บทที่ 612 นี่คือการท้าทายจากลูกชายของเขา (1)
“คุณพ่อ ท่านอาหลีก็เหมือนพ่อนั่นแหละ เห็นโมเดลพวกนั้นเป็น เหมือนลูกรักเลย จะให้พ่อเอามาให้จอไม่แกะหรอ?” หลังจากที่ เพิ่งเหมียวเหมียวได้ยินคำพูดของท่านแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะพูด แซะ
“โมเดลพวกนั้นสำคัญ หรือว่าจิตใจของหลานชายฉัน สำคัญ?” ท่านถังยิ้มกลับไปคำหนึ่ง “ถ้าเขาไม่ให้ ฉันก็จะแย่ง มาเลย”
“พ่อ พ่อไปแย่งมา หนูว่าน่าจะสำลักพอๆ กัน แต่ว่า ถ้าพ่อให้ อโม่ไปขอ ทําอาหลีอาจจะให้ก็ได้ ยัยเด็ดจื่อไม่นั่นช่างเป็นที่รัก ของทุกคนจริงๆ ท่านอาหลีก็ชอบเด็กมาๆ ด้วย ไม่ปฏิเสธอโม่ แน่นอน” เพิ่งเหมียวเหมียวคิดไปคิดมา ก็ได้แนะค่ความเห็นดีๆ ไป
แต่ละคนต่างก็คิดว่าถังจื่อ โม่ไปเล่น โมเดลแล้ว ไม่ได้เป็นห่วง อะไรมากนัก
แต่ว่าเป็นถั่วนิ่งเข้าใจถึงจื่อ โม่ เธอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆ แบบนี้แน่นอน
ถังจื่อโม่เป็นคนที่หวั่นไหวง่ายอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องปัญหาของพ่อ ยิ่งหวั่นไหวง่ายไปอีก ฉะนั้นคำพูดของเยซือเฉินนั้น ถึงจื่อไม่ คงจะฟังเข้าไปในใจแล้ว
ถ้าหากเธอไม่ได้เอาผิด เจ้าเด็กถังจื่อไม่คงจะกำลังคิดหาวิธีที่ จะทํากับเอเฉิน ในห้องทํางาน
เงินถั่วนิ่งรู้ถังจื่อไม่ได้ยอมรับเย่ซื้อเฉินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อ ก็ไปได้ยินคำพูดนั้นของเอเงินอีก เธอคิดว่า ต่อจากนี้ คงจะ ต้องมีสงครามขึ้นแน่ๆ
เจ้าเด็กถังจื่อไม่ในตอนนี้อยู่ที่ห้องทำงานจริง แต่ว่าเขาไม่ได้ ต่อโมเดล แต่กำลังเหม่อลอยมองโมเดลอยู่
เจ้าเด็กถังจื่อ โม่ชอบโมเดลมาก มีโมเดลแล้ว เขาสามารถลืม เรื่องอื่นๆ ได้เลย บางครั้งพอเล่นขึ้นมา เขาถึงขั้นลืมกินข้าว ลืม นอนหลับเลย
แต่ว่าตอนนี้ เขากำลังเหม่อลอยอยู่ต่อหน้ากองโมเดล
ที่จริง เขาได้วางแผนการทดสอบเย่ซื้อเฉินไว้แล้ว เมื่อวาน เขา คิดไว้ว่าอยากจะลดความยากเล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้เขาตัดสินใจ แล้วว่าจะเพิ่มความยากไปอีก
เชื่อเงินไม่ชอบเขา ฉันก็ไม่ชอบเยซื้อเฉินเหมือนกัน ถ้าหาก เยซื้อเฉันไม่สามารถผ่านบททดสอบไปได้ เขาไม่มีทางให้คุณแม่ แต่งงานกับเอเฉินแน่นอน
เขาตัดสินใจแล้ว เริ่มการทดสอบของเยซือเฉิน
เยซอเฉิน นายรอรับบททดสอบไว้เลย
ขณะนี้ พึ่งแถลงข่าวเสร็จ เยซือเฉินที่กำลังเดินออกจากบริษัท ก็จามกะทันหัน
เย่อเงินเงยหน้าขึ้น มองไปทางท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ใหญ่โต ขนาดนี้ อากาศร้อนขนาดนี้ ทำไมเขาถึงจามล่ะ?
