บทที่ 1257 มีคนกระวนกระวายแล้ว (2)
ดังนั้นคุณย่าเย่รู้ว่าเรื่องที่คุณปู่เย่ตัดสินใจแล้ว หากพูดตรงๆ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์แน่นอน ทว่าตอนนี้สามารถใช่เรื่องงานแต่ง ขององค์กร โกสต์ซิตี้มาโน้มน้าวคุณปู่เย่ได้แล้ว
คุณปู่เย่ได้ยินคำพูดของคุณย่าเยแล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้เรื่องราววุ่นวายถึงขั้นนี้แล้ว ไม่รู้ว่า ทางองค์กรโกสต์ซิตี้จะมีความคิดยังไง?!
“ทางองค์กร โกสต์ซิตี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ องค์หญิงของ องค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ แสดงว่าองค์กรโกสต์ ซิตี้ก็ยังอยากแต่งงานกับตระกูลเยีของเราอยู่ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ ที่สุดในตอนนี้ก็คือให้ซื้อเฉินกลับบ้านเย่ สำหรับเรื่องของลูกซื้อ เฉิน ห้ามให้คนขององค์กรโกสต์ซิตี้รู้เด็ดขาด” ก่อนหน้านี้ที่คุณ ย่าเยสงสัยฐานะของถังจื่อไม่แต่กลับไม่พูดให้กระจ่าง เพราะว่า เหตุผลนี้ เพราะว่าเธอยังคิดถึงเรื่องงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้ อยู่
“แต่ว่ายัยเด็กนั้น…..” ใบหน้าของคุณปู่เยมีความลำบากใจ เพิ่มขึ้น ยัยเด็กนั่นต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ แน่ ใน อนาคตจะต้องทำงาน ใหญ่แน่นอน งั้นหากเป็นลูกของซื้อเฉิน ก็ ต้องกลับบ้านเย่อยู่แล้ว ทำงานให้กับบ้านเ
เด็กที่ฉลาดไหวพริบดีแบบนี้ก็ไม่ได้เยอะ คุณปู่เย่พอใจในตัว ของถังจื่อไม่มากๆ ดังนั้นถึงแม้ว่าถังจื่อไม่จะเปิดโปงการเสแสร้งของเขาแล้ว เขาเองก็ไม่ได้โกรธมาก แต่กลับคิดว่าจะทำยัง ไง ให้ถังจื่อ โม่กลับบ้านเ
คุณปู่เย่สนใจในความสามารถของถังจื่อไม่มากๆ แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญกว่า นั่นก็คือเป็นลูกของซื้อเฉิน เป็นคนของตระกูลเย่
คนในตระกูลเยถึงแม้จะเป็นยังไงก็ต้องคิดเผื่อตระกูลเย เหมือ นกับชื่อเฉิน ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจในตัวเขามากมาย ถึงขั้นมีความ เกลียดแค้น ในเรื่องบางอย่างที่ทำกับเขา ทว่าตลอดหลายปีมานี้ ชื่อเฉินก็ยังจัดการบริษัทไว้เป็นอย่างดี เจริญเติบโตอย่างดี
และถึงแม้ว่าตอนนี้ซื้อเฉินจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเ แล้ว ก็ไม่มีทำเรื่องที่ไม่ดีต่อบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปแน่นอน
นี่ก็คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างคนกันเองและ คนนอก!
ในด้านนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าวิสัยทัศน์ของคุณย่าเข่นั้น
ไกลยิ่งกว่าคุณปู่เย่
“ตอนนี้ซื้อเงินสร้างเรื่องวุ่นวายแบบนี้ออกมา ถึงแม้ว่าองค์กร โกสต์ซิตี้จะไม่ทําอะไร แต่ว่าพวกเขาต้องมีความไม่พอใจ แน่นอน หากตอนนี้พวกเขารู้เรื่องนี้ที่ซื้อเฉินมีลูก พอถึงเวลาเกรง ว่าจะคุยไม่สำเร็จแล้ว ไม่แน่พวกเราอาจจะสร้างเรื่องบาดหมาง กับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้ อำนาจขององค์กรโกสต์ซิตี้นายก็รู้ หาก องค์กรโกสต์ซิตี้ถือเราเป็นศัตรู ตระกูลเย่ของเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เขาแน่นอน” คุณย่าเย่แทรกคำพูดของคุณปู่เย่เลย เธอไม่อยาก ให้เด็กนั้นกลับบ้านเย่ ยิ่งไม่อยากให้เด็กนั้นเข้าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ป
นั่นเป็นลูกของเฉิน คดในข้อในกระดูก หากของเงินถั่วจึงเข้ามาบริษัท ตระกูลเยกรุ๊ป พอถึงเวลาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปยัง สามารถนามสกุลเย่หรือเปล่า
อีกอย่างคือเธอไม่ชอบเด็กนั้นจริงๆ!
