ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1191 ความโมโหของคุณชายสามเย่ ผลที่ตามมา รุนแรงมาก (2)



บทที่ 1191 ความโมโหของคุณชายสามเย่ ผลที่ตามมา รุนแรงมาก (2)

ความคิดของเลขาหลิวในตอนนี้คือไม่ว่าจะยากลำบากแต่ ไหน เขาก็จะจัดการให้เรียบร้อย

ไม่อย่างนั้น เลขาหลิวรู้สึกว่าเขาต้องแข็งตายเพราะท่าน

ประธานแน่นอน

“หลังจากทำพิธีการเสร็จ ติดต่อนักข่าว ฉันจะจัดงานแถลง ข่าว” เสียงของเยซื้อเฉินที่อยู่ปลายสายดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียง ของเขาในครั้งนี้เยือกเย็นจนน่าตกใจ แน่นอนว่าท่ามกลางความ เยือกเย็นนี้เคล้าไปด้วยการไร้ซึ่งความปรานี

“จัดงานแถลงข่าว?” ครั้งนี้เพราะตกใจอย่างมากเลขาหลิวจึง อดไม่ได้ที่จะถามออกไป ท่านประธานไม่ชอบถูกนักข่าว สัมภาษณ์ ครั้งนี้เขากลับจะจัดงานแถลงข่าว

ตอนแรกเลขาหลิวคิดว่าท่านประธานจะแค่ให้คำแถลง ธรรมดาทั่วไป หรือไม่ก็แค่ปล่อยข่าว คิดไม่ถึงว่าท่านประธานจะ จัดงานแถลงข่าว เมื่อเป็นแบบนี้เรื่องนี้ร้ายแรงมากจริงๆ

แต่ว่า เห็นได้ชัดว่าท่านประธานตัดสินใจแล้ว เลขาหลิวรู้ดีว่า สิ่งที่ท่านประธานตัดสินใจแล้วไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้

“ไปจัดการให้เรียบร้อย” เย่ซื้อเฉินไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เพียง แค่บอกให้ไปดำเนินการเพื่อชี้ชัดว่าเขาตัดสินใจแล้ว
การตัดสินใจในครั้งนี้ เขาไม่มีความลังเลใดๆ ไม่มีความ อาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย ตระกูลเย่ไม่มีอะไรให้เขาอาลัยอาวรณ์ อีกแล้ว

“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ” เลขาหลิวไม่ได้ถามอะไรอีก ในเมื่อ ท่านประธานตัดสินใจแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถ เข้าไปข้องเกี่ยวได้

สําหรับการตัดสินใจของท่านประธาน เลขาหลิวปฏิบัติตาม โดยไร้เงื่อนไข

หลังจากเลขาหลิววางสายก็รีบทำตามคำสั่งของเอเงินทัน ที เพียงแต่เลขาหลิวนึกถึงน้ำเสียงของท่านประธานของตนเมื่อ ครูแล้วอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น น้ำเสียง ของท่านประธานเมื่อครู่น่ากลัวมากจริงๆ

สำหรับการตัดสินใจของท่านประธาน เลขาหลิวเองก็พอจะรู้ บ้าง แต่ก่อนหน้านี้ท่านประธานไม่ได้ใจร้อนขนาดนี้ อีกทั้งเลขา หลิวรู้ดีว่าภายในใจของท่านประธานของตนอดไม่ได้ที่จะ ที่จะสงสาร ไม่มากก็น้อย

แต่น้ำเสียงของท่านประธานเมื่อครู่ เลขาหลิวกลับได้ยินถึง ความเด็ดขาดของท่านประธาน ความรู้สึกที่ไร้ซึ่งความปรานี ความเด็ดขาดที่ไม่เหลือความใจอ่อนแม้แต่น้อย

เลขาหลิวรู้สึกว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วแน่ๆ!!

