บทที่ 1212 คุณชายสามเย่ที่ ‘หมดตัว’ (1)
ทว่าหากคุณปู่เย่เกิดอะไรขึ้นเพราะเขาจริงๆ เยซื้อเฉินจะไม่ สบายใจแน่นอน ไม่ว่ายังไง นั่นก็เป็นญาติที่มีสายเลือดเดียวกับ เขา คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่นึกถึงความเป็นญาติ ทว่าตลอด หลายปีมานี้เยซือเฉินก็ยังนึกคิดถึงความเป็นญาติมาโดยตลอด
หากไม่ใช่เพราะคุณปู่เย่และคุณย่าเยทำให้เรื่องเลยเถิดเกิน ไป วันนี้เชื่อเงินไม่มีทางเปิดงานแถลงข่าวตัดความสัมพันธ์กับ ตระกูลเย่แน่นอน
ตอนนี้รู้แล้วว่าคุณปู่เย่แกล้งป่วย เชื่อเงินก็ไม่จำเป็นต้อง รู้สึกผิด ไม่จําเป็นต้องโทษตัวเองแล้ว!! “ฉิงฉิงพูดถูก ที่สำคัญคือซื้อเฉิน ซื้อเฉินพึ่งเปิดงานแถลงข่าว
ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ ในใจต้องรู้สึกแย่แน่นอน หากคุณ
ปู่เย่ป่วยเพราะเขาจริงๆ ในใจของซื้อเฉินต้องรู้สึกผิดแน่นอน
ท่านถังเห็นด้วยกับการพูดของเงินถั่วง
“งั้นก็ทำให้ซื้อเฉินโดนด่าฟรีๆเลย? ทำไมคุณปู่เย่กับคุณย่า เยถึงโหดร้ายขนาดนี้เนี่ย? ซื้อเฉินเป็นหลานแท้ๆของพวกเขา เลยนะ พวกเขาทําร้ายซื้อเฉินขนาดนี้ได้ไง?” ท่านย่าถังอดถอน หายใจไม่ได้ ความโกรธยังไม่หายไป รู้สึกสงสารแทนเชื่อเงิน
“เจ้าเด็กนี่ก็ช่างน่าสงสารจริงๆ พบเจอกับครอบครัวแบบนี้ คุณปู่คุณย่าสามารถทำออกมาได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ ส่วน พ่อก็ไม่สนใจเขาเลย ส่วนแม่ก็……” ท่านย่าถังถอนหายใจอีกครั้ง “เปลี่ยนเป็นใคร ใครก็ทนไม่ไหว เจ้าเด็กนี่กลับเข้มแข็งขึ้น หยัดมาก อยู่ในครอบครัวแบบนี้ยังใจสู้ขนาดนี้ มีอนาคตขนาดนี้ พัฒนาบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปได้เจริญขนาดนี้”
คำพูดของคุณย่ากังหยุดชะงักไปสักพัก จู่ๆก็นึกถึงอีกเรื่อง หนึ่งขึ้นมา ท่านย่างรีบหันไปทางเงินถั่วถึง “ก่อนหน้านี้ที่ซื้อเฉิน เปิดงานแถลงข่าวว่าจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ เขาได้โอน ย้ายหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปกลับไปให้คุณปู่เย่แล้ว อีกอ ย่างซื้อเฉันก็ไม่เอาเงินของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปแม้แต่บาทเดียว งั้นซือเฉินก็ตกงานแล้วใช่ไหม?”
เงินลั่วจึงได้ยินคำพูดของท่านย่าถังแล้วตะลึงงันไปเลย เชื่อ เฉินไม่สนใจบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปก็แสดงว่าตกงานแล้ว?
