ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 1200 คุณปู่คุณย่าตระกูลเยตกตะลึง สุดยอด (1)



บทที่ 1200 คุณปู่คุณย่าตระกูลเยตกตะลึง สุดยอด (1)

ในงานแถลงข่าวสายตาของเชื่อเงินกวาดมองนักข่าว ฟังสิ่ง ที่ทุกคนพูด แววตาของเขาไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ราวกับว่าคนที่พวกนั้นพูดไม่ใช่เขา

เชื่อเงินกลอกตา หันไปมองกล้อง จากนั้นพูดขึ้นช้าๆอีก ครั้ง: “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องแถลง

เสียงของเยซื้อเฉินไม่ดังมาก แต่ว่าทันทีที่เชื่อเงินพูด ทั่วทั้ง งานแถลงก็เงียบลง เมื่อครู่ที่กำลังพูดคุยกัน และนักข่าวที่ถามคำ ถามเชื่อเงินเงียบเสียงลงทันที

สายตาคู่นั้นของเยซือเฉินกวาดมองนักข่าวแต่ละคน ไม่ได้พูด อธิบาย แต่ยื่นมือออกไป ยื่นไปทางเลขาหลิว

เลขาหลิวรอคอยมาโดยตลอด รอจนเริ่มร้อนใจแล้ว เห็นท่าน ประธานยื่นมือมา เขาก็เข้าความหมายของท่านประธานทันที

เลขาหลิวหยิบสัญญาทั้งหมดที่เมื่อดำเนินการออกมาทันที

แล้วยื่นไปให้เยซือเฉิน

เย่ซื้อเฉินเปิดสัญญา จากนั้นยื่นไปตรงหน้ากล้อง เพราะอยู่ ใกล้มาก ดังนั้นจึงหน้ากล้องจึงเห็นตัวหนังสือในสัญญาชัดเจน

เยซือเฉินไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย แต่ให้ทุกคนดูเอาเอง เขารู้เรื่องที่นักข่าวพวกนี้อยากจะรู้ เขาไม่จำเป็นต้องพูด พวกเขา ดูด้วยความชัดเจนเองได้ จากนั้นก็สามารถรายงานข่าวอย่างชัดเจน

เวลานี้มีเพียงกล้องของไม่กี่สำนักที่เบียดอยู่ด้านหน้าเท่านั้น ถึงจะเห็นชัด สื่อสำนักอื่นๆ อยากจะเบียดเข้ามาแทบตาย โดย เฉพาะนักข่าวที่เมื่อถามคำถามเชื่อเงินก็อึดสุดแรง แต่ว่า นัก ข่าวของแต่ละสื่อที่อยู่ด้านหน้าไม่มีวันยอมให้พวกเขา สมปรารถนา เบียดพวกเขาออกไปด้านนอก

เชื่อเดินถือสัญญาเอาไว้ เห็นทุกคนอ่านด้านหน้าใกล้จบแล้ว จึงพลิกแผ่นหลังต่อ

แน่นอน เพราะสัญญาที่เยซื้อเฉินถือไว้นั้นหันไปหากล้อง ดัง นั้นจึงเห็นอย่างชัดเจนผ่านถ่ายทอดสด

นักข่าวสำนักอื่นๆที่เบียดเข้ามาไม่ได้จึงทำได้เพียงอ่านเนื้อหา ของเอกสารผ่านถ่ายทอดสด

“นี่คือการโอนย้ายหุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเหรอ?”

“คุณชายสามเก๋ให้พวกเราดูสัญญาการโอนย้ายหุ้นทำไม? เรื่องที่คุณปู่เย่โอนหุ้นบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปให้เขาทุกคนต่างรู้ดี ยังต้องดูด้วยเหรอ?”

“นายดูดีๆสิ เหมือนมีบางอย่างผิดปกติ

“มีอะไรผิดปกติ?”

“เหมือนไม่ได้โอนให้คุณชายสามเย่ เหมือนโอนให้คุณปู่เย่

“โอนให้คุณปู่เย่? เป็นไปได้ยังไง? หรือว่าคุณชายสามเยโอนหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปให้กับคุณปู่เย่แล้ว บริษัทตระกูลเย่ก ปมีหุ้นมากมายขนาดนั้น ต้องเป็นเม็ดเงินมูลค่าเท่าไหร่ บนโลก ใบนี้มีคนโง่ขนาดนี้ด้วยเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคุณชายสามเย บอกว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย่ ถ้าหากคุณชายสาม เยโอนหุ้นของบริษัทตระกูลเยีกรุ๊ปคืนให้กับคุณปู่เย่ ถ้าอย่างนั้น คุณชายสามเก็ไม่มีอะไรแล้ว”

“ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่สัญญาเขียนเอาไว้ว่าโอนให้คุณปู่เย่ จริงๆ นายดูให้ละเอียดสิ” เวลานี้เยซื้อเฉินพลิกหน้าสัญญาจน หมดแล้ว ทุกคนอ่านจนจบแล้ว ดังนั้นคือสัญญาอะไรกันแน่ทุก คนย่อมต้องอ่านอย่างชัดเจนแล้ว”

“ให้ตายสิ คุณชายสามเบ้าไปแล้วรึเปล่า ธุรกิจประจํ ตระกูลที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่เอา? เป็นไปได้ยังไง?”

