ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1255 ตาสว่างสักที (2)



บทที่ 1255 ตาสว่างสักที (2)

ลูกของตัวเองไม่ใช้นามสกุลตามตัวเอง แบบนี้ไม่ดีหรอกมั้ง? แน่นอน เด็กๆจะใช้นามสกุลถังพวกเขาเองก็ดีใจ ทว่าก็ต้อง คำนึงถึงจิตใจของเยซือเฉินด้วย

ท่านถังยิ้มไปทางท่านย่าถัง “เรื่องของเด็กให้พวกเขาตัดสิน

ใจกันเอง” ท่านถังเป็นคนที่ฟังความประชาธิปไตยมาโดยตลอด เรื่อง

บบนี้เขาก็ไม่คิดที่จะยุ่งเกี่ยวมาก

“โอเค งั้นก็แบบนี้ละกันครับ” เยซื้อเฉินมองไปทางเด็กน้อยทั้ง สอง ใบหน้าของเขายิ้มแฉ่ง ในเมื่อเด็กๆไม่อยากเปลี่ยน แน่นอนว่าเขาเองก็ให้ความเคารพเด็ก จริงๆแล้วหากเป็นไปได้ เขาเองก็ไม่อยากใช้นามสกุลเ

ทุกอย่างในบ้าน ทำให้เขาไม่เหลือความใยดีอะไรเลย เรื่อง ที่คุณปู่เย่และคุณย่าเท่านั้นทำให้เขารู้สึกเสียใจมากๆ

ในเมื่อเยซือเฉินเอ่ยปากพูดแล้ว อีกอย่างเย่ซื้อเฉินก็เหมือน ไม่ได้โกรธอะไร ท่านย่าถังก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้ว

“ถังจื่อซี หนูบอกว่าหนูชอบคุณปู่ดู่ งั้นหนูอยากเรียนอะไรบาง อย่างกับคุณปู่ไหม?” คุณปู่เห็นว่าปัญหาเรื่องนามสกุลจัดการ เรียบร้อยแล้ว ดวงตาคู่หนึ่งก็มองไปทางถังจื่อซีด้วยความเปล่ง ประกายอีกครั้ง
คุณปู่ เองก็พอใจในตัวถังจื่อไม่มากๆ ว่าเจ้าเด็กถึงชื่อไม่ถึง แม้ว่าอายุจะน้อย กลับมีความเห็นเป็นของตัวเองมากๆ อีกอย่าง ถังจื่อไม่มีความรู้สึกเหมือนเข้าหายาก แค่ดูก็รู้ว่าถังอโม่ไม่ได้ คุยเจรจาได้ง่ายๆ

ทำให้คำพูดที่เขาจะพูดออกมาถูกกลืนลงไปทุกครั้ง ดังนั้น ตลอดทางจากโรงพยาบาลมาถึงบ้านถัง เขายังหาโอกาสพูด เรื่องนี้ไม่ได้เลย

ทว่าคุณรู้สึกว่าเจ้าเด็กถังจื่อเป็นเด็กดีมากๆ น่ารักมากๆ อีกอย่างเจ้าเด็กถังจื่อยังบอกอีกด้วยว่าชอบเขา ดังนั้นคุณปู่ อดไม่ไหวแล้วจริงๆ

อีกอย่างเรื่องการรับลูกศิษย์ก็ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องปิดบัง ตอนนี้อยู่ที่บ้านถังพอดี อยู่ต่อหน้าคนในบ้านตั้งอยู่ต่อหน้าพ่อ แม่ของเด็ก จะได้พูดคุยเรื่องนี้พอดี

คุณปู่กูรู้สึกว่าถังจื่อซีน่าจะคุยง่ายกว่าถังจื่อโม จริงๆ แล้วคุณ ปู่ชอบทั้งสองคนเลย อยากรับเป็นลูกศิษย์ทั้งสองเลย เขาอยาก จะรับถังจื่อ ที่ค่อนข้างเข้าหาง่ายมาก่อน

