บทที่ 544 หลินหวั่นวหายตัวไป

ภายในใจของเฉินเฟิงมีลางสังหรณ์ขึ้นมาทันที หลังจากที่เขากด รับสายด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เสียงรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้งของเฉินจือ หลัง จากปลายสาย: อาจารย์อาเฉิน ผมขอโทษด้วย

“เกิดเรื่องขึ้นกับหวั่น วชไหม?” เสียงของเงินเฟิงเคร่งขรึม ตั้งแต่รู้พลังภายในของหลินหวั่นว เขาก็สั่งให้เฉินจื้อหลี่คอย แอบปกป้องหลินหลั่นชีว ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นกับหลินหวั่นว เฉินจื่อหลี่ไม่มีวันโทรหาเขา

“ครับ……หวั่น วถูกคนพาตัวไปครับ” เสียงของเฉินจื้อหล ความเศร้าปะปนเล็กน้อย

หลังจากที่เขาพูดจบ หัวใจของเฉินเฟิงดิ่งลงเหว คล้ายกับ พายุฝนโหมกระหน่ำ ในวันที่ท้องฟ้าสดใส

“เห็นหน้าตาคนร้ายชัดเจนไหม?” เฉินเพิ่งสูดลมหายใจเข้า ลึกๆแล้วเอ่ยถาม

“ไม่……ไม่ครับ เหมือนว่าฝ่ายนั้นจะเป็นปรมาจารย์ศิลปะการ ต่อสู้เขาผ่านหน้าผมไปแค่ครู่เดียว หวั่นชีวก็หายตัวไปแล้วครับ”

“ฉันเข้าใจแล้ว” เฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความเคร่งขรึม สามารถทำให้เงินจื้อหลีไม่ทันได้ตั้งตัว มีแค่ปรมาจารย์ศิลปะ การต่อสู้เท่านั้น
“อาจารย์อาเงิน ผมขอโทษด้วยครับ ผมรับปากกับคุณ แล้ว……” เฉินจื้อหลีพูดด้วยความรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง

“อย่าโทษตัวเอง เรื่องนี้โทษนายไม่ได้ ฉันประมาทเอง” เงินเฟิงพูดชัดขึ้นมา เรื่องนี้ไม่สามารถโทษเฉินจื่อหลีใต้ คนที่ เป็นถึงปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ลงมือแย่งชิงคนด้วยตนเอง เงินจื้อหลี่ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว

ถ้าจะโทษก็โทษตัวเขาเอง ที่ไม่คิดให้รอบคอบ

แต่ว่า เขาเองก็ไม่มีความสามารถที่จะล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ก่อนที่จู่เฟยพูดถึง เต้าเงินเจี่ย เขาคาดไม่ถึงมาก่อน หลินหวั่น ชีวจะเกี่ยวข้องกับหลินชิง

หลังจากวางสาย เงินเฟิงหน้าดาเคร่งเครียดสับสนไปหมด

เขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ใครเป็นคนจับตัวหลินหวั่นวไป แน่นอนว่าคนที่น่าสงสัยที่สุดคือตระกูลใหญ่ รองจากนั้น ก็มี ความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสมาคมการค้าเซียย

ถ้าหากว่าตกอยู่ในกำมือของตระกูลใหญ่ก็ยังดีหน่อย ถึงแม้ พวกเขาจะใช้หลินหวั่นวในการเปิดเต้าเจินเจี่ย แต่พวกเขา ไม่มีวันทําลายและเอาชีวิตของหลินหวั่น ว

เพราะถึงยังไงหลินหวั่นชีวก็เป็นทายาทของหลินชิง ตราบเท่าที่หลินซึ่งยังไม่ตาย พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหลิน หวั่นวแม้แต่ปลายเล็บ
ความโกรธของมหาปรมาจารย์แห่งบูโต ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขา สามารถรับมือได้

ตอนนี้สิ่งที่เฉินเฟิงกลัวก็คือ คนที่จับตัวหลินหวั่นวไปจะเป็น สมาคมการค้าเขียน

สมาคมการค้าเขียสุ่ยไม่มีวันให้ความสำคัญกับหลินชิง มี ความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาอาจจะฆ่าหลินหวั่นชีว แล้วตัด ทำลายความคิดที่จะสร้างมหาปรมาจารย์ของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ หลังจากสูดลมหายใจเข้า เฉินเฟิงโทรศัพท์ไปหาซื้อโพน “พี่สอ หวั่นวหายตัวไป…….

