บทที่ 875 เจ้าหญิงน้อยแฉคุณแม่จนหมดเปลือก (1)

บัดนี้ความรู้สึกนึกคิดของถังจื่อ โม่ยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้น แล้ว ตาที่เขามองถัง อนั้นมีความอิจฉาหลายส่วนอย่างเด่นชัด

บัดนี้ในใจเด็ดน้อยถังจื่อไม่เกิดความใจร้อนขึ้นมา เขาอยาก เปิดประตูรถ แล้วลงไป……….

มือของถังจื่อ โม่เอื้อมไปยังประตูรถด้วยจิตใต้สำนึกเรียบร้อย

ทว่าเวลานี้นี่เอง เสียงของเยซื้อเฉินพลันส่งมาอีกครั้ง “ลูก รัก พอถึงเวลานั้น แดดดี้ หม่ามีและก็หนู พวกเรานั่งยานอวกาศ ไปเอาดาวกันนะ ครอบครัวพวกเราไปกันพร้อมหน้าพร้อมตานะ” คุณชายสามเย่ยังคงหารือเรื่องเด็ดดวงดาวกับลูกสาวอยู่ ซึ่งเขา มีแพลนจะไปด้วยกันเป็นครอบครัว

โดยมีเขา มีเงินลั่วฉิง และลูกสาวของเขากับเงินถั่วนิ่ง เมื่อ เป็นเช่นนี้ ครอบครัวพวกเราก็จะมีความสุขล้นหลามเลยทีเดียว

แน่นอนครอบครัวที่คุณชายสามเย่หมายถึงไม่ได้รวมเด็กน้อย ถังจื่อ โม่เลย

เด็กน้อยถึงจื่อไม่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป มือที่ เอื้อมไปยังประตูรถก็เก็บกลับมา ครอบครัวที่เชื่อเงินว่าไม่ได้มีเขาอยู่เลย……

ดังนั้นเขาเป็นส่วนเกินใช่ไหม?
ในสายตาเยอเงิน เขาคือส่วนเกินใช่ไหม?

เชื่อเงินชื่นชอบน้องสาวมากจริงๆ หากคนที่เจอกันในวันนี้ เป็นเขา เยซือเฉินจะชอบเขาแบบนี้ไหม?

เยซื้อเฉินจะตามใจเขาอย่างนี้ไหม?

ถังจื่อโม่ไม่รู้ค่าตอบ แต่เขาพอจะคาดเดาได้ว่าคงไม่เหมือน กันหรอก เพราะเขาไม่ใช่น้องสาว

อันที่จริงถึงจื่อ โมเดาถูกแล้ว ในสายตาคุณชายสามเย่ ลูกสาว

กับลูกชายต้องปฏิบัติไม่เหมือนกัน

ต้องเอ็นดู ให้ความรักล้นปรีแก่ลูกสาว สำหรับลูกชายหนะ หรือ? !

ถึงเวลานับพ่อนับลูกชายเมื่อไหร่ก็จะรู้เองแหละ…

ถังจื่อ โมเริ่มเหม่อลอยคิดไปต่างๆนาๆ พอเขาดึงสติกลับมา พลันพบว่าเยอเฉินได้เดินห่างออกไปไกล ทำให้ได้ยินบท สนทนาระหว่างเชื่อเงินกับถังจื่อซีไม่ชัดเจน

เยซื้อเฉินไปอย่างนี้เลยหรือ?!

จนถึง ณ เวลานี้ เด็กน้อยถึงจื้อไม่ถึงได้สติกลับคืนมา เขาเบะ ปากมองแผ่นหลังเยซื้อเฉิน เยซือเฉินไปแล้วหรือ?

เมื่อเขาอยู่ในรถแท้ๆ ลุงเสี่ยวหลิวก็ปรับกระจกรถลงมา เรียบร้อยเสร็จสรรพ ทว่าเยซื้อเฉินกันไม่เห็นเขาซะงั้น?

ถึงกลับไม่เห็นการมีอยู่ของเขา
เขายอมรับว่า ตอนเห็นเชื่อเงินอุ้มน้องสาว เขาตกตะลึงจน ลืมตอบสนอง แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เชื่อเงินก็สามารถมองข้ามเขา ได้หรือ? ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาได้หรือ?

