บทที่ 108เธอมีความเฉียบคม (4)
บทที่ 108 เธอมีความเฉียบคม (4)
“สรุปจะให้ค้น? หรือว่าไม่ให้ค้น?” ตำรวจหนุ่มมอง ไปที่หัวหน้าของตัวเอง และก็มองไปที่เวินลั่วฉิง อย่าง ลังเล
“พุฟ” เงินลั่วฉิงหัวเราะขึ้นมา “คุณเป็นตำรวจ แน่นอนอยู่แล้วว่าคำพูดของคุณถือเป็นที่สิ้นสุด”
นายตำรวจหนุ่มรู้สึกอยากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา คำพูดของเขาถือเป็นที่สิ้นสุดงั้นเหรอ? เขาก็ต้องการที่ จะมีอำนาจใหญ่ขนาดนั้นในกระทำ
หัวหน้าของเขายืนอยู่ฝั่งไหนกันแน่นะ?
“งั้นก็ค้นละกัน” เวินลั่วฉิงผลักกระเป๋าของเธอไป ด้านหน้า มีความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ และไม่สนใจใด ๆ
เมื่อซุนหรูและหลี่หยู่ชินเห็นอย่างนี้ ต่างรู้สึกดีใจ อยู่เงียบ ๆ ดูท่าแล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ โง่ จะตาย ยังไม่รู้อีกว่าสร้อยอยู่ในกระเป๋าของเธอ
ภายในใจของเวินหรวนหรวนก็รู้สึกสะใจเช่นกัน เมื่อคุณชายห้าฉิงเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความ มั่นใจของเวินลั่วฉิง ก็แอบถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ และก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นมองไปที่คุณชายห้าฉิงเห็นคุณชายห้านิ่งไม่ได้พูดอะไร ก็เลยไปข้างหน้าและ หยิบกระเป๋าของเวินลั่วฉิงออกมาเปิด
แต่หลังจากนั้น ไม่ต้องพลิกไปมา ก็เห็นว่าข้างบน สุด มีสร้อยคอเส้นหนึ่งนอนอยู่ในกระเป๋าของเวินลั่วฉิง
มันคือสร้อยคอที่หลี่หยู่ซิน ‘ทำหาย ” จริง ๆ
ทุกคนต่างตะลึง ในเวลาเดียวกันก็หันไปมองที่ เงินลั่วชิงด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ลูกสาวคนโต ของตระกูลเวินคนนี้ขโมยของจริง ๆหรือ?
“ดูเอาละกัน ฉันก็บอกแล้วว่าเธอเป็นคนขโมย แล้วก็ซ่อนไว้ในกระเป๋าของเธอ พวกเธอก็ไม่ยอมเชื่อ” ซุนหรู รีบกระโดดออกมาอีกครั้ง ใบหน้าที่ดูเหมือน คนร้าย “คุณเวิน แบบนี้คุณจะยอมรับหรือยัง? ตอนนี้ หลักฐายชัดเจนขนาดนี้ อยากรู้ว่าคุณจะปฏิเสธ อย่างไร”
คุณชายห้าฉิงตกตะลึง เดิมทีเห็นท่าทางที่สงบ ของเวินลั่วฉิง เขายังเข้าใจว่าในกระเป๋าไม่มีของจริง ๆ ไม่คิดว่าจะค้นเจอ ของผิดกฎหมาย”
เกรงว่าจะมีคนแอบเอาของมาใส่ไว้ในกระเป๋าของ เธอตอนที่เธอไม่รู้ตัวหรือเปล่า?
