ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 979 ความจริงกระจ่าง พ่อลูกขัดแย้งกันเอง คุณชายสามเต่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก (1)



บทที่ 979 ความจริงกระจ่าง พ่อลูกขัดแย้งกันเอง คุณชายสามเต่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก (1)

เงินลั่วจิงที่ดูการถ่ายทอดสดยกมุมปากขึ้น รู้ว่าช็อตเด็ดที่แท้

จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว

“ทางผมมีเอกสารการรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บของคุณ หลิวหนึ่งฉบับครับ อันนี้คือผลตรวจที่คุณหลิวไปตรวจในโรง พยาบาลวันที่ 23 ครับ เอกสารบันทึกผลตรวจอาการบาดเจ็บ ของคุณหลิวบ่งบอกว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายตำแหน่ง สิ่ง สำคัญที่สุดคือบริเวณศีรษะถูกทำร้ายอย่างหนักครับ โดยแพทย์ ยืนยันว่าวันที่ 23 ตอนที่คุณหลิวไปตรวจนั้น สติการรับรู้ของเธอ ยังไม่ดีนัก ความจำยังคงสับสนวุ่นวาย พูดจาเลอะเลือน ซึ่ง ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับศีรษะที่ถูกทำร้ายอย่างหนักครับ ที่คุณหล กับทนายซึ่งสงสัยว่าลูกความของผมบอกเวลาไม่ตรงก็สามารถ เข้าใจได้ครับ เพราะตอนนั้นศีรษะของคุณหลิวบาดเจ็บสาหัส ทําให้ความจําสับสนยุ่งเหยิงก็เป็นได้ครับ”ทนายฉินเอ่ยปากพูด อีกครั้ง เขาก็ยื่นเอกสารขึ้นไปหนึ่งฉบับ

“นี่คือใบรับรองจากทางโรงพยาบาลครับ ซึ่งอาการบาดเจ็บ ของคุณหลิวไม่มีทางเท็จแล้วครับ และในเมื่ออีกฝ่ายสงสัยเวลา ที่คุณหลิวกล่าวมา ดังนั้นผมขอให้ทางตำรวจตรวจสอบความ เคลื่อนไหวของคุณหลี่ตลอดทั้งคืนวันที่ 22 และรุ่งของวันที่ 23 ด้วยครับ”
“สําหรับการเคลื่อนไหวของคุณหลี่ เมื่อคืนทางเราตรวจสอบ ได้แน่ชัดแล้วค่ะ”ไปหยูหนิงที่เงียบมาตลอด เอ่ยปากพูด กะทันหัน

ทนายส่งชะงัก จากนั้นก็ยิ้มออกมา ไปหยหนึ่งยังกล้าพูดอีก เป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนจริงๆ เรื่องเมื่อคืนก็หนักหนาสาหัสกับ ไป๋หยูหนิงเกินพอแล้ว

“เมื่อคืนผู้บัญชาการหลิวกับดิฉันไปที่หมู่บ้านสุ่ยด้วยกันค่ะ และยังมีเจิ้งเยวนักข่าวในเมืองไห้ไปกับพวกเราด้วยค่ะ ดังนั้น ระหว่างที่ตรวจสอบมีความกระจ่างและโปร่งใสมากค่ะไปหยู หนึ่งใช้หางตากวาดสายตามองทนายซ่งแวบหนึ่ง มุมปากยกขึ้น เล็กน้อย

คนขององค์กรโกสต์ซิตี้จะเก่งกาจเพียงใดก็สู้ฉิงฉิงผู้ฉลาด เต็มไปด้วยแผนการยุทธวิธีไม่ได้ จึงจึงรู้ว่าพวกเขาคงรีบไม่พ้น สายตาขององค์กรโกสต์ซิตี้ ดังนั้นเธอกับฉิงฉิงมาเมืองไร่จึงไม่ ได้ปิดเป็นความลับมากนัก

ฉิงฉิงของเธอคาดการณ์ทุกเหตุการณ์ไว้อย่างแม่นยำแล้ว เหตุการณ์เมื่อคืนเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็อยู่ในการคาดเดาของฉิงฉิง ในเมื่ออยู่ในการคาดเดา ดังนั้นจึงมีวิธีแก้ไขอยู่แล้ว

