บทที่ 564 หญิงร้ายชายเลวถูกตบหน้าอย่างจัง (1)

“คุณพ่อ ผมก็แค่หวังดี ถ้าพ่อไม่เชื่อก็ช่างปะไร เห็นได้ชัดว่า บริษัทเย่อชื่อกรุ๊ปคิดจะทำลายบริษัทของพวกเรา ดังนั้นหาก บริษัทของพวกเราตกอยู่ในมือของเยซื้อเฉินเมื่อไหร่ คงต้อง อนาถเป็นแน่ คุณชายสามเย่ไม่ใช่คนโง่ที่จะยอมลงทุน โดยเปล่า ประโยชน์

หากเขาทำเช่นนี้ ไม่สู้ไปเปิดบริษัทใหม่จะดีกว่าอีก ดังนั้นผม คิดว่าไม่นานบริษัทเงินซื้อกรุ๊ปก็คงไม่เหลืออีกแล้ว”เงินจีหยัน รู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทเงินชื่อกรุ๊ป แม้แต่คนโง่ยัง ไม่คิดจะร่วมลงทุนเลย ยิ่งไปกว่านั้นเชื่อเงินก็ไม่ใช่คนง่ายอะไร

“แล้วงั้นนายก็รอดูก็แล้วกัน “คุณเป็นหัวเราะอีกครั้ง เขาก็ อยากดูว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง

“คุณพ่อ คุณพ่อดูสิ พ่อรีบดูเร็ว”บังเอิญกับเวลานี้เงินจื้อหลงที่ ถือโทรศัพท์ในมือก็พล่ามออกมาด้วยความตกตะลึง

“ตกอกตกใจอะไรกัน? “เวลานี้เป็นหยันอารมณ์ไม่ดี จึงจ้อง เขม็งเขาแวบหนึ่ง

“พ่อดูรายงานข่าวเศรษฐกิจเร็วๆ หุ้นบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปพุ่งสูง ขึ้นแล้ว และสูงมากๆด้วยมือที่กำมือถือไว้ของเงินจื้อหลงสั่น ระริก“โอ้สวรรค์ ตอนที่บริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปรุ่งเรืองที่สุดก็ไม่เคยสูง ขนาดนี้มาก่อนเลยนะ? อันนี้จะได้ราคาเท่าไหร่กัน?
“อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง? ฉันดูหน่อยสิ”เป็นหยันก็รู้สึกอึ้ง รีบเอามือถือจากเงินจื้อหลงมาดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ตกตะลึง ตาค้าง

“ทำไมเป็นแบบนี้? ทำไมเป็นแบบนี้? เชื่อเฉินหมายความ ว่าอะไรกันแน่? เชื่อเงินเอาเงินมาลงทุนขนาดไหนกัน? “เป็น หนที่กุมมือถือไว้ก็ควบคุมไม่ให้มือสั่นเทาไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้น ฉันดูหน่อย” หลี่หยุนก็รีบวิ่งเข้าไปดู ดวงตาทั้งคู่ เบิกกว้างถึงขีดสุด”โอ้สวรรค์ สูงขนาดนี้เลยเหรอ และยังสูงขึ้น เรื่อยๆอีกด้วย!! จะขึ้นถึงเมื่อไหร่กัน? มันจะมีมูลค่าถึงเพียง ใดกัน? ”

ถึงแม้คุณปู่เงินคาดเดาได้ว่าเยซื้อเฉินจะมีการเคลื่อนไหว แต่ ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่โตอีก ด้วย จึงรู้สึกตกตะลึงไปด้วย

เมื่อกี้เงินจีหยันพูดถูกอยู่ประโยคหนึ่ง เอาเงินมาลงทุนเพื่อฟื้น ฟูบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปนั้นยากกว่าเปิดบริษัทใหม่เป็นไหนๆ

เพราะตอนนี้ภายในบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปมีปัญหาซับซ้อน มากมายหล่นทับไว้

แต่เชื่อเงินกลับทำได้ อีกทั้งใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งวันก็ทำผล งานเช่นนี้ออกมาได้ เย่ชื่อเฉันไม่ใช่คนโง่งม แถมยังฉลาดปราด เปรื่องอีกด้วย ดังนั้นทุกอย่างที่เขาทำก็มีเพียงเหตุผลเดียว ซึ่งก็ คือทําเพื่อฉิงฉิง

