ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่171 คุณชายสามเย่ ระวัง!



บทที่171 คุณชายสามเย่ ระวัง!

การเคลื่อนไหวของคุณชายห้าฉิงรวดเร็วมาก หลังจากที่ วางสายไปแล้วก็ส่งเบอร์โทรศัพท์สองเบอร์นั้นให้กับเย่ชื่อเฉิ นทันที

หลังจากที่เปลือกเฉินได้รับสองเบอร์นี้แล้ว จึงส่งต่อไปยัง

หมายเลขพิเศษอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที คุณชายสามเยจึงได้รับ สายจากฝ่ายนั้น “ไม่พบเจ้าของหมายเลข ไม่พบฟื้นที่ของ หมายเลขบัตร ไม่พบบันทึกการโทรใดๆเลยครับ เนื่องจากว่า หลังจากมีการโทรออกครั้งไหนก็จะถูกจัดการไปหมดเลย ครับ”

“หมายความว่าหาอะไรไม่เจอเลยอย่างนั้นหรือ?” เสียงของ คุณชายสามเย่เป็นชาขึ้นมาในทันที

“เหมือนกันทั้งสองเบอร์เลยครับ อย่างน้อยๆก็สามารถ อธิบายได้ว่าทั้งสองเบอร์นี้เป็นหมายเลขที่อยู่ในองค์กร เดียวกัน หรือบางทีอาจจะเป็นคนๆเดียวกันก็ได้ครับ” บุคคล นั้นซะงักไป หลังจากนั้นจึงวิเคราะห์ข้อสรุปของเขาออกมา

คุณชายสามเยวางสายไป เห็นได้ชัดว่านิ่เป็นข้อสรุปที่เขา ไม่ต้องการมากที่สุด

เมื่อคืนนี้ ตอนที่ฉิงถึงรับสายจากผู้หญิงคนนั้น เขากำลังอยู่ กับเว็นลั่วฉิง เขาสามารถรับประกันได้ ว่าตอนนั้นเป็นลั่วฉังไม่

ได้โทรหาคุณชายห้าถึงอย่างแน่นอน

ถ้าหากทั้งสองเบอร์นั้นเป็นคนๆเดียวกัน เช่นนั้นแล้ว….

คุณชายสามเอนพิงพนักพิงเก้าอี้ อารมณ์ที่แสดงออกมา ทางใบหน้านั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทีละนิดๆ

บริษัทเวินชื่อกรุ๊ป

เลขาหลิวเป็นผู้รับผิดชอบการร่วมมือกันระหว่างบริษัทตระ กูลเย่กรุ๊ปและบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปทั้งหมด เพราะฉะนั้นช่วงนี้ เลขาหลิวจึงเข้าออกบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปอยู่บ่อยๆ และเวลานี้ที่ เลขาหลิวเพิ่งจะเข้ามายังดีกของบริษัทเวินซื่อกรุ๊ปนั้น ก็ถูกผู้ หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชน

เอกสารที่อยู่ในมือของเลขาหลิวกระจัดกระจายหล่นลงพื้น เลขาหลิวที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้น เมื่อถูกชนเช่นนี้แล้ว โทรศัพท์มือถือก็ถูกชนจนหล่นลงไปที่พื้นด้วยเช่นกัน

“ขอโทษค่ะ ขอโทษทีนะคะ ฉันช่วยเก็บค่ะ” ผู้หญิงคนนั้น รีบเอ่ยขอโทษ หลังจากนั้นจึงเก็บโทรศัพท์มือถือของเลขา หลิวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วในจังหวะที่เลขาหลัวไม่ทันได้ สังเกตนั้น เธอรีบกดโทรศัพท์ของเลขาหลิว หลังจากนั้นจึงส่ง โทรศัพท์มือถือคืนให้เขา

หญิงสาวเอ่ยขอโทษขึ้นมาตลอด จนเลขาหลิวเองก็ไม่ได้ เก็บมาคิดเล็กคิดน้อยอะไร หลังจากที่เก็บเอกสารเสร็จแล้ว นั้น เลขาหลิวจึงเดินขึ้นไปด้านบนทันที

และเพิ่งจะขึ้นมาด้านบนยังไม่ทันถึงออฟฟิศของผู้จัดการ

นั้น เลขาหลิวก็ได้รับสายของท่านประธานบริษัทตัวเองเสีย ก่อน

“ผมหาการ์ดความจำไม่เจออันนึง คุณไปช่วยผมหามาที่เลขาหลิวกดรับสายแล้วเสียงของเย่ชื่อเฉินก็ตั้งขึ้นมา