เพียงแต่เรื่องอะไรกันแน่ถึงทำให้ท่านประธานกลายเป็นแบบนี้ได้?
ตอนนั้นแม้แต่ตอนที่ท่านประธานไปดูงาน คุณผู้หญิงบอกให้ เขาทําเรื่องหย่า หลังจากท่านประธานกลับมาก็ไม่น่ากลัวขนาด นี้! !

หลังจากเชื่อเงินวางสาย ครั้งนี้เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม่รอ ช้าแม้แต่น้อย เขาขับรถไปที่บริษัทตระกูลเยกรุ๊ปอย่างรวดเร็ว

เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเลขาหลิว ดังนั้นหลังจากนี้ ใช้

เวลาไม่นาน เขาก็สามารถจัดงานแถลงข่าวได้แล้ว

เมื่อถึงเวลานั้น ทุกอย่างควรจะคลี่คลายได้แล้ว!!

ตอนที่เลขาหลิวแห่งบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเร่งให้ทนายดำเนิน การขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จนั้น ทนายหยุดชะงักไปเล็กน้อย “ท่านประธานหมายความว่าอะไรกันแน่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เรื่องแบบนี้จะเปลี่ยนได้ยังไง ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน เลขาหลิว ท่านประธานคิดอะไรอยู่กันแน่?

ทนายสงสัยอย่างมาก ไม่เข้าใจอย่างมาก เขาไม่เคยพบเจอ ใครที่ใจร้อนในการทําเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าท่านประธาน คิดอะไร? ท่านประธานมีเรื่องลำบากใจอะไรรึเปล่า? ท่าน ประธานถูกบีบบังคับรึเปล่า?

ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับ ไม่มีใครรีบร้อนทำเรื่องแบบนี้ หรอก?!

“นายจะยุ่งอะไรมากมาย? ท่านประธานคิดอะไรอยู่ฉันจะรู้ได้ ยังไง สั่งให้นายทนายก็รีบทำเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นายฟัง วันนี้ท่านประธานอารมณ์ไม่ดี ถ้านายไม่รีบจัดการให้เรียบร้อยรับผิดชอบผลที่ตามมาเองแล้วกัน” เลขาหลิวไม่ได้ข่มขู่เขา สิ่งที่ เลขาหลิวพูดเป็นความจริง น้ำเสียงของท่านประธานแค่ฟังก็รู้ว่า อารมณ์ไม่ดี ไม่มีอารมณ์เสียอย่างมาก

ดังนั้น เลขาหลิวพูดด้วยความหวังดี : “เพราะเรื่องนี้ ท่าน ประธานโทรมาตามสองครั้งแล้ว

“ครับๆ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณเลขาหลิวมากที่พูดเตือน” ทนายเป็นคนฉลาด เข้าใจความหมายของเลขาหลิว จึงไม่กล้า ชักช้าอีก

“นายจัดการทุกอย่างเสร็จเมื่อไหร่ รีบโทรมารายงานฉัน เลขาหลิวนึกถึงสิ่งที่ก่อนหน้านี้ท่านประธานสั่ง อดไม่ได้ที่จะพูด เสริมอีกหนึ่งประโยค

“ครับๆ” ทนายตกตะลึง แต่ครั้งนี้ทนายไม่ได้ถามอะไร มากมาย ทว่ารีบพยักหน้าตอบตกลง เลขาหลิวกำชับอีกครั้งต้อง เป็นเพราะคําสั่งของท่านประธานแน่นอน

ท่านประธานต้องรีบร้อนมากแน่ๆ เพียงแต่ทนายไม่เข้าใจว่า ทำไมท่านประธานถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ สิ่งที่ไม่ส่งผลดีอะไรต่อ ท่านประธานสักหน่อย ในทางกลับกันส่งผลเสียต่อท่านประธาน ด้วยซ้ำไป

หรือว่าถูกคุณปู่เย่บีบบังคับ? ถ้าเป็นแบบนั้นท่านประธานก็น่า สงสารมาก

แค่ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องเป็นกังวล เพียงแต่ภายในใจ ของทนายอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ พวกคนรวยเข้าใจยากจริงๆ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยก็ลำบากไม่น้อย

