ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 145 วิธีการจับชู้ที่แตกต่าง (1)



บทที่ 145 วิธีการจับชู้ที่แตกต่าง (1)

พอเธอคิดที่จะเปิดประตู โทรศัพท์เธอก็ได้ดังขึ้นมา เห็นว่าเป็นสายของเห่อถงถงก็รีบรับสายอย่างไม่ ลังเล

“ถงถง คุณอยู่กับเด็กน้อยทั้งสองใช่ไหม? “ไม่รอให้เห่อ ถงเอ่ยปาก เวินลั่วฉิงก็รีบถามขึ้นมาทันที

ลั่วฉิงเจอเรื่องอะไรก็แล้วแต่จะเป็นคนที่ใจเย็น มาก แต่สำหรับเรื่องของเด็กทั้งสองแล้วเธอกลับควบคุมไม่ ได้ สับสนไปหมด

“อยู่ด้วยกันสิ มีอะไรหรือ? เด็กทั้งสองกำลังดูทีวีอยู่ เมื่อ ฉันลงไปทิ้งขยะไม่ได้เอามือถือไป เกิดเรื่องอะไรเห รอ? “เห็นได้ชัดว่าเห่อถงถงเกิดความสงสัย

“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว เมื่อกี้ฉันโทรไปแล้วมือถือของเด็กทั้ง สองก็ปิดเครื่อง อีกทั้งมือถือของคุณก็ไม่มีคนรับสายอีก ฉันจึงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา”เวินลั่วฉิงเบาใจไปได้ เปราะหนึ่ง อ่อนตัวอย่างไม่มีแรงไปพิงที่ประตูไว้

“จื่อโม่เป็นคนปิดมือถือทั้งสองเครื่องเอง บอกว่ารู้สึกว่า ทางคุณกำลังเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเห รอ? ”

“เมื่อกี้เฉินเห็นฉันกำลังวีดีโอคอลอยู่กับจื่อ ซี”เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ก็ยังหวาดกลัวอยู่เลย เธอยังคงไม่อยากให้เรื่องของเด็กทั้งสองถูกเปิดเผย

“เขารู้เรื่องของจื่อซีแล้วเหรอ? “เห่อถงถงทนไม่ไหวถาม ด้วยความตกใจ

“ไม่มี เขาไม่ได้เห็นจื่อซี ตอนหลังวีดีโอคอลไม่ได้รับ สาย”

“จื่อโม่เก่งมากเลย”เห่อถงถงตกตะลึง ตอนแรกเธอก็ไม่ ได้ใส่ใจอะไร แต่ผลปรากฏว่าจื่อโม่ทายถูกแล้ว

ตอนแรกเวินลั่วชิงอยากจะไปดูเด็กน้อยทั้งสอง แต่เธอ ได้ยินเสียงของเมิ่งโร่ถึง เมิ่งโร่ถึงน่าจะกำลังคุยโทรศัพท์ กับคนอื่นอยู่ เสียงไม่ค่อยใหญ่มากนัก

นึกขึ้นได้ว่าเมิ่งโร่ถึงอยู่บ้าน เย่เฉินจึงน่าจะ กลับมาบ้านได้เร็ว จึงอดทนไม่ออกไปไหน

พรุ่งนี้มั้ง พรุ่งนี้เธอจะไปดูเด็กน้อยทั้งสองคน ตอนที่เคยซื้อเฉินกลับมาก็ตีหนึ่งแล้ว สีหน้าของเขา

เคร่งขรึม ดวงตาที่เย็นชาสามารถทำให้คนมองรู้สึกตัวสั่น ระริกได้เลย

หลังจากที่เขาขึ้นมาที่ชั้นสองก็หยุดเดินที่หน้าห้องของ เวินลั่วฉิงพลางบิดกลอนประตู แต่กลับพบว่าเวินลั่วฉิงได้ ล็อคประตูไว้แล้ว

เฉินทำตาหรี่ เธอล็อคประตูอีกแล้วหรือ?