“ท่านประธานให้ไปหาจากที่ไหนครับ?” เลขาหลิวอึ้งไปเล็ก น้อย คำสั่งนี้ของท่านประธานค่อนข้างจะดูแปลกไปเสีย หน่อย ท่านประธานจะทำอะไรนั้นก็มีความเด็ดขาดมาโดย ตลอด ปกติแล้วจะให้เขาไปเอาอะไรนั้น ท่านประธานก็จะ กำหนดสถานที่ที่จะให้เขาไปอย่างชัดเจน

“คุณไปหาที่บ้านก่อน ถ้าหากไม่มี ก็ค่อยไปหาที่ออฟฟิศ ของผม” ทางปลายสายเชื้อเฉิน ร็บตอบกลับมาอย่าง รวดเร็ว

“อ่อครับ” เลขาหลิวแววตาส่องประกายออกมา ตอบรับด้วย เสียงทุ้มต่ำ แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกแปลกๆยิ่งกว่าเดิม

เขารู้สึกว่าวันนี้ท่านประธานดูแปลกๆไปอยู่บ้าง แต่เสียงนั้น เป็นของท่านประธานอย่างแน่นอน อีกทั้งโทรศัพท์มือถือของ เขายังแสดงถึงบันทึกชื่อของท่านประธานเอาไว้ด้วย

เลขาหลิววางสายแล้วจึงเดินลงมาด้านล่าง เพื่อจะรีบไปยัง คฤหาสน์ที่เอาชื่อเฉินอาศัยอยู่ในเวลาปกติ

ออฟฟิศประธานบริษัทเวินชื่อกรุ๊ป

“เป็นอย่างไรบ้าง? ฉันเลียนแบบเหมือนไหม? นู่หลิงเอ่อ วางสายไปแล้ว มองไปยังเป็นล้่าฉิงด้วยใบหน้าที่อาดเก่ง โดย

LF) ปกติแล้วนอกจากเธอจะศึกษาเรื่องการวางระเบิดแล้ว สิ่งที่ ชอบที่สุดก็คือการลอกเลียนแบบ เลียนแบบเสียงคนอื่น เลียนแบบการกระทำของคนอื่น

“ซึม เสียงเหมือนมาก” เปินลั่วฉึงพยักหน้าเล็กน้อย เสียง เหมือนมากก็จริง แต่สำเนียงและวิธีการพูดนั้นไม่เหมือนกัน แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

“แน่นอน สิ ไม่เห็นหรือว่าฉันเป็นใคร” ฉู่หลังเอ๋อยิ่งแสดง ความอวดเก่งมากขึ้นไปอีก แต่ใบหน้านั้นกลับแสดงถึงความ ไม่เข้าใจออกมา : “เธอไม่ได้บอกว่าการ์ตความจำนั้นอยู่ใน กระเป๋าสตางค์ของเปซื้อเฉินหรอกหรือ? ทำไมจะต้องให้ เลขาหลิวไปหาที่บ้านล่ะ?”

ทันใดนั้นดวงตาของฉู่หลิงเอ่อก็เบิกกว้างขึ้นมา : “หรือว่านี่ จะเป็นการหลอกล่อ?”

เป็นลั่วจึงเอาแต่ยิ้ม

“ให้ตายเถอะ มู่หรงตัวหยางพูดไว้ไม่ผิดเลย ใครจะคิดจะ เล่นกับเธอ นั่นเท่ากับคนๆนั้นหาเรื่องตายเลยนะ โชคดีที่คนที่ เธอจะจัดการด้วยไม่ใช่ฉัน” มุมปากของฉุ่หลิงเอ่อกระตุกขึ้น การแสดงออกทางสีหน้าท่าทางของเธอดูจะเกินจริงไปอยู่ บ้าง

เธอรู้มาตลอดว่าการที่จะเล่นงานกันทางด้านจิตวิทยา หรือ กลอุบาย ไม่มีใครที่จะรับมือกับฉิงฉิงของเธอได้อยู่แล้ว เพียง แต่ไม่รู้ว่าคุณชายสามคนนี้จะแบกรับไหวหรือเปล่า?

บทสรุปสุดท้ายนี้ไม่รู้ว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ? ฉู่หลิงเอ๋อรู้ สึกว่าเกมนี้ยิ่งดูน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ “ถ้าอย่างนั้นต่อไปก็ควร จะต้องเจอของจริงแล้วสินะ?”

