ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

บทที่ 795 เขาน่ากลัวอย่างนี้ เธอจะหนีไปได้หรือ (1)



บทที่ 795 เขาน่ากลัวอย่างนี้ เธอจะหนีไปได้หรือ (1)

เมื่อภารกิจการทูตเสร็จสิ้นก็สามารถทำเรื่องอื่นได้ตามใจชอบ เพียงแต่ต้องกลับเลยเวลาหลายวัน ถือสักว่าเป็นวันหยุดพัก ผ่อนไปเที่ยวเล่นแล้วกัน

ทว่า……

“ว่าไงนะ? รอให้ถังหลินหาผู้หญิงคนนั้นเจอแล้วพวกเรา ค่อยกลับไปอย่างนั้นหรือ? “หลินเปียกลับหน้าเปลี่ยนสี ร้อง อุทานออกมา เพราะเสียงสูงขึ้น ทำนองเสียงเลยเปลี่ยนมาเป็น แหลมคมเล็กน้อย ฟังดูคล้ายกับเป็นเสียงของวันที

“น้องเป็นไร? ทำไมจู่ๆก็เสียงดังขนาดนี้? พี่ตกใจหมดเลย” เจ้าชายใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้หลินเปียสะดุ้งตกใจกับเสียงพูดของ เขา “น้องตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม? ”

เจ้าชายใหญ่มองเขาอย่างประหลาดใจ “น้องตอบสนองเกิน ไปหรือเปล่า? ”

“พวกเราตั้งตารางเวลาไว้แล้ว เปลี่ยนส่งเดชได้ยังไง? “หลิน เป้ยก็รับรู้ว่าตัวเองมีปฏิกิริยาเกินไปหน่อย เขาแอบถอนหายใจ หนึ่งเฮือก พยายามให้ตัวเองสงบนิ่ง

“พอดีกับที่พวกเราไม่มีเรื่องสำคัญในช่วงต่อจากนี้ ถือสักว่า พักผ่อนสองวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ยังเป็นการสานสัมพันธไมตรี ระหว่างสองประเทศได้อีกด้วย พี่คุยกับเสด็จพ่อแล้ว เสด็จพ่อก็ตอบตกลงแล้วด้วย”เจ้าชายใหญ่กลับไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แค่เปลี่ยนกําหนดการเฉยๆ มีปัญหาอะไรได้?

“พี่บอกว่าต้องรอให้ถังหลินหาตัวผู้หญิงคนนั้นเจอแล้วพวก เราถึงกลับประเทศ หากว่าถังหลินหาตัวผู้หญิงคนนั้นไม่เจอ ล่ะ? “หลินเปียแอบถอนหายใจ สูดลมหายใจ ทว่ายังคงรู้สึกไม่

อาจควบคุมให้จิตใจสงบนิ่งได้

“ถ้าเขาตามไม่เจอต่อไป พวกเราก็ไม่ต้องกลับกันแล้วใช่ ไหม? เขาหาไม่เจอภายในหนึ่งเดือน พวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่หนึ่ง เดือน? หากหนึ่งปีเขายังหาไม่เจอ งั้นพวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่หนึ่งปี อย่างนั้นหรือ? “หลินเป้ยมองเจ้าชายใหญ่ด้วยใบหน้าขุ่นเคือง

“หลินเป้ย น้องดูถูกถังหลินแล้ว ความสามารถของถังหลินไม่ ด้อยไปกว่าเยซือเฉินเลย เรียกได้ว่าทั้งสองไม่มีใครยอมใครกัน เลย อีกอย่างมีเยซื้อเฉินคอยช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้ด้วย เชื่อว่า ไม่นานถึงหลินก็จะตามหาตัวผู้หญิงคนนั้นเจอแล้ว

“ไม่แน่แค่เวลาสองวันต่อจากนี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่แน่ว่าพวก เราอาจไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตารางเวลาก็เป็นได้”เจ้าชาย ใหญ่ มองหลินเป้ยอย่างขบขัน หลินเบี้ยคิดว่าถังหลินเป็นคนข้าง นอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงอย่างนั้นหรือ?

