บทที่ 307 ผู้หลักผู้ใหญ่
ผู้จัดการจางโดนโยนลอยไปชนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลนัก
โต๊ะล้มระเนระนาด
หลังจากเสียงข้าวของแตกกระจาย ผู้จัดการจางเนื้อตัว เต็มไปด้วยเศษอาหารน้ำแกง เรียกได้ว่าเละไม่เป็นท่า
“ยาม!”
ผู้จัดการจางแผดเสียงอย่างโกรธจัด
เฉินเฟิงไม่ใส่ใจ เขาเดินมายืนหน้าหลินหวั่นชีว ปรายตาม องหลินเล่นอย่างเย็นชา และพยุงหลินหวั่นชีวขึ้นมา
“ไม่เป็นไรนะ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หลินหวั่น วส่ายหัว
“บาดแผลบนตัว ใคร ทำ?” เฉินเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น มา ถึงหลินหวั่นชีวจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เฉินเฟิงแตะนิด เดียวก็มองออกทันทีว่า บาดแผลเขียว หลายแห่งบนตัว เธอเห็นได้ชัดว่า โดนคนใช้ของแข็งฟาดใส่
พอหันไปมองเก้าอี้อีกด้าน เขาเข้าใจในทันที
“ฉันทําเอง! ”
ตอนนี้หลินเย่นยอมรับออกมาหน้าตาเย่อหยิ่ง
“ทําไม ขยะอย่างแกจะออกหน้าแทนมัน?” เธอมองเฉินเฟิ งอย่างเย้ยหยัน
เฉินเฟิงลุกขึ้นมา สีหน้าไร้อารมณ์ “ขอโทษเธอซะ
“ขอโทษ? ” หลินเย่นหัวเราะพรืด ชี้ไปที่หน้าหลินหวั่นชีว “แก ให้ฉันขอโทษยัยโสโครกนี้?”
“ถือสิทธิ์อะไร?”
เฉินเฟิงสายตาส่อประกายเย็นเยียบ ตอนเขาจะลงมือ หลินหวั่นชีวกลับดึงมือเขาไว้ เฉินเฟิง ไม่เกี่ยวกับคุณน้า คนนี้หรอก แผลบนตัวฉัน ฉันล้มเอง
เธอไม่อยากสร้างเรื่องให้เฉินเฟิงอีก เห็นได้ชัดว่า แบ็ค ของหลินเย่นไม่ธรรมดาเลย ส่วนเฉินเฟิงก็แค่ลูกเขยที่แต่ง เข้าบ้านเมีย
เมื่อวานเฉินเฟิงช่วยเธอกับแม่ไว้ เธอก็ไม่รู้จะตอบแทนยัง ไงดีแล้ว ถ้าให้เฉินเพิ่งทำให้หลินเล่นที่ดูจะเป็นคนใหญ่คน โตไม่พอใจเพราะเธออีก เธอรับไม่ไหวแล้ว
“ยัยแพศยานี เป็นห่วงแกน่าดูเลยนะ” หลินเล่นสองมือ กอดอก มองเฉินเฟิงอย่างหนๆ
“หลินเย่น! ” เฉินเฟิงสายตาเย็นเยียบ พูดอย่างเย็นชาว่า “เห็นแก่ที่คุณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ขอโทษหวั่นชีวซะ”
“ไม่งั้น อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจแล้วนะ!!
เฉินเฟิงพูดเสียงเย็น สำหรับหลินเล่น เขาให้เกียรติมา เสมอ แต่หลินเย็นกลับพยายามล้ำเส้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ในเมื่อทนไม่ไหว ก็ไม่จําเป็นต้องทนอีกต่อไป!
“ไม่เกรงใจ?” หลินเย่นแสยะยิ้ม: “ขยะอย่างแก ยังคิดไม่ เกรงใจฉัน?”
“ตอนแกพูดคำนี้ ไม่กลัวลมพัดมาตัดลิ้นแกหรือไง?
