บทที่ 1220 ศึก ใหญ่ของถังจื่อ โม่ (1)
“จ๋อโม่ไปหาคุณปู่เย่แล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่แน่จื่อไม่อาจจะ สามารถเปิดโปงการเสแสร้งของคุณปู่เย่ก็ได้” ท่านย่าถังเชื่อใจ ในความสามารถของถังจื่อไม่มาก เขารู้สึกว่าหากถังจื่อไม่ออก มือจะต้องมีผลลัพธ์ที่ทุกคนพอใจแน่นอน เด็กน้อยจอโม่บ้านเขา ออกมือ ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้
“คุณปู่เย่นั้นโด่งดังในเรื่องเจ้าเล่ห์เลยนะ เกรงว่าคงจะไม่ง่าย ขนาดนั้น อีกอย่างยังมีคุณย่าเยอีกคน พูดถึงเรื่องการวางแผน คุณย่าเย่นั้นสุดยอดกว่าคุณปู่เยอีกนะ ไม่ว่ายังไงแล้วจื่อไม่ก็เป็น แค่เด็กอายุห้าขวบ จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเหรอ” ท่านถังไม่ได้ หวังไว้มาก ปล่อยตามถังจื่อ โม่ไป แต่ก็แค่อยากให้ถึงจื่อไม่ จัดการไป ส่วนเรื่องคิดบัญชีของคุณปู่เย่ ก็ยังต้องให้เขามา จัดการ
เยซื้อเฉินยิ้มโค้งที่มุมปาก ไม่ได้พูดอะไร ทว่านัยน์ตาคู่หนึ่ง หม่นหมองลงเยอะมาก ตลอดหลายปีมานี้คุณปู่เย่และคุณย่าเย วางแผนเรื่องเขาไม่น้อยเลย เมื่อก่อนเขาจะป้องกันยังไงก็ ป้องกันไม่อยู่ พอเขาโตขึ้นเข้าบริษัท หลังจากที่พัฒนาบริษัทให้ เจริญเติบโตอย่างไม่หยุด คุณปู่เย่ก็ไม่กล้าทำอะไรขนาดนั้นแล้ว
“พี่ชายหนูสุดยอดที่สุดแล้วค่ะ พี่ชายทำได้แน่นอนค่ะ” ถังจื่อซี นั้นเชื่อใจพี่ชายของตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย ในสายตา ของจื่อ ไม่มีอะไรที่จะสามารถล้มพี่ชายของเธอได้
“ถูก จื่อพูดถูก จื่อ โม่สุดยอดที่สุดแล้ว จื่อไม่ทำได้แน่นอน ก็ เพราะว่าชื่อไม่ยังเด็ก ทำอะไรขึ้นมาก็สะดวก อีกอย่างเพราะว่า จื่อ โม่เป็นเด็ก คุณปู่เย่และคุณย่าเยก็คงไม่ได้ระวังอะไรมาก ดัง นั้นจอไม่ทำได้แน่นอน ท่านว่ายังมีความคิดที่ไม่ตรงกับท่าน ถัง เรื่องบางเรื่องสามารถลองเปลี่ยนมุมมองคิดได้ ไม่แน่อาจจะ มีเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้
“จอโมไปแล้ว รอดูสถานการณ์ค่อยว่ากันเถอะค่ะ” เป็นลั่วถึง ไม่ได้แสดงความเห็นของตัวเอง ทว่าในใจของเธอก็เห็นด้วยกับ ท่านย่าถังมากๆ เธอรู้สึกว่าจอโม่ไปหาคุณปู่เย่ครั้งนี้จะต้องมี การเคลื่อนไหวที่เงียบแน่นอน เกรงว่าคงจะเพียงพอสำหรับคุณ เย่เย่ที่จะทนทุกข์ทรมาน
“ไม่ว่าเรื่องนี้ของถังจื่อ โม่จะมีผลยังไง ซื้อเฉินก็ต้องเตรียมตัว ไว้ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จื่อโม่จะเปิดโปงการเสแสร้งของคุณปู่เย่ ตาม นิสัยของคุณปู่เย่แล้วไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน ต้องสร้างเรื่องอื่น ขึ้นมาแน่นอน” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าท่านยังไม่ค่อยมอง ในแง่ดี หลักๆคือท่านปูถังรู้จักนิสัยของคุณปู่เยดีเกินไปแล้ว
“หรือพวกเราจะต้องกลัวเขาเหรอ?” ท่านย่าถึงกลับไม่พอใจ “พวกเขาอยากทําร้ายซื้อเงิน หรือว่าพวกเราต้องปล่อยให้เขา ทําร้ายเหรอ? ทําเป็นเหมือนว่าไม่มีบ้านตั้งอยู่เหรอ?”
