ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1092 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว นี่มันจังหวะนรกของเขา(2)



บทที่ 1092 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว นี่มันจังหวะนรกของเขา(2)

“ในเรื่องของความรู้สึกนั้น ถ้าคนนอกเข้าไปยุ่งมั่นคงไม่ดี ตอนนี้เป็นลั่วจิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยเหมือนกัน เธอไม่รู้ว่า สถานการณ์แบบนี้ควรจะไปพูดกับหลิวหยิงว่ายังไงดี แต่มีอยู่ เรื่องหนึ่งที่เป็นลั่วจึงมั่นใจนั่นก็คือ เธอไม่อยากให้หลิวหยิ่งรู้สึก เจ็บปวด

“รอดูสถานการณ์ก่อนเถอะ”เป็นลั่วถึงกังวลว่าถ้าจู่ๆตัวเองขึ้น มือเข้าไปยุ่งจะทำให้เรื่องมันซับซ้อนไปกันใหญ่ แล้วพอถึงตอน นั้นหลิวหญิงก็แย่ลงไปอีก เพราะงั้นรอดูท่าทีที่ซื้อมทรงจะทำกับ หล่อนก่อนแล้วกัน เป็นลั่วจึงเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ก่อน

“ฉันเห็นด้วยกับความคิดของฉิงฉิงที่ว่าคนนอกไม่ควรเข้าไป ยุ่งกับความรู้สึกของพวกเขา เพราะยิ่งเข้าไปยุ่งมันก็ยิ่งวุ่นวาย อี กอย่างซื่อก็เคยบอกไว้ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ฉันรู้สึกว่าพวกเราควรจะให้โอกาสซื้ออีกครั้งหนึ่ง ไม่แน่ สุดท้ายทั้งสองอาจจะจบลงอย่างมีความสุขก็ได้ไปหยูหนึ่งเป็น เพื่อนของซือมู่หรง ดังนั้นจึงลำเอียงเข้าข้างชื่อมทรงเล็กน้อย

เมื่อเป็นลั่วนิ่งได้ยินไป๋หยูหนึ่งพูด ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา แวบหนึ่ง บางทีในใจเธอก็คงคาดหวังว่าเรื่องนี้จะจบลงได้ด้วยดี เหมือนกัน เธอหวังว่าหลิวหยิงจะมีความสุข

ส่วนซือถูมู่หรงที่ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าอยากจะแก้แค้นจริงรึเปล่า? ถ้าหลิวหยิงยังไม่รู้อะไร แล้วตอนนี้เธอไปบอก หลิวหยิงมันก็จะทำให้หลิวหยิงเจ็บปวดเปล่าๆ

ไม่งั้น พอถึงตอนนั้นหลิวหญิงก็อาจจะใจสลาย ดังนั้นเป็นวง จึงตัดสินใจว่าจะยังไม่พูด

“ความลับไม่มีในโลก ตอนนี้ปิดได้ แต่มันก็ปิดไม่ได้ทั้งชีวิต หรอก”หลิงเอ๋อถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ เห็นด้วยกับคําพูดของไปหยูหนิง

“แน่นอนว่าฉันคงไม่เห็นด้วยกับการที่จะโกหกแบบนี้ แต่บาง ครั้งการโกหกก็เป็นเรื่องที่ดีต่อทุกคน”เดิมไปหยหนึ่งเป็นคนตรง ไปตรงมา เพราะงั้นการโกหกจึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุด สำหรับเธอ แต่เธอก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะรีบเปิดเผยออกไป

“หลิงเอ๋อเคยได้ยินประโยคหนึ่งไหม? “ไปหยหนึ่งหันไปหา หลิงเอ๋อ แล้วถามออกไปแบบแปลกๆ

“ประโยคอะไร? ? “หลิงเอ๋อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความ

งุนงง

“ถ้าเกิดว่าจะโกหก งั้นก็ขอให้โกหกให้ได้ไปตลอดชีวิตไปห ยหนึ่งไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรู้สึกอะไรมากหรอก ฉะนั้นจึงถือ เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธอในการที่ต้องพูดคำพูดที่แฝงไปด้วย ความรู้สึกแบบนี้ออกมา

คุ ณ ที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆมาโดยตลอดเงยหน้าขึ้นแล้วมอง ไปทางไปหยูหนิง ผู้หญิงคนนี้มีความต้องการขนาดนี้เลย หรอ?
โกหกหล่อนทั้งชีวิต? นี่หล่อนคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆหรอ?

