ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 846 เขามีลูกสาวหนึ่งคน (2)



บทที่ 846 เขามีลูกสาวหนึ่งคน (2)

พูดอย่างไม่เกินจริง อำนาจลับนี้ได้กระจัดกระจายไปทุกภาค ส่วนทุกแวดวงธุรกิจในเมืองAเป็นที่เรียบร้อย เรียกได้ว่าเข้าไป อยู่ในทุกตรอกทุกซอกเลยก็ว่าได้

และที่สำคัญอำนาจที่มีหัวหน้าเป็นผู้ควบคุมดูแลเอง พวกเขา ฟังคำสั่งเฉพาะหัวหน้า ทุกครั้งที่เขาไปถ่ายทอดคำสั่งของ หัวหน้า เขาก็จําเป็นต้องพกป้ายคำสั่งจากหัวหน้าไปยืนยันทุก ครั้ง

หากอำนาจ รวบรวมมาใช้เมื่อไหร่ อย่าว่าแต่ตามหาคนคน หนึ่งเลย กระทั่งหัวหน้านำใบหน้าจำนวนหนึ่งใบทิ้งไปอยู่ในกอง ใบไม้

พวกเขาก็สามารถหาออกมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ

สําหรับปัญหาที่มีเกี่ยวกับคุณนายก็คือ ไม่มีใครรู้จักคุณนาย มาก่อน ไม่มีใครรู้ประวัติรายละเอียดของคุณนายเลยแม้แต่น้อย

ไม่มีใครรู้ว่าคุณนายมีหน้าตาเช่นไร กระทั่งหัวหน้าก็ไม่รู้ด้วย ว่าคุณนายมีหน้าตาเป็นเช่นไร

หัวหน้าวาดภาพเหมือนมากมาย แต่ทุกภาพก็ไม่เคยมีวาด ออกมาอย่างชัดเจน

เขานําภาพวาดเหมือนให้ลูกน้อง ลูกน้องก็ดูอะไรไม่ออก
ถึงแม้กิริยาท่วงท่าและความสง่าของคุณนายจะเหมือนกันทุก ภาพ แต่สิ่งเหล่านี้มันเลือนราง ไม่ค่อยชัดเจน เกรงว่ามีเพียง หัวหน้าเจอตัวคุณนายแล้วถึงจะดูออก

สําหรับคนรอบกาย การใช้กิริยาท่วงท่าและความสง่างามใน ภาพวาดเหมือนเพื่อตามหาคนที่สอดคล้องกัน มันเป็นโจทย์ยาก

มาก

แน่นอนหลายปีมานี้ก็หาลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาได้อยู่บ้าง แต่หัวหน้ามองเพียงแวบเดียวก็ปฏิเสธทันควัน

ดังนั้นหลายปีมานี้ ถึงแม้อำนาจที่จะซึมแทรกเข้าไปทุกที่ใน เมืองAแล้ว แต่ยังคงไร้ผลเช่นเดิม

แน่นอน ในเมืองAก็มีสาขาขององค์กร โกสต์ซิตี้ด้วย เพียงแต่

เรื่องตามหาตัวคุณนาย ไม่ได้ใช้สาขานี้ได้ร่วมด้วย แถมสาขานี้

ก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย

เพราะเหตุการณ์ถูกหักหลังเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน หัวหน้าจึงยิ่งมี ความคลางแคลงใจเพิ่มขึ้น ระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องของคุณนาย

“หัวหน้าครับ ผมบอกอะเหลียง ให้มาแล้วครับ เขาน่าจะใกล้ มาถึงแล้วครับ”บัดนี้อะจ้งร้อนใจมาก กระวนกระวายใจมาก ดัง นั้นระดับเสียงจึงยกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ

ทว่าถึงแม้เสียงของอะจังจะดังขึ้น ช่างกวนหงยังคงเหมือนไม่ ได้ยิน ยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ ไม่ตอบสนองใดๆ
เห็นหัวหน้าเป็นเช่นนี้ อะจังก็รู้สึกสลดใจ พูดไม่ออกไปชั่ว ขณะ

