ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1149 คนไร้ยางอายเยอะเกินไป ถูกคุณชายสามเย่ตอกหน้าเต็มๆ (2)



บทที่ 1149 คนไร้ยางอายเยอะเกินไป ถูกคุณชายสามเย่ตอกหน้าเต็มๆ (2)

เขาว่าแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พี่สามจะโทรหาพวกเขาโดย เฉพาะได้ยังไง ทั้งยังเรียกให้พวกเขาดื่มเหล้า

มีเรื่องจริงๆด้วย ทั้งยังเป็นเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้!!

เวลานี้ทุกคนเข้าใจทันที สายตาที่มองไปทางเชื่อเงินไม่นิ่ง เฉยแล้ว นี่เป็นการโอ้อวด เป็นการโอ้อวดอย่างเห็นได้ชัด!!

“พี่สาม พี่ทำเกินไปแล้ว พี่เรียกพวกเราออกมากลางดึก มา อวดพวกเรา ทำเกินไปแล้วจริงๆ” คุณชายห้างรู้สึกว่าพี่สาม ของพวกเขาทําเรื่องตื่นเต้นเก่งจริงๆ เป็นพ่อคนแล้วสูงส่งนักเห รอ?

“ท่าเกินไปเหรอ?” เย่ซื้อเฉินเลิกคิ้วขึ้น กวาดตาม

ตามองไปที่คุณ

ชายห้าฉิง

คุณชายห้านิ่งถึงกับเงียบกริบ พูดไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำเกินไป เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

“พี่สาม เมื่อไหร่ผมถึงจะได้เจอหลานชายกับหลานสาวครับ?” ความสนใจของเสี่ยวในตอนนี้อยู่ที่เด็กทั้งสองคน เมื่อก่อนเขา เด็กสุด ในที่สุดตอนนี้ก็มีคนเด็กกว่าเขาแล้ว และเขาก็เป็น อาวุโสอีกด้วย

“เสี่ยวชีพูดถูก พวกเราต้องเจอหลานชายกับหลานสาวแน่นอน พี่สาม ตอนนี้พวกหลานๆ อยู่ที่ไหน?” คุณชายห้างเองก็ อยากจะรีบเห็นหลานทั้งสองคน ลูกของพี่สามกับพี่สะใภ้สาม ต้องดูดีมากแน่ๆ ต้องน่ารักมาก

“อยู่ตระกูลถัง” เยซือเฉินตอบตามจริง ตอนนี้เขากับถังจื่อไม่ ยอมรับเป็นพ่อลูกกันแล้ว เป็นลั่วนิ่งเองก็รู้แล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ ไม่จําเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

“พี่สาม เด็กที่พี่หมายถึงคงไม่ใช่ถังจื่อไม่กับถังจื่อซีใช่ไหม?” ก่อนหน้านี้สีจี้เงียบมาโดยตลอด ตอนที่พี่สามบอกว่าเป็นลูกแฝด ความคิดหนึ่งก็แล่นขึ้นมาในหัวของเขา ตอนนี้พี่สามบอกว่าเด็ก ทั้งสองอยู่ที่บ้านตระกูลถัง สีคิดถึงเรื่องที่พี่ใหญ่ถามเขาเกี่ยว กับถังจื่อโม่และถังจื่อ

ดังนั้น ลูกของพี่สามก็คือถังจื่อ โม่กับถังจื่อซีรึเปล่า? สีคิดถึงตอนนั้นที่เขาเข้าใจผิดคิดว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของ เขา ทั้งยังโทรไปอวดพี่สาม สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าเด็กทั้งสองจะเป็น ลูกของพี่สามเนี่ยนะ!!

“พี่สี่ พี่รู้? พี่เคยเจอมาก่อน?” ดวงตาของเสี่ยวเป็น ประกาย: “หลานชายกับหลานสาวหน้าตาน่ารักไหม? เล่นด้วย สนุกรึเปล่า?”