พอคิดถึงความเป็นไปได้ สีหน้าของคุ ณฟูก็เคร่งขรึมลง อย่างเห็นได้ชัด

“ด้วยความสามารถของซื้อหรง ขอเพียงแค่เขาต้องการ เขาก็จะโกหกต่อไปได้ตลอดทั้งชีวิตไปหยูหนิงเข้าใจซื้อทรง ดี เธอเชื่อว่าเขาจะทำอย่างนั้นได้

“ดังนั้น พวกเรารอดูท่าทีของซื้อทรงก่อน แล้วก็รอดูว่าเรื่อง ราวมันจะเป็นยังไงต่อไป”ไปหยูหนิงยังคงพูดจาได้อย่างมีเหตุผล และตรงประเด็น

“ถ้าเกิดเธอพูดแบบนี้ ฉันก็เห็นด้วย”หลิงเอ๋อเปลี่ยนความ คิดทันทีหลังจากที่ได้ยินไปหยูหนิงวิเคราะห์

เงินถั่วนิ่งไม่พูดอะไรออกมาเลย เธอใช้มือจับแก้วไว้ข้างหนึ่ง พลางเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ฉิงฉิง ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ เธอไม่อยาก โกหกเพื่อน แต่ก็กังวลว่าถ้าบอกความจริงออกไป มันจะทำให้ เพื่อนเจ็บปวด”พอไปหยูหนิงเห็นท่าทีของเงินถั่วนิ่ง เธอก็เดา ความคิดในใจของเงินลั่วนิ่งได้ไม่ยากเลย

“เรื่องนี้มันน่าลำบากใจมากจริงๆ ถ้าเป็นฉันล่ะก็ ฉันก็คงรู้สึก ขัดแย้งอยู่ในใจมากเหมือนกัน”หลิงเอ๋อก็มองไปที่เป็นถั่วนิ่ง แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

เป็นลั่วจึงยังคงเม้มปากแน่นไม่พูดไม่จา
“ฉิงฉิง เป็นอะไรไป? คิดอะไรอยู่? “เนื่องจากหลิงเอ๋อรู้สึก กังวลเล็กน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะผลักเป็นลั่วนิ่งเบาๆ

เงินถั่วนิ่งเบนสายตามาทางหลิงเอ๋อ จากนั้นก็พูดออกมา ช้าๆ ฉันกำลังคิดว่าถ้าเกิดตอนนี้มีคนมาบอกฉันว่าเชื่อเงิน หลอกฉัน วางแผนอะไรกับฉัน ฉันจะทํายังไง? ”

“แล้วเธอจะทำยังไง? “หลิงเอ๋อตาเป็นประกายขึ้นมาแล้ว ท่าท่าสนอกสนใจทันที”ฉันรู้สึกว่าถ้าเป็นเธอ ตามนิสัยของเธอ แล้ว ไม่แน่เธออาจจะฆ่าเยซื้อเฉินไปแล้วก็ได้

“ฉันคิดว่า ฉันคงจะเศร้า เสียใจและเจ็บปวดมาก”เป็นลั่วนิ่ง ค่อยๆหลับตาลง ถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องสมมุติ แต่พอคิดว่ามัน ก็มีความเป็นไปได้ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจมากๆ

เช่นกัน ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องของหลิวหยิง หลิวหยิ่งจะทนได้ยัง ไง?