หลังจากนั้นเป็นถั่วนิ่งก็ไปที่ห้องทำงาน ทุกคนต่างก็คิดว่ายัง จื่อไม่กำลังเล่น โมเดลแล้วลืมเรื่องที่ไม่มีความสุข ในเมื่อกี้ แต่ว่า คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้มีเพียงแค่มารดา
ในห้องทำงาน ถังจื่อไม่ในขณะนี้กำลังเริ่มต่อโมเดลของเขา อยู่ เป็นลั่วจึงเดินเข้ามา ถังอโม่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น และไม่ได้พูด อะไร
เงินถั่วนิ่งนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้รบกวนเขา รอเขาด้วยความสงบ ถังจื่อโม่ไม่ได้พูด เธอก็ไม่พูด ในห้องมีเพียงแต่เสียงต่อ โมเดลของถังจื่อ ไม่
“คุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องอยู่กับผมก็ได้ครับ ผมเล่นอีกแบบก็ ออกไปแล้วครับ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดถังจื่อ ไม่ก็ ยอมปล่อยโมเดล ในมือลง แล้วเปิดปากพูดก่อน
“เราสามารถพูดคุยกันหน่อยได้ไหม?” เป็นถั่วนิ่งมองไปทาง เขา เป็นน้ำเสียงที่กำลังเจรจา เธอรู้ดีว่าถึงจ๋อโม่ไม่เหมือนกับ เด็กๆ ทั่วไป
เจ้าเด็กถังจื่อไม่ฉลาดเกินไป และมีความคิดของตัวเองสูงเกิน ไป แต่บางทีก็หวั่นไหวง่ายเกินไป โดยเฉพาะเรื่องของคุณพ่อ
เธอรู้ ถึงแม้ว่าถังจื่อไม่จะพูดมาโดยตลอดว่าจะให้เยซือเฉิ นทําการทดสอบ แต่ในใจเขาต้องการความรักที่มาจากพ่อมากๆเพราะว่ามีความหวัง ฉะนั้นถึงได้ระมัดระวัง ถึงได้อย่างจะ ทดสอบให้แน่ชัด
เห็นได้อย่างชัดเจนเลย คำพูดในวันนี้ของคุณชายสามเย ทำร้ายหัวใจอันเล็กน้อยของเขามาก
“คุณแม่อยากคุยกับผมเรื่องเขาหรอครับ?” ถังจื่อไม่เป็นเด็กที่ ฉลาด แต่ว่ายิ่งฉลาดก็จะยิ่งละเอียดอ่อน อีกอย่างเรื่องราวของ เขาก็เป็นเรื่องที่เศษอยู่แล้ว
ขณะนี้ ถังจื่อโม่พูดว่า ‘เขา’ เลย อีกอย่างในตอนที่พูดถึงคำว่า “เขา” ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความคัดค้านอยู่
“หนูไม่อยากคุยหรอ?” แน่นอนว่าเป็นถั่วนิ่งฟังออกถึงความ คัดค้านของเขาในตอนนี้ น้ำเสียงเบาเป็นพิเศษ
ถังจื่อ โม่เม้มปาก ไม่ได้ออกเสียง ความคัดค้านนั้นเห็นได้
อย่างชัดเจน
แววตาของเงินถั่วงกะพริบไปมาเล็กน้อย เมื่อคืนเชื่อเงินมา หาเธอ ถึงจื่อ โม่ไม่ได้มีความคัดค้านต่อเยซื้อเฉิน อีกอย่างเธอก็ มองออกว่าถังจื่อไม่ในตอนนั้นมีความหวังมาก
“ถ้าลูกไม่อยากคุยเรื่องเขา งั้นเราก็ไม่คุยแล้ว” เป็นลั่วจึงรู้ การที่คนคนหนึ่งคัดค้านเรื่องเรื่องหนึ่ง คุณยิ่งชักจูงเขา เขาก็ยิ่ง
คัดค้าน
ฉะนั้น เธอรู้สึกว่าหากถังจื่อ โม่ไม่อยากคุย งั้นเธอก็ไม่บังคับ
เขา
” ถึงจื่อไม่เงยหน้าขึ้น มองไปทางเงินถั่วถึง ใน “คุณแม่…… แววตามีความโมโหแฝงอยู่ แล้วมีความเศร้าเล็กน้อย เขาบอก ว่าเขาเกลียดเด็ก จะไม่เอาลูก
คำพูดของถังจื่อ โม่หยุดไปสักพัก พูดต่ออีกว่า “ผมรู้ว่ามีบาง คนที่ไม่ชอบเด็ก เขารำคาญเด็ก รังเกียจว่าเด็กจะส่งผลกระทบ ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เอาลูก คนแบบนี้เรียกว่าครอบครัวหนุ่มสาวที่ไม่มีลูก
ไม่ว่ายังไงแล้วถังจื่อไม่ก็ยังเป็นเด็ก เรื่องไม่สบายใจที่เก็บไว้ ในใจ ความรู้สึกนั้นไม่ดีเลย ฉะนั้น ในตอนที่เขาเห็นเป็นลั่วถึงจะ จากไป ก็เรียกเธอเอาไว้
เงินล้วงหยุดเดิน หันไปทางเขา ถอนหายใจเบาๆ ในใจ เจ้า เด็กนี้ฉลาดมากจริงๆ รู้เรื่องมากเกินไปแล้ว แม้กระทั่งคำว่า ครอบครัวหนุ่มสาวที่ไม่มีลูกก็รู้จัก? อีกอย่างยังรู้ชัดเจนขนาดนี้ ละเอียดขนาดนี้!!