ทุกคนได้ยินคำพูดของคุณปู่แล้ว ทันใดนั้นก็เข้าใจความ หมายของเขาทันที โดยเฉพาะท่านปู่ถัง ก่อนหน้านี้ท่านถึง เห็นการตอบสนองของหมูผ่านการถ่ายทอดสดแล้วว่าหยู กําลังคิดอะไรอยู่

แต่ว่า บ้านถังของพวกเขาเคารพในการตัดสินใจของเด็กๆ มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจื่ออายุเพียงแค่ห้าขวบ ทว่าจื่อซีก็เป็นเด็กที่มีความเห็นเป็นของตัวเอง ไม่ได้เป็นคนหูเบาที่สามารถถูก คนอื่นหลอกได้ง่าย

ถังจื่อซีดูแล้วเป็นเด็กดี ใสซื่อ ทว่าเรื่องอื่นๆ ต่างก็รอบคอบยิ่ง กว่าถังอโม่ ถังจื่อ คือยัยเจ้าเล่ห์คนหนึ่งเลย

คุณปู่ อยากจะหลอกถังจื่อซี นั่นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน

ขณะนี้ทุกคนในห้องรับแขกต่างก็เข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้น ไม่มีใคร เปิดปากพูดอะไร แม้กระทั่งคนที่ใจร้อน หงุดหงิดง่ายอย่างท่าน ย่าถังก็ยังเงียบสงบ

คุณปู่เห็นการตอบสนองของคนในบ้านถังแล้วก็ตะลึงงันไป เลย เขารู้ว่าบ้านถังเคารพการตัดสินใจของเด็ก ทว่าไม่ว่ายังไง แล้วเด็กคนนี้ก็พึ่งอายุห้าขวบ การรับลูกศิษย์ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องหนึ่ง นี่เกี่ยวข้องกับทั้งชีวิตของเด็กเลยนะ

บ้านถังตอบสนองกลับแบบนี้เลย? คุณหนูใหญ่บ้านถึงกับ เย่ซือเฉินไม่พูดอะไรเลยเหรอ

“คุณปู่คะ คุณอยากให้หนูเรียนอะไรกับท่านคะ” ถังจื่อซี มองไปทางคุณปู่ ยิ้มได้เบิกบานมาก หน้าตาซื่อๆ น่ารักเป็น พิเศษ

“คุณคือคุณหมอ คุณอยากให้หนูเรียนการแพทย์กับ คุณปู่กู่ได้ยินการไถ่ถามของถังจื่อแล้ว พอใจเป็นอย่างมาก คน ทั้งบ้านถึงนี้ยังไม่มีมารยาทเท่าเจ้าเด็กคนนี้คนเดียวเลย

“แต่ว่าหนูไม่ชอบเป็นหมอค่ะ” ถังจื่อซึกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างจริงใจ

“ทําไมจอ ถึงไม่ชอบเป็นหมอล่ะ?” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า คุณนึกไม่ถึงเลยว่าถังจื่อซีจะตอบแบบนี้ การปฏิเสธตรงเกิน ไปหน่อยแล้ว

“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบค่ะ ไม่มีเหตุผลเลยค่ะ ก็เหมือนกับที่หนู ชอบท่าน ก็ไม่มีเหตุผลเช่นกันค่ะ หนูชอบคุณปู่ ก็ไม่มีเหตุผล ค่ะ” ดวงตาขาวดำของถังจ่อยิ้มโค้งขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าแฝง รอยยิ้มด้วยจะน่ารักกว่า

อีกอย่างคำพูดประโยคนี้ของถังจื่อซี กลับทำให้คุณอึ้งไป เลย ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ คำตอบนี้ตรงมาก

อีกอย่างถังจื่อซียังพูดเสริมต่อข้างหลังอีกด้วย ทันใดนั้นคุณปู่ กู่ไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไรดี

“งั้นจื่อซีชอบอะไรล่ะ? เอซีโตมาอยากเป็นอะไร?” คุณปู่กูไม่มี ทางยอมแพ้แบบนี้แน่นอน คุณรู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่ยังไม่มีการ วางแผนเกี่ยวกับตัวเองในอนาคต เธอบอกว่าเธอไม่ชอบเป็น หมอ ต้องเป็นเพราะยังคิดไม่ออกมาโตมาอยากเป็นอะไรแน่นอน

“หนูชอบการออกแบบค่ะ เหมือนกับคุณแม่ หนูชอบการทำ ธุรกิจ เหมือนกับคุณพ่อค่ะ” ทว่าคุณปู่หยุดไป ถังจื่อซีก็ตอบเลย อีกอย่างตอบได้ชัดเจนมากๆ

“คุณปู่คะ ในอนาคตหนูน่าจะยุ่งมากค่ะ หนูจะออกแบบ เครื่องประดับสวยๆมากมายให้คุณพ่อ คุณยาย คุณย่าน้อย แล้ว ก็ธุรกิจมากมายของคุณพ่อค่ะ หนูยังจะช่วยคุณพ่อจัดการกับบริษัทพวกนั้น ไม่ให้คุณพ่อเหนื่อยเรียนการแพทย์กับท่านแล้วค่ะถังจื่อมีการวางแผนเกี่ยวกับ อนาคตของตัวเองอย่างชัดเจน อีกอย่างแต่ละเรื่องได้ ชัดเจนมาก

การวางแผนชีวิตของถังจื่อซีต่างรอบตัวญาติของตัว เอง

“เจ้าเด็กเจ้าเด็กทำไมถึงเด็กดีขนาดท่านถัง ได้ยินแล้วดีใจทั้งซึ้งใจ

คุณอึ้งเลย ตอนแรกเขายังคิดว่าถังจื่อ จะง่าย ไม่ ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงถังจื่อจะปฏิเสธปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ตรงๆ แบบเลย

“หยูนายจะรับในบ้านพวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเลยแม้น้อย พวกเราเคารพในการ ตัดสินใจของเด็กๆ ตอนเด็กไม่เห็นด้วย งั้นเรื่องคงไม่วิธีแล้วท่านถังก็อดหัวเราะได้ เขาเจ้าเด็กจอบ้านเป็นเด็กความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น

คุณถอนหายใจๆ นัยน์ตาหนึ่งกันยังถังไม่ที่อยู่ทว่าถังจื่อ โม่กลับหลบสายตาไป ต้องถามแล้ว ความ หมายชัดเจนมากแล้ว

สีหน้าของคุณแย่ทันที เขาง่ายเนี่ยตระกูลเพียงคนเดียว เขาไม่แต่งงาน ไม่ลูก ดังนั้นจึงอยากหา ลูกศิษย์ เขาสามารถให้การแพทย์ของตระกูลขาดหายไปมือของเขา

เขาอยากจะหาลูกศิษย์คนหนึ่ง ทำไมถึงยากขนาดนี้ล่ะ?

เขาหากมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอคนที่เขาชอบ ยังเจอทีเดียวสองคนอีกด้วย ทั้งสองต่างก็เป็นคนที่เขาชอบและ พอใจมากๆ ตอนแรกเขาคิดว่าความหวังของเขาจะสำเร็จแล้ว

คิดไม่ถึงว่า เซอร์ไพรส์มาได้กะทันหัน ก็จากไปเร็วเช่นกัน จู่ๆก็ ถูกปฏิเสธจากเด็กทั้งสองไปแบบนี้เลย

ทันใดนั้นคุณปู่กู้ก็ผิดหวังมาก รู้สึกแย่มากๆ ดังนั้นรู้สึกว่าถูก โจมตีอย่างสาหัส ทันใดนั้นก็นั่งลงบนพรมเลย แล้วถอนหายใจ ไม่หยุด

