ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

ตอนที่ 239 เจ้าบ่าว แหวนหล่ะ



ตอนที่ 239 เจ้าบ่าว แหวนหล่ะ

พอแล้ว!

เสียงผู้ชายที่เต็มไปด้วยความเย็นชาได้สะกดให้ทุกคน หยุด เนื่องจากหวาดกลัว แม้แต่คุณนายสั่งยังไม่กล้าพูดขึ้น มาอีก

วี่เหวินถึงลุกขึ้นมาจากท่ามกลางกลุ่มคน เขาสวมชุดสูทสี ดำทั้งตัว แววตาเคร่งขรึม คนที่อยู่ในงานกดดันจนแทบไม่ กล้าหายใจ

เขาขึ้นไปบนเวที ไปยืนข้างๆสั่งจิ้งเหอ

วี่เหวินถึงพูดอย่างเฉยเมยขึ้นว่า “น้องรองของผมมีธุระ ที่ เหลือผมจะทําแทนเขาเอง

“แบบนี้มันไม่เหมาะสมกับประเพณี” คุณนายสังก่อความ วุ่นวายอีกครั้ง “สั่งจิ้งเหอของเราต้องการแต่งกับประธานมู่ นายเป็นแค่เพื่อนพี่น้องกับประธานมู่ เรื่องใหญ่แบบนี้เธอไม่ ควรจะเจ้ามายุ่ง

ชายหนุ่มชายตามองเธอด้วยความเหยียดหยาม

คุณนายสังรู้จักตระกูลวี่ ถูกวี่เหวินถึงมองเช่นนี้ก็รู้สึกเสียว สันหลังขึ้นมาทันที ทำหน้าเหยเกไม่กล้าพูด แต่แอบเอามือ ไปหยิกคุณพ่อสัง เพื่อให้เขาพูดอะไรออกมาบ้าง
คุณพ่อส่งกำลังจะพูดออกมา สั่งจิ้งเหอจึงแย่งพูดขึ้นมา ก่อนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “พ่อ มู่เฉินหย่วนมีธุระที่ต้องไป ทำ ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พิธีแต่งงานยังต้องดำเนินต่อ”

ใช่แล้ว ถ้าไม่ทำต่อ จะไม่ถูกตระกูลมู่หัวเราะเยาะเอาหรอ?

คุณพ่อสังไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก

วี่เหวินถิงและสังจิ้งเหอยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ด้วยกันดู แล้วทั้งสองคนดูถูกคู่ ด้านหน้าคือบาทหลวง ที่กำลังมองไป ยังพวกเขาแต่ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร

บาทหลวงลังเลใจ “เมื่อสักครู่พูดคำอวยพรไปได้ครึ่งหนึ่ง จะให้พูดต่อหรือว่า…

วี่เหวินถึงพูดอย่างเย็นชา “คุณควรจะพูดอะไรก็พูดอัน นั้น”

สิ่งที่บาทหลวงแปลกใจคือผู้ชายคนนี้ไม่เพียงเป็นเจ้าบ่าว แทน ทำไมถึงแสดงความต้องการเช่นนี้ออกมา และส้งจิ้งเห อก็พยักหน้าแสดงความเจตนา เขาจำเป็นต้องทำตาม

บาทหลวงเอ่ยถาม: “คุณมู่เฉินหย่วน ”

“วี่เหวินถิง”

บาทหลวงสำลักเล็กน้อยและรีบเปลี่ยนชื่อ “คุณวี่เหวินถึง คุณยินยอมที่จะแต่งงานกับคุณส้งจิ้งเหอ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักเธอทั้งชีวิต ปกป้องรักษาเธอและอยู่เคียงข้างเธอหรือ ไม่

ชายหนุ่มเม้มปาก นําเสียงหนักแน่นสุขม “ผมยินยอม บาทหลวงใช้คำถามเดียวกันในการถามสั่งจิ้งเหอ

“ฉันยินยอม” สั่งจิ้งเหอชำเลืองมองชายหนุ่มที่ยืนข้างกาย เธอ หางตาและหางคิ้วต่างก็แสดงออกถึงการยิ้มออกมา เบาๆ

บาทหลวงปิดคัมภีร์ไบเบิล และพูดอย่างจริงจังและ เคร่งขรึม “ที่รัก ฉันจะให้พรที่สวยที่สุดแก่พวกคุณ ขอให้ พวกคุณอยู่เย็นเป็นสุข เต็มไปด้วยความชื่นมื่น

เมื่อบาทหลวงพูดจบแล้ว เห็นทั้งสองคนไม่ขยับตัว จึง สับสนมึนงงเล็กน้อย “คุณวี่ แหวนหล่ะ?”

วี่เหวินถึงขึ้นมากะทันหัน จะมีแหวนได้ยังไง?