เช้าวันรุ่งขึ้น

เมิ่งโร่ถึงถูกเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกให้ตื่น
“หม่าม”ตอนที่เมิ่งโร่ถึงรับสายใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่ สดใสขึ้นมา

“ลูกไปที่เมืองAอีกแล้วเหรอ? แม่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่า ห้ามลูกไปที่เมืองAอีก ไม่ต้องไปหา….”อีกสายสนทนามีน้ำ เสียงที่ค่อนข้างจะเป็นกังวลเป็นอย่างมาก

“หม่าม หนูเล่าให้นะ พี่ชายแต่งงานแล้ว”แต่ใบหน้าของ เมิ่งโร่ถึงกลับเต็มไปด้วยความร่าเริงและตื่นเต้นดีใจ

เธอรู้ว่าเรื่องนี้สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของหม่ามีได้ .”อีกฝั่งหนึ่งของสายได้หยุดพูดทันที พอผ่านไปได้ ชั่วขณะหนึ่งก็สามารถตอบสนองขึ้นมา”ลูกว่าอะไรนะ? พี่

ชายหนูแต่งงานแล้วเหรอ? ถึงแม้ว่าเธอจะไปจากเมืองAยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่เรื่องของ ลูกชายของเธอ มีหรือที่เธอจะไม่รู้ ตลอดหลายปีมานี้เขา ไม่มีแม้กระทั่งแฟนสาว ทำไมจู่ๆก็แต่งงานขึ้นมาล่ะ?

หรือเป็นเพราะคุณปู่เย่บีบบังคับ?

“อืม อืม พี่ชายแต่งงานแล้ว พี่สะใภ้น่ารักมาก น่าเล่นด้วย มาก หนูชอบมากค่ะ”เมิ่งโร่ถึงพูดคำว่า มาก สามคำติดกัน งไม่ปิดบังว่าเธอพอใจและชอบเวินลั่วฉิงขนาดไหน รัวๆอย่างไ

ได้ยินคำพูดของลูกสาวเมิ่งชือเหยาก็เงียบอีกครั้ง เธอ รู้จักนิสัยของลูกสาวดี เป็นครั้งแรกที่เห็นลูกสาวชมคนคน

หนึ่ง

“พี่ชายหนูกับเธอ? “ในใจของเมิ่งชื่อเหยามีความหวัง เล็กๆน้อยๆ หรือลูกชายอาจชอบพอกันเอง ตอนนี้ลูกชายทำอะไรคุณปู่เย่ก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว

หนูดูออกว่าพี่ชายใส่ใจพี่สะใภ้มากเลยค่ะ” เมิ่งโร่ถึง รู้คุณแม่กำลังกังวลอะไรอยู่”แม่รู้ไหมว่าปกติพี่ชายจะไม่ ค่อยโมโห แต่เมื่อคืน พี่ชายโมโหพี่สะใภ้จนจะระเบิดอยู่ แล้ว

เมิ่งโร่ถึงรู้สึกว่าประโยคนี้ไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด เดียว เพราะตอนพี่ชายออกจากห้องพี่สะใภ้ออกมานั้น สีหน้าของเขาน่าตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง

“พวกเขาทะเลาะกันหรือ? “เมิ่งชื่อเหยาถามตาม ประโยคที่โร่ถึงเล่ามา แต่น้ำเสียงก็ไม่ได้มีความกังวล มากนะ เพราะสามีภรรยาทะเลาะนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

บางครั้งหากไม่มีทะเลาะเบาะแว้งกันจะยิ่งน่ากลัวกว่า! ซื้อเฉินโมโหแสดงว่ารักเข้าในสี่ห้องหัวใจจริงๆแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ เธอก็วางใจได้แล้ว

“หม่าม ให้หนูเอามือถือไปให้พี่ชาย แม่ถามพี่ชายเอง ไหม”ที่จริงแล้วเมิ่งโร่ถึงก็อยากจะรู้ว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้นั้น เป็นอย่างไรกันแน่ แต่เธอรู้ว่าหากเธอถาม พี่ชายก็จะไม่มี ทางตอบ

แต่หม่ามไม่เหมือนกัน ถ้าหม่ามี้ถามพี่ชายจะต้องตอบ อย่างแน่นอน

เธอพูดไปพูดมาก็เพื่อให้ความอยากรู้อยากเห็นของเธอ ได้กระจ่างเสียที
“เด็กเอ่ย เป็นบ้าอะไรกัน เวลานี้พี่ชายกับพี่สะใภ้ อาจจะยังไม่ตื่นนอน ถ้าลูกไปเวลานี้อาจจะรบกวนพวกเขา ได้นะ”เมิ่งเหยาได้ยินลูกสาวพูดก็รีบห้ามปราม