“น่ารักนิน่ารักจริงๆ สำหรับเรื่องที่ว่าเล่นสนุกรึเปล่า?” สี นึกถึงความฉลาดของถังจื่อ คิดถึงถังจื่อไม่ที่ เจ้า แผนการ ตั้งแต่เด็ก อดไม่ได้ที่จะหัวเรา: “แค่ไม่รู้ว่าถึงเวลาใคร กันแน่ที่จะถูก ใครแกล้ง?”
สี มองไปที่เสี่ยว มองอย่างพิจาณาพักหนึ่ง จากนั้นพูดด้วย ความจริงจัง “นายไม่ใช่คู่ปรับของถังจื่อไม่แน่นอน

“พี่สี่ พี่พูดแบบนี้หมายความว่าอะไร? พี่บอกว่าผมไม่ใช่คู่ปรับ ของเด็กอายุห้าขวบ?” เสี่ยวไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างมาก ผม ยอมรับว่าผมสู้พวกพี่ไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ถึงขั้นแพ้ให้กับเด็กอายุห้า ขวบคนหนึ่ง”

“นายไม่ต้องใจร้อน สำหรับความสามารถของถังจื่อโม่ พี่ ของนายก็ยังเทียบไม่ได้เลย” สีจี้พูดจากใจจริง ตอนนั้นถ้าไม่ใช่ เพราะถังจื่อ โม่ช่วยเขา เขาคงไม่สามารถจัดการเห่อถงถงได้

“พี่สี่ ไม่ใช่รึเปล่า? พี่โอเวอร์เกินไปแล้วรึเปล่า?” เสี่ยวเบิก ตากว้าง เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ เขาจะไม่รู้ความสามารถของพี่ได้ ยังไง

“ฉันไม่ได้โอเวอร์แม้แต่น้อย ถึงเวลานายก็รู้เอง” สีจี้ไม่ได้พูด

อะไรอีก รอให้ทุกคนได้เจอกันแล้ว ถึงเวลาก็จะรู้เอง

“ได้ยินพี่สี่พูดแบบนี้ ผมอยากจะเจอพวกหลานๆ ตอนนี้เลย” เสี่ยวชีสงสัยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ยินสี พูดแบบนี้ ก็ยิ่งนั่งไม่ นิ่ง : “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้พวกเราไปตระกูลถังกันเถอะ ไปหา หลานชายกับหลานสาว”

“เสี่ยวช นายไม่ดูหน่อยว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว หลานๆหลับไป แล้วแน่นอน พวกหลานๆยังเป็นเด็ก ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ” สีจี้ ทําลายความคิดของเสี่ยวชีทันที

“ผมเองก็เป็นเด็ก พวกพี่ยังเรียกผมออกมากลางดึกเลยหนิ”เสี่ยวเบ้ปากเล็กน้อย ไม่พอใจอย่างมาก “เสี่ยว นายไม่ต้องใจร้อนตอนนี้ พรุ่งนี้ค่อยไป พรุ่งนี้พี่ห้าไป

กับนายเอง” คุณชายห้างก็สงสัยอย่างมาก เรื่องแบบนี้แน่นอน

ว่าคุณชายห้าฉิงต้องไม่พลาด สีจี้เคยเจอกับเด็กทั้งสองคนมานานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ร้อนใจ พรุ่งนี้คุณชายสองโจ๋วต้องผ่าตัด ไม่มีเวลาไป ถ้าอย่างนั้นก็มีแค่

เขากับเสี่ยว

“ครับๆ พรุ่งนี้พวกเราไปบ้านตระกูลถังกัน” ดวงตาของเสี่ยว เป็นประกาย : “พี่บอกว่าหลานชายเก่งขนาดนั้น ผมต้องไปเจอ ให้ได้”

เชื่อเงินไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สีจี้พูด ถูก ลูกของเขาเก่งมาก

