ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่788 ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร (2)



บทที่788 ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร (2)

“ไม่มี ไม่มีแน่นอน “หลินเปียรีบโบกมือ อยากถอยหลังอีกครั้ง

“น้องตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม? แถมยังแดงขนาดนี้อีก? “เจ้า ชายใหญ่ไม่ได้เข้าไปใกล้ แต่จ้องเขาอย่างแปลกใจ

เจ้าชายน้อยเป็นคนร่างเล็ก มองแล้วผอมบาง ยืนเคียงเจ้า ชายใหญ่แล้วไม่ค่อยกลมกลืนกันสักเท่าไหร่

“ไม่มีอะไร คุณหยวนรออยู่ด้านล่าง พวกเรารีบลงไปกันเถอะ” เจ้าชายน้อยหาเหตุผลเข้าท่าได้ พลางถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้น ก็หันหลังเดินออกไป แม้ร่างกายเขาจะเล็ก แต่กลับวิ่งได้เร็วมาก

“เสียดายวันนี้ถึงหลินไม่ได้ไปเป็นเพื่อนพวกเรา ได้ยินมาว่า เมื่อคืนถังหลินข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นเลยโทรศัพท์ แจ้งความถังหลิน ตอนนี้ให้ตำรวจทำคดีอยู่ในห้อง หลินเก้อเดิน ตามเขาอยู่ด้านหลัง แกล้งทำเป็นเล่าเรื่องภายในห้องให้ฟังแบบ ผ่านๆ

หลินเบี้ยที่เดินอยู่ด้านหน้าร่างกายแข็งค้าง หยุดก้าวเดิน ก่อน จะหันกลับไปมองพี่ชายของตน หรือเหรอ? มีคนแจ้งความถึง หลินข่ม……? ”

น้ำเสียงของเจ้าชายน้อยมีความแปลกประหลาดหลายส่วน คล้ายกับมีอารมณ์อื่นแอบแฝงอยู่ด้วย

“จริงแน่นอน เมื่อกี้พี่ดูทุกอย่างในห้องจนชัดเจนแล้ว ผู้หญิงคน นอนาถมาก มีรอยแผลเต็มตัวเลย ถังหลินคนนี้หยาบ กระด้างมากไม่รู้จักถนอมสาวๆเลยสักนิด

เจ้าชายใหญ่เดินไปพลางสายหัวไปพลาง : “ซวยแล้ว ช่วย แล้ว ครั้งนี้ถังหลินกระโดดลงหวงเหอก็คงล้างมลทินไม่ได้ แล้วถึงจะแก้ต่างยังไงก็ฟังไม่ขึ้น

หลินเป้ยยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่ได้พูดอะไร และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

เจ้าชายใหญ่เดินไปด้านหน้าเขา ยกมือตบไหล่เขา

หลินเป้ยถูกเขาตบ สองขาก็อ่อนจนทรุดตัวคุกเข่า

“หลินเป้ย ตกใจเกินไปหรือเปล่า พี่เห็นเมื่อกี้น้องเกือบล้มเลย ทําไม เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือไง? ทำให้สองขาอ่อนล้าไป หมด? “หลินเกือมองขาของเขา พลางกะพริบตาปริบๆ เมื่อกี้แค่ ตบเขาเบาๆ เขาจําเป็นต้องเป็นถึงขนาดนี้ไหม?

เหมือนสองขาไม่มีแรงเสียอย่างนั้น!!

“พี่นั่นแหละขาอ่อน”หลินเป้ยจ้องเขม็งเขาแรงๆ จากนั้นก็หัน หลังเดินไปยังด้านหน้า

เจ้าชายใหญ่..……….

ใจความสำคัญที่เขาพูดเมื่อกี้คือขาอ่อนหรือ? ใช่หรือ?!

เจ้าชายใหญ่ไม่ได้รับคำมาพูดต่อ แค่มองแผ่นหลังเขาอย่าง ใช้ความคิด……..
ภายในห้องถังหลิน เมื่อเวลาล่วงเลยไปกว่าสองชั่วโมง หมอ นิติเวชก็เดินออกมา ในมือยังถือผลตรวจไว้ด้วย

ทุกคนล้วนมองแต่ผลตรวจในมือหมอนิติเวช อยากรู้ว่าผลเป็น เช่นไร

คุณกงก็มองด้วยสีหน้าตึงเครียด

ถังหยุนเฉิงก็ตึกเครียดเช่นกัน ร่างกายที่หดแข็งของเขาทำให้ รู้ว่าเวลานี้เขาเครียดมากเพียงใด

แต่เป็นลั่วนิ่งกลับมีสีหน้าปรกติ

ผลออกมาแล้วครับ เส้นผมกับเลือดบนผ้าห่มไม่ใช่ของถัง หลิน และไม่ใช่ของคุณกงครับ”ครั้งนี้หมอนิติเวชไม่ได้เอาให้ หัวหน้ากู้ดู แต่เป็นการประกาศผลออกมาโดยตรง

สิ้นเสียงของเขา คนครึ่งหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องตกตะลึง

เงินลั่วนิ่งกลับแอบเบา ใจลง ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจสัก เท่าไหร่ ตอนนี้โชคดีมาก โชคดีมาก!

