ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่572 รําคาญผู้ชายคนนี้สุดๆ จะใส่ใจอะไรขนาดนั้น



บทที่572 รําคาญผู้ชายคนนี้สุดๆ จะใส่ใจอะไรขนาดนั้น

หลินเฉิงจื่ถอยหลังไปสองก้าว ดวงตาที่อ่อนโยนใน ตอนนี้กลับคมกริบจ้องไปที่จ้าวอี้ซืน”คุณจ้าว ไม่ว่าคุณ จะได้ยินข่าวไร้สาระมากมายแค่ไหน จำไว้ว่าตัวเองอยู่ ตรงไหนและทำงานให้ใคร

“ไม่ควรพูดและอย่าพูดมั่วซั่ว”เขาจับแว่น น้ำเสียงราบ เรียบแต่เต็มไปด้วยความข่มขู่ประชาสัมพันธ์ของบริ ษัทมู่ซื่อก็ไม่ได้กินข้าวฟรี ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนที่พูดดีๆ ด้วย”

สีหน้าของจ้าวอี้ซีนเปลี่ยนไปนิดๆแล้วก็ยิ้มอ่อน ให้: “ฉันได้ยินมาจากคนอื่นค่ะ วันนี้เจอประธานหลิน โดยบังเอิญก็เลยพูดมากไปหน่อย”

“บางทีพูดมากไปก็จะพาความโชคร้ายมาได้นะ ครับ”หลินเฉิงจี๋เหลือบมองหล่อน”คุณจ้าวคิดว่าไง? ”

จ้าวอี้ซีนเลยตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด อึ้งไปแป ปนึง พอได้สติคืนมา หลินเฉิงจี่ก็เดินผ่านหล่อนไปแล้ว

หล่อนหันไปมองร่างชายหนุ่ม มือค่อยๆกำแน่น

หลินเฉิงจี่รักถังซินขนาดนี้ ได้ยินที่หล่อนพูดเมื่อกี้ ไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกอะไรแต่ทำไมนิ่งได้ขนาดนั้น? เส แสร้งต่อหน้าหล่อนเหรอ?
ถ้าเสแสร้ง งั้นก็เสแสร้งได้เนียนจริงๆ

จ้าวอี้ซีนกลัวว่าหลินเฉิงจี่จะมองจุดประสงค์หล่อน ออก ก็รีบหลบสายตาแล้วเข้าไปในร้านกาแฟพลางคิด ไปว่าหลินเฉิง ไม่สนใจจริงๆหรือว่าเสแสร้งทําเป็นไม่ สนใจข่าวพวกนั้นกันแน่

เดี๋ยวโบแนร่ก็จะมาเมืองหนานเฉิงแล้ว เพื่อให้ แผนการราบรื่นหล่อนจะต้องทำลายความสัมพันธ์ระ หว่างมู่เฉินหย่วนกับหลินเฉิงจี๋ ให้พวกเขากลายเป็น ศัตรูกันให้ได้ยิ่งดี

ถ้าคำพูดวันนี้ไม่มีผลกับหลินเฉิงจี๋ หล่อนก็จะคิดหา ทางอื่น

ถังซินพักอยู่โรงพยาบาลสองอาทิตย์กว่า มีเวลาพัก ผ่อนที่เพียงพอแผลก็เลยหาย

และยาทาที่เย่นจิ่งเหนียนเอามาจากแล็บก็ทำให้ไม่ทิ้ง บาดแผลไว้

ถังซินพบว่าตั้งแต่วันที่โมมอยอี้มาเจอกับหลินเฉิงจี่ที่ โรงพยาบาลโดยบังเอิญและให้หลินเฉิงจี่ไปส่งหล่อน ด้วย หลินเฉิงจี่ก็ไม่มาโรงพยาบาลอีกเลย

หล่อนกลัวว่าตอนที่หลินเฉิงจี่ไปส่งโมมอยอี้ โมมอยอี้ จะพูดอะไรแรงๆกับเขา ตอนส่งวีแชทก็พูดเปรยๆไปหลินเฉิงจี๋ได้แต่พูดว่าที่บริษัทยุ่งเลยไม่มีเวลามา

ถังซินก็ติดตามบริษัทอยู่ก็เลยรู้ว่าบริษัทกำลังเตรียม สินค้าใหม่และยุ่งจริงๆก็เลยโล่งใจ