“เพียะ”
เสียงตบดังขึ้นสนั่น รอยยิ้มบนใบหน้าหลินเยนซะงักค้าง
จากนั้นก็ปรากฏรอยนิ้วห้านิ้วที่แก้มเธอ
“เฉินเฟิง นายทําอะไร!”
ถางรั่วเสงี่ยน โกรธจัด เธอไม่คิดเลยว่า เฉินเพิ่งจะกล้าตบ หลินเยน แถมเขาอยู่ๆก็ตบ หลินเล่นไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“อ๊า! ฉันจะฆ่าแก! โผเข้าหาเงินเฟิง ” หลินเล่นกรีดร้อง สติขาดผึ้ง กางมือ
“เพียบ”
เฉินเฟิงไม่เกรงใจหลินเย่นสักนิด ตบเข้าให้อีกฉาด ทํา เอาหลินเย่นหมุนตัวหลายตลบอยู่กับที่
“เฉินเฟิง!” ถางรั่วเสงี่ยนโกรธจนตัวสั่น: “ในสายตานาย
ยังมีคำว่าผู้หลักผู้ใหญ่อีกไหม ขนาดผู้ใหญ่นายยังไม่เว้น
เลย!”
เฉินเฟิงปรายตามองเธออย่างเย็นชา “คนแบบนี้ไม่คู่ควร เป็นผู้ใหญ่ของฉัน!”
“นาย…!” ถางรั่วเสงี่ยนโกรธจนพูดไม่ออก ตอนนี้ ยามหลายคนวิ่งเข้ามา
“เอามันให้ตาย!” ผู้จัดการจางตะโกนพลางชี้ไปที่เฉินเพิ่ง สีหน้ากัดเขียวเคี้ยวฟันราวกับจะฉุกเฉินเฟิงเป็นสองซีก
ยามหลายคนถือไม้พลองเดินมายืนหน้าเฉินเฟิง และล้อม เขาเอาไว้ด้วยสีหน้าเย็นชา
ถางรั่วเสงี่ยนแสยะยิ้มเย็น เจ้าขยะ ไม่คิดว่ากรรมจะสนอง คนได้….
“ปิ้ง”
เธอยังคิดไม่ทันเสร็จ ยามแต่ละคนก็ลอยละลิ่วไปชนกับ ผนังกันชั้นสอง
ยิ้มมุมปากของทางรั่วเสงี่ยนแข็งค้างในบัดดล
การส่อยกระเด็นของยามคนนี้เหมือนเป็นบทเริ่มต้นของ ปรากฏการณ์โดมิโน่ ทำให้ยามอีกหลายคนยังไม่ทันได้ ตอบโต้ก็ล้มลงกับพื้น
ไม่ถึงสิบวินาที ยามหาคนที่ตอนมาดูดุดัน ต่างพากันล้ม
กองกับพื้น
ทั่วทั้งร้านเงียบลงฉับพลัน
เงียบขนาดเข็มตกสักเล่มคงได้ยิน
ผู้จัดการจางเบิกตากว้างไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนเจอผี
ตอนกลางวันแสกๆ
ถางรั่วเสงี่ยนกับหลินเล่นก็อ้าปากค้าง ไม่เชื่อสายตาตัว เองเหมือนกัน
ฝีมือเจ้าขยะ ทำไมร้ายกาจแบบนี้?!
เฉินเฟิงเดินมายืนหน้าหลินเล่นอย่างเย็นชา
หลินเล่นรู้สึกมือเท้าอ่อนไขพิกล
“เจ้า…เจ้าขยะ ฉันจะบอกแกให้นะ ทําร้ายคนน่ะผิด
กฎหมาย..
