ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 769 คุณชายสามเย่สืบเรื่องของลูกได้แล้ว (1)



บทที่ 769 คุณชายสามเย่สืบเรื่องของลูกได้แล้ว (1)

ฉะนั้นเธอไม่มีเวลาไปซื้อของกับเขา และไม่มีอารมณ์ดีขนาด ไปซื้อของกับเขา!

“ทำไม? โกรธแล้วจริงๆเหรอ? “คุณชายสามเย่เห็นท่าทาง ของเธอ ดวงตาทั้งคู่พลันกะพริบ รีบเอื้อมมือดึงเธอมากอด พร้อมกับพูด ใกล้หูเธอว่า “คุณต้องเชื่อใจผม

กลุ่มคนที่มุงดูเห็นคุณชายสามเย่อ่อนโยนขนาดนี้ วางกลลวง แล้วเอาใจเงินมั่วนิ่งอย่างนี้ ต่างรู้สึกอึ้งจนตาค้าง

นี่? นี่คือคุณชายสามเที่พวกเขารู้จักหรือ?

สุภาพสตรีที่มามุงดูต่างหลงใหล อ้าว ต่างรู้สึกอิจฉากันทั่ว

หน้า!!

เหนือความคาดหมายว่าคุณชายสามเยจะอ่อนโยนขนาด

“ฉิงฉิง คุณต้องเชื่อใจผม เธอไม่ใช่ลูกสาวของผมจริงๆ คุณ ชายสามเย่เห็นเป็นลั่วนิ่งยังโกรธอยู่ พลันถอนหายใจเบาๆ เรื่อง นี้ยังพูดไม่เข้าใจอีกเหรอ?

เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ชัดเจนมาก เธอผู้ฉลาดหลักแหลมทำไม ยังไม่เข้าใจอีก? ทำไมไม่เชื่อใจเขา?

เงินถั่วนิ่งได้ยินคำพูดของเขา หันไปจ้องเขม็งเขาอีกครั้งพลางพูดอย่างดุดันว่า “เอ่อ ไม่ใช่ลูกสาวคุณ”

เงิน วฉิงพูดด้วยอารมณ์โกรธ โกรธถึงขีดสุดจนพูดค่าตรง ข้าม

ทว่าคุณชายสามเย่กลับไม่ได้คิดอะไรมาก คุณชายสามเด ว่าก่อนหน้านี้เขาปฏิบัติดีต่อเด็กหญิงคนนั้น จนทําให้เป็นลั่วถึง

เข้าใจผิด

“ฉิงฉิง…………….คุณชายสามเดึงเธอไว้ เพื่ออธิบายต่อ

“พอแล้ว พอแล้ว ฉันรู้แล้ว ฉันยังมีธุระ ไปก่อนล่ะ แต่ เงินล้วนิ่งเห็นเห้องถึงกับถังจื่อออกจากห้างแล้ว ทางถังจื่อไม่ ก็ออกไปแล้วเช่นกนั้น ทำให้เธอรู้สึกเร่งรีบเล็กน้อย

ตอนนี้เธอนึกถึงแต่ลูกๆ ทั้งสองคนตลอดเวลา ลูกๆที่ถูกคุณ ชายสามเท่ให้โกรธไม่น้อย

ตอนนี้เธอเร่งรีบจะไปปลอบใจลูกทั้งสองคน

เงินลั่วจิงดิ้นออกจากอ้อนแขนของเยซื้อเฉิน จากนั้นก็วิ่งไป

ด้านนอกอย่างไว

คุณชายสามเยซะงัก รู้สึกงงงวย นี่มันหมายความว่าอะไร? เธอทิ้งเขาไว้อย่างนี้เลยเหรอ?