ช่วงที่พักอยู่โรงพยาบาลนี้กินดีมาก ถังซินอ้วนขึ้น

เยอะ ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือท้อง

ก่อนหน้านี้สวมชุดโคล่งๆก็คลุมท้องมิด พอหลังจาก สองอาทิตย์นี้ที่พักฟื้นไปท้องก็ใหญ่ขึ้นมากทุกวันๆ เหมือนกับแตงโม จนหล่อนกลัวว่าผิวหน้าท้องจะแตกได้

เช้าตรู่ถังซินก็ลุกมาเก็บของ วันนี้เย่นจิ่งเหนียนบอก ว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

และของก็ไม่มีอะไร มีแค่เสื้อผ้าสองสามชุดกับสกิน แคร์

พอถึงซินเก็บของเสร็จ ก้มลงแปปนึงท้องก็หนักไม่ ไหวเหมือนจะจมลงไป

ฝ่ามือหล่อนอยู่ที่หลังเอว ลุกขึ้นมาจะโทรหาจู่ซือซือ ก็มีมือยื่นมาจากด้านข้างเอากระเป๋าเล็กๆด้านหน้า หล่อนไป

“พวกนี้เหรอ? ”เสียงชายหนุ่มทุ้ม มืออีกข้างอยู่ข้างๆ หล่อน”ผมประคองคุณเอง”

ถังซินหันไปมองด้านหลัง ผู้ชายที่ไม่เคยปรากฏตัวในที่สุด มาแล้ว สวมสูทดูมีมารยาท ตาสีฟ้า ท่าทางอ่อน ล้ามาก

“ช่วงนี้พักผ่อนน้อยเหรอ? “เพราะว่าห่วงเขามาก ถัง ซินเลยลืมว่ามือเขาจับอยู่ที่เอว ใกล้ชิดกันมากเลยออก ไปจากห้องด้วยกัน ไปทําอะไรมา? ”

มู่เฉินหย่วนยิ้มแล้วพูด”ถึงช่วงรายงานครึ่งปีแล้ว บริษัทค่อนข้างยุ่ง ท่าไม…….

ชายหนุ่มหันหัว สายตาหม่นลงจ้องหล่อน”โทษที่งาน ผมยุ่งเลยไม่ได้มาดูคุณ? ”

“ฉันไม่สนว่าคุณจะคิดยังไง! “ถังซินตระหนักได้ ว่าตัวเองเป็นห่วงไปก็ชักสีหน้าแล้วร้องออกมาในลำ คอ“ฉันนึกว่าผู้หมวดหนานจะลงมือกับบริษัทมู่ชื่อซะ แล้ว กลัวว่าต่อไปก็จะเป็นฉัน”

“ไม่มีทาง”น้ำเสียงของมู่เฉินหย่วนเบาๆสายตาเยือก เย็น“เขายุ่งจนไม่มีเวลามาก่อกวนบริษัทมู่ซื่อ”

รูม่านตาของถังซินหดลง เท้าก็หยุดลง“มู่ มู่เฉิน หย่วน……

หล่อนกังวลหน่อยๆ จับแขนเสื้อชายหนุ่มพูด ตะกุกตะกัก”ก่อนหน้านี้คุณยุ่งขนาดนั้น คงไม่ใช่…คุณ ไม่ต้องการอีกชีวิตใช่ไหม อย่าไปสู้กับเขา”

“พูดอย่าติดขัดสีเดี่ยวลูกๆจะติดไปด้วย”มู่เฉินหย่วนดึงหล่อนเข้ามาในอ้อมกอด เนื้อใต้ฝ่ามือที่นุ่มๆทำให้ เขาอดไม่ได้ที่จะสัมผัส

ถังซินสังเกตเห็นเลยออกแรงตีไปที่เขา

มู่เฉินหย่วนเจ็บก็ไม่ปล่อย พาหล่อนเดินผ่านทางเดิน ไปยังลิฟท์ ยิ้มบางๆพูดว่า”ผมยังมีเมียกับลูกที่ต้องเลี้ยง ดู ต้องหวงชีวิตอยู่แล้ว เด็กดี อย่าคิดมาก”

ถังซินดันมือเขาไม่ออกเลยปล่อยแล้วถามด้วยใบหน้า หม่นๆ”คุณไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆใช่ไหม?