เขานั่งอยู่ในรถตัวเบ้อเริ่ม แต่เชื่อเงินกลับไม่เห็นเขา เชื่อเงินตาบอดจริงๆแล้วมั้ง?

“สายตาเขาฝ้าฟางจริงๆด้วยอารมณ์ของเด็กน้อยถึงจื่อไม่ สับสน สับสนจนบอกอารมณ์ไม่ถูก

เด็กน้อยถึงจื่อไม่เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เขาไม่หวงหน้าตาตัว เองหรอกหรือ?

ดังนั้น อย่างน้อยๆเขาต้องกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองกลับมาบ้าง

ประโยคนี้มีการพร่ำบ่นผสมกับการประเมินเชื่อเงินผสม ปะปนกันไป ซึ่งการประเมินเย่ซื้อเฉินของเขาเปลี่ยนจากตาบอด เป็นสายตาฝ้าฟาง

ถึงแม้จะไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ค่อยเหมือนกัน

ถึงแม้เยซือเฉินไม่เห็นเขา ถึงแม้แผนการท่องจักรวาลเป็น ครอบครัวของเซือเฉินจะไม่เขา

ทว่าเขาต้องยอมรับว่า ทัศนคติที่เขามีต่อเย่ซื้อเฉินนั้น เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว

เห็นเชื่อเงินดีต่อน้องสาว เขาก็พลอยดีใจไปด้วย แน่นอนยัง มีความอิจฉาเจืออยู่ด้วย
“คุณชายน้อยจะลงไปไหมครับ? “คนขับรถเสี่ยวหลิวได้ยิน เสียงถังจื่อโม่ จึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีคุณชายตัวน้อยๆอยู่ในรถ เพราะการมาถึงของคุณชายสามแยกะทันหัน ทำให้เขามันจนลืม คุณชายน้อย

ในเมื่อคุณหนูน้อยนับพ่อกับลูกกับคุณชายสามเย่แล้ว งั้น คุณชายน้อยก็ควรไปแจมด้วยถูกไหม?

หากคุณชายสามเย่รู้ว่ายังมีลูกชายอย่างคุณชายน้อยอีกคน คงต้องดีใจกว่าเดิมเป็นแน่ เพราะคุณชายน้อยทั้งฉลาด ทั้งโดด เด่น และเก่งกาจเพียงนี้ ใครมีลูกชายเช่นนี้ก็ต้องดีใจและภาค ภูมิใจเป็นเรื่องธรรมดา

ตอนนี้เยซื้อเฉินยังไปไม่ได้ไกลมากนัก คุณชายน้อยไปนับพ่อ กับคุณชายสามเย่ก็ยังทันอยู่

คนขับรถเสี่ยวหลิวคิดแล้วก็อยากลงไปเปิดประตูรถให้ถึงจื้อ

ไม่ลงจากรถ

“ไม่ต้องแล้วครับ พวกเรากลับกันเถอะ? “สายตาถังจื่อไม่ยัง คงอยู่ในทิศทางของเยซื้อเฉิน โดยเห็นเชื่อเงินขึ้นรถเรียบร้อย แล้วเสียงที่เปล่งออกมาของเขาจึงเศร้าหมองเล็กน้อย

เขายอมรับว่าเขาอิจฉา และอยากสัมผัสความรักที่เอาอก เอาใจ แต่ว่าเมื่อกี้เยซือเงินไม่เห็นเขาเลย

ตอนนี้ให้เขาลงจากรถเอง?

เขาไม่มีศักดิ์ศรีแล้วหรือไร?
ถึงจื่อไม่อย่างเขาก็ยังมีความทะนงตนอยู่นะ!!