ไม่ใช่ เธอมีธุระเร่งด่วนอะไร? สำคัญมากเลยเหรอ? สำคัญ กว่าเขาหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่เขารู้สึกเหมือนโดนเธอรังเกียจอีกแล้ว
คุณชายสามเย่ยืนมึนอยู่สักพัก เป็นถั่วนิ่งก็วิ่งไปไกลแล้ว คุณ ชายสามเย่ได้สติก็เรียกตามออกไป

ทว่าเงินถั่วงออกจากห้างแล้วขึ้นรถคันหนึ่ง ก่อนจะจากไป

“ท่านประธาน คุณยังมีประชุมวิดีโอคอลที่สำคัญมากนะครับ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วครับ”เลขาหลิวเห็นประธานของตนคิดจะตาม อีกจึงอดตักเตือนหนึ่งประโยคไม่ได้

ประชุมครั้งนี้นั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มันเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยว พันไปถึงชีวิตผู้คน

เยซือเฉินหรี่ตาขึ้น บัดนี้รถที่เป็นถั่วงนั่งขับออกไปไกลแล้ว ถึงเขาจะเร่งแต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตอนนี้

ถึงจะอธิบายก็ควรรอให้เธอใจเย็นก่อนแล้วค่อยอธิบายต่อ

“ช่วยผมสืบเด็กคนนั้นด้วย หลังคุณชายสามเย่ขึ้นรถ ดวงตา พลันหรี่ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้สั่งการให้เลขาหลิวขับรถ แต่กลับ เปล่งประโยคเช่นนี้ออกมา

เมื่อครู่เขารู้สึกว่าสมองของเขาเลอะเลือนเล็กน้อย อาจเป็นเพ ราะถังจื่อปรากฏตัวกะทันหัน แถมยังเรียกเขาว่าแด๊ดดี้อีก ส่ง ผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ สมอง ของเขายังคงสับสนอยู่

เวลานี้สุดที่รักถังจื่อซีจากไป เป็นลั่วนิ่งก็ไปแล้ว เขารู้สึกใจเย็น ลง จู่ๆรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

เลขาหลิวชะงัก เข้าใจความหมายของท่านประธานกะทันหันแต่ไม่รู้ว่าควรตอบสนองเซ่นไร

ทำไมท่านประธานยังต้องสืบเด็กผู้หญิงคนนั้นอีก? ท่าน

ประธานคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวของเขาเหรอ? “ผู้หญิงคนนั้นด้วย”เยซือเฉินหยุด ก่อนจะเสริมอีกหนึ่ง

ประโยค

ตอนเงิน วฉิงมา การตอบสนองของถังจื่อ ทำให้เขารู้ว่าถัง จื่อ ไม่รู้จักเป็นลั่วนิ่ง แต่ในใจเขากลับรู้สึกอะไรแปลกๆ

รู้สึกว่าเมื่อกี้เขาเหมือนสังเกตคลาดเคลื่อนอะไรบางอย่าง อีกทั้ง เขายังรู้สึกแปลกๆระหว่างถังจื่อกับแม่ของเธอ

รู้สึกไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหร่

ถังจื่อซีรู้อะไรเยอะแยะ รู้วิธีที่คนที่จุดอ่อน รู้วิธีจู่โจม แต่เห็นได้ ชัดว่าแม่ของถังจื่อ ไม่รู้เรื่องเลย ไม่เป็นอะไรเลย

ไม่มีเหตุผลใดๆที่เด็กห้าขวบเป็นในเรื่องพวกนี้ แต่ผู้เป็น มารดากลับไม่เป็น

คุณชายสามเย่รู้ว่าเป็นถั่วนิ่งรู้เรื่องพวกนี้ดีหมด แถมยังรู้อย่าง ลึกซึ้งอีกด้วย

หากบอกว่าถังจื่อ คือลูกของเงินถั่วนิ่งก็สมเหตุสมผลดี

ฉะนั้นเขารู้สึกว่าเขาต้องสืบเสาะหาความจริงดีๆ สืบว่าเรื่อง มันเป็นอย่างไรกันแน่?

แม้ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนแปลกหน้า แต่สืบดูก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

ถ้าเกิดว่าเป็นลูกสาวของเงินถั่วนิ่งจริงๆ เป็นลูกสาวของเขา จริงๆ งั้นก็……

คุณชายสามเแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก ความเป็นไปได้ไม่ มาก แต่เขาก็ต้องสืบให้แน่ชัด

หรือเขาหวังอยากมีลูกสาวกับฉิงฉิงมากเกินไป อยากได้องค์ หญิงน้อย องค์หญิงตัวน้อยๆ!!