หลินเปีย: .………….

“ถังหลินเก่งขนาดนั้นเลยหรือ? “ร่างกายหลินเป้ยแข็งทื่ออีก ครั้ง น้ำเสียงมีความสั่นเทาหลายส่วน

ความสามารถของถังหลินไม่ได้ด้อยไปกว่าเชื่อเงิน ซึ่งหลินเบี้ยรู้ความสามารถของเยซื้อเฉินดี

ถังหลินเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ?

“อืม เก่งมาก”เจ้าชายใหญ่พยักหน้าด้วยใบหน้าหนักแน่น “โชคดีที่สองประเทศของพวกเราเป็นมิตรต่อกัน เขาไม่ใช่ศัตรู ของพวกเรา ไม่เช่นนั้นก็จะน่ากลัวมากๆเลย

สีหน้าหลินเป้ยเริ่มเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ร่างกายยิ่งแข็งที่อ กว่าเดิมหลายส่วน พลางเม้มปากแต่ไม่พูดอะไร

“ได้ยินว่าถังหลินยังมีน้องสาวอีกคนที่เก่งไม่เบาเช่นกัน เป็นผู้ เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา สืบคดีเก่งมาก ไม่มีคดีอะไรยากเกิน ความสามารถของเธอ เธอก็คงช่วยถังหลินในคดีนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นน้องกังวลเกินไปแล้ว

หลินเป้ย : “

เขากังวลโดยไม่จําเป็น

ความกังวลของเขาเกินความจําเป็นจริงๆหรือ?!

“พอแล้ว น้องกลับเข้าห้องไปเตรียมตัวเลย ใกล้จะถึงเวลานัด หมายแล้ว คาดว่าพวกถังหลินคงเกือบจะมาถึงแล้ว”เจ้าชาย ใหญ่ไม่ได้คิดมาก แค่เร่งให้หลินเปียกลับไปเตรียมตัว

ร่างกายหลินเป้ยยังคงแข็งค้าง ขณะที่เขาก้าวเท้าออกไป ร่างกายก็เอนเอียงจนเกือบล้ม

“น้องเป็นอะไร? “เจ้าชายใหญ่รีบพยุงเขา : “โตขนาดนี้แล้วยังเดินล้มอีก ร่างกายของน้องอ่อนแอถึงขั้นไหนกัน? น้องควร ฟิตร่างกายบ้างนะ”

“พี่ชาย น้องรู้สึกปวดหัวขึ้นมากะทันหัน “หลินเปียไม่ได้ผลัก เขาออก เพียงแต่ยืนตรง จากนั้นก็ใช้มือจับหน้าผาก

“ปวดหัว? อยู่ดีๆทำไมถึงปวดหัวกะทันหันอย่างนี้ล่ะ? “เจ้า ชายใหญ่ขมวดคิ้วเป็นปม : “พี่ไปเรียกหมอมาดูอาการของ น้อง”

“ไม่ต้องหรอก คงจะเป็นหวัดมั้ง น้องกลับไปพักผ่อนแบบ หนึ่ง”มือของหลินเบี้ยยังคงจับหน้าผากอยู่ ดูคล้ายกับปวดมาก เป็นพิเศษ

“งั้นพี่ส่งน้องกลับไปที่ห้องพัก เจ้าชายใหญ่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ สีหน้าพลันเผยความเป็นห่วงหลายส่วน

“ไม่ต้องแล้ว น้องกลับเอง” หลินเปียผลักเขาออก จากนั้นก็เดิน ออกไปอย่างเชื่องช้า ถึงแม้ดูแล้วขาจะอ่อนเพลียมาก แต่ยังดีที่ ไม่ได้ล้ม