ตำแหน่งของบ้านถังนั้นสูงส่ง ทว่าปกติแล้วท่านถังและท่าน ย่าถังถ่อมตนมากๆ ครั้งนี้น้ำเสียงของท่านย่าถังมีความหยิ่ง เล็กน้อย!!
แน่นอนว่า เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าท่านย่าถังเห็นเยซือเฉิน เป็นเหมือนคนในครอบครัวของตนเองแล้ว
“แน่นอนว่าไม่กลัวอยู่แล้ว ท่านย่าถังเห็นท่าทางของภรรยา
ตัวเองแล้ว อดหัวเราะไม่ได้เลย
กลัว? บ้านถังของเขาเคยกลัวใคร? ปกติแล้วเขาชอบความ เงียบสงบ ไม่หาเรื่องวุ่นวาย ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลัวใคร
“แบบนี้ก็ถูกแล้ว เมื่อก่อนบ้านถังของเราปล่อยคุณปู่เย่กับคุณ ย่าเย่ไปก็เพราะเห็นแก่ซื้อเงิน ตอนนี้ซื้อเฉันไม่ได้มีความ เกี่ยวข้องกับสองท่านนั้น ในตระกูลเยู่แล้ว หากคุณปู่เย่และคุณ ย่าเยจะก่อเรื่องก็ช่างเถอะ หากพวกเขากล้าทำร้ายชื่อเฉิน กล้า ทำร้ายลูกสองคนของฉิงฉิงอีก บ้านถังของพวกเราไม่ปล่อยพวก เขาไปแน่” ท่านย่าถังไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล ถึงแม้ว่าเวลาแบบนี้ ท่านย่าถึงก็ไม่มีทางไปหาเรื่องก่อนแน่นอน ความหมายของเธอ ก็คือหากคุณปู่เย่และคุณย่าเย่ไม่ก่อเรื่องอีก บ้านถังก็ไม่มีทาง สนใจแน่นอน
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าท่านย่าถังก็ยังนึกถึงเอเฉินอยู่ ถึง แม้ว่าเยซือเฉินจะเปิดงานแถลงข่าวตัดความสัมพันธ์กับตระกูล เย่แล้ว แต่ว่าสายเลือดก็ยังอยู่ อีกอย่างท่านย่าถึงรู้ว่าจริงๆแล้ว เยซือเฉินเป็นคนที่มักจะนึกถึงความสัมพันธ์ที่เคยผ่านมา เธอไม่ อยากสร้างความลำบากใจให้กับเย่ซือเงิน
“โอเค ฟังเธอหมดเลย” ท่าถังเข้าใจความหมายของท่านย่า ถัง สิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ท่านย่าถังไม่เคยปฏิเสธเลย อีกอย่างเรื่องนี้ท่านย่าถึงก็คิดได้ละเอียดรอบคอบมากๆ
แน่นอนว่าเชื่อเงินก็เข้าใจว่าท่านย่าถังนึกถึงเขา เพราะว่า ท่านย่าถังเห็นแก่เขา ดังนั้นจึงเลือกที่จะไม่คิดแค้นกับเรื่องที่คุณ ปู่เย่จะส่งจื่อซีจากไปและเรื่องที่จะขายจึงฉิงทิ้ง
ขณะนี้อารมณ์ของเยี่ซื้อเฉินซับซ้อนมาก คุณปู่เย่และคุณย่าเข่ คือคนในครอบครัวของเขา คือญาติที่มีสายเลือดเดียวกัน ทว่า เรื่องพวกนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ ไม่เคยนึกถึงความรู้สึก ของเขาเลย คุณปู่เย่และคุณย่าเย่สามารถวางแผนเรื่องของเขา เพื่อผลประโยชน์ได้ทุกอย่าง
