บทที่ 860 แดดดี้ หนูเป็นลูกสาวแท้ๆของแดดนะ(9)
ดังนั้นคุณย่าเยจึงอยากพาเป็นถั่วนิ่งไปยังมุมที่ไร้ผู้คน จากนั้น ก็คิดหาวิธีจัดการกับตัวปัญหาคนนี้
จัดการตัวปัญหาอย่างเป็นลั่วนิ่งเสร็จก็สามารถของหนูถังได้
แล้ว!
“คุณย่าเยฉันกับท่านไม่มีอะไรต้องคุยกันค่ะ แต่เป็นลั่วนิ่งไม่ คิดจะให้ความร่วมมือท่าน ไม่ต้องทายเงินมั่วนิ่งก็รู้ว่าคุณย่าเย ต้องการถามอะไรเธอ
คุณย่าเย่กับคุณปู่เยก็อยากให้เธออยู่ห่างๆเยซื้อเฉินไว้ จาก นั้นก็ให้เยซื้อเงินสู่ขอคุณหนูถังอย่างราบรื่น
เงินลั่วจึงรู้สึกตลกในใจ หากให้คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่รู้ว่าเธอก็
คือคุณหนูถัง ไม่รู้ว่าพวกท่านจะตอบสนองเช่นไร?
ไม่รู้ว่าถึงเวลานั้นพวกท่านจะทำหน้าอย่างไร?
“เป็นลั่วนิ่ง อยากมีเรื่องที่นี่มากนักหรือ? ที่นี่คือบริษัทเป็นชื่อ กรุ๊ปนะ คนขายหน้าคือเธอนะ”คุณย่าเย่แอบกัดฟัน พยายาม ระงับเพลิงโกรธในใจ เพียงแต่เมื่อเห็นเป็นลั่วถึงแล้วความโกรธ ก็พุ่งละลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เงินถั่วนิ่งไม่อยากคุยกับท่าน ท่านก็ไม่อยากคุยกับเงินถั่วง เช่นกัน ท่านยิ่งอยากฆ่าเงินลั่วนิ่งให้สิ้นเรื่อง แต่ยังหาโอกาสอัน เหมาะสมไม่ได้เลย
เงินถั่วจึงทำตัวลึกลับมาโดยตลอด แม้แต่เงาก็หาไม่เจอ
เงินถั่วนิ่งมองตึกบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปแวบหนึ่ง บัดนี้ถึงแม้จะเป็น เวลางาน แต่คนเข้าๆออกๆก็มีไม่น้อย
เพราะจากเรื่องที่คุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ก่อขึ้นครั้งก่อน ดังนั้น เงินถั่วนิ่งก็นับว่าโด่งดังพอสมควร ดังนั้นคนเดินผ่านจำนวนมาก
จึงจําเธอได้ บางรายเมื่อเดินใกล้เธอก็ได้กล่าวทักทายเธอด้วย
ถึงแม้เงินชั่วนิ่งจะเข้าบริษัทน้อย แต่พนักงานในบริษัทต่างก็รู้ ดีว่าเป็นถั่วงคือประธานในบริษัท พนักงานบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปจึง ต้องเคารพเธอเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ไม่ว่าภายนอกจะมีข่าวลือถึงเงินถั่วนิ่งอย่างไร แต่ในสายตา พนักงานบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปนั้น เป็นถั่วนิ่งคือเจ้านายสูงสุดของ พวกเขา คือคนที่จ่ายเงินเดือนให้แก่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ กล้าขัดใจเด็ดขาด
คุณย่าเย่เห็นมีคนทักทายเงินถั่วนิ่ง แถมท่าทางยังนอบน้อม อีกด้วย จึงยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น เป็นลั่วจึงมีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการ เคารพจากผู้อื่น?
