บทที่ 913 เทพธิดาเงินมีความสามารถสูง เจ้าหญิงน้อยมี ความสามารถทำให้คุณพ่อลำบากใจ (1)
“คุณแม่ แม่ต้องเชื่อใจฉิงฉิง ตอนนี้ทำตามที่ฉิงจึงบอกก่อน ใครก็อย่าแทรกมือเข้ามาในเรื่องของเมืองไห่ คุณแม่ แม่รออยู่ที่ บ้านอย่างเงียบสงบก่อน ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น อะไรก็ไม่ต้อง ทํา จําไว้ อะไรก็ไม่ต้องทำ” ถึงแม้ถังหลิน
ตอนนี้ตระกูลถังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
เพิ่งเหมียวเหมียวในขณะนี้เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ว่าถัง หลินกับเงินลั่วฉิงพูดแบบนี้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นห่วง ก็ไม่มีวิธี อื่นแล้ว อีกอย่างตอนนี้ลูกชายกำลังออกคำสั่งกับเธอ เธอจำเป็น ต้องฟัง
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นกับถังหยุนเฉิง เธอไม่มีวิธีอะไรเลย
ตอนนี้เธอทำได้แต่เชื่อฟังลูกชาย ได้แต่เชื่อฟังฉิงฉิง
เป็นเหมือนกับที่เป็นลั่วนิ่งคิดไว้เลย จากที่ถังหยุนเฉิงออกตาก หมู่บ้านสุ่ย แล้วกลับไปยังเมืองไห่ ก็ถูกนักข่าวล้อมรอบเลย
ในตอนที่ถังหยุนเฉิงเห็นเรื่องราวพวกนั้นที่เกี่ยวกับเขา เขามี ความตกใจจริงๆ แต่ว่า ในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับนักข่าว สีหน้า ปกติมาก ยังมีความเงียบสงบเหมือนเดิม มั่นคงเอาเรื่อง
ถังหยุนเฉิงได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อวานอย่างละเอียดอีก ครั้ง รวมถึงเรื่องของดินถล่ม เขาถูกกันไว้ รวมถึงว่าเรื่องที่เขาช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นอย่างไร แน่นอนว่า รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่เขา พาเด็กผู้หญิงไปพักที่ชุมชนเล็ก และเรื่องที่ตอนสุดท้ายเด็กผู้ หญิงถูกพ่อของเธอพาตัวไป
ถังหยุนเฉิงอธิบายได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ และไม่มีการปกปิด ใดๆ ความมั่นคงเอาเรื่องนี้ทำให้นักข่าว หลายๆ คนไม่กล้าสบตากับเขาเลย
ถังหยุนเฉิงแค่พูดอธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมื่อคืน เรื่องอื่นๆ ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ถึงขั้นไม่ได้พูดเลยว่าตัวเองถูกใส่ ร้าย
เพราะว่ามีคำพูดของเด็กผู้หญิงเข้ามาก่อน การอธิบายของถัง หยุนเฉิง จึงไม่ได้รับการเชื่อถือมากนัก แต่ว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่ ด่าทอถังหยุนเฉิงก็เริ่มกลัวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะ มีหน้าจอคั่นอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตาม
แต่ว่าพอนึกถึงแววตาที่แหลมคมของถังหมุนเฉิงแล้ว คำพูดที่ เกินไปมากมายก็ไม่กล้าพูดออกมาแล้ว
ต่อมา ถังหยุนเฉิงก็ไม่ได้ออกหน้าพูดอะไรอีก แม้กระทั่งนัก ข่าวที่อยู่ข้างกายของเขาเสี่ยว ที่ถูกนักข่าวกันไว้ก็ไม่ได้อธิบาย ให้หัวหน้าของตัวเอง
เสี่ยวมองดูกล้องด้วยความเฉยชา ไม่ว่านักข่าวจะถามอย่าง บีบบังคับยังไง ก็ไม่พูดออกมาสักคำ ความเฉยชาทำให้ผู้คนรู้สึก เงียบสงบ ไม่อยากแยแส ราวกับว่าคนที่เกิดเรื่องไม่ใช่หัวหน้า ของเขา
ส่วนคนในตระกูลถังก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ไม่เพียงแต่ คนในตระกูลถังไม่มีการเคลื่อนไหว ขอแค่คนที่มีความเกี่ยวข้อง กับถังหยุนเฉิงต่างก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ราวกับว่าคนที่เกิด
เรื่องขึ้นคือถังหยุนเฉิงตัวปลอม ถึงขั้นมีคนเผยออกมาว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังตอนแรกนั้นอยู่ ที่เมืองไห่ แต่ว่าเช้าวันนี้กลับมาที่เมืองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรื่องนี้ทำให้มีการพูดถึงขึ้นมากมาย ใครก็คิดไม่ออกว่านี่เกิด อะไรขึ้น
เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้กับถังหมุนเฉิง ตระกูลถังกลับ……..
