ลูกเขยมังกร

บทที่ 237 จางหงผู้มีมารยาท



บทที่ 237 จางหงผู้มีมารยาท

“หลันหลัน ผ่านมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว พี่ฟางที่คุณว่านั่นทำไมยังไม่ มาอีก? “เสี้ยเว่ยกั่วพูดอย่างทนไม่ไหว นัดไว้9โมงตอนนี้9โมงครึ่งแล้ว แต่พี่ฟางที่หลินหลันพูดถึงนั้นยังไม่เห็นแม้แต่เงา

“คุณรีบร้อนอะไร? “หลินหลันมองเสี้ยเว่ยกั๋่วแวบหนึ่ง แล้วพูด ขึ้น : “คนงานยุ่งอย่างพี่ฟาง คงจะมีงานอะไรระหว่างทาง ล่าซ้าหน่อย เป็นเรื่องปกติ….”

ขณะที่พูด ก็มีรถปอร์เช่สีขาวขับมา

เมื่อประตูรถเปิดออก ก็เห็นชายหนุ่มใส่ชุดสูทอาร์มานี่ สวมนาฬิกา ปาเต็กฟิลิปป์ลงมาจากฝั่งคนขับ จากนั้นไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ โค้งตัวเล็กน้อยพลางสอดมือไปใต้รถอย่างสุภาพบุรุษ แล้วทำท่า เคารพ

ฉากนี้ทำให้หลินหลันอึ้งมาก : “คุณเสี้ย ดูลูกเขยของพี่ฟางสี จัๆ มี มารยาทมาก แล้วคุณมาดูเจ้าเศษขยะคนนี้ของบ้านเรา ฉันพูดคำหนึ่ง เขาย้อนกลับมาได้เป็นสิบ”

เสี้ยเว่ยกั่วเบะปาก รู้สึกไม่ถูกต้อง ถึงในสายตาหลินหลัน ลูกเขย ของพี่ฟางจะดูดีมีมารยาท แต่สำหรับเขามันดูปลอมไปหน่อย แค่ แม่ยายลงจากรถทำซะอลังการ คนที่ไม่รู้อาจคิดว่ากำลังต้อนรับผู้นำ ของเมืองอยู่นะเนี่ย

พี่ฟางเป็นผู้หญิงที่แต่งหน้าจัด แต่งการสง่าหรูหรา อายุจริงคงจะ ราว50กว่าๆ แต่เพราะดูแลสุขภาพดีเลยดูเหมือนอายุแค่40

หลังจากพี่ฟางลงรถ หลินหลันรับต้อนรับทันที: “พี่ฟาง มาแล้วเห

รอ”

“อืม” พี่ฟางพูดเบาๆ

“ขอโทษด้วยที่ให้รอนาน”พี่ฟางพูดอย่างเย็นชา ปากบอกขอโทษ แต่สีหน้าท่าทางไม่ได้แสดงออกมาแบบนั้นเลยแม้แต่น้อยกลับทำหน้า เยอหยิ่ง

“ไม่เป็นไรๆ”หลินหลันส่ายหน้าทันที: “ยังไงฉันก็ไม่ได้มีธุระอะไร” พูดจบหลินหลันมองเสี้ยเว่ยกั๋วอีกครั้ง แล้วแนะนำอย่างเป็น

กันเอง: “พี่ฟาง นี่สามีของฉันเสียเว่ยกั่ว”

“พี่ฟาง สวัสดีครับ “เสี้ยเว่ยกั่วยิ้มอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

“อิม”พี่ฟางพยักหน้าเบาๆ สีหน้าเย็นชา

“นี่ลูกสาวฉันค่ะ เสี้ยเมิ่งเหยา”หลินหลันดึงเสี้ยเมิ่งเหยาออกมาอย่าง

ไม่เขินอาย

“น้าฟางสวัสดีค่ะ”

เสี้ยเมิ่งเหยาทักทายอย่างรู้กาลเทศะ

พี่ฟางพยักหน้าเล็กน้อย ท่าทางยังคงเย่อหยิ่ง แต่สายตายังแฝงไป ด้วยความประหลาดใจ หลินหลันหน้าตาไม่เท่าไหร่ แต่ลูกสาวสวยมาก

“พี่ฟาง คนนี้คือ ….”หลินหลันอยากจะแนะนำเฉินเฟิง แต่พี่ฟาง โบกมืออย่างใจร้อน พลางพูด: “เอาหล่ะ ไม่ต้องแนะนำแล้ว แนะนำไป ฉันก็จำไม่ได้ เรารีบไปดูบ้านกันเถอะ ดูบ้านเสร็จฉันยังมีธุระอื่นต่อ”

“ดะ…ได้ค่ะ”หลินหลันหัวเราะเบาๆ แล้วมองดุเฉินเฟิง สายตานั้น กำลังบอกว่า เศษขยะอย่างแกถ้าหากมีความสามารถอะไรหน่อย คน อื่นคงไม่ดูถูกแบบนี้

เฉินเฟิงไม่รู้สึกอะไร ที่พี่ฟางใช้สายตารังเกียจมอง เขาทำอะไรไม่ ได้?

ท่าทางพี่ฟางเย็นชาตลอดทาง แต่ลูกเขยของพี่ฟางกลับเป็นกันเอง

พูดคุยกับหลินหลันบ่อยครั้ง

“จริงสิ น้าหลิน ลูกสาวน้าสวยขนาดนี้ ลูกเขยคงเก่งน่าดู”

จางหงพูดถึงเสียเพิ่งเหยาอีกครั้ง เขาสงสัยมากว่าผู้หญิงสวยๆอย่าง เสี้ยเมิ่งเหยา แต่งงานกับผู้ชายยังไง

หลินหลันหน้าชา คำถามนี้จะให้เธอตอบยังไง หรือจะให้เธอพูดไป ตรงๆ ว่าลูกเขยของเธอนั้นเป็นคนส่งเดลิเวอรี่?

