บทที่ 702 ความเผด็จการอันทรงพลังของคุณชายสามเย่เท่ระเบิดไปเลย (8)

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจิ้งที่ไม่ได้เข้าใจในเรื่องของการสอบ ปากค่าจริงๆ คำพูดแบบนี้ยังสามารถพูดออกมาในห้องสอบ ปากคำได้ เป็นลั่วนิ่งเริ่มมีความนับถือเขาแล้ว

เงินลั่วนิ่งมองเขา แค่มองเขา ไม่ได้พูดอะไร

“คุณมองผมแบบนี้ทำไม? ถูกผมพูดโดนจุด รู้สึกผิดแล้ว สินะ?” ขณะนี้แววตาของเจิ้งยี่สบตากับแววตาของเงินถั่วนิ่ง พอดี จู่ๆ ก็รู้สึกอยู่ไม่เป็นที่ไปทั้งตัว

“ฉันแค่รู้สึกตกใจในคำพูดเมื่อกี้ของคุณตำรวจมากค่ะ คุณ ตำรวจแน่ใจขนาดนี้ได้อย่างไงคะว่าโจรพวกนั้นจะไม่ลักพาตัว คนผิด? คุณตำรวจเหมือนจะรู้จักโจรพวกนั้นดีนะคะ” เป็นลั่วนิ่ง จึงจะค่อยๆ พูดออกมาทีละตัว ขณะนี้คำพูดของเธอมีความ หมายโดยนัยอย่างเห็นได้ชัดเจน

“เธอพูดมั่วอะไร?” สีหน้าของเติ้งหลังจากที่ได้ยินคำพูด ของเธอแล้วก็เปลี่ยนไปทันที และก็รู้ตัวแล้วว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดผิด ไป

“คุณตำรวจ ฉันบริสุทธิ์ค่ะ ตอนนี้ฉันจะฟ้องร้องหลี่หยุนที่จ้าง โจรมาลักพาตัวฉัน ฟ้องร้องเงินหรวนหรวนที่ใส่ร้ายฉัน เงินถั่วนิ่งก็ขี้เกียจพูดไร้สาระแล้ว เพราะว่าเขามีเป้าหมายของ”คุณเป็นนักโทษ คิดอยากจะฟ้องร้องอื่น คุณเก็บหน่อย เถอะ” เจิ้งยี่ตบเลย

“คุณตำรวจ ตอนนี้อย่างมากฉันก็ต้องสงสัย ทางตำรวจ ของคุณมีหลักฐานว่าฉันเป็นต้องสงสัยที่ความผิด นักโทษคุณตำรวจไม่มีแม้กระทั่งความพื้นฐานด้าน?เวินลิ่วฉิงตะโกนพูดประชดเลย

“ฉันข้ออ้างเอาเธอชัดเจนเลยว่าเจิ้งที่มีความโมโห ตอนแรกเขาอยากจะรับรู้ ข่าวสารบางอย่างจากปากของเงินพึ่งกี่

ฉะนั้น เจิ้งยี่ตัดสินใจว่าไม่สอบปากคำแล้ว จับคนเลย

“ไม่มีหลักฐาน คุณไม่มีสิทธิ์จับกุมตัวฉันแววของ เงินถั่วนิ่งค่อยหรี่ขึ้น คนสุดยอดมากจริงไม่ผิดเลยจะคนตระกูล ตระกูลตอนว่านิสัยความเกรี้ยวกราดนี้ตระกูลยังไม่เปลี่ยนเลย

“วางใจได้ ฉันหาหลักฐานเจอแน่นอน” เจิ้งมองถั่วนิ่ง แล้วฐานที่พูดว่าเป็นหลักฐานจริงๆ

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยครั้งตระกูลพุ่งตรงมาทางห้านิ่ง พูดให้หนักๆ คือพวกเขาต่อต้านตระกูลฉะนั้นแผนการอันใหญ่นี้ของตระกูลกู้สำเร็จ

แน่นอน ตามสถานการณ์ที่ปกติแล้ว ประชาชนอย่างเป็นมั่วนิ่ง หากตระกูลกู้อยากจะเธอตาย งั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่น่าเสียดายที่เป็นลั่วจึงไม่ใช่ประชาชนธรรมดา