เจ้าชายใหญ่แห่งประเทศDประกาศเจตนารมณ์ออกไป หยวน จุนหลินก็ไปรับถังหลินด้วยตัวเอง

“คุณหยวนมารับถังหลินด้วยตัวเองเลยหรือครับ? คุณมีความ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องคืนวานซืนครับ? “ตอนที่หยวนจนหลิน ออกมาถูกนักข่าวล้อมวงไว้

“ผมเชื่อใจถึงหลิน”หยวนจนหลินเงยหน้า กวาดสายตามองนักข่าว จากนั้นก็เปิดปากพูดช้าๆ ท่าทางของหยวนจนหลิน ใน ตอนนี้ชัดเจนมาก

เขาเชื่อถังหลิน เปลี่ยนวิธีพูดอีกแบบก็คือ เขามั่นใจว่าถังหลิน ถูกปรักปรํา

“คุณหยวนครับ คุณมีหลักฐานยืนยันคำพูดนี้ไหมครับ? ทำไม คุณถึงเชื่อถังหลินครับ? ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อหน้าสาธารณชน เลยนะครับ ซึ่งหลักฐานไม่เป็นผลดีกับถังหลินเลย เรื่องนี้ยังไม่ได้ บทสรุปเลย คุณหยวนพูดเช่นนี้ไม่กลัวว่าจะทำให้ประชาชน เข้าใจผิดหรือครับ? “มีนักข่าวคนหนึ่งเบียดเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดฉอดๆอย่างเฉียบคม

แน่นอน กล้าถามคุณหยวนเช่นนี้ คงไม่ใช่นักข่าวธรรมดา เกรงว่าจะมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังมากกว่า

สายตาหยวนจนหลินมองไปยังนักข่าวคนนั้น พลางเผยรอย ยิ้มเย็นที่มุมปาก

“ความหมายของคุณก็คือผมต้องรู้จักปกป้องตัวเองอย่างชาญ ฉลาด ต้องพูดกำกวม? “หยวนจนหลินค่อยๆหรี่ตาขึ้น

“งั้นผมก็ต้องขออภัยด้วยครับ ผมชัดเจนกับเรื่องนี้มาก ใน ฐานะเพื่อน ผมเชื่อในคุณธรรมของถังหลิน ในฐานะหัวหน้า ผม ยิ่งเชื่อมั่นนิสัยของถังหลินหยวนจุนหลินไม่ได้หลีกเลี่ยงแต่ อย่างใด แต่กลับแสดงจุดยืนอย่างเด่นชัด

“คุณหยวนไม่กลัวว่าความจริงจะไม่ตรงตามที่คุณคาดการณ์ หรือครับ? “นักข่าวคนนั้นถึงกับอึ้ง แต่ก็รีบถามอีกหนึ่งประโยคอย่างรวดเร็ว

“ถ้าคุณคิดว่าคำพูดของผมจะตบหน้าตัวเอง งั้นก็เชิญให้คุณ เอาหลักฐานมายืนยันต่อหน้าผม เพื่อมาตบหน้าผม ผมยินดี ต้อนรับทุกคนนําหลักฐานมาแสดงต่อหน้าผม หยวนจนหลินมอง ไปยังนักข่าว จู่ๆก็หัวเราะออกมา ซึ่งคำพูดนี้พูดในเชิงตลก แต่ ความหมายที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

หยวนจนหลินพูดเช่นนี้ นักข่าวคนนี้ก็หมดค่จะพูดทันที!!

เพราะเขาไม่มีหลักฐานนั่นเอง

“ถังหลิน คุณรู้สึกว่าคุณกงกำลังใส่ร้ายคุณอยู่หรือครับ? คุณ รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์หรือครับ? “นักข่าวคนเมื่อกี้ที่ซักถาม หยวนจนหลิน เมื่อเห็นถึงหลินออกมา ดวงตาเขาพลันกะพริบรัวๆ จากนั้นก็รีบวิ่งไปด้านหน้าของถังหลินทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