“เปล่า”

“มู่เฉินหย่วน ช่างมัน”ถังซินเม้มปากพูดเสียงทุ้ม หวี ซือฉันตายไปแล้ว ผู้หมวดหนานตรวจสอบขึ้นมาแค่ ขอโทษก็พอแล้ว อย่าทำให้เรื่องราวใหญ่โต”

หล่อนไม่ได้ซื่อบื้อ รู้อำนาจของผู้หมวดหนานดี คอน เนคชั่นก็กว้างใหญ่

หวีซือฉันพูดถูก นักธุรกิจคนนึงก็มีอำนาจไม่เท่า นักการเมืองและทหาร ด้อยกว่าเห็นๆ

หล่อนไม่อยากให้เรื่องแย่ไปกว่านี้

มู่เฉินหย่วนเหลือบมองหล่อน แต่ไม่หยุดเดิน ตอบรับ นิ่งๆ“ผมคือพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย”
“…..”ถังซินมองบนใส่เขา

รักษากฎหมายห่าไร

ทำไมหล่อนถึงไม่รู้ว่าพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย พกปืนไว้กับตัวได้?

พอออกมาจากโรงพยาบาล ถังซินกลัวว่าด้านนอกจะ มีเหล่านักข่าวเลยสวมหมวกและหน้ากากและอยู่ห่างจา กมู่เฉินหย่วน

มู่เฉินหย่วนจับมือหล่อนอีกครั้ง “คุณไม่สวมหน้ากากก็ ไม่เป็นไร ไม่มีใครกล้าถ่าย

ตั้งแต่ตอนที่ถังซินอยู่โรงพยาบาล เขาก็แจ้งผู้ช่วย จางไว้แล้วให้เขาจับตาดูที่โรงพยาบาลดีๆ ถ้ามีนักข่าว มาหาถังซิน สื่อนั้นต้องถูกรวบไปที่บริษัทมู่ซื่อ

ยังดีที่สื่อพวกนั้นเชื่อฟังไม่เดินไปเดินมาที่โรง พยาบาล

ถังซินไม่พูดอะไร พอถึงข้างๆรถจะเปิดประตูข้างคน ขับ มู่เฉินหย่วนก็ห้ามไว้แล้วเปิดประตูหลัง

“ด้านหน้าไม่ปลอดภัย นั่งด้านหลัง”

“ไม่กี่นาทีก็ถึงที่พัก”ถังซินขมวดคิ้ว“ฉันเชื่อใจทักษะ ขับรถของคุณ”
“ไม่ได้ นั่งด้านหลัง”น้ำเสียงของมู่เฉินหย่วนข่มขู่ไม่มี ท่าทีแบบพูดคุย ผมทักษะขับรถดีแต่ก็กลัวว่าจะเจอรถ ที่จู่ๆก็หยุด เชื่อฟังหน่อย”

ถังซินรำคาญชายคนนี้สุดๆจะใส่ใจอะไรขนาดนั้น แต่ เพราะการใส่ใจเล็กๆน้อยๆของเขา ในใจก็อบอุ่น บ่นไป นิดหน่อยแล้วก็ยอมนั่งหลัง

พอนั่งในรถถังซินก็เห็นว่าด้านข้างมีกล่องผลไม้และ ก็ได้กลิ่นหอมๆของส้ม

หล่อนแกะกระดาษที่ปิดออกก็เห็นว่าเป็นส้มสีเหลือง ทองกล่องนึง

มู่เฉินหย่วนเข้ามา ตอนรัดเข็มขัดก็มองไปที่กระจก มองหลัง “ตอนเช้าคนสวนเอามาให้ผมที่รถ ดีที่ผมไปส่ง คุณที่ที่พักพอดีก็จะได้เอานี่ไปให้คุณด้วย”

“ฉันกินไม่หมดหรอกเยอะมาก”ถังซินหยิบอันนึงมา ปอกเปลือก“เดี๋ยวเอาไปให้ซือซือด้วย

“เก็บไว้สิ กินไม่หมดก็ทิ้ง”มู่เฉินหย่วนพูด“หล่อนอยาก กินก็ไปซื้อเองได้”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังซินเห็นว่าเขาลำเอียงก็อดหน้าแดง ไม่ได้ ปอกเปลือกส้มไปก็ถามเขาไปได้ข่าวสาวสวย บ้างยัง? ”
มู่เฉินหยวนไม่ได้ตอบทันที

แปปนึงเขาก็พูด: “น้ำทะเลที่ท่าเรือไหลแรงมาก บางทีอาจจะถูกคนอื่นช่วยไปแล้ว แค่เรายังหาไม่เจอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