“แกอย่าทําอะไรบ้าๆนะ
หลินเยนปากกระตุก แต่ยังไม่วายข่มขู่เฉินเฟิง
“ห้ามทําร้ายน้าหลิน” ตอนนี้เก่งห้าวเดินออกมา กันหลินเย่นไว้ด้านหลัง แต่ขาเขากลับสั้นยิ่งกว่าหลินเย่นซะอีก
เงินเฟิงขมวดคิ้ว ตอนกำลังจะผลักเก๋งห้าวออก ก็เห็นเก๋ง ห้าวตาเป็นประกาย: “ประธานหลินมาแล้ว”
เฉินเฟิงซะงักลง หันไปมองหนึ่งที ก็เห็นหลินจงเหว่ยที่เดิน เข้ามา
สายตาหลินจงเหว่ยจับเข้าที่เฉินเฟิงในทันที
ทันใดนั้นเขาตัวแข็งค้าง สมองเริ่มว่างเปล่า นายน้อยเฉิน…ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้
ยังไม่ทันมีเวลาได้ครุ่นคิด เก๋งห้าวรีบกวักมือเรียกเขา เป็นการใหญ่ “ประธานหลิน พวกเราอยู่ตรงนี้
พอเห็นหลินจงเหว่ย ถางรั่วเสงี่ยนก็ดีใจมาก หลินเย่นรีบ
จัดชุดให้เรียบร้อย เดินหน้าเข้าไป กะจะให้ตัวเองอยู่ใน
สภาพสวยงามที่สุดต้อนรับหลินจงเหว่ย แต่หลินจงเหว่ยกลับเดินผ่านสองคนนี้ไป และเดินไปหา เฉินเฟิง
“จงเหว่ย ไม่เจอกันนานเลยนะ” เฉินเฟิงยิ้มพลางยื่นมือ ออกไป
หลินจงเหว่ยงเล็กน้อย ก่อนได้สติกลับมา เงินจงกําชับ ไว้ว่า เงินเฟิงบอกกับดนตระกูลเสี้ยว่า เขาเป็นเพื่อนกัน
“ไม่เจอกันนานเลย ไม่เจอกันนานเลยนะ ฮะๆๆ” หลินจง เหว่ยยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับเฉินเฟิงอย่างเป็นธรรมชาติ
รอยยิ้มของหลินเล่นสองแม่ลูกแข็งค้าง เจ้าขยะรู้จักหลิน
จงเหว่ยจริงๆ!
“เฉินเฟิง มันเกิดอะไรขึ้น?
หลินจงเหว่ยกวาดตามองรอบๆ ก่อนถามขึ้นยิ้มๆ
ครั้งแรกที่เรียกบิ๊กบอสตัวเองแบบนี้ เขายังอดตื่นเต้นไม่ ได้ แต่พอคิดว่าเป็นการช่วยเงินเฟิงเล่นละคร เฉินเฟิงคงไม่ โทษเขา เลยพอโล่งอกไปบ้าง
“ประธานหลิน เพื่อนคุณคนนี้ไม่มีเหตุผลเลย! เขาใส่ ความฉัน…
เฉินเฟิงยังไม่ทันได้พูดอะไร หลินเล่นก็รีบร้องขอความ เห็นใจขึ้นมา
เธอต้องออกตัวก่อน เพราะความสัมพันธ์ของหลินจงเหว่
ยกับเฉินเฟิงเห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดาเลย ถ้าให้เฉินเพ่งพูด
ก่อน งั้นเหตุผลต่างๆก็ไปอยู่ที่เฉินเฟิงหมดสิ
หลินจงเหว่ยสีหน้าบึ้งตึง มองหลินเล่นอย่างเย็นชา “ผม ถามคุณแล้วหรอ?”
“ประธานหลิน…ฉัน…
“หุบปาก! ” หลินเย่นยังอยากพูดอะไร แต่โดนหลินจงเหว่ ยตวาดใส่ไม่ไว้หน้า
หลินเย่นสีหน้าแดงสลับเขียวทันที เธอไม่คิดว่า หลินจง
เหว่ยจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้
“น้องสาว เราพูดละกัน” สีหน้าหลินจงเหว่ยเปลี่ยนเป็นยิ้ม อ่อนโยน เห็นได้ชัดว่า เฉินเพิ่งออกโรงปกป้องหลินหวั่นชีว ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเป็นไงมาไง ถามหลินหวั่นชีวก็ได้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