วันที่สอง แต่เช้าตรู่ เย่ซือเฉินได้รับสายจากเลขาหลิว

ระยะนี้เยซือเฉันไม่ค่อยสนใจงานในบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเท่า ไหร่ เขาไม่ได้เข้าบริษัทหลายวันแล้ว เย่ซื้อเฉินคิดว่าเลขาหลิว โทรมาเพราะเรื่องงาน หลังจากรับสาย เยซื้อเฉินพูดเสียง เคร่งขรึม : “งานที่บริษัทนายจัดการเถอะ ไม่จำเป็นต้องรายงาน ฉัน”

นับตั้งแต่คราวที่แล้วที่บ้านตระกูลถัง หลังจากที่ท่านปู่ถังพูด เรื่องพวกนั้นกับเขา เขาก็ไม่สนใจงานในบริษัทอีกเลย

หลังจากนี้ เขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว
เชื่อเงินรู้จักท่านปูถังเป็นอย่างดี ท่านยังเป็นคนใจกว้าง ไม่ชอบถือสาใคร ทำให้ท่านถึงพูดแบบนั้นกับเขาได้ เพียงพอที่ จะอธิบายได้ว่าคนตระกูลยทั้งสองคนนั้นทำเกินกว่าเหตุ

คุณปู่เย่และคุณย่าเยทำลายเป็นชั่วนิ่งครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ เงินลั่วงอับอายครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องนี้เขาเองก็ทนไม่ได้อีกแล้ว

สิ่งที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเยทำกับเขา เขาทนได้ เพราะถึงอย่างไร ท่านทั้งสองก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของเขา แต่ว่าเขาทนให้พวกท่าน รังแกผู้หญิงของเขาไม่ได้

หรือว่า เขาควรจะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ตั้งนาน แล้ว หลังจากเกิดเรื่องขึ้นกับแม่ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรกับตระกูลเย่ มากมายเท่าไหร่แล้ว

และความอาลัยอาวรณ์สุดท้ายที่มี ก็ถูกคุณปู่เย่กับคุณย่าเ ค่อยๆทําลายจนหมดไป

ถ้าหากคุณปู่เยกับคุณย่าเย่ยังเห็นแก่ความเป็นญาติมิตร เขา ก็ไม่ถึงขั้นต้องหดหู่ใจขนาดนี้ ไม่ถึงขั้นต้องผิดหวังขนาดนี้

ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูล เย่ ถ้าอย่างนั้นเรื่องงานในบริษัทตระกูลเยกรุ๊ป เขาก็จะไม่สนใจ อีก นี่เป็นก้าวแรกที่เขาเริ่มถอยห่างจากตระกูลเ

“ท่านประธานครับ นี่ไม่ใช่เรื่องที่บริษัทเขา เป็นเรื่ององค์กร โกสต์ซิตี้” เลขาหลิวกลัวว่าท่านประธานจะตัดสายไปทันที จึงรีบ อธิบาย : “วันนี้ตอนเช้า มีคนมาหาท่านประธานที่บริษัท พวกเขา บอกว่าพวกเขาเป็นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้”
“คนขององค์กร โกสต์ซิตี้?” เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย คน ขององค์กรโกสต์ซิตี้ไปหาเขาที่บริษัท

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ระยะเวลานี้ องค์กรโกสต์ซิตี้ลงมือกับตระกูลถังไม่หยุด เรื่อง ของถังหลิน เรื่องของถังหมุนเฉิง ล้วนเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ ซิตี้ ถึงขั้นพูดได้ว่าคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ต่างหากที่เป็นคน บงการเรื่องทั้งหมดนี้

ก่อนหน้านี้ เป็นลั่วจึงให้คนติดต่อกับคนขององค์กรโกสต์ซิตี้ แต่ว่าทางองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด

ตอนนี้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้กลับมาหาถึงที่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