“หัวหน้า ผู้ดูแลจ้งบังเอิญในเวลานี้ ผู้ชายอายุประมาณสี่สิบ ปรากฏตัวข้างกายผู้ดูแลจัง

“อะเหลียง นายมาแล้วหรือผู้ดูแลจ้งดึงสติกลับมา รีบ อำพรางสีหน้า ก่อนจะมองไปยังอะเหลียง” “ครั้งนี้หัวหน้ามา ด้วยตัวเอง

นายใช้กำลังพลทั้งหมดไปตามหาคุณนายให้พบ ไม่ว่าจะด้วย วิธีใดก็ตาม”

ประโยคนี้ของผู้ดูแลจ้งเป็นคำสั่งตายที่ต้องปฏิบัติให้ได้ แต่ เขาก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากแสนยาก เพราะได้ข่าวคราวตลอดยี่สิบห้า ปีที่ผ่านมา หากแต่เพื่อหัวหน้าแล้ว เขาจำเป็นต้องสั่งการเช่นนี้

หากแม้สามารถให้ความหวังแก่หัวหน้าเพียงริบหรี่ก็ยังได้ อะเหลียงซะงัก มองไปยังต่างกวนหงซึ่งอยู่ด้านหน้าที่ไม่ไกล เท่าใดนัก เห็นช่างกวนหงไม่ขยับไม่ตอบสนองเลยสักนิด มุมปา กอะเหลียงขยิบ แต่สุดท้ายก็เก็บคำพูดไว้ในใจ

“นายไปเถอะอะเหลียงไม่ได้เอ่ยคำคัดค้านใดๆ ผู้ดูแลจัง รู้สึกปลื้มปีติยิ่งนัก ตอนนั้นหัวหน้าเป็นคนเลือกอะเหลียงกับมือ โดยให้รับผิดชอบเรื่องตามหาคุณนายในเมืองเป็นการเฉพาะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอะเหลียงจึงเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของ หัวหน้าเป็นอย่างดี
“ครับ” ในเมื่อเมื่อสักครู่อะเหลียงกล้ำกลืนคำพูดไว้แล้ว บัดนี้ จึงไม่ได้พูดมาก อะเหลียงรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญต่อหัวหน้าแค่ไหน ยี่สิบห้าปีมานี้ เขาไม่เคยหยุดนิ่ง เขาขยายอำนาจและออกตาม หาคุณนายอย่างไม่ลดละ

เพียงแต่เบาะแสที่หัวหน้าให้เขานั้นน้อยจนน้อยสุดๆ

มิหนำซ้ำเขายังสงสัยว่าคุณนายที่หัวหน้ากล่าวถึงนั้นมีตัวตน อยู่จริงหรือไม่?

“ถ้ามีความคืบหน้าก็รีบรายงานหัวหน้าด่วนเลยนะ”ผู้ดูแลจัง พึงพอใจอะเหลียงมาก ไม่ว่าด้วยความสามารถของอะเหลียงก็ดี

หรือความภักดีของอะเหลียงก็ดี แม้แต่แนวคิดอันชาญฉลาด ล้วนไร้ที่ติด้วยกันทั้งสิ้น

ผู้ดูแลจ้งรู้ว่าอะเหลียงต้องเข้าใจเจตนาในคำพูดเขาแน่นอน

“ผมทราบแล้วครับ”อะเหลียงตอบรับเสียงต่ำ สา สายตาที่หลุบ ลงเล็กน้อยมีความหนักอึ้งแวบผ่าน เขาจะไม่เข้าใจความคิดของ ผู้ดูแลจ้งได้อย่างไร แต่เป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี

ไม่ว่าอย่างไรหัวหน้าที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงสักวัน

เขารู้ในความสามารถตัวเองดี เขาถูกสั่งให้ตามหาคุณนายที่ เมือง ตั้งแต่อายุสิบเจ็ดปี ยี่สิบห้าปีผ่านไปยังไร้เบาะแส ซึ่งเขา พยายามเต็มที่แล้วจริงๆ ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงไม่ได้ตั้งความหวังไว้ มากนัก