งั้นเธอวิธีอะไร?คุณเย่ได้ยินคุณแย่พูดจริงจังขนาดนั้น ก็ได้ยืนหยัดความคิดเห็นของตัวเอง สำหรับเรื่องงานองค์กรโกสต์ซิตี้ แน่นอนว่าเขาเองอยากยอมแพ้แบบอีกอย่างพวกเขายังเซนต์สัญญาแต่งอีกด้วย และนอกแล้ว สามารถแล้วแบบได้
“เราจะหากนายรู้สึกว่าเขาเป็นสามารถพัฒนาเก่งได้ พวกเรา สามารถส่งเขาไปเรียนสําเร็จแล้ว ค่อยเขากลับมา ให้เขาเข้าบริษัทไป พอถึง เวลาซื้อเฉินและหญิงขององค์กรโกสต์ก็เป็นภรรยาแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะฐาน ฐานะ ของเด็กแล้ว คงจะมีผลกระทบมากมายคุณย่าผู้หญิง คนหนึ่ง เข้าใจผู้หญิงด้วยกัน หากก่อนได้แต่งงาน เรื่องที่เฉินอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้
แต่ว่าหากเป็นหลังแต่งงาน โดยเฉพาะหลังแต่งงานหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้จะรู้เรื่องนี้แล้ว ก็ได้ แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“ฉันอยากจะเก็บเด็กคนนั้นเอาไว้ สอนเขาด้วยตัวเอง เขา……. เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคุณปู่เย่พอใจในตัวถังจื่อไม่ มากๆ อยู่ต่อหน้าผลประโยชน์แบบนี้ ครั้งนี้กลับไม่ได้ตอบตกลง คุณย่าแย่ให้ส่งคนออกไป
“นายน่าจะยังไม่ค่อยชัดเจนในความสามารถขององค์กร โกส ซิตี้ หากนายเก็บเด็กไว้ข้างกาย ในไม่ช้าคนขององค์กรโกสต์ ซิตี้ต้องรู้แน่นอน พอถึงเวลาหากทำให้หัวหน้าขององค์กรโกสต์ ซิตี้โมโห งั้นผลที่ตามมาพวกเรารับไม่ไหวจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เกิด เรื่องขึ้นกับถังหลิน เกิดเรื่องขึ้นกับถังหมุนเฉิง ต่างก็มีความ เกี่ยวข้องกับองค์กร โกสต์ซิตี้ องค์กรโกสต์ซิตีเข้าร่วมเพียงแค่ ส่วนเล็กๆ ส่วนเดียว ก็เกือบจะทำลายถังหลินและถังหยุนเฉิงแล้ว หากไม่ใช่เพราะบ้านถังพึ่งยอมรับคุณหนูใหญ่กลับมาพอดี งั้น บ้านถังคงแย่แน่ บ้านถังตั้งตัวเป็นศัตรูกับองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็ เหมือนกับเอาไข่มาปาก้อนหิน นายว่าพวกเราบ้านเย็จะสามารถ ต่อต้านกับองค์กรโกสต์ซิตี้ได้เหรอ?” คำพูดนี้ของคุณย่าเก็ไม่ เชิงว่ามีเจตนาพูดให้ผู้อื่นตกใจ มันก็คือความจริง
“เรื่องนี้ฉันเองก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว” สีหน้าของคุณปู่เย่ หนักแน่นเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าจะรู้ถึงความสำคัญของปัญหาแล้ว “ห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้”
“ถูก เราห้ามสร้างเรื่องบาดหมางกับองค์กรโกสต์ซิตี้เด็ดขาด อีกอย่างพวกเราจะต้องสร้างงานแต่งกับองค์กรโกสต์ซิตี้ รอให้ชื่อเฉินแต่งงานองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แล้ว พอถึงเวลา พวกเขาต้องมีลูกแต่ละคนจะต้องฉลาด จะต้องไหวพริบแน่นอน นายกลัวว่าไม่คนมาสืบสานต่อเหรอ? พอถึงเวลาพวกเราสา มารถให้ซื้อเงินหลายคน พอถึงเวลานายก็มาอบรมสั่ง สอนด้วยตัวเองเลย” ต้องมากๆ เธอดีว่าควรจะโน้มน้าวใจยังไง
อื้ม คำพูดของเธอพูดมาก ลูกของซื้อเฉินแต่ละต้องเพอร์เฟกต์ๆ รอให้เฉินแต่งงานกับองค์หญิงองค์ กรโกสต์ซิตี้แล้ว ให้พวกเขาคลอดหลายๆ คน ในที่สุดคุณเย่ โล่งใจ ทำไมเขาถึงต้องกังวลกับเด็กหนึ่งล่ะ ซื้อเงินสามารถคลอดลูกอื่นได้อีก
