ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่482 เขารู้เรื่องเด็กๆสองคนแล้ว (6)



บทที่482 เขารู้เรื่องเด็กๆสองคนแล้ว (6)

ถังหลินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายบางๆ ขึ้นมา เรื่องนี้สามารถเชื่อมโยงกันได้แล้ว

แต่เมื่อครู่นี้เขาเองก็สับสนเช่นกัน หลังจากที่ฉิงฉิงหย่ากับ เยซื้อเฉินแล้วก็กลับไปอยู่ที่ประเทศM ลูกก็จะต้องตามฉิงฉิงกลับ ไปที่ประเทศ อย่างแน่นอน

ไม่ ไม่ใช่สิ เขามั่นใจ ว่าตอนนี้เชื่อเงินยังไม่รู้เรื่องเด็ก มิเช่น นั้นแล้ว เยซื้อเฉินจะต้องมาทำเป็นอวดดีต่อหน้าเขาไปตั้งนาน แล้ว

แน่นอนว่าถ้าหากเชื่อเงินรู้เรื่องเด็กตั้งแต่แรกแล้วนั้น จะต้อง ไม่ยอมให้เงิน วฉิงพาเด็กสองคนไปอเมริกาอย่างแน่นอน

ถ้าหากเด็กตามฉิงจึงกลับไปที่ประเทศM เป็นไปไม่ได้ที่เชื่อ เฉินจะไม่รู้เรื่องของเด็ก ตอนนั้นถึงจึงนั่งเครื่องบินธรรมดาออก ไปจากเมือง A เย่อเฉินจะต้องหาได้อย่างแน่นอน ถ้าหากตอน นฉิงฉิงพาเด็กสองคนนั้นไปด้วย เชื่อเงินต้องการจะหา สามารถหาตัวเจอได้อยู่แล้ว

ดังนั้น เด็กๆ จะต้องไม่ได้กลับประเทศMไปกับฉิงนิ่งอย่าง แน่นอน

จะต้องเป็นถังไปเรียนที่เล่นอะไรบ้าๆอีกแน่ๆ!!! จะต้องเป็นถังไปเขียนที่พาตัวเด็กออกไปก่อน เพราะฉะนั้นเชื่อเงินถึงได้หาไม่เจอ

ใบหน้าของถังหลินแฝงความเย็นชาเอาไว้ ดังนั้นถังไปเขียน คงจะคิดพยายามปิดบังเรื่องเด็กสองคนนี้เอาไว้

แน่นอนว่าในใจของถังหลินนั้นรู้ดี ที่ถังไปเรียนสามารถปิดบัง เชื่อเงินได้นั้น นั่นเป็นเพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเยซื้อเฉันไม่เคย คิดถึงเรื่องที่ฉิงฉิงจะมีลูกอยู่แล้ว ความคิดทุกอย่างของเยซื้อเงิน นั้นอยู่ที่เป็นถั่วนิ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงมองข้ามเรื่องอื่นๆไป

“พี่ใหญ่ พี่มีอะไรหรือเปล่า?” เห็นว่าถังหลินไม่ได้เอ่ยพูด อะไรออกมาเป็นเวลานานแล้ว จึงอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้

“มีรูปถ่ายของเด็กไหม? ส่งมาให้ฉันรูปนึง ถังหลินดึงสติกลับ มาแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นมา ถึงแม้จะไม่ได้เจอกับเด็ก แต่ได้เห็นรูป ยังดี

“พี่ใหญ่ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม? ทำไมจู่ๆ ก็มาสนใจเรื่องเด็ก สองคนนั้นขนาดนี้?” จี้หซีรู้สึกว่าเรื่องนี้ยิ่งดูมีอะไรแปลกๆ มากกว่าเดิม

นิสัยของพี่ใหญ่เขารู้ดีที่สุด เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่มีทาง สนใจโดยเด็ดขาด และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ตระกูลถังก็มีเรื่อง มากมาย แต่พี่ใหญ่กลับโทรมาถามเรื่องเด็ก โดยเฉพาะอีกต่าง หาก

อีกทั้งยังบอกว่าอยากจะดูรูปเด็กอีกเสียอย่างนั้น ดวงตาของ เป็นประกาย และทันใดนั้นเองก็นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมา เด็กแซ่ตั้ง พี่ใหญ่เองก็แซ่ถัง

“พี่ใหญ่ เด็กนั่นไม่ใช่ว่าเป็นลูกของพี่ใช่ไหม?” จี้เชือดที่จะส่ง เสียงร้องออกมาด้วยความตกใจไม่ได้ เวลานี้หนักได้ถึงแต่ ความเป็นไปได้เพียงเท่านั้น ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมพี่ใหญ่ถึงได้ดู ใส่ใจเรื่องเด็กขนาดนี้กัน?

