บทที่ 425 โอเค ไม่ต้องร้องแล้ว
ส้าวซิวหรงกล่าวโต้ออกมา “ประธานมู่ คุณอย่าพูด กับผมเหมือนว่านักธุรกิจทุกคนต้องเป็นคนไม่ดีด้วยสิ จิตใจผมดีนะ”
มู่เฉินหย่วนเลิกตอบโต้เขา
หลังจากที่รอให้มู่เฉินหย่วนพาฝ่ายหญิงเดินจาก ไปแล้ว ห้องอาหารส่วนตัวก็ได้เงียบเหมือนไก่ เงียบจน กระทั่งได้ยินเสียงของเข็มที่ตกกระทบพื้น
ส้าวซิวหรงมองโดยรอบ เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกล่าว “ทำไม ถึงไม่พูดแล้วล่ะ?”
“คุณถังคนนี้กับประธาน…..” คุณกู้เอ่ยปากอย่าง เงอะๆ งะๆ แววตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัว “พวกเขา ไม่ได้เลิกกันไปแล้วหรอ?” แต่มู่เฉินหย่วนเพิ่งจะพูดกับ ผู้หญิงคนนั้นอย่างสุภาพอ่อนโยน แล้วยังจับแขนเธอ เดินออกไปอีกด้วย ทุกคนล้วนเห็นกันอย่างชัดเจน
สภาพนี้เหมือนคนเลิกกันหรือยังไง?
ส้าวซิวหรงยักไหล่ “ต่อหน้าบอกว่าเลิกกัน แต่พอลับ หลังใครจะรู้ล่ะ?” แต่ว่าท่าทางของประธานมู่ที่มอง มายังพวกเรา บอกได้ว่าใจของเขายังไม่ยอมปล่อยจาก คุณถังซิน เลยไม่ให้ถังซินมาร่วมงานกับฉัน หี่ย!”
เล่ากันว่า ใจของผู้ชายคนอื่นได้ปีติยินดีกันอย่างเงียบๆ โชคดีที่แต่ก่อนไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับ ถังซิน
มู่เฉินหย่วนไม่เพียงแต่เป็นชายหนุ่มที่โดดเด่น ท่ามกลางคนในระดับเดียวกัน แต่ฝีมือก็ยังยอดเยี่ยม
จากเริ่มแรกเป็นแค่ลูกบุญธรรมในตระกูลมู่คนหนึ่ง จนต่อมาได้รับหุ้นจากตระกูลจำนวนเล็กน้อย และ ครอบครองทุกอย่างในตระกูลมู่ มีใครที่ทำได้ และ ประสบความสําเร็จจนเป็นเขาในวันนี้?
ทำให้คนอื่นไม่พอใจ ยังพอมีทางรอด แต่ถ้าทำให้มู่ เฉินหยวนไม่พอใจ คงหาทางรอดไม่ได้ตลอดชีวิต
ทุกคนก็ได้โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง ยังคงมีแต่คุณกู้เท่านั้น ที่ยังมีสีหน้าเศร้าหมอง
เขายังคงไม่ลืม ที่เพิ่งจะบีบบังคับให้ถังซินนั้นดื่มเหล้า แล้วเธอก็สาดเหล้านั้นไปบนตัวของเขา เขาจะหยิบขวด เหล้าไปฟาดเธอ แต่เขาก็ได้เห็นสีหน้าที่เยือกเย็นขอ งมู่เฉินหย่วน คิดว่าลาขาดจากถังซินไปนานแล้ว ไม่คิด เลยว่า……
ครั้งนี้ได้จบลงแล้ว
มู่เฉินหย่วนลากถังซินออกมาจากอ๊อฟฟิศ เห็นว่าเธอ แกะส้มทานอย่างสะอึกสะอื้น พร้อมยิ้มออกมาอย่าง ไม่รู้ตัว “แต่ว่า ส้มไม่กี่ลูก เธอจะต้องร้องไห้หนักอะไร ขนาดนี้กัน?”