ทว่าบ้านถังกลับนึกถึงความรู้สึกของเขาอยู่ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่า เรื่องอะไรก็จะนึกถึงอารมณ์และสถานการณ์ของเขาตลอด พอมาเทียบกันแล้วในใจของเยซื้อเฉินก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
รู้สึกสับสนไปหมด ทันใดนั้นไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“ในเมื่อจื่อ โม่ไม่เป็นอะไรแล้ว นายก็ไปเล่นเป็นเพื่อนอ หน่อยเถอะ” เป็นลั่วนิ่งไม่อยากให้เยซื้อเฉันคิดมาก วันนี้เกิด เรื่องขึ้นเยอะมาก วุ่นวายมากแล้วจริงๆ ส่วนเรื่องพวกนั้นที่คุณ เย่และคุณย่าเย่ เธอที่เป็นคนนอกดูแล้วยังรู้สึกเสียความรู้สึก ถึงขั้นรู้สึกตกใจด้วย
ถึงแม้ว่าเชื่อเฉินจะประกาศแล้วว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับ ตระกูลเย่แล้ว เรื่องพวกนั้นที่คุณปู่เย่และคุณย่าเย่ต้องทำให้ เย่ซื้อเฉินรู้สึกไม่สบายใจแน่นอน
จื่อบ้านเธอคือเจ้าความสุขของทุก คน ให้ชื่อที่อยู่เป็นเพื่อนเขือเฉิน เชื่อเงินก็ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องหงุดหงิดพวกนั้นแล้ว
“ดีค่ะ ดีค่ะ คุณพ่อไปเล่นกับหนูเลยค่ะ” องค์หญิงน้อยจื่อซี ได้ยินแล้วก็ตะโกนร้องด้วยความดีใจ เธอโตขนาดนี้แล้ว คุณพ่อ ยังไม่เคยเล่นเป็นเพื่อนเธอเลย
ทุกครั้งที่เธอเห็นเด็กคนอื่นๆ มีคุณพ่อเล่นด้วย เธอต่างก็รู้สึก อิจฉาทุกครั้ง
“โอเค คุณพ่อไปเล่นกับองค์หญิงน้อยของเราเนาะ” เชื่อเงิน เห็นสีหน้าที่ดีใจขององค์หญิงน้อยถังจื่อแล้ว มุมปากของเขาก็ อดยิ้มขึ้นไม่ไหว
ตอนนี้มีคนที่เขารักอยู่ข้างๆ มีลูกชาย มีลูกสาว ยังมีคนที่เป็น ห่วงเขาสนับสนุนเขามากมายขนาดนี้ เขาพอใจมากแล้ว
ชีวิตสวยงามขนาดนี้ ไม่ควรที่จะให้เรื่องบางอย่างมาเป็นผลก
ระทบต่ออารมณ์เลยจริงๆ
เขาเคยพูดว่า ในเมื่อตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเยู่แล้ว งั้นก็ ตัดทิ้งไปอย่างเด็ดขาดเลย เพราะว่าเขาไม่สามารถให้คนที่เขา รักถูกคุณปู่เย่และคุณย่าเย่รังแกอีก
เขายังไม่อยากให้ในอนาคตลูกๆของเขาเป็นเหมือนเขา เป็น เครื่องมือของคุณปู่เย่ เขาไม่อยากให้ลูกๆของเขาเป็นเหมือนเขา ที่ถูกคุณปู่เย่วางแผน ถูกควบคุม
ดังนั้น ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเยู่แล้ว เขาไม่รู้สึกเสียใจเลย