“หรือว่า หนูลองหาเวลาเรียนกับท่านดูดีไหมคะ?” ถังจื่อเห็น สภาพของเขาแล้วก็อดไม่ได้

“หาเวลา? หาเวลายังไง?” คุณปู่ได้ยินคำพูดของถังจื่อแล้ว ก็อึ้งไปเลย เรียนด้านการแพทย์ต้องหาเวลาด้วย? เขาใช้เวลา ตั้งแต่เล็ก เวลาเกือบครึ่งชีวิตของเขามาเรียนทักษะด้านการ แพทย์เลยนะ

“ก็คือถ้าหนูมีเวลาหนูก็จะเรียนกับท่านค่ะ” ถังจื่อพูดความ เห็นของตัวเองออกมาอย่างจริงจัง จริงๆแล้วถังจื่อซีเองก็จริงจัง ไม่ใช่เพราะเห็นสภาพของคุณปู่แล้วทนไม่ได้

สิ่งที่ถังจื่อซีเรียนในโรงเรียนตอนนี้ง่ายเกินไปแล้ว เรียน ออกแบบก็ไม่ยาก เธอสามารถหาเวลาออกมาเรียนการแพทย์เล็กน้อยกับคุณได้

ภายในขอบเขตที่มีความสามารถ เรียนอะไรเยอะหน่อยก็ไม่ ได้เสียหายอะไร คุณปู่กู้ยิ่งอึ้งไป

เลย มีแบบนี้ด้วยเหรอ? หาเวลามาเรียน “ถ้าท่านไม่อยากก็ช่างเถอะ ถังจื่อเห็นเขาอึ้งไปไม่พูดอะไร ก็ถอนกายใจเบาๆ

“แล้วหนูมีเวลาเมื่อไหร่ล่ะ?” นัยน์ตาของคุณปูเปล่งประกาย ขึ้น ทันใดนั้นรีบถามกลับไปประโยคหนึ่ง ถึงแม้ว่าการหาเวลา มาเรียนการแพทย์เป็นเรื่องที่เขารับไม่ค่อยได้ ทว่าเขาเองก็ไม่ อยากพลาดโอกาสนี้ไป

ตอนนี้เจ้าเด็กยังอายุน้อย มีเวลาอีกมากมายที่สามารถเรียน ได้ พอเรียนไปช่วงหนึ่งแล้วไม่แน่เจ้าเด็กอาจจะชอบแพทย์แผน จีนขึ้นมาเองแล้วก็ได้ พอถึงเวลาไม่ต้องให้เขาเร่ง เจ้าเด็ก อยากจะเรียนเองแล้ว

เรียนการแพทย์นั้นหากแค่หาเวลามาเรียนคงเรียนได้ไม่ดี แน่นอน โดยเฉพาะแพทย์แผนจีน นั่นเป็นกระบวนการที่ยาวนาน มาก ต้องใช้เวลาและสติปัญญาเยอะมาก

“จริงๆแล้วเวลาไม่ใช่หลักสำคัญค่ะ คุณแม่ของหนูเคยพูดว่า หากจะตั้งใจเรียนรู้สิ่งๆหนึ่ง จะต้องเรียนรู้ได้ดีแน่นอน ไม่ได้ขึ้น อยู่กับเวลาทั้งหมด มีบางคนที่ใช้เวลาทั้งชีวิตไปเรียนรู้บางอย่าง ก็มีความเป็นไปได้ที่เรียนไม่เข้าใจเลย บางคนใช้เวลาไม่กี่ปีไป เรียนรู้บางอย่าง ขอแค่ตั้งใจก็สามารถเรียนเข้าใจได้ค่ะ” ถังจื่อซีมองไปทางคุณปู่ นัยน์ตาคู่หนึ่งเหมือนมองจิตใจคนออก!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