ถังหยุนเฉิงก็เบาใจอย่างเห็นได้ชัด เขามองเงินถั่วงอย่าง ปลาบปลื้ม โชคดีที่มีฉิงฉิงอยู่ด้วย

“เป็นของแขกก่อนหน้านี้หรือเปล่า? “จิ้งหมู่ตกใจ รีบพูด ออกมาหนึ่งประโยคถึงจะทำความสะอาดห้องได้ดีเพียงใด แต่ บางครั้งก็อาจสะเพร่าได้”

“ผลวิเคราะห์คราบเลือดบนผ้าห่มออกมาแล้วครับ ทิ้งเลือดนี้ไว้ในเวลาประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่มของเมื่อคืนครับ”หมอนิติเวชมอ งกู้จิ้งหยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะเสริมอีกหนึ่งประโยคช้าๆ ได้ยินหมอนิติเวชพูดเช่นนี้ กู้ฉิงหยู่ก็ไม่กล้าเอ่ยแม้แต่ค่าเดียว

เพราะหมอนิติเวชแจ้งเวลาได้แม่นยำมาก

คุณกงที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวสั่นเทา แต่ยังคงเสแสร้งบนใบหน้า ได้ไม่เลว ไม่ได้เผยความผิดแปลกออกมามากนัก

“ก่อนหน้านี้ฉันเคยดูกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นถึงหลินขึ้นมาชั้นนี้ ตอนสี่ทุ่มสิบห้านาที คุณกงบอกว่าถังหลินขึ้นมาถึงก็ดึงคุณเข้า ห้อง ข่มขืนจนถึงตีสอง ก่อนหน้านี้คุณกงบอกว่าไม่มีใครเข้ามา งั้นขอถามคุณกงหน่อยว่า จะอธิบายเลือดนี้อย่างไร

“ไม่รอให้คุณกงเอ่ยปากพูด เป็นลั่วนิ่งก็รีบเสริมอีกหนึ่ง ประโยค

ขอเพียงยืนยันได้ว่าคุณกงกำลังพูดโกหกอยู่ งั้นเรื่องนี้ก็มี

โอกาสพลิกสถานการณ์แล้ว

บัดนี้คุณกงนั่งตัวตรงมาก แผ่นหลังก็ตรงมาก มือของเธอที่จับ เก้าอี้โซฟาไว้เก็บแน่นเล็กน้อย……..

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมมีเลือดของคนอื่นไปได้ ตอน นั้นยังมีบุคคลที่สามอยู่ในห้องเหรอ? ”

“แต่คุณกงพูดอยู่หมาดๆว่าไม่มีคนอื่น หรือคุณกงกำลังพูดปด อยู่? ”

“ทําไมคุณกงต้องโกหกด้วยคะ? คุณกงพูดโกหกจุดนี้ งั้นที่เธอฟ้องถึงหลินเพราะโดนข่มขืน มันจริงหรือเท็จกันแน่?

“เชิญคุณกง ให้คําอธิบายหน่อยค่ะ”บัดนี้นักข่าวทุกคนต่างพุ่ง เข้าหาคุณกง ต่างบีบถามเธออย่างชุลมุน

คุณกงเห็นเช่นนี้ก็ว้าวุ่นใจเล็กน้อย สื่อสารมวลชนเป็นดาบส องคมเสมอมา หากใช้ไม่ดี อาจทําร้ายตัวเองได้

“ตอนนั้นฉันถูกตีจนเกือบขาดการรับรู้ อยู่ในอาการมึนๆ เบลอๆ ฉันจำไม่ค่อยได้ว่าต่อมาเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง หรือภาย หลังมีคนเข้ามาแต่การรับรู้ของฉันไม่ค่อยดีเลยไม่ทันได้สังเกต” ไม่ชมไม่ได้แล้ว คุณกงมีไหวพริบไวมาก ฉลาดมาก และเหตุผล นี้ก็ฟังเข้าท่าเสียด้วย

“แต่เมื่อกี้คุณกงยืนยันหัวชนฝาว่าไม่มีคนเข้ามา คุณกงลืมคำ พูดของตัวเองไวขนาดนี้เลยหรือ? “มีหรือเป็นลั่วนิ่งจะปล่อยให้ เธอปฏิเสธความรับผิดชอบ การถามปูทางก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ ทําเปล่าๆนะ

“คุณกง ขอถามหน่อยว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมค พูดของคุณก่อนหน้าและหลังไม่ตรงกัน?

นักข่าวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็เริ่มบีบเค้นถามหาความจริง จากคุณกงอีกครั้ง

“ถังหลินน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่สุด? “หนึ่งในนักข่าวกล่าว ประโยคนี้ออกมา

“อืม มีเหตุผล ถังหลินที่อยู่ในเหตุการณ์มีสิทธิ์พูดที่สุด”
“ถังหลิน ขอถามหน่อยค่ะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? “นักข่าวหัน ไปหาถึงหลิน แต่เมื่อเทียบกับคุณกงแล้ว ตอนนี้มีความยำเกรง หลายส่วน

เพราะเรื่องนี้กลายเป็นปริศนาที่สับสนมาก ยังไม่แน่ใจว่าจะ เป็นความจริงหรือเปล่า ไม่มีใครกล้าบาดหมางกับถังหลินใน เวลาเช่นนี้

“ผมไม่รู้อะไรเลย เพราะผมไม่ได้ดึงคุณกงเข้าห้อง ผมไม่รู้ด้วย ว่าคุณกงเข้ามาอยู่ในห้องของผมได้อย่างไรถึงหลินมองคุณ กงอย่างเย็นยะเยือก พลางพูดอย่างมั่นใจสุดๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