“อย่างที่หยูหนิงพูด ถ้าซื้อหรง โกหกหลิวหยิง ฉันก็หวังว่า ซื้อถูมู่หรงจะโกหกได้ตลอดทั้งชีวิต และไม่ปล่อยให้หลิวหยิงได้ พบเจอกับความจริงอันโหดร้าย เงินมั่วนิ่งเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำ เสียงที่หนักแน่นอย่างเห็นได้ชัด

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เธอเลือกที่จะไม่บอกหลิวหยิง ชั่วคราว เธอไม่อยากให้หลิวหยิงรับความเสียใจนั้นไว้ นั่นมัน เจ็บปวดเกินไป

ไป๋หยูหนิงมองเงินลั่วนิ่งด้วยความอึ้งนิดๆ แล้วเงียบไปครู่ หนึ่ง
“ฉิงฉิง ดูจากที่เธอพูดเธอคงรักคุณชายสามเย่มากจริงๆ และ ก็คงจะไปไหนจากคุณชายสามเย่ไม่ได้แล้วด้วย หลังจากที่หลัง เอ๋อได้ยินเงินมั่วนิ่งพูด สีหน้าของเธอก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

“ยิ้ม”เงินลั่วฉิงตื่นเต้นไปกับหลิงเอ๋อด้วย แถมยังส่งสายตามี เลศนัยพร้อมกับพยักหน้ารับ คงจะจริง เธอรักเย่อเงินเข้าแล้ว แต่รักก็คือรัก ไม่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธเลยนี่นา

“หม ฉันไม่ยอมรับได้ไหมเนี่ย? “มุมปากของจูหลิงเอ๋อกระตุก ขึ้นมาทันที เดิมเธอแค่อยากจะแกล้งพูดแหย่เป็นลั่วถึง แต่ใครจะ รู้จู่ๆกลับต้องมากลืนน้ำลายตัวเองซะงั้น

“เธอพูดเอง ไม่ยอมรับก็ต้องยอมไปหยูหนิงหัวเราะออกมา อย่างอดไม่ได้ ถ้าคุณชายสามเยได้ยินคำนี้เข้า ไม่รู้ว่าเขาจะมี ปฏิกิริยายังไง? ”

“ถ้าเกิดว่าคุณชายสามเย่ได้ยินเข้าก็คงจะลากฉิงฉิงไปที่เตียง จากนั้นก็คงจะทำให้ฉิงฉิงลงจากเตียงไม่ได้ไปถึงสามวันสามคืน เลยเชียวแหละ”ฉู่หลิงเอ๋อรู้สึกว่าเธอไม่ได้พูดเกินความจริงไป เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่แน่คุณชายสามเย่อาจจะทำมากกว่าที่เธอ คิดอีก

“เก่งขนาดนั้นเลยหรอ? “ไปหยูหนิงเบิกตาโพลงด้วยความ ตะลึง เธอหันไปทางเงินมั่วนิ่ง แล้วก็ยิ้มแบบทีเล่นทีจริงออก มา”ฉิงฉิง คุณชายสามเย่เก่งขนาดนั้นเลยหรอ? เก่งขนาดนั้น จริงๆหรอ? ”

ขณะที่ไปหยูหนิงถาม เธอก็ใช้น้ำเสียงที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด

เป็นลั่วนิ่งไม่ได้ตอบ ทว่าจู่ๆๆ ณ ที่นั่งอยู่ข้างๆ มาโดยตลอด ก็ลุกขึ้น แล้วดึงไป๋หยูหนิงไป จากนั้นก็เข้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ของไปหยูหนิงแล้วพูดกระซิบออกไปวางใจเถอะ ผู้ชายของคุณ เก่งกว่านั้นอีก”

“ซิ นายนี่มันขี้โม้ไปหยูหนิงไม่ได้ตอบโต้กลับภายในทันที แต่พอรู้สึกตัวก็เถียงออกไป แต่เห็นได้ชัดเลยว่าความสนใจ ทั้งหมดของเธอพุ่งไปที่คำว่า “เก่ง