เหมือนกับมีใครมารังควานเธออย่างนั้นล่ะ
เขาและถังซินเพิ่งจะถึงปากประตู ก็เห็นว่าด้านล่างได้ มีฝนตกดังสนั่น
คนรับใช้ที่รับใช้ถังซินตอนอยู่ในร้านอาหารก็ได้ตาม ออกมา นำร่มคันยาวมาส่งให้แก่มู่เฉินหย่วน พร้อมยิ้ม ตาหยีแล้วกล่าว “ประธานมู่ ยินดีด้วยนะครับ”
ยินดีเขาเรื่องอะไรกัน?
มู่เฉินหย่วนมองคนรับใช้คนนั้นที่กลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วหันมามองถังซินที่อยู่ในอ้อมกอด ในใจก็ได้กล่าวว่า ลู่เหวินซูควรจะอบรมสั่งสอนคนของเขาให้ดี ต้องให้พูด มาก!
เขามองเห็นรถของผู้ช่วยจางที่จอดอยู่ริมถนน จึงกาง ร่ม แล้วจูงถังซินออกไป
ผู้ช่วยจางลงรถอย่างรีบร้อน มองเห็นว่ามู่เฉินหย่วน ได้จูงผู้หญิงมาคนหนึ่ง เขายังตกใจอยู่ว่ามู่เฉินหย่วน ดื่มจนเมาแล้วไปลากผู้หญิงมารึเปล่า?
เมื่อมองอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าคนคนนั้นคือถัง
ซิน!
มู่เฉินหย่วนมองเห็นผู้ช่วยจางยืนมื้ออยู่ทางด้านโน้น จึงกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา “เปิดประตูสิ!”
“ครับครับ!” ผู้ช่วยจางรีบเปิดประตูหลังรถ พร้อม มองมู่เฉินหย่วนพาถังซินเจ้าไปยังด้านหลังรถอย่าง ระมัดระวัง สิ่งที่ค้างคาในใจก็ได้พรั่งพรูออกมา “ประธานมู่ครับ ทำไมคุณถังซินถึงได้……
มู่เฉินหย่วนใช้สายตาพิฆาตมองไปยังเขา ขู่จนเขา ต้องรีบรูดซิปปาก
ไม่ถาม ถ้าถามต้องตายแน่
ภายในรถได้เปิดลมอุ่น ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออก มาระหว่างการเดินทาง ถังซินที่นั่งอยู่เบาะหลังตั้งแต่ขึ้น รถมาก็ไม่พูดไม่จา นั่งแกะส้มกินตลอดทาง ทำให้กลิ่น ส้มได้แพร่ไปทั่วทั้งคันอย่างรวดเร็ว
มู่เฉินหย่วนเห็นเธอกินอย่างไม่หยุดหย่อน กลัวเธอจะ อิ่ม จึงหยิบส้มจากมือเธอมาสองสามลูก
“พักก่อน เดี๋ยวค่อยกินใหม่”
ถังซินมองไปยังเขา สิ่งที่อัดอั้นตันใจอยู่ก็ได้หายออก ไป พร้อมร้องไห้ออกมาอย่างรวดเร็ว “ฉันอยากกิน หรือ หรือว่าฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้คุณ”
เธอพูดไปพร้อมเข้าไปที่เถาเป่า พร้อมนำเงินสดไปให้ เขา “แค่นี้พอมั้ย?”
มู่เฉินหย่วนถูกเธอพูดไปร้องไห้ไป จนความโกรธที่ อยู่ในใจได้มลายหายสิ้น พร้อมกล่าวอย่างจนปัญญา”ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าต้องการเงินคุณ ผมแค่รู้สึกว่า คุณกินมากไปแล้ว พักสักหน่อย เดี๋ยวจะจุกเอา”
ผู้ช่วยจางที่ขับรถอยู่ยิ้มอย่างเงียบสงบ ด้านหนึ่งก็ ยิ้มอย่างฝืนๆ อีกด้านหนึ่งก็กล่าวว่า “ประธานมู่ครับ ส้ม มีน้ำเยอะ ย่อยได้ง่ายครับ ให้คุณถังซินทานต่อเถอะ ครับ”
มู่เฉินหย่วนมองเขาด้วยสายตาที่เศร้าหมอง “คิดว่า ฉันไม่รู้หรอ ว่ากินส้มแล้วโมโหง่าย?”