“เอาเธอไปขัง” กู้เจิ้งเห็นตำรวจอึ้งอยู่อย่างนั้นไม่ได้ขยับ จึง ตะโกนขึ้นอีกครั้ง เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจะใช้การบีบบังคับ แล้ว

“งั้นสมุดจดบันทึกการสอบปากคำนี้?” ตำรวจที่เข้ามาสอบ ปากคำกับเขาเมื่อกี้ พอนึกถึงสถานการณ์การสอบปากคำเมื่อกี้ ก็อดพูดออกมาไม่ได้

“ลบเลย ลบให้หมด ฉันจะหาหลักฐานออกมา ให้เธอไม่ สามารถขัดแย้งได้ เรื่องนี้ไม่ต้องสอบปากคำอีกแล้ว” เห็นได้ อย่างชัดเจนเลยว่าก่อนมาเจิ้งได้เตรียมแล้ว หรือพูดอีกอย่าง ว่าตระกูลกู้ได้เตรียมไว้แล้ว

เงินถั่วนิ่งมองไปทางเจิ้งหนึ่งที่ริมฝีปากของเธอค่อยๆ โค้ง ขึ้นเล็กน้อย มีรอยยิ้มผ่านไปอ่อนๆ เรื่องนี้ยิ่งอยู่ยิ่งสนุกขึ้นแล้ว จริงๆ

“พี่สาม ขอโทษ ฉันไม่สามารถปกป้องพี่สะใภ้สามได้แล้ว” ใน ตอนที่คุณชายห้านิ่งโทรหาคุณชายสามเย่ ในน้ำเสียงเต็มไป ด้วยความรู้สึกผิด แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้

“อื้ม ฉันรู้แล้ว” เรื่องนี้ถูกแพร่บนอินเทอร์เน็ตอย่างกล้างขวางคุณชายสามแย่จะไม่รู้ได้อย่างไร ขณะนี้ น้ำเสียงของคุณชายสาม เย็นชาจนราวกับว่าสามารถก่อตัวเป็นน้ำแข็งได้แล้ว

“พี่สาม ครั้งนี้ตระกูลกู้ต้องเป็นคนทำแน่นอน พี่ใหญ่ก็น่าจะไม่ สามารถออกหน้าอะไรได้ พี่ต้องระวังนะ….” คำพูดของคุณชาย ห้านิ่งหยุดไปสักพัก จากนั้นก็พูดเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า “พี่สาม คนในตระกูลกู้รับงานนี้ไป ฉันกลัวว่าพี่สะใภ้สามจะลำบากตอน ที่อยู่ในสถานีตำรวจ พี่ต้องรีบๆ หน่อยนะ

“อั้ม” เย่ซือเฉินตอบกลับไปด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็วางสายเลย

ตระกูลกู้?

รังแกผู้หญิงของเธอ อย่าพูดว่าตระกูลเลย ถึงแม้ว่าจะเป็น คนที่มีอำนาจ เขาก็ไม่ปล่อยไปแน่นอน

แน่นอน เขาไม่มีทางให้ผู้หญิงของเขาได้รับความลำบากใดๆ แน่นอน

เย่ซื้อเฉินรีบโทรศัพท์อีกเบอร์หนึ่งออกไป “เรื่องไปถึงไหน

แล้ว?”

“คุณชาย จัดการตามที่คุณสั่งเรียบร้อยแล้วครับ” น้ำเสียงทาง นั้นมีความบ้าคลั่งแฝงอยู่ แต่กลับมีความเคารพที่พิเศษต่อคุณ ชายสามเย่

“ดีมาก” เย่ซื้อเฉินยิ้มที่มุมปาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นความ บันเทิงนี้ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว

กู้เจิ้งยี่สอบปากคำเป็นถั่วนิ่งไม่มีผลใดๆ ทั้งนั้น แต่ว่า จากนั้นเขาก็ออกจากสถานีตำรวจ เขารู้ว่าข้างนอกมีนักข่าวล้อมรอบอยู่

ไม่น้อย

มีนักข่าวที่มองเขาออก และรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าการรักษาที่ เบื้องบนส่งมา ฉะนั้น นักข่าวคนนั้นจึงวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว

“หัวหน้าสำนักงานครับ คุณสามารถพูดเกี่ยวกับการดำเนิน การของคดีพวกเราหน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้ทุกคนต่างก็อยากรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นักข่าวคนอื่นๆ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของนักข่าวคนนี้แล้ว ต่างก็วิ่งเข้ามาล้อมรอบ

แววตาของเจิ้งยี่ค่อยๆ หรี่ตาขึ้น สำหรับชื่อเรียกหัวหน้า สำนักงานนี้ เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่าใช้เวลาอีกไม่ นาน เขาก็จะเป็นหัวหน้าของสถานีตำรวจ ในเมือง อย่างเป็น ทางการ

กู้เจิ้งออกมาในตอนนี้ ก็เพราะว่าจะบอกเรื่องราวบางอย่าง กับนักข่าว เขากระแอมคอ เปิดปากพูดว่า “สวัสดีครับ ผมคือ เจิ้งยี่ รับผิดชอบงานของหัวหน้าสำนักงานจึงชั่วคราวครับ เกี่ยว กับคดีนี้ จะมีผมเป็นคนรับมือต่อครับ เมื่อผมได้ตรวจสอบแล้ว ในตอนนี้ทางตำรวจจับโจรได้แค่เพียงสองคน มีหนึ่งคนบาดเจ็บ หนัก ถึงตอนนี้ยังคงสลบไม่พื้น ส่วนอีกคนก็ไม่ยอมสารภาพสักที ครับ”

พอกู้เจิ้งยี่พูดประโยคนี้ออก ก็เหมือนกับยืนยันคำโกหกของ คุณชายห้าฉิงแล้ว
“ความหมายของหัวหน้าสำนักงานก็คือ ก่อนหน้านี้หัวหน้าสำ นักงานจึงโกหกทุกคนแล้วจริงๆ” หลังจากที่นักข่าวดึงสติกลับ มา ก็ถามต่ออีกหนึ่งประโยค ไม่ว่ายังไงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง เลิก

“สําหรับเรื่องที่หัวหน้าสำนักงานจึงได้พูดโกหกหรือเปล่าผม

ขอไม่ทำการออกความคิดเห็น ผมแค่พูดถึงสถานการณ์ที่กำลัง

ดำเนินของคดีในตอนนี้ครับ” ประโยคนี้ของเจ๋งยี่ยังแฝงความ

หมายโดยนัยไว้อยู่ แต่ว่าคำพูดในความจริงของเขาตอนนี้แตก

ต่างกับข่าวที่วิ่งถึงประกาศออกมาทั้งหมดเลย ความหมายก็ชัด

เจนมากๆ แล้ว

“ขอถามหัวหน้าสำนักงานกู้หน่อยค่ะ สำหรับเรื่องการสอบ ปากคำเกี่ยวกับเงินถั่วนิ่งได้ผลออกมาหรือยังคะ?” มีนักข่าวคน หนึ่งถามถึงคำถามที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้อีกคำถาม หนึ่ง

“เรื่องนี้จะต้องใช้หลักฐานบางอย่างครับ แต่ว่าทุกคนวางใจ ได้เลย ผมจะรีบหาหลักฐานให้เจอ จับคนร้ายให้ได้ แล้วให้คำ รายงานกับผู้ถูกทําร้ายแน่นอนครับ” เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ประโยคนี้ของกู้เจิ้งยี่กำลังพูดถึงอะไรบางอย่าง

“ฟังจากความหมายของหัวหน้าสำนักงานแล้ว ก็คือแน่ใจ แล้วว่าเป็นถั่วนิ่งก็คือคนร้ายที่จ้างโจรมาใช่ไหมครับ?” นักข่าว มักจะมีการตอบสนองที่เร็วกับเรื่องแบบนี้ ฉะนั้นง่ายมากที่จะ ฟังออกถึงความหมายของเจิ้ง
“เรื่องนี้ผมขอไม่เผยแพร่ก่อนนะครับ” กู้เพิ่งรู้ที่จะพูดพอ ประมาณและพูดอย่างระมัดระวัง ขณะนี้จึงถอยออกไปแล้ว

“หัวหน้าสำนักงานคะ ฉันอยากจะขอถามหน่อยค่ะ เป็นว งอยากจะใส่ร้ายคุณแม่ของฉันใช่ไหมคะ” และในขณะนี้ เสียง ของเงินหรวนหรวนก็ดังผ่านมาจากข้างหลัง