“ถ้าพ่อยังมีหุ้นอยู่ในมือ พวกเราจะขายได้เงินมากมายเลยนะ”เงินหรวนหรวนเห็นตัวเลขในมือถือพลันกลืนน้ำลายด้วย จิตใต้สํานึก

“แกโง่หรือเปล่า บริษัทเย่อซื้อกรุ๊ปเอาหุ้นของพ่อไปแล้ว ทำไม จะร่วมลงทุนกับบริษัทเงินชื่อกรุ๊ปได้อีก? แต่ว่าตอนนี้ในมือของ พวกเรายังมีหุ้นส่วนร้อยละ สามสิบห้า……. “ดวงตาเงิน หน สว่างวาบ รีบปรายตามองคุณเป็นอย่างรวดเร็ว “คุณพ่อ หุ้นร้อย ละสามสิบห้าของพ่อ หากขายตอนนี้ก็จะได้เงินจำนวนมหาศาล เลยนะครับ”

เป็นหยันรู้เพียงว่าในมือคุณปู่เงินมีหุ้นส่วนร้อยละสามสิบห้า แต่เขาไม่รู้ว่าหุ้นที่ไปยี่รุ่ยกวาดซื้อไป ได้คืนให้คุณปู่เงินเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรวมทั้งหุ้นร้อยละสิบเจ็ดของเป็นหยันกับหุ้น ย่อยๆจํานวนหนึ่งด้วย

หุ้นที่ไปรุ่ยคืนให้แก่คุณปู่เงินคิดเป็นร้อยละสามสิบแปด ดัง นั้นตอนนี้คุณปู่เงินมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปร้อยละเจ็ด สิบสาม

ได้ยินคำพูดของเงินหยัน อีกสามคนที่เหลือก็ละสายตามา มองคุณปู่เงินพร้อมกัน ซึ่งแววตาแต่ละคนเต็มไปด้วยความโลภ

“หุ้นส่วนของฉันยกให้ฉิงฉิงหมดแล้ว ฉันไม่มีอะไรอยู่ในมือ อีก”ทำไมคุณปู่เงินจะมองความคิดของพวกเขาไม่ออก ดูท่าทาง ของพวกเขาแล้วทำให้รู้สึกแดกดันยิ่งนัก

เขาไม่เพียงแต่มอบหุ้นส่วนร้อยละสามสิบห้าของก่อนหน้านี้ ให้เงินชั่วนิ่งเท่านั้น เขายังเอาหุ้นร้อยละสามสิบแปดที่ไปรุ่ยคืนมาให้แก่เงินถั่วงอีกด้วย

หากไม่ใช่เพราะฉิงฉิง ไปยก็ไม่มีทางคืนหุ้นกลับมา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ฉิงฉิงสมควรจะได้อยู่แล้ว

“พ่อยก ให้ฉิงฉิงหมดแล้วจริงๆเหรอ? ทำไมท่านลำเอียง ขนาดนี้? หุ้นส่วนทั้งร้อยละสามสิบห้าเลยนะ! “เงินหยันได้ยิน คำพูดของคุณปู่เงิน สีหน้าก็เปลี่ยนสี

ถึงแม้ก่อนหน้านี้คุณปู่เคยพูดไว้แล้ว แต่เป็นหยันคาดไม่ ถึงว่าคุณจะทำอย่างนี้จริงๆ

“ก่อนหน้านี้ฉันให้หุ้นส่วนร้อยละสิบเจ็ดกับนายแล้วไม่ใช่เห รอ เพียงแต่นายขาย ให้ไปรุ่ยไปแล้วกับมือ”คุณปู่เป็นจ้องหน้า เขา บัดนี้เหลือเพียงเสียงหัวเราะเยาะครั้งนี้นายกว้างซื้อหุ้น ย่อยๆรวมกันก็เกือบร้อยละยี่สิบ แต่ต่อมานายก็ขายให้กับบริษัท เย่อชื่อกรุ๊ปเอง”