“คุณลองได้นะ”คุ ณกระตุกยิ้มขึ้นมา แถมในน้ำเสียงยังคง มีเลศนัย

สีหน้าของไปหยูหนิงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอผลักคุ ณ ฟูออกไปโดยตรง หน้าไม่อาย

ในที่สุดไป๋หยูหนิงก็มีปฏิกิริยาตอบกลับซักทีเพราะเข้าใจใน

สิ่งที่คุ ณฟูพูดแล้ว

“นายอย่ามาพูดอะไรไร้สาระนะ นายไม่ใช่ผู้ชายของฉัน” หลัง จากที่ไปหยูหนิงรู้สึกตัวถึงได้คิดคำพูดที่จะเถียงออกมาได้

ทว่าคุณกลับไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของไปหยูหนิง ใบหน้า ของเขายังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม

“วางใจเถอะ อีกไม่นานก็เป็นซักพักจู่ๆคุณก็เข้ามากระ ซิบที่ข้างๆหูไปหยูหนังอีก เขารู้สึกว่าเขาไม่อาจใช้วิธีอ้อมค้อมได้ ตลอด เนื่องจากไปหยูหนิงอ่อนหัดในด้านความรู้สึกอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเขาไม่แหย่เธอ เธอก็คงจะไม่เข้าใจไปทั้งชีวิต

“อะไรนะ? “ไปหยูหนังทั้งโมโหทั้งร้อนใจ เธอไม่รู้ว่าจะพูด อะไรออกมาดีเพราะอยู่ต่อหน้าทุกคน เธอทำได้เพียงแค่ทำหน้า บึงแล้วจ้องไปที่เขาด้วยความโมโห

“ไอ้หยา วันนี้ฉันคงอกแตกตายเพราะเหม็นความรักแน่ๆ” หลิงเอ๋อมองไปที่ไปหยูหนิงแล้วจงใจพูดแหย่ไปหยหนึ่ง

“หลิงเอ๋อ เธออย่าพูดมั่วซั่วไปหยูหนิงเดินตรงมาที่ตรง หน้าหลิงเอ๋อ แน่นอนว่าเพื่อเป็นการสลัดคุ ณฟออกมา ผู้ชาย คนนั้นหน้าด้านหน้าทนและหน้าไม่อายเกินไปแล้ว เธอจําเป็น ต้องอยู่ให้ห่างจากเขาไว้

หลังจากความวุ่นวายผ่านไป บรรยากาศมันก็ผ่อนคลายลง มาก ถึงเงินถั่วนิ่งจะยังกังวลเรื่องของหลิวหยิง แต่เธอเป็นคนเก็บ อารณ์เก่งมาโดยตลอด แถมเงินมั่วนิ่งก็ไม่อยากให้ทุกคนเป็น กังวลแทนเธอ ดังนั้นจึงไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีก

ต่อมางานเลี้ยงดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีเรื่องอะไร เกิดขึ้นอีก ถึงแม้ไปหยิงจะเหลือบมองเงินถั่วนิ่งอย่างดุดันเป็น ครั้งคราว ทว่าก็ไม่กล้าหาเรื่องอีก ส่วนเฉิงโหราโหรวก็ทำตาม ไปหยิง ทั้งสองได้แต่อยู่เงียบๆ ไม่ได้ก่อปัญหา

และแน่นอน เฉิงโหรว โหรวยังคงได้รับความนิยมจากทุกคน เหมือนเดิม เธอตกอยู่ในความมึนเมา และล่องลอยไปมา

พองานเลี้ยงจบลง หลังจากที่แขกทยอยกลับ เป็นลั่วฉิง ฉู่หลิง เอ๋อ ไปหยูหนิงก็คิดว่ากำลังจะกลับ
“เห้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย? นี่ นี่มันเป็นช่วงเวลาแห่งความเป็น ความตายหรอ? “จู่ๆ หลิงเอ๋อก็ร้องอุทานออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