ผู้ช่วยจางกล่าว “งั้นคุณจะมองดูเธอร้องไห้ต่อไปแบ บนี้หรอ?”
“คุณมันหน้าด้าน เลิกกันแล้วยังตามมารังควานฉัน
อีก” ถังซินได้ด่าทอยู่เฉินหย่วนอีกครั้ง
ทุกวันนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใจอ่อนแอไวต่อความ รู้สึก ควบคุมตัวเองไม่ได้จนร้องไห้ ยิ่งไปกว่านั้น เวลา เผชิญหน้ากับเขา มักจะรู้สึกว่าตัวเองแบกรับความรู้สึก ไว้อย่างหนักหน่วง แต่เขากลับกอดเธออย่างชื่นอกชื่น ใจ
มู่เฉินหย่วนปวดหัว ทำได้เพียงแค่ส่งส้มให้กับเธอ
ถังซินขยับไปทางด้านข้าง พร้อมแกะส้มกินด้วยตัว เอง เธอไม่อยากที่จะสนใจเขา
ผู้ช่วยจางมองผ่านกระจกหลังอยากที่จะยิ้มออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะสายตาของมู่เฉินหย่วนจาก ความมืด เขาทนได้ “ประธานมู่ครับ ช่วงกลางวันตอนที่ ไปส่งของที่ที่คุณอยู่ เห็นว่าจาวฉัยขนร่วง ผมจึงไปซื้อ ยาแก้ขนร่วงส่งไป คุณจำไว้ว่าอาทิตย์นึงป้อนมันสอง ครั้งนะครับ เดี๋ยวมันจะเลียขนเยอะ จะเป็นการฆ่าตัว เองเอา”
หลังจากที่ถังซินได้ยิน จึงเงยหน้าถามเขา “มันขนร่วง เยอะมั้ย?”
“ตอนเปลี่ยนฤดูครับ จาวฉัยจะขนร่วงเยอะช่วงนั้น” ผู้ ช่วยจางตอบกลับ “ทานยาแก้ขนร่วงสักหน่อยก็ไม่เป็น อะไรแล้วครับ ใช่แล้ว คุณถังรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผม ไปส่งคุณในชุมชนดีกว่า ตอนเย็นฝนตกเดินไปไม่ค่อย สะดวกครับ”
ถังซินไม่ได้ตอบอย่างทันที แต่กลับมองไปยังฝ่าย ชายที่อยู่ด้านข้าง
หลังจากที่ผ่านไปสักพัก เธอจึงเอ่ยกล่าว “วันนี้มีเวลา ว่างพอดี ฉันอยากพาแมวกลับไปด้วย”
ผู้ช่วยจางตอบโต้อย่างไว ยิ้มตาหยีพร้อมตอบ “ได้ ครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณถังกลับไป!”
ดวงตาของมู่เฉินหย่วนได้หนักแน่น
เขาไม่คิดว่าผู้ช่วยจางเวลานี้จะพูดได้น่ารังเกียจขนาดนี้
ส้มไม่กี่ลูกได้ถูกกินจนหมด แต่ถ้าซินก็ยังไม่พอใจ เลยสักนิด ท้องของเธอก็ดูเหมือนจะเริ่มหิวอีกแล้ว
อุ้มท้องลูกทั้งสามคนอยู่นั้น กินเร็วก็ยิ่งย่อยเร็ว แถม ยังทําให้หิวเร็วอีกด้วย
ถังซินลูบบนหน้าท้อง คิดอย่างโดนเอารัดเอาเปรียบ ว่า ผู้ชายบ้าคนนี้ทำไมถึงโชคดีขนาดนี้ ให้เธออุ้มท้อง ลูกตั้งสามคน สุดท้ายคนที่ทำบากก็คือเธอ
มู่เฉินหย่วนมองเธออย่างไม่ละสายตา สายตาอัน เฉียบคมของเขาก็ไปเห็นเข้ากับการกระทำเล็กๆ ของ เธอ พร้อมเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง “อิ่มแล้วหรอ?”