ธุรกิจตัวเองของเยซือเฉินนั้นมีเป็นหลายเท่าของบริษัทตระกูล เย่กรุ๊ปเลย
แน่นอนว่าธุรกิจพวกนั้นของเยซือเฉินคนทั่วไปจะไม่รู้ หาก ตอนนั้นไม่ใช่เพราะรุ่นพี่บอกเขา มู่หรงตัวหยางไปสืบ เกรงว่าป่า นี้เธอก็คงยังไม่รู้
เพราะว่าเป็นลั่วฉิงตะลึงงันไปกะทันหัน ดังนั้นจึงไม่ได้ตอบ ค่าถามของท่านย่าถัง
“ฉิงฉิง ฉันจะบอกให้นะ เธอห้ามรังเกียจซื้อเฉินเพราะเหตุผลนี้ นะ ยัยเด็กนั่นมีอนาคต มีความสามารถ มีเสน่ห์ ถึงแม้ว่าจะไม่มี บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว เขาก็จะพัฒนาได้ดีแน่นอน ท่านย่าถัง เห็นเป็นลั่วนิ่งไม่พูดอะไร ท่านย่าถึงกลัวว่าเป็นถั่วนิ่งจะคิดมาก จึงเริ่มพูดโน้มน้าวเงินทั่วถึง
เงินลั่วจึงยักคิ้ว อดไม่ไหวหัวเราะออกมา เธอรังเกียจเชื่อ เงิน?
“เธอหัวเราะอะไร? เธอต้องจำคำพูดของฉันเอาไว้ เมื่อยาก ล่ามากจะพบเจอรักแท้ เวลานี้เธอห้ามรังเกียจเยซือเฉินเด็ดขาด ต้องทําดีกับเย่อเฉินนะ” ท่านย่าถังเห็นสภาพของเงินถั่วนิ่งแล้ว รู้สึกไม่วางใจมาก
“โอเคค่ะ” เป็นลั่วนิ่งพยักหน้าตอบกลับ เธอรู้สึกว่าท่านย่าถัง น่ารักมากจริงๆ
“ก่อนหน้านี้เธอก็ได้ยินสิ่งที่ซื้อเฉินพูดแล้ว เขาได้โอนหุ้นส่วน ให้คุณปู่เย่ทั้งหมดแล้ว เขายังไม่เอาเงินสักบาทจากบริษัทตระกูล เยกรุ๊ปด้วย งั้นตอนนี้ซื้อเฉินก็หมดตัวแล้ว ท่านย่าถังอดส่ายหัว ไม่ได้ “ตัดความสัมพันธ์กับคนในบ้านแล้ว ตอนนี้ก็หมดตัวอีก”
เงินถั่วนิ่งสำลักน้ำลายของตัวเองเลย
เมื่อกี้เธอได้ยินว่าอะไรนะ?
เย่ซือเฉินหมดตัว?
หากเย่ซือเฉินเป็นแบบนั้นก็แสดงว่าหมดแล้ว?!
งั้นเป็นลั่วนิ่งไม่รู้เลยจริงๆว่าควรพูดยังไงแล้ว!
“ฉิงฉิง ตอนนี้ซื้อเฉินไม่มีบ้านแล้ว ยังหมดตัวอีก บ้านถังของ เราก็คือบ้านของเขา ต่อจากนี้เธอก็ให้เขามาอยู่บ้านถังเถอะยายมีเงิน ยายให้เงินเขาเอง” ท่านย่าถังอาจจะกลัวว่าคำพูดนี้จะ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด จึงพูดเสริมอีกประโยคว่า “ยายให้เงินเขา ให้เขากลับไปสร้างธุรกิจใหม่
ถึงแม้เงินลั่วจึงฟังแล้วอยากจะหัวเราะ ทว่าในใจกลับซึ้งใจ มาก แน่นอนเงินมั่วนิ่งรู้ว่าท่านย่าถังทำแบบนี้ต่างก็เพื่อเธอ