มันก็โง่จริง ๆแหละ
ในสถานการณ์แบบนี้ คุณชายห้าฉิงรู้สึกว่ายังไงก็ ต้องเล่าให้พี่สามฟัง แล้วภายในใจของเขาก็ด่าว่า เวินลั่วฉิงว่าโง่อีกครั้ง ยังไงตอนนี้เวินลั่วฉิงก็ถือว่าเป็นภรรยาของพี่สามโดยถูกต้องตามกฎหมาย
“พี่สาม พี่มาห้อง505ที่ มีปัญหาเกิดขึ้น” คุณชาย ห้าฉิงส่งให้ ข้อความสั้นให้แก่เย่ชือเฉิน
เมื่อขึ้นดูดี ๆแล้ว เขาก็เสริมไปอีกประโยคว่า “เวินลั่วฉิงกำลังเจอปัญหา”
ในห้องส่วนตัวอีกห้อง เย่ซือเฉินเหล่ตาลงเล็กน้อย จู่ๆก็ลุกขึ้นมา และเดินออกไปทันที ปล่อยให้คนใน ห้องจ้องมองอย่างมึนงง ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่เย่ซือเฉินผลักประตูและเดินเข้าห้องมา เมื่อผู้คนเห็นเขา พวกเขาก็ตกตะลึง
คุณชายสามเย่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
คุณชายเล้งกับคุณชายสามเย่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ ร่วมกัน คุณชายสามเยไม่มีทางที่จะมางานในสถานที่ ของคุณชายเล้งอีกทั้งเกรงว่าจะไม่มีใครกล้าเชิญพ่อ พระอย่างคุณชายสามเย่
เมื่อผู้หญิงในห้องมองไปที่เย่ชือเฉิน ทุกต่างมี สายตาที่เป็นประกาย หน้าตาเหมือนกำลังมีความ หลงใหล
เป็นลั่วนิ่งก็ตะลึงเหมือนกัน แต่ไม่นานเธอก็กลับ มาสงบเหมือนเดิม บนสัญญาของการแต่งงานของพวก เขาก็เขียนไว้อย่างชัดเจนน ว่าการแต่งงานจะรู้กัน เพียงพวกเขา ไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ
แล้วเขาก็แต่งงานกับเธอเพื่อบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปและไม่ได้ยอมรับว่าเธอเป็นภรรยาของเขา สุดท้ายข้อ ตกลงของเธอก็ไม่ดีจริง ๆ
ดังนั้น เวินลั่วฉิงเลยไม่พูดอะไรทั้งนั้น แกล้งทำ เป็นไม่รู้จักเขา
หลังจากที่เย่ซื้อเฉินเดินเข้ามา เขาก็ตรงไปที่ เงินลั่วชิง เมื่อเห็นเธอมองเขาแค่แวบเดียว และไม่ได้ ขยับตัว แถมไม่พูดอะไรกับเขาอีก คุณชายสามเย่กะ พริบตาปลิบ ๆ หลังจากนั้นก็ถามคุณชายห้าฉิงว่า “เกิด อะไรขึ้น?”
ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นอย่างเห็นได้ ชัด
หลังจากที่ผู้คนได้ยินคำถามของเย่ซือเฉิน เลยคิด ว่าเขามาเพื่อหาคุณชายห้าฉิง ถ้าเป็นแบบนั้น การ ปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขาถือได้ว่าสามารถ อธิบายได้
“ผู้หญิงสองคนนี้บอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเวิน เป็นคนขโมยสร้อยคอของพวกเขา แล้วคุณหนูใหญ่ ตระกูลเวินเป็นคนโทรไปแจ้งความ แต่หลังจากที่เมื่อกี้ นี้ค้นกระเป๋าของคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินก็เจอสร้อยคอ ที่หายไปอยู่ในนั้นจริง ๆเมื่อคุณชายห้าฉิงกำลังพูด ประโยคนี้ ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะแอบด่าเวินลั่วฉิงว่า เธอโง่เกินไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรโง่ ๆแบบนี้ ตัวเองแจ้ง ความเอง สุดท้ายก็ขุดหลุมฝังตัวเอง
แต่ก็ต้องโทษเขาเหมือนกัน เมื่อครู่เขาก็ไม่ควรที่ จะฟังเธอ ควรที่จะพยายามไม่ให้กระเป๋าของเธอถูก
ค้น
คุณชายเล้งกะพริบตาปลิบ ๆ สายตาของคุณชาย เล้งมองไปที่เงินลั่วฉิง อย่างหยั่งไม่ถึง
หรือว่าคนทั้งหมดเข้าใจว่าเย่ซือเฉินมาหาคุณชาย ห้าฉิง แต่เขาไม่คิดแบบนั้น… สายตาคู่นั้นของเย่ชือเฉินก็มองไปที่เวินลั่วฉิงอีก
ครั้ง เห็นเพียงแค่เป็นลั่วนิ่งนั่งอยู่เงียบ ๆ นอกจากตอน
ที่เขาเพิ่งเดินเข้ามา หลังจากนั้นเธอก็ไม่แม้แต่จะมอง
เขาอีก