หากไม่ใช่เชื่อเงินลงทุนในบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ป บริษัทนี้ก็ล้ม ละลายไปนานแล้ว เงินถั่วนิ่งก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลย
เป็นลั่วนิ่งพึ่งซื้อเฉินของพวกเขา
เงินลั่วนิ่งไม่อยากสนใจคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่ ทั้งสองท่านเป็น คนไร้เหตุผล เธอไม่อยากพูดไร้สาระกับพวกท่าน
เงินถั่วนิ่งไม่มองคุณย่าเข่แม้แต่แวบเดียว หากแต่ก้าวเข้าไป ภายในตึกบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปทันที
“เป็นลั่วนิ่ง ดูเธอท่าตัวยังไงอยู่นี่? “เดิมที่คุณย่าเก็โกรธเป็น ฟืนเป็นไฟอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเงินถั่วถึง เพลิงโกรธ ก็ยิ่งลุกโชนกว่าเดิม
เป็นโกรธจัด คุณย่าเยจึงไม่อาจระงับอารมณ์โกรธไว้ได้ เสียง ก็พลอยดังขึ้น ซึ่งเสียงนี้แสดงนิสัยเสียออกมาได้เต็มสิบ อีกทั้ง ยังมีเสียงแหลมแสบแก้วหูอีกด้วย
คนเดินเข้าออกในบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปก็อดหยุดก้าวเดิน แล้วมา มุงดูไม่ได้ ซึ่งคุณปู่เย่กับคุณย่าเยล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง จึงมีคน รู้จักพวกท่านจำนวนมาก
เพราะเรื่องครั้งก่อน ทุกคนจึงรู้ว่าเป็นถั่วนิ่งกับคนชราบ้านตระ กูลเยมีอคติต่อกัน สถานการณ์เช่นนี้ คนนอกไม่สะดวกเข้า แทรกแซง
เพราะสถานการณ์มันช่างลำบากใจเสียจริงๆ
ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่มองอยู่ห่างๆ
ตึกบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปอยู่ใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรือง บริเวณ โดยรอบมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเต็มไปหมด ดังนั้นมีจำนวน ผู้คนมาช้อปปิ้งเยอะมาก ซึ่งมีคนจำนวนมากได้ยินเสียงติเตียน ของคุณย่าเย่เมื่อสักครู่ด้วย จึงอดมาล้อมดูไม่ได้
ดูความวุ่นวายคือนิสัยของผู้คน
คุณย่าเย่เห็นมีคนมุงล้อมกันมากมาย ส่วนเป็นถั่วนิ่งก็ไม่ให้ ความร่วมมือกับท่าน คุณย่าเย่รู้ว่าวันนี้คงสะสางอย่างเงียบๆไม่ ได้แล้วล่ะ
คุณย่าเย่หมุนนัยน์ตาไปมา ทันใดนั้นมุมปากก็เผยรอยยิ้ม จางๆออกมา ในเมื่อเป็นถั่วงไม่กลัวขายหน้า งั้นท่านก็ไม่ถือสา ที่จะให้เรื่องใหญ่โตเช่นกัน
เมื่อเรื่องใหญ่โต ตระกูลถังก็จะได้เห็นความหน้าไม่อายของ เป็นลั่วนิ่ง ถึงเวลานั้นตระกูลถังคงขัดขวางเรื่องแต่งงานด้วยเรื่อง เวิน วฉิงอีกต่อไป
เมื่อคุณย่าเยมีแผนการก็ไม่ได้โกรธเฉกเช่นเมื่อสักครู่อีกแล้ว ในทางกลับกันยังรู้สึกลำพองใจหลายส่วน ท่านจะให้เป็นถั่วนิ่ง ได้เห็นดีสักตั้ง
“ฉิงฉิง หนูปล่อยซื้อเฉินไปเถอะนะ ปล่อยซื้อเฉินไปเถอะ”คุณ
ย่าเยเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน ท่านมองเงินถั่วนิ่งด้วยใบหน้าวิงวอน