แต่ว่า ท่านย่างกับท่านถังน่ารักมากจริงๆ หากเป็นผู้ ปกครองบ้านอื่นพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว ต้องพูดโน้ม น้าวให้เธอคิดพิจารณาดีๆ ไม่ว่ายังไงแล้วตอนนี้ในสายตาของ ท่านย่าถังเยซื้อเฉินไม่มีบ้านแล้ว ยังหมดตัวอีกด้วย
ทว่าท่านย่างกลับให้เธอประสบความยากลำบากพร้อมกับ เชื่อเฉิน นิสัยความคิดแบบนี้ต่างหากที่พบได้ยาก
“ท่ายาถังจะให้เงินผมไปสร้างธุรกิจใหม่? ไม่รู้ว่าท่านย่าถัง เตรียมเงินไว้ให้ผมเท่าไหร่ครับเนี่ย?” เย่ซื้อเฉินที่ “หมดตัว เดิน เข้ามาในห้องรับแขกแล้วได้ยินประโยคนี้ของท่านย่าลังพอดี มองดูความอ่อนโยนบนใบหน้าของเงินถั่วนิ่ง ทันใดนั้นเชื่อเงิ นรู้สึกว่าความหนักแน่น ในเมื่อกี้หายไปหมด อารมณ์ก็ดีขึ้นแล้ว
เรื่องที่คุณปู่เย่ ‘สลบ’ แล้วเรียกรถพยาบาลแน่นอนว่าเยซื้อเฉ นรู้อยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องนั้นก็ใหญ่โตบานปลายขนาดนี้ เขาจะไม่รู้ได้ยังไง
เย่ซือเฉินรู้จักคุณปู่เย่และคุณย่าเยดีเกินไปแล้ว ดังนั้นเขามอง แวบแรกก็มองออกแล้วว่าคุณปู่เย่แกล้งป่วย สิ่งที่เป็นลั่วนิ่ง สังเกตเกตเห็นก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าเยซื้อเฉินเองก็เห็นแล้ว อีกอย่างเขือเฉินยังเห็นรายละเอียดบางอย่างที่เป็นวงไม่เห็น ไม่ ว่ายังไงบ้านเยู่ก็เป็นบ้านที่เขาอยู่มาเกือบสามสิบปี เขาเข้าใจ สถานการณ์บ้านของตระกูลเย่มากจริงๆ เขาเองก็รู้ดีใน พฤติกรรมบางอย่างของคุณปู่เย่
ดังนั้นหลังจากที่เยซือเฉินเห็นภาพที่นักข่าวเผยออกมาแล้ว เพียงแวบแรกก็มองออกแล้วว่าคุณปู่เย่แกล้งป่วย
วินาทีนั้น เชื่อเงินหัวเราะอย่างเยือกเย็น คุณปู่เย่และคุณย่า เย่ทําออกมาได้ทุกอย่างจริงๆ
เชื่อเงินรู้ว่าคุณปู่เย่แกล้งป่วยเพราะอยากให้เขากลับบ้านเ แน่นอน ทว่าพวกเขาเคยคิดหรือเปล่าว่า การที่พวกเขาทำแบบนี้ จะผลักดันเขาไปยังสภาพแวดล้อมแบบนั้น
เชื่อเงินรู้ว่าคุณปู่เย่และคุณย่าเยต่างก็เป็นคนที่ฉลาด ดังนั้น คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ก็รู้ดีว่าผลที่ตามมาของเรื่องนี้คือยังไง พวก เขาเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จะนำพาผลกระทบอะไรมาให้เขา ทว่าพวก เขาก็ยังทําแบบไหน?