คุณชายสามเย่คิดแล้วก็อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ ถ้าเขามีองค์ หญิงน้อยแบบนี้สักคนคงจะดีมากเลย!!

ตอนแรกเลขาหลิวยังคิดจะพูด แต่เห็นท่านประธานยิ้มเบาๆ เขาจึงกล้ำกลืนคำพูดเข้าไป

เขารู้ว่าคุณนายมีบุตรไม่ได้ แต่ดูเหมือนท่านประธานจะชอบ

เด็กคนนี้มากเลย……..

ทว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของท่านประธานอย่างชัดเจน ท่านประธานชอบก็ไม่มีประโยชน์!!

หลังเงินถั่วงออกจากห้าง ถึงจะเรียกรถมานั่ง แต่ออกไปไม่ นานก็ลงจากรถ แล้วไปยังที่ที่นัดหมายเห้อถุงถุงไว้

“หนูไม่ชอบแต็ด หนูไม่เอาแค็ตตี้แล้ว แดดพูดว่าหนูไม่น่า รัก แด๊ดดี้พูดว่าไม่ชอบหนู แด๊ดดี้ยังพูดว่ารังเกียจหนูอีก” ตอนที่ เป็นลั่วนิ่งไปถึง เจ้าหญิงจื่อซีก็กำลังฟ้องพี่ชายของเธออยู่ ซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความอยุติธรรม

“เขาตาบอด เลยพูดว่าน้องไม่น่ารัก แสดงว่าน้องน่ารักๆ เลย ถังจื่อ โม่เห็นน้องสาวของตนใกล้จะร้องไห้เสียแล้ว รู้สึกสงสาร เหลือเกิน

เงินลั่วฉิง”……”

อธิบายอย่างนี้เข้าท่ามาก!! ถังจื่อไม่มีความสามารถยิ่งนัก

“ฮ่าๆ…….เห้อถงถงหัวเราะร่า คุณชายสามเย่ตาบอด

ก็ได้ บอดนิดหนึ่งจริงๆ? ไม่งั้นทำไมถึงพูดว่าชื่อของเธอไม่ น่ารักกันล่ะ?

ทว่าคนที่กล้าวิจารณ์คุณชายสามเย่เช่นนี้ นอกจากถังจื่อไม่

แล้ว เกรงว่าคงไม่มีใครอื่นอีก

“พี่ชาย งั้นพวกเราจะนับพ่อกันอีกไหม? “เจ้าหญิงน้อยหยุด ฟ้องพี่ชายด้วยใบหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม จากนั้นก็เงยหน้า ขึ้นมองพี่ชายของตน ซึ่งแววตาเพื่อความรอคอยอย่างมีความ หวังไว้

ดูออกว่าเจ้าหญิงถังจื่อซียังอยากนับเย่ซื้อเฉินเป็นพ่ออยู่

ถึงแม้เยซือเฉินจะทำร้ายหัวใจดั่งกระจกของเธอ ถึงแม้คำพูด ของคุณชายสามเย่จะทำร้ายศักดิ์ศรีของเธออย่างจัง

ชั่วขณะนั้นเป็นลั่วนิ่งกับเห้อถุงถุงต่างมองไปยังถังจื่อโม่โดยพร้อมเพรียงกัน คนที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือถังจื่อไม่

เงินล้วจึงเคารพในการตัดสินใจถึงจื่อ โม่เสมอมา หากถังจื่อ

ไม่รับปาก เรื่องนี้ก็สามารถไปบอกให้เอเฉินทราบได้เลย ถึงแม้เยซือเฉินจะไม่ชอบเด็ก ถึงแม้เยซือเฉินจะรังเกียจเด็ก

แต่ลูกชายลูกสาวของเขาแท้ๆ เขาคงไม่เอาไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