สีหน้าเป็นหยันเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขาแย่งชิงตำแหน่ง ประธานกับเงินถั่วนิ่ง จึงซื้อหุ้นในบริษัทร้อยละยี่สิบ หากบวกกับ หุ้นส่วนก่อนหน้านี้ที่เขามีร้อยละสิบเจ็ด ซึ่งรวมกันก็จะได้ร้อยละ สามสิบเจ็ด มันสูงกว่าหุ้นของคุณเป็นเยอะมาก

เขาคิดว่าคุณเป็นไม่รู้เรื่องที่เขาขายหุ้นให้กับไปรุ่ย ดังนั้น จึงกล้าแย่งชิงตำแหน่งประธานในบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ปอย่างเชิด หน้าชูตา

“พ่อ ผม……เวินจีหยันคิดจะอธิบาย
“พ่อ แล้วจึงนิ่งอยู่ไหนคะ? “หลหยุนกลอกตา เหลือบมองเงิน จีหยันแวบหนึ่ง จากนั้นหล่อนก็หันมามองคุณด้วยรอยยิ้มที่ ประจบประแจงบนใบหน้า “คุณพ่อคะ ช่วงนี้เหมือนไม่เห็นหน้า ฉิงฉิงเลยนะคะ ไม่ใช่ว่าฉิงฉิงได้หุ้นส่วนของบริษัทเป็นชื่อกรุ๊ป แล้วไม่สนใจท่านแล้วนะคะ? ”

“มีเรื่องหาหนูเหรอคะ? “เงินถั่วนิ่งยืนฟังอยู่ด้านนอกมาพอ สมควรแล้ว ได้ยินหลี่หยุนพูดถึงจึงเดินเข้ามา

“กลับมาแล้วเหรอฉิงฉิง”หลหยุนหันหน้าไปมองเงินถั่วงด้วย รอยยิ้ม บัดน้ำเสียงมีความกันเอง เพื่อความรักความเมตตาไว้ เป็นพิเศษ

เงินถั่วนิ่งมองหล่อนแวบหนึ่ง โดยที่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดิน เข้าไปหาคุณปู่ คุณปู่ค่ะ ร่างกายยังฟื้นฟูได้ไม่เพียงพอ กลับไป พักผ่อนที่ห้องกันเถอะค่ะ”

ระหว่างที่พูด เป็นลั่วนิ่งก็ประคองคุณปู่เป็นเพื่อจะกลับเข้าห้อง

นอน

“ฉิงฉิงเป็นเด็กกตัญญูเหลือเกิน ไม่เสียแรงที่ตระกูลเป็นเอ็นดู หนูพาคุณปู่ของหนูกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ช่วงนี้ลำบากหนู แล้ว

วันนี้ป้าจะลงครัวทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ทานกันนะ กุลสตรีของหลี่หยุนทำให้ทุกคนประหลาดใจ “บัดนี้การเป็น

“ใช่แล้ว ส่งคุณปเข้าห้องเสร็จก็ลงมานะ หลายวันก่อนป้าซื้อ ของขวัญมาให้หนูด้วย หนูมาดูว่าชอบหรือเปล่า”หลี่หยุนเสริมขึ้นมาหนึ่งประโยค

เงินถั่วงอกหัวเราะเย็นในใจไม่ได้ หลี่หยุนคิดจะทําอะไร ทำไมเธอจะไม่รู้

“ใช่ ใช่ ฉิงฉิง ป้าหนูไปซื้อของขวัญให้หนูโดยเฉพาะเลยนะ หนูไปส่งคุณปูเข้าห้องเสร็จก็ให้ลงมาเอานะเป็นหยันเห็นหลี่หยุ นส่งสัญญาณทางสายตามาให้จึงพูดคล้อยตามหนึ่งประโยค

เงินลั่วจึงไม่ได้สนใจพวกเขา ประคองคุณเดินขึ้นไปชั้นบน

“ฉิงฉิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากได้หุ้นส่วน หนูอย่าหลงกล เชียวนะ ไม่ว่าพวกเขาพูดอะไรก็ไม่ต้องเชื่อนะ” หลังจากที่เข้า มายังห้องนอน คุณปู่เงินก็เตือนเธออย่างเป็นห่วง