“อยู่ที่ฉัน” เย่นจิ้งเหนียนขึ้นมาบนเวที และหยิบกล่อง เล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ในขณะที่ยื่นส่งให้วี่เหวินถึง สีหน้าเต็มไปด้วยการยั่วเย้า “พี่ใหญ่ ดูสิ แม้แต่แหวนยังลืม หยิบเลย”

วี่เหวินถึงจําเป็นต้องรับกล่องเล็กๆมา และเปิดดูแหวนคู่ ที่อยู่ข้างใน ของผู้ชายคือแหวนที่เขาสวมไว้ที่นิ้วตลอด แต่ ช่วงหลังได้ถอดออก ถัดจากนั้นคือแหวนของผู้หญิงที่ทำจากวัสดุคุณภาพเดียวกัน

เย่นจิ้งเหนียนพูดเสียงเบาๆขึ้นว่า “วัสดุนี้หายาก ฉันต้อง ใช้พลังในการหาเยอะมาก

บาทหลวงเอ่ยขึ้นว่า “เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมแหวนให้กัน และกัน”

วี่เหวินถึงถือแหวนไว้นิ่ง ขณะที่สั่งจิ้งเหอได้ยื่นมือออกมา แล้ว ชายหนุ่มมองไปที่นิ้วมืออันเรียวเล็ก ลังเลใจอยู่สักครู่ และสวมแหวนเข้าไป

ส้งจิ้งเหอหยิบแหวนของผู้ชายออกมาจากกล่อง ริมฝีปาก แสดงถึงการยิ้มดีใจ

แหวนวงนี้คือแหวนที่เธอให้กับวี่เหวินถึงเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นเร่งนักออกแบบคนนั้นทุกวัน เร่งจนอีกนิดเดียวจะ บล็อกรายชื่อเธอ ผ่านมาสามปีแล้ว เขาก็ยังคงเก็บแหวนที่ เธอให้

สั่งจิ้งเหอจับมือของชายหนุ่มไว้ และเอาแหวนวงนั้นสวม ให้กับเขา เห็นด้านในนิ้วของเขามีอักษรภาษาอังกฤษ

อักษรภาษาอังกฤษนี้เขาก็ไม่ได้ลบทิ้ง

หลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวแลกแหวนกันแล้ว ควรจะมีการจูบ แต่เพราะว่าวี่เหวินถึงแค่เป็นเจ้าบ่าวแทน ดังนั้นเมื่อแลก แหวนกันเสร็จก็ถือว่าจบพิธีแล้ว แขกผู้มีเกียรติในห้องพิธีก็ ปรบมืออวยพร

วี่เหวินถึงดึงเนคไท สีหน้าหงุดหงิด

เขาไม่ชอบให้รบกวนแต่ไหนแต่ไรมา เมื่อพิธีแต่งงานงาน เสร็จก็อยากที่จะออกไป แต่กลับถูกสั่งจิ้งเหอลงมาจากเวที แล้วดึงไว้

“จิ้งเหอ” คุณพ่อสังลุกขึ้นยืน เพ่งมองวี่เหวินถิง หลังจาก นั้นก็พูดคำในใจออกมา “เหมือนกับเมื่อวานเธอเป็นเพียง เด็กผู้หญิง ออดอ้อนอยู่ข้างๆพ่อ วันนี้ได้แต่งงานแล้ว”

“ลูกสาวโตแล้ว แต่งงานเป็นเรื่องที่ช้าเร็วก็ต้องทำ” สังจิ้ง เหอยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน “พ่อคะ หลัง จากแต่งงานแล้วฉันก็ไม่สามารถที่จะอยู่ที่บ้านแล้ว พ่อต้อง รักษาสุขภาพให้ดีนะคะ”

คุณนายสั่งหัวเราะอย่างเสแสร้งออกมา “มีฉันอยู่ ต้อง ดูแลพ่อเธอเป็นอย่างดีแน่นอน แต่งงานกับตระกูลมู่แล้ว ต้องปฏิบัติตัวให้ดี อย่าทำตามนิสัยซีซัวและอย่าก่อความ วุ่นวาย”

ส้งจิ้งเหอพยักหน้า “ฉันจะจำคำพูดของคุณนายสั่งไว้ อย่างแน่นอน”

“ฉันเป็นแม่ของเธอ” คุณนายสงอดไม่ได้แล้ว
ปกติแม่สาวชั่วคนนี้ไม่เรียกตนเองว่าแม่ก็ช่างมันเถอะ วัน นี้เป็นวันรื่นเริง แถมยังทำหน้าไม่พอใจตนเองอีก

“ฉันมีแม่” สั่งจิ้งเหอยิ้มเบาๆ “คณนายสังคงไม่คิดว่า คำว่า แม่เลี้ยง จะเป็นชื่อเรียกที่น่าฟังหรอกใช่มั้ยคะ?”