ครอบครัวหนุ่มสาวที่ไม่มีลูกก็คือการที่มุมมองพวกพวกเขานั้น ไม่อยากมีลูก แต่ว่า เธอรู้สึกว่าเยซื้อเฉินไม่ใช่แบบนั้น
“แม่รู้ เมื่อกี้หนูได้ยินคำพูดของเขาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ความ คิดของหนูก็มีเหตุผลมากๆ แต่ว่าแม่ก็มีความคิดอื่นๆ เหมือนกัน หนูอยากฟังไหม?” เป็นลั่วนิ่งเดินกลับมาใหม่ นั่งลงพื้น แล้วมอง หน้าเขา
“อั้ม” ถังจื่อโม่พยักหน้า เขาให้ความเคารพคุณแม่มาโดย
ตลอด
“ต่อจากนี้คุณแม่ไม่สามารถมีลูกได้แล้ว นั่นก็คือ คุณแม่อาจ จะไม่สามารถมีน้องชายหรือน้องสาวให้หนูกับน้องสาวอีกแล้ว จุดนี้ แม่เคยบอกกับเย่ซื้อเฉิน จนกระทั่งตอนนี้ เย่ซื้อเฉินก็ยังไม่รู้ การเป็นอยู่ของหนูและน้องสาว ฉะนั้นคำพูดพวกนั้นที่เขาพูด ต่างก็เพื่อแม่ทั้งนั้น เรื่องราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ เป็นลั่วนิ่งเอง ก็รู้ว่าที่เชื่อเงินพูดในวันนี้ต่างก็เพื่อเธอ
“แต่เขาพูดว่าเขารังเกียจเด็ก ไม่อยากมีลูก” เห็นได้อย่าง ชัดเจนเลยว่า ถังจื่อไม่มีความเห็นกับประโยคนี้ของเยซือเฉิ นมาก
ถึงแม้จะเพื่อคุณแม่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดว่ารังเกียจเด็ก ไม่ อยากมีลูกอะไรประมาณนี้หรอกมั้ง?
คำพูดนั้นทำร้ายคนมากเกินไปแล้ว! ไม่ คือทำร้ายเขา!!
“เขาไม่ได้รู้ถึงการเป็นอยู่ของพวกหนู ถ้าหากเขารู้ เขาไม่มี ทางพูดแบบนั้นแน่นอน ถ้าหากเขารู้เขาจะทำดีต่อพวกหนู แน่นอน” เป็นลั่วนิ่งแอบสูดหายใจเข้าลึก คุณชายสามไม่ได้มี เรื่องอะไรจะพูดให้เด็ดขาดขนาดนั้นทำไมกัน? เฮ้อ?
“เขาจะทำกับพวกเราเหมือนที่คุณแม่ทำไหมครับ?” ถังจื่อโม่ เงยหน้าขึ้น มองไปทางเธอ แล้วถามด้วยเสียงที่เบาไปประโยค หนึ่ง
เงินถั่วนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ พยักหน้า “ถูกต้อง” เขารู้สึกว่าถ้าหากเย่ซือเฉินรู้เรื่องการเป็นอยู่ของเด็ดสองคนนี้ จะต้องชอบพวกเขามากแน่ๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