ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1207 จังหวะแห่งความตาย (2)



บทที่ 1207 จังหวะแห่งความตาย (2)

และเลขาหลิวก็รู้ด้วยว่าแม่ของท่านประธานนั้นถูกคุณปู่เยบีบ ให้จากไป และคุณปู่เย่ก็ไม่อนุญาตให้ท่านประธานพบเจอแม่ ของตัวเอง เรื่องนี้คิดๆแล้วก็ช่างโหดร้ายนัก !!

ในเวลานี้นักข่าวก็มาพูดถึงเรื่องแม่ของท่านประธานอีก ท่าน ประธานก็ย่อมต้องโกรธอย่างแน่นอน

ดวงตาที่เย็นเยือกของเอเงินค่อยๆหรี่ลง คำพูดของฉิงถึง เขาย่อมต้องเข้าใจ เรื่อง ในตอนนั้นให้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาไม่ได้ เพราะเรื่องเหล่านั้นย่อมจะทำลายแม่ของเขาจนไม่เหลือซากเป็น แน่

สภาพจิตใจของแม่ก็เพิ่งฟื้นดีขึ้นได้ไม่เท่าไร เขาไม่ยอมให้ แม่ของเขาต้องมาเจ็บปวดอีกแน่นอน

ในตอนนั้นคุณปู่เย่ประกาศต่อสาธารณชนว่าแม่ได้เสียชีวิตลง แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องให้แม่ของเขาถูกเรื่องของตระ กูลเย่มารบกวนอีก

เยซื้อเฉินแอบถอนหายใจ จากนั้นก็ก้าวเดินไปข้างหน้า แล้ว จากไปอย่างรวดเร็ว

นักข่าวหลู่เห็นคุณชายสามเย่จากไปแบบนี้ ก็รู้สึกผิดหวัง เล็กๆ เพราะเย่ซื้อเฉินจากไปตอนนี้ พวกเขาก็ขุดหาข่าวอื่นๆต่อ ไม่ได้อีก
นักข่าวหล่ที่กำลังรู้สึกผิดหวัง จู่ๆก็มีข้อความเตือนแจ้งดังเข้า มา นักข่าวหลหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างรวดเร็ว เปิด ข้อความออกดู เมื่อเห็นเนื้อความแล้ว ดวงตาก็ต้องเบิกกว้าง เขารีบเงยหน้าขึ้นมองไปยังเชื่อเงินที่เดินออกห่างไปไกลแล้ว

“คุณชายสามเย่ไปแล้วจริงๆเหรอ ? นี่มันจะไร้หัวใจเกินไป แล้ว เมื่อกี้คุณปู่เย่โทรมาขอร้องเขาขนาดนั้น ขอร้องให้เขากลับ ไป ทำไมเขาถึงได้โหดร้ายกับคนแก่ได้ถึงเพียงนี้ นั้นคือญาติ ของเขาแท้ๆ ” เมื่อนักข่าวหนูเห็นว่านักข่าวคนอื่นๆกำลังจะแยก ย้ายกันไป ก็จงใจพูดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

“เมื่อกี้คุณปู่เย่ โทรเข้าเบอร์ของคุณ ตอนนั้นคุณเองก็อยู่ ใกล้ๆ ได้ยินที่คุณปู่เย่พูดใช่ไหม ตอนนั้นคุณปู่เย่ขอร้องให้คุณ ชายสามเกลับไปใช่ไหม ?”เป็นนักข่าวก็ย่อมต้องสามารถคาด การณ์เรื่องราวต่างๆได้ ได้ยินคำพูดของนักข่าวหลู่ ก็มีคนถาม คำถามขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าคำถามนี้ก็เป็นประเด็นที่ดีได้ ด้วยเช่นกัน

“คุณปู่เย่พูดอะไรนั้นฉันเองก็ได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ฉันได้ยิน คุณปู่เย่พูดให้คุณชายสามเยกลับไปที่ตระกูลเย่ไม่ใช่แค่ครั้ง เดียว ตอนนั้นน้ำเสียงของคุณปู่เย่ฟังดูแล้วเศร้ามาก คุณปู่เย่อง หวังที่จะให้คุณชายสามเยกลับไปจริงๆ” นักข่าวหลู่ก็เป็นคน ฉลาด ย่อมไม่พูดคำพูดที่มันชี้ชัดแน่นอน แต่ความหมายที่เขา อย่างจะสื่อก็สื่อออกไปหมดแล้ว