เงินเพิ่งใช้คำพูดสั้นๆ ในการเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับ สื่อโฟน เรื่องมาถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชการ ที่เขาสามารถเชื่อถือ ได้ มีแค่สื่อโพนเพียงคนเดียว

“ความหมายของนายคือ มีคนเอาตัวหวั่นวไป มีความเป็นไป ได้ว่าจะเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ หรือไม่ก็เป็นสมาคมการค้า เชียสุ่ย?” น้ำเสียงของสื่อโพนค่อยๆเคร่งขรึมขึ้นมา เขาคิดไม่ ถึงว่า คนที่ดูธรรมดาๆอย่างหลินหวั่นจิ๋ว จะมีที่มาที่ไปที่ยิ่งใหญ่ ขนาดนี้

“ถูกต้องครับ แต่ว่าเป็นใครกันแน่ ผมเองก็ยังไม่สามารถ มั่นใจได้ ดังนั้นผมจึงอยากให้พี่มือใช้อำนาจของทางการในการ ตรวจสอบ คนที่พาตัวหวั่นวไปทิ้งร่องรอยอะไรไว้หรือเปล่า” เฉิงเฟิงพูด
“ได้ ฉันจะไปสืบตอนนี้เลย แต่ว่านายอย่าฝากความหวังไว้ มาก ถ้าหากว่าฝ่ายนั้นคือปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ กล้อง วงจรปิดของยุคสมัยนี้ก็เป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้น…….

“ผมรู้” เฉินเพิ่งพยักหน้า จอมยุทธ์ที่อยู่ระดับหัวจึงมีความ สามารถนับพันหมื่นอย่างในการหลบกล้องวงจรปิดสมัยนี้ แต่สืบ เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง เฉินเฟิงไม่เชื่อว่า ฝ่ายนั้นจะไม่ ทิ้งร่องรอยอะไรไว้

หลังจากวางสายจากสือโฟน เฉินเฟิงพยายามบอกให้ตนเอง

ใจเย็นลง

เขาไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่สือโฟน เขาเอง ก็ต้องคิดหาวิธี

ก่อนอื่น เรื่องนี้ตามหาคนนั้น ต้องการคนจำนวนมาก

แต่ในเมืองจงไห่ เขามีคนที่ไว้ใจได้ไม่กี่คน

“ถึงเวลาแล้วที่จะให้หานหลงและกู้ตงเป็นมา

เงินเฟิงพูดพิมพ์ เดิมที่เขาคิดจะให้หานหลงและกู้ตงเป็นอยู่ที่ เมืองซางโจว ช่วยเขาสอดส่องดูแลที่ของเขาในเมืองซางโจว แต่ ว่าตอนนี้ไม่มีความจําเป็นนั้นแล้ว

ต้องรีบให้หานหลงและกู้ตงเซ็นมาที่เมืองจงให้ ไม่อย่างนั้น ถ้า เขาเจอเรื่องอะไรขึ้นมา ไม่มีคนที่สามารถใช้ได้เลยสักคน

หลังจากส่งข้อความไปหาหานหลงและตงเซ็นแล้วนั้น เป็นเพื่ งก็กลับไปยังวิลล่า Tianshan Living Area
เรื่องของหลินหวั่นจิ๋วกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เขาต้องรีบ ทําในตอนนี้คือการพัฒนาความสามารถ

ถึงแม้การเดิมพันในครั้งนี้จะช่วยให้สมาคมการค้าจงให้ชนะ ได้ เต๋าเงินเจียและเงินสองแสนล้านหยวน แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็กลายเป็นเป้าหมายของคนบางกลุ่ม

อย่าเพิ่งพูดถึงวงการศิลปะการต่อสู้ในประเทศญี่ปุ่นที่ตอนนี้ คงเกลียดเขาจนอยากกำจัดทิ้ง แค่พูดถึงวงการศิลปะการต่อสู้ ในหวาเซีย ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความหยิ่งผยองอยากมาทํา ประลองกับเขา

ถ้าความสามารถของเขายังไม่พัฒนา ไม่ช้าก็เร็วเขาจะกลาย เป็นบันไดในการเลื่อนขั้นของคนพวกนั้น

ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียว ซึ่งก็คือฝึก

ข้อม ให้แข็งแกร่ง!