หลังจากเลขาหลิวกลับไปที่ห้องทำงาน เขาจัดการงานของ ตนเองครู่หนึ่ง เลขาหลิวเป็นคนทำงานที่สามารถยืนหยัดในการ ทํางานได้ตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนเขาก็จะทำงานที่ รับผิดชอบให้เรียบร้อย

เลขาหลิวทำงานไปได้ครึ่งหนึ่ง เลขาคนหนึ่งเคาะประตูแล้ว เดินเข้ามา สีหน้าของเลขากระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด “เลขาหลิว ท่านประธานมาแล้ว คุณ คุณช่วยไปดูหน่อยเถอะ”

“ทำไม? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เลขาหลิวตกใจ เลขาตกใจขนาด

นี้ เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นเหรอ?

“สีหน้าของท่านประธานน่ากลัวมาก ทันทีที่ท่านประธานมาถึง ก็เข้าไปในห้องทำงาน ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ห้องทำงาน พ โจ บอกให้ฉันมาหาคุณ” เลขานึกถึงสีหน้าของท่านประธานของ ตนที่เจอก่อนหน้านี้อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาไปทั้งตัว น่ากลัวเกินไป แล้ว น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ

“อืม ฉันเข้าใจแล้ว ฉันรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” เลขาหลิวนึกถึงน้ำ เสียงที่น่าตกใจของท่านประธานเมื่อก่อนหน้านี้ แล้วมองดูสีหน้า หวาดกลัวของเลขา ไม่กล้าชักช้า ปกติไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านประธานไม่มีวันแสดงออก

ทางสีหน้า แต่เวลานี้กลับทำให้เลขาตกใจขนาดนี้ได้เนี่ยนะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้ท่านประธานกลายเป็นแบบนี้?!
สำหรับเรื่องที่คุณปู่เย่จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศเรื่องงาน แต่งงานเรื่องนี้เลขาหลวทราบดี แต่ว่าเลขาหลิวรู้สึกว่าไม่ได้เป็น แค่เพราะเรื่องงานแต่งงาน เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ท่านประธาน โทรศัพท์มาหาเขาน้ำเสียงของท่านประธานยังปกติดี

แต่ว่าหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ท่านประธานโทร มาหาเขาอีกครั้งกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน

ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ ต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นแน่ๆ!!

เลขาหลิวเดินขึ้นไปชั้นบน ชั้นนี้นอกจากจะเป็นห้องทำงานของ เชื่อเงินแล้ว ยังมีเลขาอีกหลายคน เวลานี้เลขาทุกคนต่างอยู่ที่ นี่ แต่ว่าทั่วทั้งชั้นกลับเงียบเป็นพิเศษ เงียบจนถึงขั้นเข็มตกลงบน พื้นก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

ประตูห้องทำงานของเยซื้อเฉินปิดสนิท เลขาที่อยู่ด้านนอกไม่ กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าตกใจกันหมดแล้ว

เลขาหลิวยิ่งตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น เลขา หลิวลอบถอนหายใจ หลังจากนั้นเดินไปยังด้านหน้าห้องทำงาน ลองเคาะประตูห้อง : “ท่านประธานครับ”

“เข้ามา” ภายในห้องทำงาน เสียงของเยซื้อเฉินดังขึ้น ยังคง เป็นน้ำเสียงเยือกเย็นแบบเดียวกับตอนคุยโทรศัพท์เมื่อครู่ที่ผ่าน มา

พวกเลขาที่เดิมดีตกใจจนหน้าซีดขาวเวลานี้ได้ยินเสียง แบบนี้ แต่ละคนต่างพากันขาอ่อนกันหมด แต่ละคนอยากจะรีบ หนีไปไกล
เลขาหลิวเองก็กลัว เท้าทั้งสองข้างของเลขาหลิวก็อ่อนยวบ เหมือนกัน แต่ว่าเขาไม่สามารถหนีไปไหนได้

นับตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่ท่านประธาน โทรหาเขา จนถึงตอนนี้ก็ ผ่านมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ท่านประธานไม่ดูอารมณ์ดี ขึ้นมาแม้แต่น้อย ยังคงเยือกเย็นจนน่าตกใจ เวลานี้เลขาหลิวยืน อยู่หน้าห้องทำงาน หัวใจสั่นเทาไปหมดแล้ว

เลขาหลิวกัดฟันแล้วเปิดประตูห้อง ทันทีที่เปิดประตู เลขาหลิว สัมผัสได้ถึงลมหนาวเย็นที่โหมกระหน่ำซัดเข้ามา หนาวจนถึง กระดูก ทําให้เขาก้าวเท้าไม่ออก

เลขาหลิวรู้สึกว่าห้องทำงานของท่านประธานในเวลานี้กำลัง จะเปลี่ยนเป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีแล้ว เขารู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่เขาเข้าไป ก็อาจจะไม่สามารถออกมาได้อีกแล้ว

เลขาหลิวเงยหน้าขึ้น ตอนที่เห็นสีหน้าของท่านประธานของตน นั้น เขาตกตะลึงอีกครั้ง ไม่แปลกที่เลขาตกใจขนาดนั้น ไม่แปลก ที่พวกเลขาด้านนอกตกใจจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง สีหน้าของ ท่านประธานในตอนนี้น่ากลัวมาก น่ากลัวเกินไปแล้ว เขาที่มอง เห็นยังแทบจะเป็นโรคหัวใจ

เวลานี้เลขาหลิวรู้สึกกลัวมาก แต่เขายังคงรวบรวมความกล้า แล้วเดินเข้าไป: “ท่านประธานครับ ผมเร่งให้เรียบร้อยแล้วครับ ฝ่ายนั้นจะรีบดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ผมบอกกับทนายหลิวแล้ว ว่าหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จให้โทรมาแจ้งผม ทนายหลิวยัง ไม่โทรมา น่าจะยังไม่……..
เลขาหลิวมองดูใบหน้าเยือกเย็นของท่านประธานของตนที่ แทบจะแช่แข็งสรรพสิ่ง ถึงกับพูดไม่ออกทันที

“ผม ผมจะรีบโทรตามทนายหลิวตอนนี้เลยครับ ถามเขาว่ายัง ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่” เลขาหลิวรู้สึกเพียงว่าหัวใจชัก กระตุกด้วยความหนาวเย็น เขาไม่กล้ามองหน้าท่านประธาน จริงๆ เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก

“ทนายหลิว ขั้นตอนสุดท้ายดำเนินการเสร็จรึยัง?” ทันทีที่ ปลายสายรับ เลขาหลิวก็โทรทันที

“ยังครับ เลขาหลิว ต้องใจร้อนขนาดนี้ด้วยเหรอ? ทำไมท่าน ประธานถึงรีบร้อนแบบนี้?” ก่อนหน้านี้ทนายหลิวไม่ได้ถาม ตอน นี้เลขาหลิวโทรมาเร่งอีก ทนายหลิวอดไม่ได้ที่จะถาม

เลขาหลิวรู้สึกว่า เวลานี้ห้องทำงานเต็มไปด้วยไอเย็น เขาจะ กล้าอธิบายอะไรมากมายได้อย่างไร “นายเร่งมือเข้า จัดการ ทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อยให้เร็วที่สุด จำเอาไว้ ทำให้เร็ว ที่สุด!!

“ถามเขาว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ เอาเวลาที่ระบุ ชัดเจน!! ” เวลานี้ เชื่อเงินกลับพูดขึ้น แน่นอนว่าเสียงของ เขายังคงเยือกเย็นจนทำให้คนใจสั่น

“ครับ” รีบขานตอบท่านประธาน หลังจากนั้นพูดออกไปตาม ตรง : “ท่านประธานถามว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ เอาเวลา ที่ระบุดชัดเจน!! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