“คุณปู่เย่ต้องเสียใจมากแน่ๆ หลานชายที่เลี้ยงมาจนโต ขนาดนี้จู่ๆก็บอกว่าจะตัดขาดกับเขา เขาจะไม่เสียใจได้ยังไง? “ในส่วนของตรงนี้ ก็เกิดการขานรับที่ตรงกันขึ้นมาในทันที “ใช่ ใครที่เจอเรื่องแบบนี้ก็ย่อมต้องเสียใจทั้งนั้น ยิ่งคุณปู่เย ก็มีอายุมากแล้ว”

“เมื่อกี้คุณปู่เย่ขอร้องคุณชายสามเย่ให้กลับไปขนาดนั้น คุณ ชายสามเยไม่สนใจเลยสักนิด ช่างไร้หัวใจจริงๆ ”

“ทำไมคุณชายสามเปถึงทำแบบนี้ ? ต้องขนาดนี้เลยเหรอ ? ไม่สนใจบ้าน และไม่สนใจครอบครัวเลย ”

“คงเป็นเพราะคุณปู่เย่ประกาศเรื่องหมั้นหมายระหว่างคุณชาย สามเย่กับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้เมื่อครั้งก่อน และเป็นไป ได้ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ตัดสินใจเรื่องงานแต่งนั้น คุณชายสามเก๋ไม่รู้ เรื่องด้วย ในช่วงเช้าคุณชายสามแยก็เพิ่งจะโยนเจ้าหญิงแห่ง องค์กรโกสต์ซิตี้ออกมาจากประตูของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปไม่ใช่ เหรอ? ”

“ต่อให้จะเป็นแบบนั้น คุณชายสามเก็ไม่น่าจะตัดขาดกับตระ กูลเย่ได้ คุณปู่เย่ไม่ได้รับการยินยอมจากคุณชายสามเก็ตัดสิน ใจแทนเชื่อเงินเรื่องงานแต่งงานกับองค์กรโกสต์ซิตี้ เรื่องนี้ คุณปู่เย่ก็ทำไม่ถูก แต่ทำไมมีอะไรถึงไม่คุยกันดีๆ ต้องมา ทะเลาะกันจนถึงขั้นนี้เลยเหรอ? ”

“หากเรื่องการแต่งงานนี้คุณปู่เย่ปิดบังคุณชายสามเยู่แล้ว จัดการมันขึ้นมาเอง ก็ไม่แปลกที่คุณชายสามเย่จะโกรธ ครั้งที่ แล้วที่คุณชายสามเย่จัดงานแถลงข่าวก็เคยพูดเอาไว้ว่าในชีวิตนี้ จะแต่งงานกับเงินถั่วนิ่งคนเดียว เรื่องนี้คุณปู่เย่เองก็รู้ ตอนนั้นคุณปู่เย่ก็ไม่พอใจเป็นลั่วจึงเป็นอย่างมาก ยังแกล้งป่วยจนต้อง โรงพยาบาลเพื่อใส่ร้ายเป็นชั่วนิ่ง ครั้งนี้คุณปู่เยก็ปิดบังคุณชาย สามเย่คุยเรื่องแต่งงานกับองค์กร โกสต์ซิตี้ นั้นมันองค์กรโกสต์ ซิตี้นะ เห็นชัดว่าครั้งนี้คุณชายสามเยถูกบีบบังคับจนไม่มีทาง เลือกแล้ว”

แน่นอนว่าก็ต้องมีคนพูดเข้าข้างเยซื้อเฉิน และที่พูดก็เป็น เรื่องจริงเช่นเดียวกัน

“ฉันเองก็คิดว่าหากคุณเปิดบังเรื่องงานแต่งงานกับคุณ ชายสามเย่ งั้นที่คุณปู่เย่ทำมันก็เกินไป คุณชายสามเย่เพิ่งจะจับ เจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้โยนออกจากประตูมาเมื่อตอนเช้า คุณปู่เย่เองก็รู้ทั้งรู้ว่าคุณชายสามเย่ไม่อยากจะแต่งงานกับเจ้า หญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วทำไมยังต้องบังคับคุณชายสาม เย่ให้แต่งงานอีกด้วย ? หากคุณปู่เย่คิดถึงความสุขของคุณชาย สามเย่จริงๆก็คงไม่ทำแบบนี้ ”