ผู้ดูแลจึงอยากให้หัวหน้ามีความหวังบ้าง แต่ถ้าหาตัวคุณนายไม่เจอ ความหวังที่ตั้งขึ้นนี้ก็ต้องดับสูญอยู่ดี

พอถึงเวลาที่ความหวังสุดท้ายมีอันต้องดับสูญ สำหรับหัวหน้า

แล้วเกรงว่าคงจะ…….. อย่างไรเสียเขาก็ไม่ควรเหลื่อมล้ำ คำบางคำเขาไม่เหมาะที่จะ

พูด

ดังนั้นตอนนี้เขาจึงได้แต่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย พยายามตามหาคุณนายสุดแรง

อะเหลียงหันกายเตรียมจะจากไป เพียงแต่พอหันไปได้ครึ่ง รอบก็หยุด เขาลังเลสักพัก ก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า “หัวหน้าครับ ผู้ดูแลจ้งสาขาของเราในเมืองที่มีเรื่องในช่วงนี้ครับ

ช่างกวนหงยังไม่ตอบสนองเช่นเดิม ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินคำพูดขอ งอะเหลียงหรือได้ยินแล้วแต่ไม่แยแสกันแน่

เพราะเขาไม่สนใจองค์กรโกสต์ซิตี้หลายปีแล้ว แม้กระทั่งศูนย์ รวมขององค์กรยังไม่สนใจเลย นับประสาอะไรกับแค่สาขาที่ตั้ง อยู่ในเมืองA

สิ่งเดียวในตอนนี้ที่เขาสนใจก็คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ

“เรื่องอะไร? “ผู้ดูแลจังนึกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณนาย สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงที่เคร่งขรึมหลายส่วน

“สาขาเมือง กับถังหลินเป็นปรปักษ์กันแล้วครับ”อะเหลียง เห็นหัวหน้าไม่ตอบสนอง พลางแอบถอนหายใจ ก่อนจะมองไป ยังผู้ดูแลจ้ง แล้วรายงานเหตุการณ์ให้แก่ผู้ดูแลจัง: “ช่วงก่อนถังหลินเกิดเรื่องในโรงแรม วซิน เป็นฝีมือของสาขาเมือง Aของ พวกเราครับ

บัดนี้อะเหลียง ใช้น้ำเสียงมั่นใจมาก

“ถังหลิน? ตระกูลถัง? “ผู้ดูแลจังได้ยินว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง คุณนาย จึงโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่เมื่อนึกถึงแรงกระทบ ของตระกูลถัง ในเมือง กระทั่งในประเทศz สีหน้าของเขาพลัน หนักอึ้งขึ้นหลายส่วนอย่างเลือนราง

ถึงแม้องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขาไม่จำเป็นต้องยำเกรง ตระกูลถัง แต่อำนาจของตระกูลถังก็ดูแคลนไม่ได้เชียว

ผู้ดูแลจ้งมองไปยังต่างกวนหง เห็นหัวหน้าไม่แยแสเลยสักนิด แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ หัวหน้าไม่ สนใจ เขาจึงต้องถามให้กระจ่างเสียเอง รู้ว่าเพราะอะไร ไหม? ”

หลายปีมานี้ เรื่องมากมายในองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีอะเฉิงคอย จัดการดูแล เพราะหัวหน้าไม่ใส่ใจมาโดยตลอด หลังๆมานี้อะเฉ งกำเริบเสืบสานขึ้นเรื่อยๆ เขาแหกกฎกติกาที่หัวหน้าตั้งไว้ใน องค์กรจนเกิดความปั่นป่วนมากมาย!!

เพราะหลายปีมานี้หัวหน้ามาเมืองประจำ ดังนั้นสาขา เมืองAจึงมีความแข็งแกร่งกว่าที่อื่น หากก่อเรื่องขึ้นจริงๆ เกรงว่า คงไม่ดีนัก

กฎข้อหนึ่งที่หัวหน้าเคยตั้งไว้ก็คือ มันผู้ใดไม่รุกรานฉัน ฉันก็ ไม่รุกรานมันผู้นั้น แต่ผู้ใดมารุกรานฉัน ฉันจะคืนให้เป็นเท่าตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