มีคนพูดถึง มีคนคาดเดา แน่นอนว่าก็มีคนเริ่มกังวล……. ตามการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืนจากถังหยุนเฉิงแล้ว นักข่าวก็ไปหาชุมชนเล็กที่พักนั้นเจอ และเจอเจ้าของที่พักชุมชน เล็ก
“เมื่อคืนประมาณเที่ยงคืน เขาได้อุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมา ตอนนั้นทั้งตัวของเด็กผู้หญิงเต็มไปด้วยขี้ดิน เขาให้ฉันช่วยหา เสื้อผ้าชุดหนึ่ง ให้เด็กผู้หญิง ให้ฉันช่วยเด็กผู้หญิงอาบน้ำ แล้ว เปลี่ยนเสื้อให้เด็กผู้หญิง หญิงสาวเผชิญหน้ากับนักข่าวที่ล้อม รอบมากมายมีความตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ว่าก็พูดได้อย่างชัดเจน
สิ่งที่หญิงสาวพูดคือความจริงทั้งหมด ไม่มีเรื่องเท็จแม้แต่น้อย
“ตอนที่ฉันช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นอาบน้ำ เด็กผู้หญิงก็ตื่นแล้ว แต่ว่าหลังจากที่ฉันเปลี่ยนเสื้อให้เด็กผู้หญิงเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ออกไปแล้ว”
“งั้นความหมายของเธอก็คือ ตอนนั้นมีเพียงเด็กผู้หญิงและเขา อยู่ในห้องสองต่อสอง” มีนักข่าวคนหนึ่งจับจุดนี้ของข้อความไว้ ได้
“ใช่” ผู้หญิงคิดไปคิดมา จากนั้นก็ค่อยๆ พยักหน้า “ตอนนั้น เขาบอกว่าให้คนไปซื้อยาให้เด็กผู้หญิงแล้ว น่าจะมีคนอื่นๆ อยู่ ด้วย”
แล้วคนอื่นๆ กลับมาเมื่อไหร่? เขาและเด็กผู้หญิงอยู่ด้วยกัน ในห้องสองต่อสองนานเท่าไหร่?” นักข่าวมักชอบจับจุดสําคัญไว้ ได้ ดังนั้นคำถามที่ถามก็มักเป็นคำถามที่สำคัญ
“ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะว่าง่วงมาก พอ ฉันกลับไปที่ห้องก็หลับแล้ว จากนั้นก็ตื่นเพราะเสียงดัง ประมาณ ตีสอง ตอนนั้นมีคนไม่กี่คนพุ่งเข้ามา หนึ่งในนั้นบอกว่าเป็นพ่อ ของเด็กผู้หญิง จะมาเด็กผู้หญิงไป” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลังนึกถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ “ตอนนั้น ตอนที่คุณพ่อของเด็กผู้หญิงจะมาเด็กผู้หญิงไป พวกเขาได้พบ เจอกับคนที่น่ายากลับมา
“งั้นก็แสดงว่า คนที่น่ายากลับมานั้นกลับมาประมาณตีสอง และเวลาสองชั่วโมงนี้ เด็กผู้หญิงก็อยู่ในห้องกับเขาสองต่อ สอง?” นักข่าวคนหนึ่งได้รับบทสรุปออกมาเลย
“ตอนนั้นฉันหลับไปงีบหนึ่ง หลักๆ แล้วไม่ค่อยชัดเจน” หญิง สาวตื่นเต้นมาก แต่ว่าพูดอย่างยืนหยัด สิ่งที่ไม่รู้ก็ไม่พูดไปมั่ว
ระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวไหม?” นักข่าวคนหนึ่ง รีบถามไปประโยคหนึ่ง คำถามนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว
“ไม่มี ฉันหลับสนิทมาก คืนนั้นอีกมากแล้ว พอกลับถึงห้องฉัน ก็หลับแล้ว” หญิงสาวส่ายหน้า ตอบอย่างธรรมชาติ
“ฉันไม่เห็น” หญิงสาวคิดไปคิดมา ส่ายหัวอีกครั้ง
“ไม่เห็น? บนร่างกายของเด็กผู้หญิงมีแผลที่หนักมาก ตอนนั้น เธอไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย?” คนที่ถามประโยคนี้ถึงแม้ว่าจะมี ความไม่ค่อยอยากจะเชื่อ รู้สึกว่าหญิงสาวกำลังพูดโกหก หรือ อาจจะเพราะกำลังปกป้องถังหมุนเฉิง “เธออย่ากลัว พูดความ จริงออกมาเลย”
“ฉันไม่เห็นจริงๆ เสื้อผ้าที่ฉันหามาให้เด็กผู้หญิงค่อนข้างใหญ่ ใส่อยู่บนตัวแล้วปกปิดดีดีมาก บนร่างกายของเธอไม่แผล ตอน นั้นใครก็มองไม่เห็น” หญิงสาวมองไปทางนักข่าวคนนั้น “ตอน นั้นเด็กผู้หญิงถูกคุณพ่อของเธออุ้มไว้ แล้วคุณพ่อของเขาเห็น แผลบนร่างกายของเด็กผู้หญิงหรือเปล่า”
ประโยคหนึ่งของผู้หญิง ทำเอานักข่าวงงกันไปหมด
หญิงสาวพูดประโยคนี้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟังแล้วเหมือนเป็น คำถามปกติ แต่ว่าฟังแล้วเหมือนเป็นคำพูดธรรมดา กลับมี คำถามมากมายแฝงอยู่
คำพูดนี้เหมือนจะปกติ แต่กลับดูมีพื้นฐานมาก
เงินถั่วนิ่งในขณะนี้กำลังดูถ่ายทอดสดในห้อง ริมฝีปากของเธอค่อยๆ โค้งขึ้น รอยยิ้มค่อยๆ โค้งขึ้น
จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นลั่วจึงหันไปมองหนึ่งที่ แววตา เปล่งปลั่ง แล้วรีบรับขึ้นมา
“เห็นรายการถ่ายทอดสดหรือยัง?” ในโทรศัพท์มีเสียงดังผ่าน มา มีน้ำเสียงที่ประสมความสำเร็จอยู่!!!
“เห็นแล้ว” น้ำเสียงของเงินถั่วนิ่งในขณะนี้ดูผ่อนคลาย หลัก การทำงานของเธอ ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ต้องหาคนที่ชำนาญ คนที่ ชำนาญมาแก้ปัญหาจึงจะทำให้วางใจได้!!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