แต่หากเด็กนั่นเป็นลูกของพี่ใหญ่จริง ทำไมพี่ใหญ่เพิ่งจะมา ใส่ใจตอนนี้?

หรือว่าเพิ่งจะมารู้ตอนนี้อย่างนั้นหรือ?

ได้ยินคำพูดของนซี มุมปากของถังหลินจึงกระตุกขึ้นมา พลัง จินตนาการของจี้ นับว่าเก่งมาก

“เดี๋ยวอีกไม่นานนายก็ได้รู้แล้ว” ถังหลินไม่ได้ตอบมาตรงๆ

เนื่องจากถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของจิงฉิง จึงนิ่งไม่บอก เขา

เองก็ไม่สามารถพูดไปทั่วได้

“พี่ใหญ่ พี่หมายความว่าอะไรนะ ไม่ใช่ว่าเป็นอย่างที่ผมพูด มาจริงๆหรอกนะ?” จี้เห็นถังหลินไม่ได้ตอบโต้ คำพูดที่ยิ่งดู คลุมเครือนั้น ทำให้หนั้นรู้สึกอึ้งไปแล้ว

ไม่ ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม? เด็กสองคนนั้นเป็นลูกของพี่ใหญ่ จริงๆอย่างนั้นหรือ?!

“เรื่องนี้เก็บเอาไว้เป็นความลับก่อนนะ” แล้วถังหลินก็กำชับ ขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องนี้ เขาจะต้องถามถึงฉิงก่อนถึงจะถูก

“พี่ใหญ่ พี่นี่สุดยอดจริงๆ ไม่คิดว่าเด็กสองคนนั้นจะเป็นหลานคนโตของผมเลยนะเนี่ย พี่ใหญ่ พี่ไม่รู้หรอกว่าเด็กสองคนนั้นน่า รักขนาดไหน ฉลาดขนาดไหน โดยเฉพาะเจ้าเด็กโม่ นั่นเป็นเจ้า เด็กที่ฉลาดมากคนนึงเลยนะ ความฉลาดแม้แต่ผมเองยังนับถือ เลย ในที่สุดตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าทำไมจอไม่ถึงได้เก่งขนาดนั้น ต้องเป็นกรรมพันธุ์จากพี่ใหญ่แน่ๆ” จี้หยิ่งพูดก็ยิ่งดูตื่นเต้น ตอนแรกเขาเคยเข้าใจผิดว่าเด็กสองคนนั้นเป็นลูกของเขา ผล ปรากฏว่าดีใจเก้อไปเสียอย่างนั้น

แต่ถ้าหากเป็นลูกของพี่ใหญ่ นั่นก็นับว่าไม่เลวเลยเหมือนกัน

ถังหลินได้ยินแล้วมุมปากก็ขยับขึ้น ถ้าหากจะบอกว่าเป็น เพราะกรรมพันธุ์ของเขาก็คงได้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคุณอาแท้ๆ ของเด็กทั้งสองคน เซลล์ที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ของพวกเขา ตระกูลถังนั้นก็ดีมาโดยตลอด

เขาจะทำอะไรนั้นก็เด็ดขาดมาตลอด และเวลาของเขาเองก็มี ค่ามากเช่นกัน ครั้งนี้กลับฟัง หมีพูดคุยถึงเด็กสองคนนี้ ไม่คิดว่า จะยอมวางสายไปแบบนี้

“ลูกพี่ รายงานที่ต้องการส่งมาแล้วครับ” จนกระทั่งเสี่ยวเดิน ถือแฟกซ์เข้ามา ถังหลินถึงได้วางสายไป

วางสายไปแล้ว เขายังรู้สึกตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง เขายังอยากจะ ฟังเรื่องราวของเด็กสองคนนั้นอีก

ไม่ได้ เขาจะต้องไปรับเด็กสองคนนั้นกลับมา คนของตระกูล ถังจะถูกถังไปเรียนกักตัวไว้แบบนั้นได้อย่างไรกัน?

ก้นบึ้งของถังไปเขียนนั้นเขารู้ดีที่สุด ดังนั้นเรื่องนี้คงจะไม่ยากเท่าไรนัก

ถังหลีนรับรายงานมา ดูเพียงแต่แวบเดียว มุมปากก็กระตุกขึ้น มาเล็กน้อย แล้วเก็บข้อมูลเอาไว้ด้วยกันกับของถังจื่อไม่

ความจริงแล้วในใจของถังหลินนั้นก็รู้ผลอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เพื่อเช็คให้มั่นใจอีกเป็นครั้งสุดท้าย ผลที่ออกมานั้น ชัดเจนมาก เด็กเป็นลูกของเอเงิน

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เชื่อเงินยังไม่รู้เรื่องนี้……..

ถังหลินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา คิดว่าจะโทรไปหาเชื่อเงิน ดีหรือเปล่า

เขาที่เป็นคนเด็ดขาดมาโดยตลอดนั้น เวลานี้รู้สึกลังเลอย่าง เห็นได้ชัด เขาจะโทรหรือไม่ โทร ?

จนในที่สุดแล้ว ถึงหลินก็กดโทรออกหาเชื่อเงิน

ปลายสายดังอยู่สองสามครั้ง แล้วตอนที่สายกำลังจะตัดไป เองนั้น เชื่อเงินก็รับสาย หลังจากนั้นน้ำเสียงนิ่งๆของเขาก็ดัง ขึ้นมา : “มีธุระอะไร?”

“ฉันได้ยินมาว่าถึงจึงกลับมาแล้ว” ถังหลินได้ยินเสียงของ เขา อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ คนๆนี้รับโทรศัพท์ก็ดูเหมือนกับ ไปกินดินปืนมาอย่างไรอย่างนั้น จริงๆเลยสินะ!

“อืม” ได้ยินคำพูดของถังหลินแล้ว น้ำเสียงของเยซื้อเฉินยิ่งดู นิ่งลงไปอีก แต่กลับยังคงตอบรับกลับมา
หลังจากนั้น เชื่อเงินก็ได้ยินเสียงหัวเราะของถังหลิน ถึง แม้ว่าจะเบามาก แต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

“มีธุระหรือ?” ในใจของคุณชายสามแย่นั้นยิ่งรู้สึกหงุดหงิดยิ่ง ขึ้นไปอีก : “มีธุระก็ว่ามา ไม่มีอะไรผมวางแล้วนะ”

เวลานี้ น้ำเสียงของคุณชายสามเยฟังดูไม่ดีอย่างชัดเจน

“ครั้งที่แล้วฉันยังพูดไม่จบ นายกวางไปก่อน จึงจึงเป็น….. ถังหลินได้ยินน้ำเสียงของเยซื้อเฉินแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นมาอย่าง ต่อเนื่อง ประโยคนี้ของเขาเอ่ยพูดมาอย่างเชื่องช้า ช้าเสียจน ทำให้คนฟังเข้าใจผิดได้ง่าย และแน่นอนว่าถังหลินนั้นตั้งใจ

และหลังจากนั้น เชื่อเงินก็วางสายไปเลย

ถังหลินมองดูโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป กระพริบตาอย่าง รวดเร็ว ทำไมเขาถึงไม่รู้กันว่าเยซื้อเฉินเวลาดึงขึ้นมาแล้วจะมี พฤติกรรมเช่นนี้

ไม่ต้องพูดถึงความนิ่งในเวลาปกติของเขาซึ่งไม่มีอยู่แล้ว แม้แต่ความสามารถในการเข้าใจเหตุผลขั้นพื้นฐานแล้วก็ไม่มี ด้วยเช่นกัน ไม่ยอมให้คนอื่นได้พูดจบเลยเสียอย่างนั้น

ถึงแม้เมื่อครู่นี้เขาจะตั้งใจที่จะพูดออกมาอย่างเชื่องช้า มี ความเจตนาอยู่เล็กน้อยก็ตาม แต่เชื่อเงินก็ใจร้อนเกินไป หน่อยหรือเปล่า?

เขือเงินที่วางสายไปแล้วในเวลานี้ใบหน้าของเขานั้น เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าตระกูลถังจะมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้เขาช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าประโยคแรกที่ยังหลินเอ่ย ถามมาก็คือจิงจิง และยังบอกว่าฉิงจึงเป็นของเขาอีก

ซิบ เห็นเอเงินอย่างเขาตายไปแล้วหรือไง?

ถังหลีนนี่ไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิดเดียว

คนที่นึกถึงภรรยาของเขานั้นล้วนแต่เป็นศัตรูด้วยกันทั้งนั้น เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนพี่น้องก็ไม่ได้

ถังหลินเกินไปแล้วจริงๆ

เย่ซื้อเฉินคิดแล้ว จึงโทรศัพท์ไปหาเงินล้วงทันที คุณชาย สามเย่รู้สึกว่า เขาจะต้องป้องกันเอาไว้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น จะไม่ ยอมให้ถังหลินได้ฉวยโอกาสไปอย่างเด็ดขาด…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