“ใช่ ที่คุณปู่เย่ทําแบบนี้คงเพราะอยากจะอาศัยอำนาจบารมี ขององค์กรโกสต์ซิตี้ ในส่วนตรงนี้คุณชายสามแยก็ยิ่งน่าชื่นชม คุณชายสามเย่จับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้โยนออกจาก ประตูแบบนี้ คุณชายสามเย่ไม่คิดจะอาศัยบารมีของเจ้าหญิง แห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ และไม่ได้เกรงกลัวอำนาจขององค์กรโกส ต์ซิตี้เลย ”

“ฉันบอกแล้วว่าคุณชายสามเย่ไม่มีทางแต่งงานกับเจ้าหญิง แห่งองค์กรโกสต์ซิตี้แน่ ครั้งที่แล้วที่คุณชายสามเย่จัดงานแถลง ข่าวก็พูดไว้แล้วว่าหากไม่ใช่เป็นลั่วนิ่งก็จะไม่แต่ง ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ตาม ความตั้งใจของ คุณชายสามเก็จะไม่เปลี่ยน “นักข่าวสาวที่เคยเดิมพันเรื่องนี้ เอาไว้ก่อนหน้าเห็นชัดว่า ในตอนนี้เธอมีความมั่นใจอย่างมาก น้ำเสียงก็ดูจะมีความภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน

“ไม่ว่าอนาคตคุณชายสามเย็จะได้แต่งงานกับเงินถั่วนิ่งหรือ ไม่ แต่พฤติกรรมของคุณชายสามเที่มีต่อเจ้าหญิงแห่งองค์กร โกสต์ซิตี้ ในวันนี้ อีกทั้งเรื่องก่อนหน้านั้นที่คุณชายสามเย่ได้ทำ คุณชายสามเก๋ไม่อยากที่จะแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกส ซิตี้จริงๆ ได้ยินว่าอำนาจและบารมีขององค์กรโกสต์ซิตี้นั้นยิ่ง ใหญ่มาก ดังนั้นแค่เรื่องที่คุณชายสามเยปฏิเสธการแต่งงานใน ครั้งนี้ก็ทำให้ฉันนับถือเป็นอย่างมาก ”

“คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางที่จะปฏิเสธ และไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ด้วย คุณชายสามเย่องอาจและสง่าผ่าเผยจริงๆ

ความเห็นของผู้คนเริ่มที่จะโอนเอน และโอนเอนไปยังฝั่งของ

เย่อเฉิน

“สิ่งที่คุณปู่เย่ทำก็ทำเพื่อคุณชายสามแย่ทั้งนั้น ต่อให้คุณปู่เย่ จะทำไม่ถูก ที่คุณชายสามเก็ทำเกินไปหรือเปล่า ? ” นักข่าวหลู่ ก็เริ่มที่จะร้อนใจ อยากที่จะพลิกสถานการณ์อีกครั้ง

“หากคุณปู่เย่หวังดีกับคุณชายสามเย่จริงๆ เรื่องการหมั้น หมายก็ไม่ควรที่จะปิดบังคุณชายสามเย่ อย่างน้อยก็น่าจะถาม ความเห็นของคุณชายสามเข่สักหน่อย และอย่างน้อยก็น่าจะขอ ความยินยอมจากคุณชายสามเยู่ด้วย แต่สถานการณ์ในตอนนี้เห็นชัดว่าคุณชายสามเย่ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย คุณปเยีปิดบังเรื่อง นี้กับคุณชายสามเย่มาตั้งแต่ต้นจนจบ นี่ก็ชี้ชัดว่าต้องการให้คุณ ชายสามเย่เสียสละความสุขของตัวเองเพื่อที่จะปีนป่ายอำนาจ และบารมีขององค์กรโกสต์ซิตี้ แบบนี้ยังเรียกว่าหวังดีกับ คุณชายสามเยอีกเหรอ ? ” มีคนพูดแย้งกลับทันที

“ตอนนี้การแต่งงานเป็นเรื่องอิสระ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือก ความสุขของตัวเอง คุณปู่เย่ไม่เพียงลิดรอนสิทธิ์ในการเลือก ความสุข ของคุณชายสามเย่ แต่ยังปกปิดเรื่องงานแต่งของคุณ ชายสามเยู่กับองค์กรโกสต์ซิตี้ หากจะพูดว่าคุณปู่เย่ไม่ได้ทำเพื่อ หวังผลประโยชน์ แล้วทำเพื่ออะไรกัน? ”

“ตอนเช้าเรื่องที่คุณชายสามเย่จับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ ซิตี้โยนออกจากประตูของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเรื่องก็แพร่สะพัด ไปทั่ว คุณปู่เย่ไม่มีทางที่จะไม่รู้ จับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้