“ได้สิ เจอของจริง เธอให้คนไปหาโอกาสขโมยกระเป๋า สตางค์ของเย่ซื่อเฉินมานะ” เวินลั่วชิงยิ้มออกมา หลังจากนั้น ก็เอ่ยพูดประโยคนี้ขึ้นมาลอยๆ

“ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเย่ชือเฉินอย่างนั้นหรือ? เธอ หมายความว่าให้แย่งการ์ดความจำนั่นมาใช่ไหม?” ฉู่หลิงเอ๋ ออึ้งไป จะต้องบุ่มบ่ามมุทะลุขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรือ? นี่มัน เหมือนกับไม่ใช่สไตล์ของฉิงฉิงของเธอเลยนี่

“ไม่ได้ให้ขโมยการ์ดความจำ ให้ขโมยแค่กระเป๋าสตางค์ ต่างหาก” ดวงตาของเว็นลั่วฉึงหรี่ลงเล็กน้อย มุมปากปรากฏ รอยยิ้มออกมา

“แค่ แค่ขโมยกระเป๋าสตางค์ ไม่ต้องแย่งเอาการ์ดความจำา มา? หมายความว่าอะไรน่ะ?” ฉู่หลังเอ๋อรู้สึกสับสนอยู่บ้าง จุด ประสงค์ของพวกเธอไม่ใช่เพื่อที่จะเอาการ์ดความจำกลับมา อย่างนั้นหรอกหรือ?

“แย่งกระเป๋าสตางค์มาจากมือของเยีชื่อเฉิน แล้วค่อยแบ่ง การ์ดความจำมา นั่นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” ตอนที่เวินลั่วฉิงเอ่ย พูดออกมานั้นใบหน้าของเธอจริงจังขึ้น แต่กลับมีอารมณ์ที่ แปลกๆไปจากเดิมอยู่บ้าง

“ขโมยกระเป๋าสตางค์แล้วก็วิ่งหนีแค่นี้เอง” ลู่หลิงเอ๋อรู้สึกว่า คำพูดนี้ของเวินรั่วนึ่งมีปัญหา

การขโมยกระเป๋าสตางค์ก็จะต้องวิ่งหนีด้วยความเร็วที่สุด อยู่แล้ว ใครจะโง่หยิบเอาการ์ดความจำออกมาต่อหน้าต่อ หน้าเปซื้อเฉินกันเชียว

“ไม่มีทางหนีได้หรอก” น้ำเสียงของเว็นลั่วฉึงดูมั่นใจมาก เธอรู้ดีถึงความสามารถของเปซื้อเฉิน สามารถแย่งกระเป๋า สตางค์ของเยื่อเฉินในตอนที่เขาไม่ทันระวังมาได้นั้นก็นับว่า ไม่เลวแล้ว

ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเยซื่อเฉินแล้วยังคิดจะหนี นั่นเป็น สิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

“หนีไม่รอด? ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ฉันให้เจ้าห้าของพวกเรา ไปดีกว่า” เห็นได้ชัดว่าฉู่หลิงเอ่อดูจะไม่ค่อยยอมรับกับคำพูด ของเว็นลั่วชิง เจ้าห้าของพวกเธอมีปฏิกิริยาที่ว่องไว รวดเร็ว ที่สุด วิ่งเร็วที่สุดด้วยเช่นกัน

“ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นไป กลัวว่าจะไม่มีโอกาสที่จะ สามารถขโมยกระเป๋าสตางค์ของเปซื้อเฉินตอนที่เขาไม่ทัน ระวังได้เลยนะสิ” เป็นลั่วฉิงเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ถึงแม้น้ำ เสียงจะเบาลงแต่กลับอดที่จะมีข้อซักถามขึ้นมาไม่ได้

“เขาเก่งขนาดนั้นเลยหรือ?” ฉู่หลิงเอ่อตะลึงไปเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายออกมา เลยซื้อเฉินจะเก่งขนาดนี้เลยหรือ?

“ใช่เงินลั่วฉิงตอบออกมาอย่างตรงไปตรงมา และยัง มั่นใจ100% อีกด้วย

“ฉิงฉิง ความรักนี่ไม่ได้ทำให้เธอเห็นเขาเป็นฮีโร่หรอกใช่

ไหม?” ฉู่หลิงเอ๋อยังคงไม่เชื่อเช่นเคย แต่ใบหน้าของเธอนั้น กลับปรากฏรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา

ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นฉิงฉิงของเธอกลัวใครคน นึ่งขนาดนี้ อีกทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกอีกด้วยที่ฉิงฉึงของเธอ มั่นใจในตัวผู้ชายคนหนึ่งขนาดนี้

เก่งมาก

ใช้คำว่าเก่งบรรยายผู้ชายคนนึงได้อย่างง่ายๆ!!

นึงฉันของเธอไม่ใช่ว่าจะคิดอะไรกับเปซื้อเฉินขึ้นมาบ้าง แล้วหรอกใช่ไหม?

ดูเหมือนกับจะมีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ!!

“ฉันเพียงแค่อยากจะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดเท่านั้นเอง” เป็นลั่วนิ่งรีบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงยังคงมีความ มั่นใจอยู่เช่นเคย สีหน้าไม่ได้แปลกไปจากเดิม เพียงแต่ตัว เธอเองไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนที่เธอพูดประโยคนี้ออกมานั้นขน ตายาวๆนั้นกระพริบลงอย่างรวดเร็ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