“น้ำหลินครับ อาชีพของลูกเขยน้า ไม่สะดวกที่จะพูดงั้นเหรอ? “เมื่อ เห็นว่าหลินหลันเงียบไป จางหงก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย

หลินหลันส่ายหน้างพลางพูด : “ไม่ใช่จ้ะ ลูกเขยน้า เขาทำงานใน บริษัทเดลิเวอรี่หนะ”

หลินหลันไม่ได้พูดออกไปตรงๆว่าเฉินเฟิงเป็นคนส่งเดลิเวอรี่ แต่พูด

แบบอ้อมๆ

จางหงพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “งั้นลูกเขยน้าคงอยู่ใน ตำแหน่งสูงของบริษัทใช่ไหม ให้ผมเดา ไม่เป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ก็เป็นผู้ จัดการ? ”

ซุปเปอร์ไวเซอร์? ผู้จัดการ?

ต่างกับคนขาวิ่งไม่เท่าไหร่!

หลินหลันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จนอยากขุดหลุมแล้วมุดหน้า หนี ซุปเปอร์ไวเซอร์ไร้ประโยชน์คนนี้ทำให้เธออับอายมาก เป็นถึงผู้จัดการฝ่ายขาย จางหงสายตาหลักแหลมไม่เบา หลินหลัน

แสดงท่าทีออกมาแบบนี้ ถ้าเขายังดูไม่ออก งั้นเขาในฐานะที่เป็นผู้

จัดการฝ่ายขายคงทำเสียเปล่า

จางหงยิ้มมุมปาดอย่างเหยียดหยาม มองเฉินเฟิงแวบหนึ่ง แล้ว ถาม : “น้าหลิน ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกับน้าเหรอครับ? ”

“ขะ….เขาเป็นลูกเขยของน้า! ซื่อเฉินเฟิง”หลินหลันกัดฟันพูด เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้ว ขายหน้าก็ขายหน้าเถอะ

“อ๋อ–“จางหงพยักหน้าเบาๆ ลากยาวเสียงประหลาดใจ แล้ว พูด: “ถ้าน้าหลินไม่บอก ผมคงคิดว่าเขาเป็นคนขับรถของบ้านน้าหลิน นะเนี่ย”

หลินหลันยิ้มบางๆ ไม่รู้จะตอบยังไง

“ดูท่าทางเฉินเฟิงคงเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง ต้องอยู่ใน ตำแหน่งสูงของบริษัทแน่ๆ”จางหงยิ้มพลางมองไปยังเฉินเฟิง สิ่งที่เขา พูดเห็นได้ชัดว่ากำลังดูถูก จากปฏิกิริยาของหลินหลันเมื่อครู่ เขารู้แล้ว ว่าเฉินเฟิงที่ทำงานในบริษัทเดลิเวอรี่ต่ำต้อยมาก ดังนั้นคงไม่มีทางอยู่ ในตำแหน่งสูง ดังนั้นที่พูดออกมาก็เพื่อให้เฉินเฟิงอับอาย

“ขอโทษนะที่ทำให้คุณผิดหวัง ผมไม่ได้ตำแหน่งสูงอะไร ผมเป็นแค่ คนส่งเดลิเวอรี่ธรรมดาคนหนึ่ง”เฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา ไม่ต้องสงสัย เลย ที่จางหงพูดเหน็บแนมแบบนี้ เพราะอิจฉา แม้แต่ตัวเองก็อาจยัง ไม่รู้ว่าความอิจฉาของเขาเริ่มตั้งแต่หลังจากเจอสั้ยเมิ่งเหยา

สถานการณ์แบบนี้ เฉินเฟิงเจอมาเยอะ

“ส่งเดลิเวอรี่? “จางหงแสร้งทำเป็นอ้าปากค้างประหลาด ใจ: “เฉินเฟิง คุรกำลังล้อผมเล่นงั้นเหรอ?

“เปล่า”เฉินเฟิงยิ้มเบาๆ

“เฉินเฟิน…ตรงไปตรงมาจริงๆ”จางหงยิ้มแห้ง จากนั้นบทสนทนาก็

เปลี่ยนไป เขาพูดขึ้น : “เฉินเฟิง พูดจริงๆนะ ที่จริงผมคิดว่าอาชีพส่ง เดลิเวอรี่นี้ดีมากๆ” “อิสระ อยากไปไหนก็ไป แล้วก็ได้ขึ้นบันไดบ่อยๆ ได้ออกกำลังกาย

ถ้าไม่ติดกับผมต้องผ่อนบ้าน ผมก็อยากลาออกแล้วไปส่งเดลิเวอรี่” ท่าทางจางหงถอนหายใจอย่างหดหู คนไม่รู้อาจคิดว่าเขาคิดแบบนี้

จริงๆ

เฉินเฟิงยิ้มเบาๆ จางหงแสร้งทำได้แนบเนียบมาก

“ผู้จัดการจาง คุณอย่าพูดให้ตลกเลย การงานคุณดีขนาดนี้จะลา ออกได้ยังไง? “หลินหลันพูดเหน็บ แน่นอนเธอรู้ว่าจางหงกำลังดูถูก เฉินเฟิง แต่เธอทำอะไรได้ล่ะ ได้แต่เกลียดเฉินเฟิงไว้ในใจ ไม่โกหกเส แสร้งเลย เห็นได้ชัดว่าอยากให้เธอขายหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