ตอนนี้เธอแสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้จักเขาเลย นับ ประสาอะไรกับการขอให้เขาช่วย
จู่ ๆ เย่ซื้อเฉินก็รู้สึกตึงที่อก ราวกับว่าเธอกำลัง โกรธเขาอยู่
“ในห้องนี้มีกล้องวงจรปิดหรือเปล่าครับ?” จู่ๆ นาย ตำรวจผู้น้อยก็ถามขึ้น ตอนนี้นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะรู้ ความจริง
“ที่นี่เป็นห้องที่คุณชายเล้งใช้ เลยไม่มีกล้อง วงจรปิดครับ” นี่เป็นสิ่งที่คุณชายห้าฉิงหดหู่ที่สุด ห้อง อื่น ๆมีกล้องวงจรปิดหมด มีแค่ห้องแหละที่ไม่มี เพราะ คุณชายเล้งมักใช้ คุณชายเล้งเลยไม่อนุญาตให้มี กล้องวงจรปิด
พวกเขาเชื่อว่าเงินลั่วฉิงไม่มีทางจะขโมยของได้ แต่ความเชื่อของพวกเขาก็ไม่ช่วยอะไร
ความจริงในตอนนี้คือการเจอ “ของผิดกฎหมาย” นั้นในกระเป๋าของเวินลั่วฉิงต่อหน้าต่อตาทุกคน ตอนนี้ เหมือนกับเจอทางตัน มันไม่สามารถย้อนกลับไปได้ แล้ว
ลูกสาวคนโตของตระกูลเวินขโมยของ ถ้าเกิดว่า เรื่องนี้ถูกแพร่กระจายไปข้างนอก จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าฟัง มาก ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ถูกจัดฉากโดย เจตนาอย่างเห็นได้ชัด เกรงว่าเพียงแค่เวลาไม่นานข่าว ลือก็สามารถถูกแพร่ไปทั่วเมือง Aได้เลย แถมยังจะถูก ลืมอย่าไม่น่าฟังแน่นอน
แต่เป็นลั่วนิ่งดูไม่รีบร้อนใด ๆ และดูไม่ได้ตกใจ เลย ยังคงดูสงบเหมือนเดิม สงบจนทำให้คนอื่นรู้สึก สงสัย
“ดูเหมือนว่าอาการป่วยของคุณหนูใหญ่ตระกูล เวินยังไม่หายดีมั้ง เรื่องถึงขนาดนี้แล้ว เธอดูไม่เดือด ร้อนอะไรเลย”
“หัวหน้า ตอนนี้เรายังเอายังไงกันดี?” เมื่อสติของ ตำรวจหนุ่มกลับมา เขาก็หันไปถามหัวหน้าของเขา น้ำ เสียงสั่นเล็กน้อย
สีหน้าของคุณชายห้าฉิงเข้มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์ตอนนี้ควรทำยังไงดี?
ตอนนี้คงทำได้เพียงระงับเรื่องนี้ไว้ และอย่าให้มัน ลุกลามเกินไป
เขากลัวว่าถึงเวลานั้นมันจะทำลายชื่อเสียงของพี่ สาม ทำไมถึงผู้หญิงโง่คนนี้ไม่ตายแบบโง่ ๆไปเลยนะ
เยซื้อเฉินเลิกคิ้วขึ้น แม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ จักเขาก็ตาม ภายในใจของเขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เขารู้ว่า ด้วยความสามารถของเธอ ผลไม่น่าจะออก มาเป็นแบบนี้
เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เอาแต่นั่งรออย่างแน่นอน
“เจ้าหน้าที่ตำรวจคะ พวกเรามีของแบบนี้แล้ว หรือ คุณจะไปทำธุระของคุณก็ได้นะ” สุดท้ายแล้ว ใน ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่ เสียงของเวินลั่วชิงก็เปล่ง ออกมา
“มันจะทำอะไรได้?” เสียงของคุณชายห้าฉิงมี ความตกใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าตอนไม่มีอะไรที่จะ สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในตอนนี้
เว้นแต่ว่าจะมีใครขอเป็นพยานให้เวินลั่วฉิง แต่ เห็นได้จัดว่าเป็นลั่วฉิงไม่มีความกล้าหาญอะไรแบบนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนในตอนนี้จะออกมาเป็นพยานให้กับ เธอในสถานการณ์เช่นนี้
แน่นอนว่า เรื่องนี้ถูกจงใจจัดฉาก โดยธรรมชาติ แล้วคนเหล่านั้นจะระมัดระวังตัวมาก เกรงว่าน่าจะหา พยานไม่ได้
เวินลั่วฉิงเหลือบมองไปที่เขา นั่งตัวตรง แล้วก็ หยิบกระดุมบางอย่างออกจากกระเป๋า และมอบให้นาย ตำรวจชั้นผู้น้อย
ทุกคนดูสับสน ไปหมด เธอหมายความว่ายังไง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