“หม่ามวางใจได้ ไม่รบกวนพวกเขาอยู่แล้ว เพราะพี่ชาย กับพี่สะใภ้ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน”เมิ่งโร่ถึงพูดออกมาโดย ไม่ได้คิดอะไรมาก

“ไม่นอนห้องเดียวกัน ความหมายของหนูก็คือพวกเขา แยกห้องกันนอนหรือ? “เมิ่งชื่อเหยากลับทิ้งไปชั่วขณะ แต่งงานแล้วยังจะแยกห้องกันนอน มันต้องมีปัญหาอะไร สักอย่างแน่นอน

เวลานี้เมิ่งโร่ถึงได้เปิดประตูของเย่ซือเฉินออกแล้ว เฉินมีนิสัยที่ตื่นแต่เช้าตอนนี้เขาจึงทำกิจวัตรประจำอะไร เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชูโร่ถึงจึงเดินมาเข้าในห้องเลย เมื่อคิด ว่าพี่ชายจะคุยโทรศัพท์กับหม่าจึงได้ปิดประตูห้องไว้

“โทรศัพท์จากหม่ามี้ค่ะ”เมิ่งโร่ถึงยื่นมือถือไปให้เย่ซือ เฉิน

“แม่”ซื้อเฉินรับโทรศัพท์มาแล้วพูดด้วยเสียงต่ำๆหนึ่ง คำ ไม่มีสีหน้าที่ต่างไปจากเดิม น้ำเสียงก็เป็นเหมือนปกติ

“แม่ได้ยินถึงถึงบอกว่าลูกแต่งงานแล้ว”ในเมื่อโร่ถึงได้ ยื่นโทรศัพท์ให้แล้ว ซื้อเหยาจึงได้แต่คล้อย ตามความคิดของโร่ถึงแล้วถามออกไป แน่นอนว่าเธอ ถามก็เพราะเป็นห่วงด้วย

“อืม”เย่ซื้อเฉินไม่ได้ประหลาดใจ ความคิดความอ่านของเมิ่งโร่ถึงมีหรือที่เขาจะเดาใจไม่ถูก

“ถึงถึงบอกว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่เลวเลย”เมิ่งเหยาฟัง ใจความสำคัญอะไรไม่ได้เลยจากคำตอบที่เขาได้ตอบ อย่างง่ายดายจนไม่รู้จะง่ายยังไงแล้ว

“อิม”เปซื้อเฉินยังคงตอบอย่างง่ายดายจนไม่รู้จะง่ายยัง ไงอีกแล้ว

“แต่งงานแล้วก็อย่าสุขุมเย็นชาเหมือนเมื่อก่อนให้มากนัก จะทำให้เมียตกใจกลัวได้”แต่ว่าครั้งนี้เมิ่งเหยากลับยิ้ม ขึ้นมากะทันหัน เธอรู้จักลูกชายของเธอดี ตอบว่าผู้หญิง คนนี้ไม่เลวเลย มันเป็นการทุบสถิติครั้งแรกเลยทีเดียว

เฉินตอบอยู่ในใจ ทำให้เธอตกใจกลัว? เธอเป็นคน ขวัญอ่อนอย่างนั้นเลยหรือ?

“คราวหน้าตอนผมไปจะพาเธอไปให้แม่ดู”เย่ซื้อเฉินรู้ว่า คุณแม่กำลังกังวลอะไรอยู่ และเขาก็รู้ดีว่าเขาจะพูดเยอะ ขนาดไหนก็ไม่เท่ากับการกระทำโดยตรง

เมิ่งโร่ถึงได้ยินเขาพูดอย่างนี้ก็ต้องตกตะลึง ทันใดนั้น ดวงตากลมๆก็ได้กะพริบจ้องมองเฉินอย่างไม่น่าเชื่อ

เธอ เมื่อกี้เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?

เขาจะพาพี่สะใภ้ไปพบคุณแม่?

นี่มันเป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?

เพิ่งเหยาก็ตกตะลึงเช่นกัน กำมือถือไว้จนมือสั่น ลูกชายพูดอย่างนี้ทำให้เธอทั้งดีใจและเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