เวลานี้ ภายในห้องโถงของตระกูลเย่ คุณปู่เย่และคุณย่าเ ถ่ายทอดสดตลอดเวลา ดังนั้นจึงเห็นสัญญาแล้ว พวกเขาอ่าน เนื้อความในสัญญาอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งสองตกตะลึง ชั่วขณะ หนึ่งถึงขั้นลืมไหวตัว พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเยซื้อเฉินจะทำแบบนี้

ธุรกิจประจำตระกูลที่ใหญ่ขนาดนี้ เชื่อเงินกลับบอกว่าไม่เอา เนี่ยนะ?

“ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะอ่านสัญญากันจบแล้ว หุ้นที่ก่อนหน้านี้ คุณปู่เย่โอนให้ผม และหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผมมีอยู่ก่อนแล้ว วันนี้ ผมโอน ให้คุณปู่เย่ทั้งหมด ไม่เหลือเอาไว้แม้แต่น้อย”เชื่อเงิน เห็นทุกคนอ่านจบแล้ว จึงเก็บสัญญา แล้วพูดอธิบาย
เขาพูดอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่โอนคืนหุ้นที่ก่อนหน้านี้คุณ เยโอนให้เขา แม้แต่หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของเขาที่มีอยู่แล้วก็โอน คืนให้คุณปู่เย่

เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในงานแถลงข่าวต่างตะลึงงัน คนๆนี้บ้าไป แล้ว บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ หุ้นที่เยซือเฉินพูดเมื่อกี้เมื่อเอามารวมกันแล้วมากกว่าห้าสิบ เปอร์เซ็นต์ เยซือเฉินไม่เอาซะอย่างนี้เลยเนี่ยนะ?

“มันคิดจะทําอะไร? มันหมายความว่าอะไร? มันกำลังข่มขู่ผม เหรอ?” ในที่สุดคุณปู่เย่ก็ดึงสติกลับมา ชั่วขณะหนึ่งโมโหจนเด้ง ตัวขึ้นมาจากโซฟา ร้องตะโกนด่าทอเยซื้อเฉิน แต่ว่าเวเลานี้สิ่ง ที่มีมากกว่าความโมโหของคุณปู่เย่กลับกลายเป็นความกังวล เยซือเฉินโอนหุ้นทั้งหมดที่มีให้เขา

เยซื้อเฉินทําเด็ดขาดขนาดนี้ หมายความว่าอะไร?

“เด็กคนนี้ทำแบบนี้ได้ยังไง? เขาทำให้พวกเราเสียใจขนาดนี้ ได้ยังไง?” คุณย่าเย่ขดตัวอยู่บนโซฟา มองดูแล้วสีหน้าเต็มไป ด้วยความเสียใจ ไม่มีความนิ่งงันและได้ใจเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว

ภายในใจของคุณย่าเย่รู้ดี สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถใช้ใน การข่มขู่เย่ซื้อเฉินได้คือหุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปตอนนี้เยอ เฉินไม่ต้องการหุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวก เขาจะควบคุมเย่ซือเฉินต่อไปได้ยังไง?

“เกินไปแล้วจริงๆ มันตั้งใจทำให้ผมโมโห” คุณปู่เย่ตะคอกด่า ด้วยความโมโห เพียงแต่เสียงโมโหมั้นเพราะมีความกังวลในอยู่ด้วย จึงดูไม่มีพลังอย่างชัดเจน สิ่งที่คุณย่าคิดได้คุณปู่เย่ ต้องคิดได้เหมือนกัน เขาเองก็รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เชื่อเงินยอมทิ้ง บริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเขาก็ไม่สามารถควบคุมเยซื้อเฉินได้แล้ว

“ผมไม่เชื่อว่ามันจะไม่เอาบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปจริงๆ ต่อให้มัน มีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ว่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเป็นบริษัทขนาด ใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่เอา มันทำให้พวกเราดูแน่ๆ คิด อยากจะข่มขู่พวกเราแน่นอน” ถึงตอนนี้แล้ว คุณปู่เย่ยังคงคิดว่า เยอเงินกำลังทำให้เขาตกใจเท่านั้น กำลังข่มขู่เขา

เห็นได้ชัด คุณปู่เย่ไม่รู้จักเย่ซื้อเฉินแม้แต่น้อย

“คราวที่แล้วคุณบอกว่าคุณสืบรู้ว่าซื้อเฉินมีธุรกิจเป็นของ ตนเอง เขามีธุรกิจอะไรเป็นของตนเองบ้าง?” คิ้วของคุณย่าเ ขมวดเล็กน้อย เริ่มวางแผน ความหมายของคุณย่าเย่ที่ถาม คำถามนี้ชัดเจนมาก เธออยากจะช่งน้ำหนักดูว่าธุรกิจของเมือ เฉินใหญ่พอที่จะทิ้งบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปหรือไม่?

“มีไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก ผมเห็นมันมีธุรกิจอยู่หลายที่ แต่ว่ามีเท่านั้นผมเองก็ไม่รู้รายละเอียด อีกทั้งกำไรขาดทุนเท่า ไหร่ผมก็ไม่รู้เหมือนว่าจะทำเงินไม่มาก” เวลานี้คิ้วของคุณปู่เย่ ขมวดเป็นปม หลังจากเกินถั่วนิ่งเตือนเขาเมื่อคราวก่อน เขาให้ คนไปสืบธุรกิจของเย่ซื้อเฉิน สืบได้ไม่น้อย แต่ว่ารายละเอียดเป็น ยังไงเขาไม่รู้

ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เขารู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีมาก เป็นไป ไม่ได้ที่จะใหญ่กว่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเงินได้มากกว่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปแน่นอน ที่คุณปู่เย่คิดแบบนี้ หนึ่ง เป็นเพราะไม่เข้าใจธุรกิจพวกนั้นของเยซื้อเฉิน ไม่เข้าใจกำไร ของธุรกิจพวกนั้น สองเป็นเพราะตอนนั้นทรงตัวหยางเอาหนึ่ง ในธุรกิจส่วนน้อยของเยซื้อเฉิน ให้คุณปู่เย่เท่านั้น อีกทั้งยังเป็น ธุรกิจส่วนที่ดูแล้วไม่ทำงานที่สุด

เหตุที่ทรงตัวหยางทำแบบนี้ หนึ่งเป็นเพราะคุณปู่เย่ ใช้เวลา สั้นแค่นั้นถ้าสืบได้เยอะเกินไปต้องสงสัยอย่างแน่นอน สองเป็น เพราะตอนนั้นมู่หรงตัวหยางเข้าใจคุณปู่เยู่บ้างแล้ว รู้ว่าคุณปู่เย่ คนนี้ใจคด

มู่หรงตัวหยางกลัวว่าคุณปู่เย่จะใช้ชื่อของตระกูลเยฮุบธุรกิจ พวกนั้นของเยซือเฉิน ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่าสิ่งที่มีทรงตัวหย่างเป็น กังวลนั้นมีหลักการ

ตอนนั้นคิดว่า ต่อให้ต้องแบ่งทรัพย์สินของเยซือเฉิน ฉิงฉิง

ของเขาควรจะมีสิทธิ์มากกว่า

ตอนนั้น ถ้าหากคุรเยรู้ธุรกิจทั้งหมดของเยซือเฉิน รู้ว่าเชื่อ เฉินหาเงินได้มากขนาดนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะบีบให้เยซือเฉินยก ธุรกิจพวกนั้นให้กับบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปก็ได้

ความเป็นจริงแม้ว่ามู่หรงตัวหยางจะเอาแค่ธุรกิจส่วนน้อยที่ แล้วไม่ทำเงินที่สุดให้คุณปู่เย่ คุณปู่เย่เองก็มีความคิดที่จะฮุบ ธุรกิจเหล่านั้นรวมเข้ากับบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปไม่อย่างนั้นตอนนั้น เป็นไปไม่ได้ที่คุณปู่เย่จะโอนหุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปให้เยซื้อ เฉินเร็วขนาดนั้น
ตอนนั้นคุณปู่เย่คิดว่า เขาโอนหุ้นของบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปให้ เยซือเฉิน บริษัทตระกูลเยกรุ๊ปก็คือของเยซื้อเฉิน ดังนั้นเมื่อถึง เวลานั้น เชื่อเงินต้องเอาธุรกิจพวกนั้นของตนรวมเข้ากับบริษัท ตระกูลเย่กรุ๊ปถึงเวลานั้นบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปก็จะยิ่งใหญ่

“ธุรกิจของซื้อเงินสามารถเทียบกับบริษัทตระกูลเยีกรุ๊ปได้ ไหมคะ?” คุณย่าเข่าถามต่อ

“ไม่ ไม่มีทาง ธุรกิจพวกนั้นของเขามองดูแล้วมีไม่น้อย แต่ว่า กระจัดกระจายเกินไป ไม่สามารถยิ่งใหญ่อะไรได้ อีกทั้งดูแล้วทำ เงินไม่มาก ไม่มีทางใหญ่กว่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ปและไม่มีวันทำ กำไรได้เท่าบริษัทตระกูลเยกรุ๊ป” คุณปู่เย่แทบไม่ได้คิด ก็ให้คำ ตอบทันที แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้มู่หรง ตัวหยาง จึงทำให้คุณปู่เย่เข้าใจผิดแบบนี้ ไม่พูดไม่ได้จริงๆ สิ่งที่ มู่หรงตัวหยางคิด ในตอนนั้นไม่ผิดเลยจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