โยนออกจากประตูได้ก็แสดงให้เห็นว่าคุณชายสามเย่นั้นรังเกียจ องค์กรโกสต์ซิตี้แค่ไหน แต่ในสถานการณ์แบบนี้คุณปู่เย่ยัง บังคับคุณชายสามเย่ให้แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ อีกเรื่องนี้คิดๆแล้วก็ช่างน่ากระเทือนใจนัก หากฉันเป็นคุณชาย สามเย่ ฉันคงทำมากกว่าที่คุณชายสามเท่ ยิ่งไปกว่านั้นคุณ ชายสามเย่ยอมละทิ้งผลประโยชน์มากมายของตระกูลเย่ ไม่เอา อะไรของตระกูลเย่เลยแม้แต่อย่างเดียว อยากรู้จะมีใครสักกี่คน ที่ทำแบบนี้ได้ ? เพราะฉะนั้นฉันนับถือคุณชายสามเย่จริงๆ

“ใช่ คุณชายสามเย่ละทิ้งทุกอย่างของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป เกรงว่านอกจากคุณชายสามเได้ง่ายๆอย่าง แน่

“ไม่ว่ายังไง ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนแก่ด้วย และยัง สุขภาพร่างกายของคนแก่อีก คุณปู่เย่ก็อายุมากแล้ว หากเป็น อะไรขึ้นมา คุณชายสามเยก็คงจะปัดความรับผิดชอบนี้ไปไม่ได้ หรอกมั้ง?

“คุณอย่าพูดอะไรที่มันน่ากลัวและทำให้คนอื่นตกใจกลัวจะดี กว่า คุณปู่เย่ไม่สนใจความสุขของคุณชายสามเย่เลยด้วยซ้ำ บังคับให้คุณชายสามเย่แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ หรือต้องให้คุณชายสามเยทำตามในสิ่งที่คุณปู่เย่ต้องการ แต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก อีกทั้งต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ ตัวเองรังเกียจ ถึงจะเรียกว่ากตัญญูงั้นเหรอ ?

“ขอถามหน่อยมีผู้ใหญ่ที่ไหนที่ขอให้ลูกตัวเองสละความสุข ส่วนตัวเป็นเงื่อนไขแลกกับความกตัญญู ? เรื่องนี้คุณปู่เย่ทำไม่ ถูกอยู่แล้ว คุณชายสามแย่ทำเพื่อความสุขของตัวเองมันผิดเห รอ ? ”

“แต่ก็ไม่ควรเมินเฉยกับชีวิตของคนแก่ด้วยเช่นกัน คุณปู่เย่กับ คุณย่าเย่ก็อายุมากแล้ว จะแบกรับกับผลกระทบที่ตามมาได้ยังไง ? ” นักข่าวหลู่ก็ขึ้นเสียงพูดออกมาอีกครั้ง นักข่าวหลู่ในตอนนี้ ก็จับเอาแต่ประเด็นนี้ นั้นก็คือสุขภาพร่างกายของคนแก่

“อะไรคือเมินเฉยชีวิตของคนแก่ ? คุณปู่เย่สามารถแอบ จัดแจงเรื่องงานแต่งงานลับหลังคุณชายสามเก๋ได้ อีกทั้งคุณปู่เย่ ก็เพิ่งจะจัดงานแถลงข่าวไป ดูไปแล้วคุณปู่เย่ก็สุขภาพดีมากนอกจากนี้ คุณปูเก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เรื่องที่คุณปู่เย่ ปิดบังเรื่องงานแต่งของคุณชายสามเยู่กับองค์กรโกสต์ซิตี้ คุณ เยย่อมต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว จะยอมรับผลอะไรไม่ได้ ได้ยังไงกัน? ”

“ใช่ คุณปู่เย่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ? ทำไมคุณต้องพูด อะไรที่มันฟังดูแล้วน่ากลัวอย่างนี้ด้วย?!

“ใช่ เห็นๆกันอยู่ว่าคุณปู่เย่นั้นสบายดี ที่คุณทำมันแห่งคนอื่น เขาหรือเปล่า ? ที่คุณทำมันสร้างความวุ่นวายเพื่อให้บรรลุเป้า หมายตัวเอง ต่อให้อยากที่จะเขียนข่าวก็ไม่ควรไร้จิตสำนึกอย่าง นี่หรอกมั้ง ? ”

“นี่คุณต้องการที่จะป้ายสีกล่าวโทษคุณชายสามเงั้นเหรอ ? คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ?

แต่ว่า ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีข่าวใหญ่เกิดขึ้น !!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