หรืออาจจะพูดว่าพวกเขาตั้งใจสร้างผลกระทบแบบนั้นขึ้นมา ให้เขา พวกเขาอยากให้เขาถูกตำหนิ ถึงขั้นถูกผู้คนด่า จากนั้น พวกเขาก็สามารถออกมาเป็นคนดี มา ‘ช่วย’ เขา
ทว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือ ของพวกเขา ในเมื่อเขา ตักความสัมพันธ์กับตระกูลเยู่แล้ว งั้นก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน อีกต่อไป
แน่นอนว่าความช่วยเหลือในวิธีแบบนี้ของคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ เขาเองก็รับไม่ไหว
“นายต้องการเท่าไหร่ฉันก็ให้นายเท่านั้น หากเงินของฉันไม่ พอก็ยังมีคุณปู่ถังใช่ไหมล่ะ? ถ้าไม่พอจริงๆก็ยังมีถังหลินอีก ท่านย่าถึงรู้ว่าขณะนี้เชื่อเป็นกำลังพูดล้อเล่น ทว่าเธอจริงจัง มาก เธออยากจะหยิบเงินออกมาช่วยเชื่อเงินสร้างธุรกิจใหม่ จริงๆ
“นายก็ถือว่าย่าถังลงทุนละกัน ย่าถังเชื่อใจนายนะ” ท่านย่าถัง อาจจะกลัวว่าจะเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของเยซือเฉิน จึงพูดเสริม อีกหนึ่งประโยค
“โอเคครับ ผมจะไม่ทำให้ย่าถังผิดหวังแน่นอนครับ” เชื่อ เฉินยิ้มโค้งที่มุมปาก บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนๆ การอยู่ที่บ้านถัง ทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นญาติอย่างแท้จริง
“อื้ม แบบนี้แหละถูกแล้ว นายจะต้องช่วยย่าถังหาเงินเยอะๆ พอถึงเวลาฉันจึงมีนั่งเปาให้พวกนายไง” ในที่สุดความโมโหของ ท่านย่าถึงก็หายไป ในที่สุดบนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาสักที จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนใน ครอบครัวปรองดองกัน
“โอเคครับ” เย่ซือเฉินพยักหน้าตอบกลับ ขณะนี้บนใบหน้า ของเขาไม่มีความเย็นชา ในวันปกติแล้ว มีเพียงแต่ความอ่อน โยนที่เห็นได้ยาก
“จื่อซีล่ะครับ?” เย่ซือเฉินไม่เห็นเจ้าเด็กจื่อซี นึกถึงก่อนหน้านี้ ที่คุณปู่เย่ ใช้จื่อขู่เขา เขายังไม่ค่อยวางใจ
“จ๋อซีนอนอยู่บนห้อง” เป็นลั่วถึงพึ่งลงมาหลังจากที่ถังอ หลับแล้ว เย่อเฉินถามแบบนี้ เป็นลั่วนิ่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“ฉันขึ้นไปดูจื่อซึนะ” เยซือเงินนึกถึงเสียงตะโกนของถังจื่อ ในโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่วางใจ เขาต้องเห็นกับตาจึง จะวางใจ
“โอเค โอเค นายขึ้นไปเลย จอคือเจ้าความสุขของพวกเรา ถ้านายเจอจื่อแล้วความเจ็บปวดทั้งหมดก็จะหายไป” ท่านย่าถัง พยักหน้า ไม่ได้ห้ามเชื่อเงินไว้เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เยซือเฉินและเงินมั่วนิ่งขึ้นตึกไปพร้อมกัน
เยซือเฉินพึ่งเดินไปครึ่งทาง จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น กะทันหัน เบอร์โทรศัพท์นี้มีเพียงแต่คนที่สนิทกับเอเฉินมากๆ จึงจะรู้ เบอร์นี้แม้กระทั่งคุณปู่เย่และคุณย่าเก็ไม่รู้
โทรศัพท์ที่ใช้ในวันปกติ เขาวางไว้ที่ห้องทำงานแล้ว
เยซือเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นภาพแสดงบนหน้าจอ นัยน์ตาคู่หนึ่งเปล่งประกายขึ้น จากนั้นก็รีบรับสาย “พี่ใหญ่
คำว่าพี่ใหญ่คำนี้ของเขาก็สามารถรู้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามคือ
ใคร
“เรื่องในวันนี้ฉันเห็นหมดแล้ว ไม่ว่านายจะทำอะไร ไม่ว่านาย จะตัดสินใจยังไง พี่ใหญ่ก็สนับสนุนนาย” อีกฝั่งหนึ่งทาง โทรศัพท์ น้ำเสียงของถังหลินดังผ่านมาอย่างเชื่องช้า เบาแต่ กลับยืนหยัด!!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