สามารถเรียกได้ว่าการกระทำของพวกเขายังเป็นการส่งเสริม พวกเธอด้วยอีกแรง

ทนายซ่งได้ยินคำพูดของไปหยูหนิงสีหน้าพลันเปลี่ยนไป มุม ปากที่ยิ้มเย็นก็จางหายทันที
“ผู้พิพากษาค่ะ ดิฉันขอเบิกตัวผู้บัญชาการหลิวกับนักข่าว เจิ้งเยวที่ไปหาหลักฐานพร้อมกับดิฉันขึ้นศาลค่ะ เพื่อจะได้พิสูจน์ ว่าเอกสารที่ดิฉันยื่นเสนอเป็นความจริงทุกประการค่ะ

“อนุญาตครับ”ผู้พิพากษาไม่ปฏิเสธจุดนี้อยู่แล้ว

คนหนึ่งคือตำรวจ ส่วนอีกคนคือนักข่าวผู้มีชื่อเสียง ในเมืองให สองคนนี้มาเป็นพยานจึงไม่มีใครสงสัย

ดังนั้น ตอนนี้ผู้คนสงสัยว่าเมื่อคืนไปหยูหนิงหาหลักฐานอะไร เจอบ้าง?

ผู้บัญชาการหลิวกับเจิ้งเยว่เข้ามาแล้วยืนยันคำพูดของไปหย หนิงว่าเป็นจริงทุกประการ

บัดนี้สีหน้าทนายซ่งแย่เล็กน้อย

“คุณหลีค่ะ ขอถามคุณหน่อยค่ะว่าตอนรุ่งของวันที่ 23 ใน ช่วงเวลาที่สามถึงตีสี่ คุณอยู่ที่ไหนคะ? “ไปหยูหนิงไม่ได้พูดถึง หลักฐานที่หาได้เมื่อคืนทันที แต่ถามหลี่หมิงหนึ่งประโยค กะทันหัน

หลี่หมิงได้ยินคำพูดของไปหยูหนิง สีหน้าก็เปลี่ยนอย่าง รวดเร็ว เนื่องจากตกใจ ดวงตาจึงเบิกกว้าง ร่างกายก็สั่นเทาเล็ก น้อย

คนอยู่ในเหตุการณ์เห็นปฏิกิริยาของหลี่หมิงก็มีว่าเขามีปัญหา หลี่หมิงต้องทําอะไรที่ผิดศีลธรรมเป็นแน่ ไม่งั้นจะตกใจขนาดนี้ เชียวหรือ
สีหน้าทนายส่งก็แย่จนดูไม่ได้

“คุณหลี่ เชิญคุณตอบคำถามดิฉันด้วยค่ะ ไปหยูหนิงไล่ถาม อีกครั้ง

“ผม ผม ผม….. ตะกุกตะกัก “เวลา หลี่หมิงตกใจจนมือสั่น พูดจา

“ผมส่งลูกสาวไปโรงพยาบาลครับ”หลี่หมิงได้สติก็รีบตอบ หนึ่งประโยค

“เวลาที่ฉันถามคือก่อนที่คุณจะส่งลูกสาวเข้าโรงพยาบาลค่ะ ดวงตาทั้งคู่ของไป๋หยูหนิงจ้องมองเขา ไม่เหลือพื้นที่ให้เขาเลย สักนิด

“ผมแยกตัวกับพวกเขาแล้วพาลูกสาวกลับบ้านครับ จากนั้นก็ พบว่าร่างกายลูกสาวบาดเจ็บ ผมจึงส่งลูกสาวไปโรงพยาบาล ครับ เวลาที่คุณว่าผมน่าจะอยู่บ้านกับลูกสาวครับ ลูกสาวผมเป็น พยานได้ครับ”หลี่หมิงไหวพริบไว ถึงแม้เวลานี้รู้สึก กระวนกระวายเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าได้สติปัญญากลับคืนมาแล้ว

“คุณหลี่จะให้หลี่เสี่ยวยขึ้นศาลมาเป็นพยานเหรอคะ? ทันใดนั้นไปหยูหนิงก็ถามขึ้นมาหนึ่งประโยค