ดังนั้นเขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องสร้างแผนการใหม่ให้ดีๆ

เขาอยากให้เชื่อเงินรับรู้ความเก่งกาจของเขา เขาจะทำให้ เชื่อเงินไม่อาจมองข้ามเขาได้อีก เขาจะทำให้เชื่อเงินรู้ว่าเขา ยอดเยี่ยมและโดดเด่นเพียงใด

เขาจะให้เยซือเฉินเป็นฝ่ายมานับพ่อนับลูกกับเขาเอง เขาเชื่อว่าตัวเองทำได้

ดังนั้น ต่อจากนี้จะเป็นการประเดิมฝีมือของเขากับเขือเฉิน แบบจริงๆจังๆ แน่นอนว่ามันจะเป็นวิธีของลูกผู้ชายอกสามศอก ขนานแท้

ใช้วิธีของลูกผู้ชายให้เยซื้อเฉินแพ้อย่างเต็มใจ

เมื่อกี้เยซือเฉินบอกว่าจะส่งน้องสาวกลับบ้าน ขั้นตอนนี้เขาก็ ต้องกลับบ้านด้วย ให้คนในบ้านรู้เรื่องพวกเขาสองพี่น้องแอบ หนีออกมานอกบ้านไม่ได้เด็ดขาด

บัดนี้ถังจื่อไม่รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มที่มี ความสุขของน้องสาว หัวใจของเขาก็รู้สึกปลื้มปิติยิ่งนัก

ขอเพียงน้องสาวมีความสุข ความขมขื่นของเขาก็ไม่นับว่าเป็น อะไร

บรรยากาศภายในรถของคุณชายสามเย่นั้นดีเป็นพิเศษ วันนี้ เลขาหลิวไม่ได้ติดตามมาด้วย ดังนั้นคนขับรถของคุณชายสามเย่จึงเป็น โชเฟอร์ประจํากาย

ถึงแม้จะขึ้นรถแล้ว คุณชายสามเยก็ยังคงอุ้มถังจื่อซ์ไว้บนตัก ยังไม่อยากปล่อย

“เมื่อก่อนหนูกับหม่ามีอยู่แต่ประเทศM ไม่เคยกลับมาเลย ดัง นั้นเมื่อก่อนหนูไม่รู้เรื่องคุณพ่อเลยค่ะ แต่ไหนแต่ไรถึงจื่อซีก็เป็น คนร่าเริง ช่างพูดช่างจา พูดแบบไม่รู้จักหยุด

“อืม”ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ คุณชายสามเก๋ก็รู้สึกสลดใจ เขาพึ่งรู้ ว่ามีลูกสาวก็ตอนอายุย่างห้าขวบแล้ว

ห้าปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้อยู่ข้างกายเธอเลย

เงินถั่วนิ่งเอาลูกสาวของเขาไปซ่อนตั้งห้าปี ผู้หญิงคนนี้ช่าง เก่งจริงๆ

“แดดดี้ค่ะ หนูจะบอกให้ ตอนนั้นมีคนมาจีบหม่ามีเยอะแยะ เลยค่ะ มีคุณอาหลิน มีคุณลุง โม่ มีคุณลุงถัง ยังมีพี่เสี่ยวซางอีก ค่ะ………..พูดอย่างเข้าได้เข้าเข็ม สิ่งที่ควรพูดกับสิ่งเธอไม่ ควรพูด เธอก็เปิดเผยจนหมดเปลือกแล้ว

บัดนี้เจ้าหญิงน้อยถังจื่อซีแฉคุณแม่จนหมดเปลือกแล้ว

คุณชายสามเย่ได้ยินก็เกิดสีหน้าเคร่งขรึม ผู้หญิงคนนี้ช่าง ดึงดูดผู้คนทุกที่จริงๆ พวกคุณอา คุณลุงยังพอเข้าใจอยู่ แล้วพี่เชี่ยวชางมันคืออะไรกันแน่?

ถังจื่อซีไม่รู้ตัวว่าพูดผิด ยังคงนับจำนวนคนขายขนมจีบกับคุณแม่ต่อไปไม่หยุดหย่อน

“สรุปก็คือคนจีบคุณแม่เยอะมาก เยอะมากๆค่ะ หนูนับไม่ถ้วน เลย”ถังจื่อนับไปครึ่งค่อนวันพลันรู้สึกว่านับไม่ไหว จึงได้ล้มเลิก

คุณชายสามเหน้ามืดครึ้มไปหมด!!