“คุณสิอิ่มแล้ว!” ถังซินโกรธจนตัวสั่น พร้อมหันหน้า หนีไม่สนใจเขา
มู่เฉินหย่วน “……”
ไม่นานรถก็ได้ขับมาถึงเขตบ้านพักตากอากาศที่มู่ เฉินหย่วนอาศัยอยู่
เนื่องจากช่วงเย็นฝนได้ตกหนักอย่างต่อเนื่อง บนถนน ก็ได้มีน้ำขังอยู่บางส่วน แค่ก้าวขาทิ้งน้ำหนักลงไปเพียง นิดเดียว น้ำที่ขังก็กระเด็นใส่รองเท้าจนหมดแล้ว
หลังจากที่ถังซินรอให้มู่เฉินหย่วนลงไปจากรถแล้วก็ได้เขยิบไปทางด้านขวา เพื่อที่จะไปหลบอยู่ในร่มกับมู่ เฉินหย่วน
เขาได้ส่งร่มให้กับเธอ ก้มตัวลงโอบกอด แล้วเขาก็ได้ ดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น ขู่จนเธอรีบ ร้อนเอามือมาบีบคอเขา
หลังจากที่สงบลงแล้ว เธอก็กัดริมฝีปากพร้อมกล่าว “ฉันเดินเองได้ ไม่ได้พิการสักหน่อย”
“แมวของคุณเพิ่งจะอาบน้ำไปเมื่อสองวันก่อน ผมกลัว ว่ามันเจอคุณแล้วจะขึ้นมาย่ำบนตัวคุณ” มู่เฉินหย่วน ตอบกลับอย่างสงบเยือกเย็น “ถ้าไปบนขากางเกง ของคุณ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องพามันไปอาบน้ำอีก”
ถังซินเห็นว่าน้ำได้เอ่อล้นไม่น้อย ขณะที่ฝ่ายชายเดิน ไป ก็ได้มีน้ำจำนวนไม่น้อยได้กระเด็นใส่ขากางเกง เธอ ก็จึงได้หยุดพูดลง
เธอชินกับการที่ได้แนบชิดกับหน้าอกของฝ่ายชาย ถึงจะมีเสื้อผ้ากั้นอยู่เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นนั้น ซึ่งเธอไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นให้ อยู่ได้ เธอได้แต่คิดว่าเขาได้โอบกอดจ้าวอี้ซีนแบบนี้ เหมือนกันหรือเปล่า
เธอคิดจนใจนั้นล่องลอย และรู้สึกน้อยใจ
ถังซินสูดดม เธอได้กลิ่นเผ็ดหอมลอยมาจากไหน ไม่รู้ ทำให้เธอรู้สึกหิวและกระสับกระส่าย หลังจากที่รอให้คนยืนหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะ ร้องไห้ออกมา
“ร้องอีกแล้วหรอ?” มู่เฉินหย่วนบีบคลึงพื้นที่ระหว่าง คิ้วทีที่ปวดขึ้นมา “โอเค โอเค ไม่ต้องร้องแล้ว รอสัก เดี๋ยวผมจะให้คนส่งส้มไปให้ที่อาพาร์ทเมนท์คุณ”
ถังซินด้านหนึ่งก็ร้องไห้ไป ด้านหนึ่งก็พูดอย่างน้อยใจ “ฉัน ฉันอยากกินซาลาเปาเต้าหู้”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