ตอนนั้น เรื่องของคุณแม่ได้ทำให้เขารู้สึกเสียใจกับตระกูลเย่ แล้ว เขาคิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าจะจากไปพร้อมกับคุณแม่ ทว่า เขารู้ หากเขาจากไปพร้อมกับคุณแม่ คุณปู่เย่ต้องไม่ปล่อยคุณ แม่ไปแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่บ้านเยู่ต่อ
วันนี้ เขาได้ทำเรื่องที่เขาอยากทำมายี่สิบกว่าปีแต่ว่าไม่สำเร็จ
และในขณะเดียวกัน ถังจื่อไม่กำลังอยู่ระหว่างทางที่ไปโรง พยาบาล ในตอนที่ผ่านร้านค้าไป ถึงจื่อไม่ได้ให้คนขับรถเฉี่ยว หลิวหยุดรถ
“คุณชายน้อย เป็นอะไรครับ? ไปที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ครับ? นี่ยังไกลจากโรงพยาบาลอยู่นะครับ” หวตะลึงงันเล็ก น้อย มองไปทางถังจื่อไม่ด้วยความไม่เข้าใจ คุณชายน้อยท่าที เกรี้ยวกราดจะไปคิดบัญชีกับคุณปู่เย่ ทำไมถึงหยุดกลางทางล่ะ
“ฉันต้องปลอมตัวหน่อย ตอนนี้ไม่มีคนรู้จักฉัน แต่ว่าหลังจาก ที่คุณแม่และคุณพ่อของฉันอยู่ด้วยกันแล้ว ต้องประกาศสถานะ ตัวตนของฉันแน่นอน ตอนนั้นต้องมีคนรู้จักฉันมากมาย ดังนั้นวัน นี้ฉันต้องปลอมตัวหน่อย เดี๋ยววันหลังจะได้ไม่มีคนเอาไปพูด” ถัง จื่อ โม่มองไปทางหนูหนึ่งที ขณะนี้ได้อธิบายอย่างใจเย็น เพราะ ว่าเขาจำเป็นต้องให้กู้หนูไปช่วยเขาซื้อของ
หวอึ้งไปเลย คุณชายน้อยจะปลอมตัว? ก่อนที่คุณชายน้อย จะไปหาคนคิดบัญชียังนึกถึงด้วยว่าต้องปลอมตัวก่อน น้อยคิดได้รอบคอบจริงๆ เขายังคิดไม่ถึงเลย คุณชาย
คิดไม่ถึงว่าเขากลับเด็กอายุห้าขวบไม่ได้เลย
“คุณชายน้อยพูดถูกมากครับ ควรจะปลอมตัวหน่อยครับ หลังจากที่หนูได้สติมาแล้วก็พยักหน้า ตอนนี้หวยิ่งอยู่ก็ยิ่งนับ ถือถังจื่อ โม่แล้ว สมกับที่เป็นลูกของคุณชายและคุณหญิงจริงๆ เก่งมากจริงๆ
“นายช่วยซื้อหมวกให้ฉันใบหนึ่ง แว่นตากันแดดอันหนึ่ง แล้ว ซื้อดินสอเขียนคิวสีน้ำตาลแห่งหนึ่ง” ถังจื่อไม่กำชับหวอย่าง จริงจัง
“ทำไมต้องเอาดินสอเขียนคิ้วด้วยครับ?” หนูไม่ค่อยเข้าใจ ซื้อหมวก ซื้อแว่นตากันแดดเขาสามารถเข้าใจ ทว่าทำไม คุณชายน้อยถึงต้องซื้อดินสอเขียนคิ้ว? หรือว่าคุณชายน้อยจะ เขียนคิ้วเหรอ?!
หรือว่าแม้กระทั่งคิ้วก็จะต้องปลอมเหรอ? ไม่ต้องละเอียด ขนาดนี้หรอกมั้ง?
ทว่าทำไมถึงต้องเป็นสีน้ำตาลล่ะ?
คิ้วของคุณชายน้อยเขียนด้วยสีน้ำตาลแล้วสวยเหรอ?!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