ซึ่งน้ำเสียง ในความวิงวอนเจือความเจ็บปวดไว้ แน่นอน ระหว่างที่คุณย่าเพูดก็จงใจยกเสียงให้สูงขึ้น เพื่อให้คนรอบ ข้างได้ยินชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คุณย่าเข่อยากแสร้งทำตัวน่าสงสาร แกล้ง อ่อนแอ เพื่อให้คนรอบข้างเห็นใจ เพื่อจะได้ใช้มาจู่โจมเงินลั่วถึง
ต้องชมว่าวิธีการนี้ของคุณย่าโหดร้ายอำมหิตมาก ตอนแรกรอบข้างมีคนมามุงดูความคึกคักไม่น้อยอยู่แล้ว ซึ่งตอนแรกยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บัดนี้เมื่อได้ยินคุณย่าเข่กล่าวเช่น นี้ ต่างจ้องมองเงินถั่วงด้วยสายตาตำหนิหลายส่วน
จิตวิทยาของคนมักจะเข้าข้างคนอ่อนแอ และเวลานี้คุณย่าเที่ แก่เฒ่ากำลังร้องขอเป็นถั่วงอย่างขมขื่น จึงเรียนร้องความ เห็นใจจากผู้คนได้ง่าย
เมื่อทุกคนเห็นอกเห็นใจคุณย่าเย่ จึงไม่พอใจต่อเงินมั่วนิ่ง
เงินถั่วนิ่งเป็นคนรังเกียจวิธีการช้ามาก เธอก็ไม่อยากโต้ แย้งกับคุณย่าเยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ด้วย ดังนั้นเธอไม่แยแส เดินเข้าภายในตึกบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปต่อ
ทว่าคุณย่าเยไม่คิดจะปล่อยเงินถั่วนิ่งไป คุณย่าเยรีบพุ่งไปอยู่ ด้านหน้าเป็นลั่วถึง ขวางทางเงินมั่วนิ่ง คล้ายกับกลัวเงินมั่วนิ่งจะ ไป ท่านยังจับเสื้อผ้าของเงินถั่วนิ่งไว้แน่น
“ฉิงฉิง ถือซะว่าฉันขอร้องแล้วกันนะ ขอเพียงหนูปล่อยซื้อเงิน ไป หนูจะเอาเงินเท่าไหร่ฉันก็จะให้หนูนะ หนูมีเงื่อนไขอะไรฉันก็ จะรับปากนะ”น้ำเสียงคุณย่าเข่มีความร้องขอหลายส่วน ดูแล้ว ช่างน่าสงสารจริงๆ
“นี่มันคนประเภทไหนกันเนี่ย? ทำไมรังแกคนแก่ล่ะ?
“ทำไมแสดงกิริยาต่อคนแก่เช่นนี้ เกินไปจริงๆ
“ใช่แล้ว ไม่รู้จักเคารพคนแก่เลยสักนิด”
ผู้มุงดูเริ่มช่วยคุณย่าเย่ตำหนิติเตียนเงินมั่วนิ่งแล้ว
พนักงานของบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปหลายคนเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้า ช่วยเงินลั่วงออกหน้า
เพราะท่าทางคุณย่าแย่ในตอนนี้น่าสงสารมากทีเดียว
คุณย่าเยได้ยินคนอื่นตาหนิเป็นลั่วถึงพลันแอบหัวเราะในใจ เห็นผลลัพธ์จะไม่เลวเลยแฮะ แน่นอน ท่านไม่พอใจเพียงแค่ ผลลัพธ์เช่นนี้หรอก วันนี้ท่านจะทำให้เป็นถั่วงอับอายขายหน้า จนไม่อาจพบหน้าคนได้
นี่เพิ่งเริ่มต้นนะ
เงินถั่วนิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูท่าคุณย่าเยจะไม่ปล่อยเธอไป ง่ายๆแล้วสินะ เธอไม่เคยรังแกคนอื่นโดยไร้เหตุผลมาก่อน แต่ก็ไม่มีทางยอม
ให้ใครมารังแกเช่นกัน
“คุณย่าเย่ค่ะ ฉันกับเย่ซื้อเฉินหย่ากันแล้วค่ะ เป็นลั่วนิ่งหยุด ก้าวเดิน มองคุณย่าเย่ด้วยแววตาสงบนิ่ง สีหน้าเรียบเฉย น้ำ เสียงแผ่วเบาและเนิบช้า ซึ่งเอ่ยความจริงอย่างสงบและเฉยเมย ต่อเรื่องที่คนเมือง Aเกือบรู้กันหมดแล้ว!!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