ไป๋หยูหนิงพูดจบ ทุกคนก็มองไปยังหลี่หมิงพร้อมกัน

“ใช่ครับ ผมจะให้ลูกสาวของผมขึ้นศาลมาเป็นพยานให้ผม ครับ”หลี่หมิงแอบถอนหายใจ เขารู้ว่าเวลานี้ก็มีเพียงวิธีนี้แล้วละ เขารู้ว่าลูกสาวต้องให้ความร่วมมือกับเขาเป็นแน่ ขอเพียงลูกสาวเป็นพยานให้เขา คนพวกนั้นก็ทำอะไรเขาไม่ได้

“งั้น เชิญหลี่เสี่ยวยขึ้นศาลมาเป็นพยานครับ” ในเมื่อหลี่หมิง เป็นคนเสนอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่ได้ปฏิเสธ

ไปหยหนึ่งก้มหน้าดูเหมือนกำลังมองเอกสารอยู่ เพียงแต่แวว ตาเธอมีอารมณ์สับสนซับซ้อนและหนักอึ้งเล็กน้อย

วันนี้หลี่เสี่ยวยวก็เดินทางมากับหลี่หมิงด้วย เพียงแต่ก่อนหน้า นี้พักผ่อนอยู่ในห้อง ดังนั้นไม่นานหลี่เสี่ยวยวก็มาถึง

“หนูเป็นพยานให้คุณพ่อหนูได้ค่ะ สิ่งที่คุณพ่อพูดเป็นความ จริงทั้งหมดค่ะ”หลี่เสี่ยวยวมาถึงสถานที่แล้วเข้าใจเหตุการณ์ แล้ว จึงเป็นพยานให้หลี่หมิง

หลี่เสี่ยวยพูดประโยคนี้ สีหน้าเป็นธรรมชาติมาก ไม่เห็น ความผิดแปลกใดๆ ร่างกายเธอสั่นเทาเล็กน้อย ดูแล้วรู้สึกกลัว เล็กน้อย

“หลี่เสี่ยวยค่ะ คุณบอกว่าคุณเป็นพยานให้กับคุณพ่อคุณได้ เช่นนั้นฉันเข้าใจว่าช่วงรุ่งของวันที่ 23 เวลาตีสองกว่า หลัง ออกจากโรงแรมจนเดินทางไปถึงโรงพยาบาล คุณมีสติดีใช่ไหม คะ? “บัดนี้น้ำเสียงของไปหยูหนังถือว่าอ่อนโยน

“ค่ะ หนูรู้สึกตัวดีค่ะ”หลี่เสี่ยวยพยักหน้าหมึกกๆ โดยเร็ว คิดดู แล้วจึงเสริมอีกหนึ่งประโยคว่า “เพราะรู้สึกปวดที่บาดแผล หนู อยากนอนก็นอนไม่หลับค่ะ”

ไป๋หยูหนิงได้ยินก็แอบถอนหายใจ เด็กคนนี้อายุเพียงสิบเอ็ดปี แต่เวลาพูดโกหกหน้ากลับเปลี่ยนแปลงเลย

เธอไม่อยากทำร้ายเด็กผู้หญิงคนเลย ทว่าเด็กผู้หญิงอายุเอ็ดขวบคนผิดมากเกินไป

“ดิฉันมอบหลักฐานหาได้คืนค่ะ คืนกับ ผู้บัญชาการหลิวและพวกเราเจอเครื่องมือเลือดในถ้ำหลังหมู่บ้านค่ะ ซึ่งทางตำรวจพิสูจน์แล้วในเครื่องมือมีลายมือของหลี่หมิงจากคราบเลือดระหว่างรุ่งสามถึงของวันที่ 23 ค่ะ สำหรับคราบเลือดเครื่องมือทำร้ายจะเป็นคุณหลิวหรือไม่นั้น ตอนหน่วยเกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอยู่รวดเร็วแน่นอนค่ะหยหนึ่งไม่มองผู้หญิง ถึงแม้เด็กอายุจะน้อย แต่กลับเป็นประเภทเห็นศพไม่หลั่งน้ำตา

หยูเกือบทรุดลงพื้น หากเวลาเขาไม่นั่งบนเก้าอี้ เกรงว่าคง ทรุดเข่าลงพื้นแน่นอน

เมื่อกี้หน้าเด็กผู้หญิงปกติมาก เวลากลับตกใจไปหมด ดวงตาของเธอจ้องมองไปหยหนึ่งราวกับเห็นแววตาเผยความหวาดกลัวและความเคียดแค้นที่เข้มข้นกว่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