ขณะที่เฉินเฟิงกำลังตั้งใจฝึกซ้อมอยู่นั้น ข่าวที่สมาคมการค้า จงให้ได้รับชัยชนะการเดิมพันก็แพร่กระจายไปหมด

และคนที่เป็นม้ามืดในการเดิมพันครั้งนี้อย่างเฉินเฟิง เวลา เพียงชั่วข้ามคืน ก็กลายเป็นที่รู้จักของคนในวงการศิลปะการ ต่อสู้

เป็นตัวแทนด้านอำนาจอย่างเป็นทางการของสหพันธ์โดใน หวาเซีย สหพันธ์สงคราม สหพันธ์มังกร…….

เป็นตัวแทนอาณาสํานักของมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่ไม่หวาเย สํานักสิง………

ทั้งยังมีศิลปะการต่อสู้โบราณมากมาย ตระกูลเก่าแก่…..

ล้วนรู้จักชื่อของเขาเงินเฟิง

ในการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ หมัดเดียวก็ฆ่าอัจฉริยะเสนอื่น ฆ่า ลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งของนักบุญมี……..

เงินเฟิงแทบจะใช้ความสามารถของตนเอง ในการพลิกตอน จบของการเดิมพัน

ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์เอกภูเขาหลงจางเทียนเซอ หรือว่าจะ เป็นมหาปรมาจารย์ด้านกระบอัจฉริยะอันดับหนึ่งหวังเวียน ใน การเดิมพันครั้งนี้ พวกเขาล้วนกลายเป็นตัวประกอบที่สนับสนุน เฉินเฟิง

สำหรับระดับแดนของเฉินเฟิงนั้น ก็ถูกคนพูดออกเป็นสอง แบบ

เวอร์ชั่นแรกกล่าวกันว่าเฉินเฟิงเป็นบ้านจิ้งชั้นสูงสุด ส่วนอีก เวอร์ชั่นกล่าวกันว่าเงินเฟิงได้บรรลุหัวจิ้งชั้นต้นไปนานแล้ว อีก ทั้งยังทำลายสถิติของเจ้าสํานักคุนหลุน

ทั้งสองเวอร์ชั่นต่างถูกลือกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่างไม่ต้องสงสัย คนส่วนมากเชื่อว่าเฉินเฟิงเป็นบ้านจิ้งชั้น สูงสุด

เพราะหัวจิ้งชั้นต้นในวัยยี่สิบห้า มันเกินจริงมาก แม้ว่าเงินเฟิงจะฝึกฝนตั้งแต่คลอดออกมา ก็ไม่สามารถฝึกฝนจนอยู่ในระดับ หัวงชั้นต้นได้ในวัยยี่สิบห้าปี

แต่ว่าการที่เป็นอ้านจึงขั้นสูงสุดได้ในวัยยี่สิบห้าปีก็คือว่าน่า กลัวมากแล้ว

อย่างน้อยตอนนี้ในวงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซีย มี

อัจฉริยะไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบรรลุอยู่ในขั้นบ้านจึงชั้นสูงสุด

ในวัยยี่สิบห้าปี

เทือกเขาคุนหลุนเป็นหนึ่งในเจ็ดของเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดของ โลก ตั้งอยู่ในยูเรเซีย ทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกข้าม ผ่านหวาเซียประเทศ เป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็น ภูเขาที่ห่างจากทะเลไกลที่สุดและเป็นภูเขาที่มีพื้นที่แห้งแล้งกว้าง ขวางที่สุด

ในหวาเซีย เทือกเขาคุนหลุนถูกเรียกว่าภูเขาหิมะ หิมะ ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังถูกประชาชนเรียกขานกันว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มีตำนานมากมาย ยกตัวอย่างเช่นวัดหวังหมู่ นอกจากนี้แล้ว ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันเทือกเขาคุนหลุนมีชื่อเสียงด้านศิลปะ การต่อสู้

ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะการมีอยู่ของสำนักคุนหลุน

สำนักคุนหลุนเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมี อำนาจของหวาเซีย แต่เหตุเพราะอยู่ห่างไกล น้อยครั้งที่จะเข้ามา ยุ่งเกี่ยวแย่งชิงกับยุทธภพ จึงมีการพูดถึงน้อย