“เพื่อที่เป็นการป้องกันไว้ก่อน ถั่วนิ่งและเด็กสองคน พวกเราจะต้องจัดการให้เร็วที่สุด ห้ามให้ขององค์กรโกสต์ ซิตี้เด็ดขาดคุณย่าเย่เห็นสีหน้าของคุณย่าในที่สุดก็ พอใจสักเป้าหมายสำเร็จแล้ว คุณย่าเย่อารมณ์มาก ทว่ายังลืมเรื่องต้องจัดการกับเงินถั่วนิ่งและเด็กอีกสองคน
สำหรับคุณย่าแล้ว ลั่วกับเด็กอีกสองกีดขวางที่พวกเขาจะพึ่งพาองค์กรโกสต์ซิตี้ จําเป็นต้องรีบ จัดการ
ก่อนหน้าบอกเด็กคนจากไป ขายเขตบนดอย ตอนมีเด็กผู้ชายขึ้นอีกคน เด็กผู้ชาย คนจะเหมือนกันกับเด็กผู้หญิงแน่นอน หลังจากจะต้องให้เขากลับมา” คุณปู่เย่ขมวดคิ้วขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลัง นึกถึงปัญหานี้อย่างจริงจังอยู่ และฟังจากความหมายของคุณปู่ เยู่แล้ว ก็คือส่งถังจื่อจากไปแล้วก็ตัดสินใจจะไม่ให้ถังจื่อกลับ มาอีก
“ฉันจะเลือกสถานที่ที่ดีให้กับเด็กผู้ชายคนนั้น เลือกโรงเรียนที่ ดี ห้ามสิ้นเปลืองความสามารถของเด็กผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด” คุณปู่เย่ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว บวกกับเจอ ความสามารถของถังจื่อ โม่อีก ดังนั้นคุณปู่เย่ก็ยังถือว่าเอ็นดูถึง จื่อไม่อยู่
“แบบนี้ก็ดี รอให้เขาเรียนจบแล้ว ก็ให้เขากลับมา” ครั้งนี้ คุณ ย่าเยไม่ได้คัดค้านกลับ ยัยเด็กนั่นอายุจึงห้าขวบ รอให้เขาเรียน จบอย่างน้อยก็ต้อง20ปี เรื่องหลังจาก20ปี ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นบ้าง
ในอนาคตอเฉินและองค์หญิงขององค์กรโกสต์ซิตี้แต่งงาน กันจะต้องมีลูกของพวกเขาแน่นอน อีกอย่างยังสามารถคลอดได้ หลายคน เธอไม่ขาดหลานๆแน่นอน สำหรับลูกของเงินถั่วนิ่ง ตอนนี้เธอก็เริ่มมีความไม่ชอบแล้ว
“จริงด้วย ให้คนไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นกับเงินถั่วนิ่ง ตอนนี้ พวกเขาเป็นยังไงบ้างแล้ว?” คุณย่าเย่นึกถึงเรื่องในวันนั้นแล้ว สีหน้าก็อึมครึมลง “ยัยเด็กนั่นมาวุ่นวายไปจะครึ่งวัน ทำลาย แผนการของเราไปหมด ตอนนี้ไม่มีวิธีไปสนใจสถานการณ์เรื่อง นั้นแล้ว”
“ฉันลองโทรถามสถานการณ์ดู” คุณปู่เย่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรเบอร์หนึ่งออกไป
โทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามดังไปหลายรอบมากจึงจะโทรติด
“เรื่องที่ฉันให้พวกนาจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว? หาคนเจอหรือ ยัง?” พอคุณปู่เย่โทรติดแล้วก็ถามด้วยเสียงเข้มเลย
“ยังครับ พวกเราหากทั่วเมือง แล้วครับ ยังไม่เจอคนที่ท่านจะ ตามหาเลยครับ” ฝ่ายตรงข้ามมีเสียงดังผ่านมา ราวกับว่ารู้สึก ผิด มีความเชื่องช้าเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังหาคนไม่เจอดัง นั้นจึงมีความมั่นใจไม่เพียงพอหรือเปล่า?
“พวกนายทำงานกันยังไง? เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้วกลับ ไม่มีข่าวอะไรเลย?” คุณปู่เย่ โมโหแล้ว “ก็แค่ให้นายตามหาคน สองคนไม่ใช่เหรอ? ไม่ได้เก่งอะไร ไม่ได้ลึกลับอะไร หายาก ขนาดนี้เลยเหรอ?”
“คุณปู่เย่ พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้วครับ ตอนนี้ หาไม่เจอจริงๆครับ อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์ คนคนนั้น ระมัดระวังมาก น้ำเสียงยิ่งเชื่องช้าไปใหญ่ อีกอย่างความเร็วใน การพูดก็ช้ามาก ราวกับว่าเหมือนถูกคนอะไรควบคุมอยู่……..
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