“จิ้งเหอ” คุณพ่อยู่ทำสีหน้าไม่พอใจ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวัน อะไร

“จะลืมได้ยังไงกันคะ วันนี้เป็นวันที่ฉันแต่งงาน” สั่งจิ้งเห อเอ่ยขึ้น เธอจูงมือคุณพ่อสั่งไว้แน่น และอวยพรออกมา จากใจจริงขึ้นว่า “พ่อ ฉันขอให้พ่อมีอายุมั่นขวัญยืน อยู่เย็น เป็นสุข สุขภาพแข็งแรง

คุณพ่อสั่งมองดูลูกสาวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน ในใจก็รู้สึกหวาดกลัว เหมือนกับว่าเขาเลี้ยงหมาป่าในคอก ตลอด สุดท้ายกัดกรงจนพังออกมา และอยากที่กลืนกินเขา

เมื่อถังซินตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตนเองได้ถูกมัดไว้บนเตียง คนไข้อย่างแน่น

ห้องคนไข้นั้นใหญ่มาก และมีเครื่องมือแพทย์ตั้งอยู่เต็ม ไปหมด และยังมีหมอสองคนที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวกำลังยุ่ง กับงานอยู่

ถังซินเอ่ยถามขึ้นอย่างใจเย็น “พวกคุณต้องการทำอะไร?
คุณหมอหนึ่งในนั้นหันหน้ามา เห็นถังซินตื่นแล้วจึงพูดขึ้น ว่า “คุณถังวางใจเถอะ พวกเราไม่ทำร้ายคุณ เพียงแค่ดูด ไขกระดูกของคุณเท่านั้น”

เมื่อได้ยินคุณหมอพูดเช่นนี้ ถังซินก็เข้าใจ

คาดว่าน่าจะเป็นพ่อเก่าของเธอที่ขอร้องเธอแล้วแต่ไม่ได้ ผล ดังนั้นจึงหาคนมาลักพาตัวเธอ ต้องการบีบบังคับเธอ เพื่อเอาไขกระดูกไปให้ลูกของเขา

ช่างเป็นคนที่แย่มากคนหนึ่ง กลอุบายแบบนี้ก็ยังคิดออก มาได้

“พวกคุณทําไปก็แค่เพื่อเงินเท่านั้น ไม่ว่าเขาให้คุณเท่า ไหร่ ฉันจะให้พวกคุณเพิ่มเป็นสามเท่าของเขา” ถังซินเอ่ย ขึ้น “ถ้าพวกคุณดูดไขกระดูกฉันจริงๆ ฉันจะฟ้องร้องพวก คุณอย่างแน่นอน”

คุณทั้หมองสองคนถูกขู่ให้กลัว ไม่นานหนึ่งในนั้นพูดออก มาอย่างระมัดระวังว่า “คุณถัง เพียงแต่ดูดเอาไขกระดูกของ คุณนิดเดียว ไม่ถึงกับทำให้เป็นอันตรายต่อคุณ พวกเราก็ ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน”

“ฉันจะบริจาคให้ใครก็ได้ทั้งนั้น แต่เป็นสองพ่อลูกนั้นไม่ ได้!” ถังซินเกลียดจนกัดฟัน ผู้ชายที่สามารถทอดทิ้งภรรยา ไปได้ มีสิทธิ์อะไรที่จะให้เธอต้องไปยกโทษให้เขา

“คุณถัง ถ้าหากคุณไม่ร่วมมือ พวกเราคงต้องใช้วิธีการบางอย่างแล้ว” คุณหมอเอ่ยขึ้น และส่งสายตาไปหาคุณหมออีก คน

คณหมอคนนั้นหันไปหยิบของ

ถังซินที่อยู่บนเตียงคนไข้พยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุด ชีวิต “พวกคุณอย่าเข้ามาชี้ชั่วนะ ฉันรู้ว่าพวกคุณมาจากโรง พยาบาลไหน ถ้าพวกคุณกล้าแตะต้องตัวฉัน ฉันจะฟ้องพวก คุณแน่นอน!”

คุณหมอBได้ถือหลอดฉีดยาหลอดหนึ่งเข้ามา

“พวกคุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล่อย!”

ถังซินทั้งร้องตะโกนทั้งต่อสู้ดิ้นรน แต่ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย คุณหมอAจับแขนทั้งสองข้างของเธอกดไว้อย่างแรง

เข็มฉีดยาที่อยู่ในมือของคุณหมอB กำลังจะเข้ามาใกล้ที่ แขนของถังซิน แต่แล้วประตูก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง

“ใครใช้ให้พวกนายแตะต้องเธอ” มู่เฉินหย่วนที่เข้า มานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธ เมื่อเห็นในมือของคุณ หมอBกำลังถือเข็มฉีดยาอยู่ จึงมุทะลุดุดันเข้าไปจับคอเสื้อ ของเขาและจับโยนทิ้งไปข้างๆอย่างแรง

ตัวของคุณหมอBไปกระแทกบนรถเข็นและร่วงลงบนพื้น เจ็บจนร้องครวญคราง
คุณหมอAกลัวจนสองขาสั้น

มู่เฉินหย่วนแก้มัดให้กับถังซิน ข้อมือของเธอแดงไปหมด เขาเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดใจ จึงยกขาเตะไปที่คุณหมอA


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