเอ่ย “ฉันให้เองค่ะ เขาเอากุญแจรถมาคืนฉัน ฉัน อยากจะขอบคุณเขาเลย…
“ไม่เป็นไร คุณชายน้อยของเราไม่ดื่มอันนี้!” หญิงสาวพูด อย่างไม่เกรงใจ แถมยังโยนยาคูท์ลงถังขยะที่อยู่ทางด้าน ข้างอย่างซึ่งๆหน้า
“ผู้หญิงคนนี้จริงๆเลยนะ——“อารมณ์ของหลี่ซูเจ๋ก็เริ่ม ขึ้นแล้วเช่นกัน ถังซินห้ามหลี่ซูเจ๋ไว้ทันที เธอคิดว่าผู้หญิง คนนี่น่าจะเป็นแม่นมของเจ้าตัวเล็ก จึงแสะยิ้มและเอ่ยขึ้น “ขอโทษนะคะ ฉันไม่ทราบ เพียงแค่อยากจะขอบคุณที่เขา เก็บกุญแจมาคืน”
“พวกเราไปก่อนนะคะ”
พูดจบถังซินจึงดึงมือของหลี่ซูเจ๋เดินจากไป มีเพียงเจ้าตัว เล็กและแม่นมที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
“คุณชายน้อยคะพวกเราไปกันเถอะ” แม่นมจูงมือเจ้าตัว เล็กปากพรันบ่นพึมพำ “คุณชายน้อยคราวหน้าคราวหลัง อย่ารับของมั่วซั่วนะคะ แบคทีเรียเยอะขนาดนั้น ให้คนอื่น เอาไปก็พอแล้ว”
คำเถียงของเจ้าตัวเล็กสักนิดก็ไม่มี เขารีบดึงมือออกจาก มือของแม่นมที่ไม่ได้จับแน่นนัก จะคว้าไว้ไม่ทัน เธอเห็น ว่าเจ้าตัวเล็กตรงดิ่งไปที่ถังขยะพร้อมกับพลิกถังไปมาและ หยิบยาคู ออกมา
แม่นมรีบวิ่งตามไป “คุณชายน้อยรีบทิ้งไปค่ะ คุณชายน้อย จะกินอะไรฉันจะไปซื้อให้ค่ะ!”
“ถ้าเชื้อโรคเยอะขนาดนั้นจริงๆ คนทั้งโลกคงคายไป แล้วมั้งครับ!” เจ้าตัวเล็กดึงผ้าปิดปากออก เจ้าตัวเล็กมุ่น คิ้วพลางทำหน้าบึ้งตึง “ทุกอาทิตย์จะพาผมออกมาข้าง นอกแค่3ครั้ง ทุกครั้งต้องใส่หน้ากากแล้วก็เอาแต่พูดว่า แบคทีเรียเยอะนั่นนี่ จริงๆแล้วกลัวคนอื่นเห็นผมใช่มั้ย?”
แม่นมอึ้งไม่ชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะฉลาดหลักแหลมได้ ถึงขนาดนี้
ถ้าคุณชายอยู่บ้านแล้วอึดอัด ฉันจะบอกมาดามให้ค่ะ ครั้ง จะได้พาคุณชายน้อยออกมาเที่ยวเล่นบ่อยๆ” แม่นมเอ่ยต่อ “มาดามเพียงแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชายน้อยพอเถอะค่ะ พวกเรากลับกันเถอะ” “คุณชายน้อยทิ้งนมนี้ไป เถอะค่ะ ไว้ฉันจะชี้อให้ใหม่
“ไม่ทิ้ง! นี้เป็นรางวัลของผม!” เจ้าตัวเล็กหยิบยาคูทนั้นขึ้น มากอดอย่างแน่น สําหรับเด็กน้อยแล้วการที่ได้ช่วยเหลือ คนอื่นและได้รับคําขอบคุณกับของรางวัลนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่น เต้นกว่าสิ่งใด
” แต่นี่มันทิ้งลงถังขยะไปแล้วคุณชายน้อยยังกลับยังเอา มันกลับขึ้นมาอีก…. แม่นมเอ่ยอย่างรีบเร่ง
เจ้าตัวเล็กเลยน่าจะจ้องเขม็งไปยังเธอ พร้อมเอ่ยเสียง เรียบ “ผมเก็บมันขึ้นมาแล้วทำไมหรอครับอีกอย่างคุณก็เป็น แม่บ้านที่บ้านของผมจ้างมา แม่ของผมจ้างให้คุณมา ผมเอง ก็เป็นเจ้านายของคุณ ถ้าคุณไม่เกรงใจผมหรือแย่งของของ ผมไปทิ้ง ผมไม่ต้องโทรหาผมหรอก ผมจะไล่คุณไปเอง!”
คุณชายน้อย หลังฉันจะไม่ทำแล้วค่ะ” แม่นมถูกเจ้าตัว เล็กเอ็ดไปจนเหงื่อไหลพราก
ถึงแม้อายุจะยังน้อยแต่ท่าทางและอารมณ์นั้นสามารถ ทําให้คนอื่นกลัวจนหัวหดได้
เจ้าตัวเล็กถอนหายใจไปทีพลันถอดหมวกออกอย่างไม่สบ อารมณ์แล้วไปวางไว้ในมือของเธออีกทั้งยังกอดยาคูท์และ หันตัวเดินจากไป
ข่าวการแต่งงานของท่านประธานผู้นั้นยังคงเป็นเรื่องที่หนาหูไม่อยู่ หลายวันที่ผ่านมานี้มู่ชื่อล้วนแต่หารือถึงเรื่อง นี้ ต่อมาลูกอมมงคลของมู่เฉินหย่วนก็ถูกส่งมาที่บริษัท เป็นลูกอมมงคลคนที่บริษัทSaintได้สั่งมา ในกล่องมี ช็อกโกแลตเพียงสิบชิ้นแต่ราคากลับสูงถึงสี่หลัก อีกทั้งยัง ให้อังเปามู่ชื่อมากถึง 6666 หยวน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