ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1256 มีคนกระวนกระวายแล้ว (1)



บทที่ 1256 มีคนกระวนกระวายแล้ว (1)

“มีบางคนที่ใช้เวลาทั้งชีวิตไปเรียนรู้บางอย่างก็มีความเป็นไป ได้ที่เรียนไม่เข้าใจเลย บางคนใช้เวลาไม่กี่ปีไปเรียนรู้บางอย่าง ขอแค่ตั้งใจก็สามารถเรียนเข้าใจได้ค่ะ” ถังจื่อซึมองไปทางคุณ ก่ นัยน์ตาคู่หนึ่งเหมือนมองจิตใจคนออก!!

เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าถังจื่อซึมองความในใจของคุณปู่ ออกแล้ว

คุณปู่ตะลึงงันไปเลย นัยน์ตาคู่หนึ่งจ้องตรงไปทางถังจื่อซี เจ้าเด็ก อายุแค่ห้าขวบจริงๆเหรอ?

เจ้าเด็กนี่ฉลาดเกินไปแล้ว จู่ๆคุณก็เปลี่ยนความคิดของตัว เอง ไม่แน่เจ้าเด็กผู้หญิงนี่หาเวลามาเรียน ก็สามารถเรียนแพทย์ แผนจีนได้ดีแน่นอน

ก็เหมือนกับที่เจ้าเด็กผู้หญิงนี่พูด หลักสำคัญคือความตั้งใจ

“จ๋อ คุณแม่เคยบอกว่าไม่ว่าทำอะไรความตั้งใจคือสิ่งที่ สำคัญที่สุด ทว่าจะทุกเรื่องให้ดีก็จะต้องใช้สติปัญญาและความ พยายามมากเช่นกัน แพทย์แผนจีนนั้นเนื้อหาลึกมาก จะเรียน แพทย์แผนจีนให้ดีจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และ สติปัญญามากมาย ห้ามยอมแพ้กลางทางเด็ดขาด” เป็นลั่วนิ่ง รู้สึกว่าถังจื่อซีมองกว่าแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องที่ง่ายเกินไปแล้ว อีกอย่างอาจารย์ก็ตั้งใจที่จะรับลูกศิษย์จากใจจริง หากท่าที แบบนี้ของถังจื่อซี ถังจื่อซีเรียนไม่รู้เรื่องถือเป็นเรื่องเล็ก แต่เสียเวลาของอาจารย์ เสียเวลาการทำงานของอาจารย์คู่แบบนั้นก็ ไม่มีแล้ว

ถังจื่อหันไปมองเงินถั่วนิ่ง กำลังจะเอ่ยปากพูด

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เอาตามที่จื่อซื้อบอกเลย ฉันรู้สึกว่าได้ โอ เคเลย” ทว่าอาจารย์กู่กลับเอ่ยพูดขึ้นมาก่อน อาจจะเป็นเป็นห่วง ว่าถังจื่อ จะเปลี่ยนใจเพราะคำพูดของเงินถั่วนิ่ง ไม่ง่ายเลยกว่า เขาเจอจะเจอเด็กๆ ฉลาดแบบนี้ ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด

“อาจารย์คะ หนูเกรงว่าจะเสียเวลาท่านเอาค่ะ” เป็นลั่วถึงก ลับคิดไม่ถึงว่าอาจารย์จะเห็นด้วยกับความคิดของถังจื่อซี ทว่า เธอเองก็รู้ว่าอาจารย์ยุ่งมาก ได้ข่าวว่ามีผู้ป่วยมานัดเป็นแถว เลย

“เวลาของฉันไม่มีปัญหา สามารถรักษาผู้ป่วยน้อยลงได้ ไม่มี เรื่องอะไรสำคัญเท่าการรับลูกศิษย์ของฉันแล้ว ฉันผ่านมาจะครึ่ง ชีวิตแล้ว ยังจะสามารถรักษาผู้ป่วยได้อีกสักกี่คนกัน ดังนั้น สอน ลูกศิษย์ให้ดีต่างหากเป็นเรื่องจำเป็นของฉัน” คำพูดของ อาจารย์ทำเอาเงินลั่วจึงพูดไม่ออกเลย เงินมั่วนิ่งก็ไม่ได้พูด อะไรอีก

คุณชายสองโจ๋วเงยหน้าขึ้นมองคุณปู่ สีหน้ามีความแปลกใจ เล็กน้อย คุณชายสองโจ๋วรู้สึกว่าวันนี้เขาต้องเจอคุณปู่ตัวปลอม แน่นอน คุณปู่คู่คนนี้ทำอะไรก็รอบคอบมาโดยตลอด โดยเฉพาะ ด้านการแพทย์ เป็นเรื่องที่ไม่ยอมให้ทำเสร็จไปที่แน่นอน ห้าม ปล่อยเลยแม้แต่นิด วันนี้คุณกลับยอมรับเงื่อนไขแบบนี้ของเจ้าเด็ก อ ดูเหมือนว่าคุณจะชอบเจ้าเด็ก ยมากๆ

ขณะนี้ในโรงพยาบาล ไม่ง่ายเลยกว่าคุณย่าเย่จะไล่นักข่าวทุก คนกลับมา ตอนนี้ท่าทีที่นักข่าวมีต่อคุณย่าเยไม่เหมือนเมื่อก่อน แล้ว ก่อนหน้านี้นักข่าวยังเห็นแก่ตระกูลเย ยังเห็นแก่คุณย่าเข่ ไม่กล้าพูดอะไรมั่ว ไม่กล้าถามอะไรมั่ว และไม่กล้าทำอะไรมั่วๆ

ทว่าตอนนี้ถึงจื่อ โม่เปิดโปงความเสแสร้งของคุณปู่เย่แล้ว คุณ ปู่เย่และคุณย่าเยวางแผนแสดงละครเพื่อใส่ร้ายเชื่อเฉิน โกหก ทุกคน ตอนนี้ชาวเน็ตต่างก็กำลังด่าคุณปู่เย่และคุณย่าเข่

ภาพลักษณ์ที่คุณย่าเยรักษามาแตกสลายไปหมดแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าเสียชื่อเสียงไปหมดแล้ว

คุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ดังนั้นไม่ได้ถูกนักข่าวถาม ทว่านี่ก็ทำให้ทุกคนไม่พอใจกับคุณปู่เย่

คุณปู่เย่แกล้งเป็นลม ใส่ร้ายคุณชายสามเย่ ถูกเปิดโปงแล้วก็ ยังเสแสร้งอยู่ ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเหมือนเดิม นี่ก็หน้าด้าน เกินไปแล้ว คิดว่าคนอื่นโง่กันเหรอ?

หุ้นส่วนส่วนใหญ่ของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปต่างก็อยู่ในมือของ คุณปู่เย่ ตอนนี้เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้นกับคุณปู่เย่ บวกกับคุณชาย สามเย่ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของบริษัทตระกูล เย่กรุ๊ปอีก หุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปก็ตกไม่น้อยเลย ยังมีแนว โน้มที่จะตกเรื่อยๆอีก เกรงว่าพรุ่งนี้น่าจะตกเยอะกว่านี้

คุณปู่เย่รอให้นักข่าวต่างก็จากไปหมดแล้ว จึงจะลืมตาขึ้น เห็น ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงคุณย่าเยู่คนเดียว เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียง “ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้?”

ก่อนหน้านี้คุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเลย คุณย่าเย่เผชิญ กับการตอบคำถามของนักข่าวคนเดียว คุณปู่เย่ตื่นมาปุ๊บก็ถาม ว่าคุณย่าเย่เลย

“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ยัยเด็กนั้น เป็นเพ ราะยัยเด็กนั่นมาสร้างเรื่องวุ่นวาย ไม่รู้ว่ายัยเด็กเปรตนั่นโผล่มา จากไหน” คุณย่าเยู่ในขณะนี้โมโหมาก กลับไม่กล้าระเบิดใส่คุณ ปู่เย่

“ยัยเด็กนั่นเป็นของซือเฉินหรือเปล่า?” พูดถึงเด็ก สมองของ คุณปู่เย่ก็เปล่งประกายขึ้นทันที เอาตามจริงนะ ยัยเด็กนั่นสุด ยอดมาก อายุแค่นี้กลับทำเรื่องราวแบบนี้ได้อย่างรอบคอบมาก ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆเลย คิดไม่ถึงว่าจะทำลายแผนการของพวก เขาทั้งหมด

“ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ามีสายเลือดของตระ กูลเยไหลเวียนอยู่ อีกอย่างยัยเด็กนี่ก็อายุพอๆกับยัยเด็กผู้หญิง นั้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นลูกของซื้อเฉิน คิดว่าน่าจะเป็นฝาแฝด กับยัยเด็กผู้หญิงนั่น แต่ต่อมาเขาบอกว่าเขาไม่ได้นามสกุลเย่ อีก อย่างก็ไม่ได้ใช้นามสกุลตามแม่ ดูแล้วก็เหมือนไม่ได้โกหก ดัง นั้นเรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน” ในตอนที่คุณย่าเข่พูดมา ถึงจุดนี้ ก็อดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ หากยัยเด็กนี้เป็นของซื้อเฉินจริงๆ เธอไม่ชอบมาก ซนเกินไปแล้ว น่าโมโหมาก ไม่มีมารยาทเลย

อีกอย่างเจ้าเล่ห์เหมือนเป็นลั่วนิ่งเลย ตอนนี้เธอไม่ชอบยัยเด็กนั่นเลยแม้น้อย

ยัยเด็กนั่นฉลาดมาก หากเป็นลูกของซื้อเฉินจริงในอนาคต เข้าบริษัทมา ต้องยอดกำไรได้แน่นอน สามารถพัฒนาบริษัท ได้ดีแน่นอนเทียบกับซื้อเฉินแล้ว มีความสามารถเหนือคนทั่วไป

“แต่ว่าเขาอาจจะใช่ของเฉิน อีกอย่างคนอย่างเขา มารยาทก็ไม่ไม่รับการสั่งสอนด้วย กล้าให้เข้าบริษัท เหรอคิดเผื่อผลกําไรของบริษัทตระกูลรุ๊ป คุณย่าเยรีบคัดค้าน ทันที

“ฉันว่าน่าจะใช่ เช่นทำไมเขาถึงต้องขนาดนี้

เพื่อเชื่อเงิน มาในนี้เพื่อจะเปิดโปงเพื่อจะทวง

ความยุติธรรม

อายุห้าขวบคนหนึ่งแบบนี้ได้ไงคุณปู่เย่นอนอยู่บนเตียง

เมื่อได้เรื่องนี้อย่างละเอียด คิดไปคิดมา เขารู้สึกว่าความ

เป็นไปได้เจ้าเด็กจะเป็นของตระกูลเย่ แน่นอนว่า จริงแล้ว

คุณปู่ก็หวังเจ้าเด็กจะเป็นของตระกูลเย่

เพราะว่าคุณเย่ว่าเจ้านี่ฉลาดจริงไหวพริบจริง อีก อย่างอายุน้อยๆ แค่ทำได้รอบคอบมาก ในอนาคตต้อง ทำการใหญ่แน่นอน บริษัทตระกูลกรุ๊ปต้องการคนแบบนี้

“หากเขาเป็นลูกของซือเฉินจริงเป็นนิ่งก็เป็นคลอด แน่เรื่องในนี้เป็นลั่วฉิงนั่นแหละที่สั่งให้เด็กนั่นมาสร้างความวุ่นวาย” คุณย่าเยฟังการวิเคราะห์จากคุณปู่เย่แล้ว ก็รู้สึก ว่าไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จริงๆ แล้วในใจของเธอก็มีความคิดนี้

แต่ว่าหากเป็นลูกของซื้อเฉินและเป็นถั่วนิ่งจริงๆ คุณย่าเย่รู้สึก

ว่าเรื่องในวันนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเงินถั่วนิ่งแน่นอน

“ไม่ว่าเป็นลั่วถึงจะส่งเขามาหรือเปล่า ตอนที่เขาอยู่ที่โรง พยาบาล เขาควบคุมการดำเนินเรื่องด้วยตัวเองคนเดียว ไม่ได้ รับการแนะนำจากใคร ดังนั้นนั่นเป็นความสามารถของเขาเอง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจุดสนใจของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่ เหมือนกัน คุณปู่เย่ในขณะนี้คิดแต่ปัญหาเรื่องความสามารถของ ถังจื่อ โม

“หากเขาเป็นลูกของซื้อเฉินจริงๆ นายจะทำยังไง?” ในที่สุด คุณย่าเยก็เข้าใจความหมายของคุณปู่เย่แล้ว เธอมองไปทางคุณ ปู่เย่ สีหน้ามีความสับสนเล็กน้อย

“หากเขาเป็นลูกของซื้อเฉินจริงๆ แน่นอนว่าต้องกลับตระกูล เย่ ฉันจะดูแลสั่งสอนเขาให้ดี ต่อมาให้เขาดูแลบริษัทตระกูลเย่ กรุ๊ป เขาจะต้องพัฒนาบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปให้ใหญ่โตขึ้น แน่นอน” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า นี่คือเรื่องที่คุณปู่เย่คิดอยู่ ตลอดเวลา แต่ว่า คุณปู่เย่เหมือนจะลืมไปแล้วว่า เย่ซือเฉินตัด ความสัมพันธ์กับตระกูลเยู่แล้ว แน่นอนว่าลูกของเยซือเฉินไม่มี ความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ ยังไม่ถึงตาให้เขามาดูแลสั่งสอน

“เจ้าเด็กนอบรมสั่นสองยาก นายไม่กลัวว่าจะเป็นการชักศึก เข้าบ้านเหรอ” นัยน์ตาของคุณย่าเย่เปล่งประกายขึ้นทันทีสำหรับคำแนะนำของคุณปู่เย่ เธอรีบปฏิเสธทันที เธอไม่ชอบ เด็กคนนั้นจริงๆ

“วางใจได้ ฉันมีวิธีสั่งสอนเขาอยู่แล้ว ตอนนั้นซื้อเฉินก็ไม่เชื่อ ฟังเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องเข้าบริษัท พัฒนาบริษัทได้ดีขนาดนี้ คุณปู่เย่หัวเราะ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความมั่นใจมาก อีก อย่างเจ้าเด็กนี้ยังอายุน้อย ขอแค่นำมาอยู่ข้างกาย ควบคุมไม่ ยาก”

“นายลืมเรื่องงานแต่งที่เรากำหนดกับองค์หญิงขององค์กร โกสต์ซิตี้แล้วเหรอ หากองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้ว่าเยซื้อ เฉินมีลูกคนนี้ นายคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!” คุณย่าเย ขมวดคิ้วขึ้น เธอรู้จักคุณปู่เยดี!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