ลูกเขยมังกร

บทที่ 219 ผู้วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง



บทที่ 219 ผู้วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง

อู่จิ๋วโยก็มองเฉินเฟิงอย่างแปลกประหลาดใจ ไม่ใช่บอกว่าเฉินเฟิง เป็นคนธรรมดาหรอกหรือ? คนธรรมดา ทำไมบ้าคลั่งได้ขนาดนี้? ตอนที่อู่จิ๋วโยมองเฉินเฟิง เฉินเฟิงเองก็มองมาที่อู่จิ๋วโย แต่ว่าสายตา ที่เฉินเฟิงมองอู่จิ๋วโย กลับมีการกลั่นแกล้งหยอกเย้าอยู่ด้วย

อู่จิ๋วโยช่างใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมตนเองเก่งจริงๆ แสดงให้เขา เห็นอย่างชัดเจนสักรอบ อะไรที่เรียกว่าพยายามลงทุนลงแรงเสาะหา แทบตายก็ยังไม่ได้เจอ แต่พอได้มาแล้วกลับไม่ใส่ใจไยดีเลย

ตอนกลางวัน เขายังคิดอยู่ว่า ทำอย่างไรถึงหาตัวอู่จิ๋วโยพบและได้ เห็นวิชาสำนักยู่นูคิดไม่ถึงว่าตอนกลางคืนอู่จิ๋วโยพาคนออกมาปรากฏ ตัวเอง

“แกมองฉันทำไม” อู่จิ๋วโยขมวดคิ้ว ไม่พอใจอย่างมาก ไม่รู้เพราะ อะไร แววตาของเฉินเฟิง ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ในใจเหมือนกับเหยื่อที่ ถูกนักล่าจ้องก็ไม่ปาน

แต่เห็นชัดว่าเฉินเฟิงเป็นคนธรรมดา คนธรรมดาทั่วไปที่ปกติแล้ว เขาไม่แม้แต่จะชายตามอง

“ไม่มีอะไร” เฉินเฟิงส่ายหน้า เบนสายตาไปทางอื่น เขาคิดว่า อีก

เดี๋ยวจะมีเรื่องประหลาดใจให้กับคู่จิ๋วโย

หลังจากที่เฉินเพิ่งมองไปทางอื่นแล้ว ความตื่นตกใจของอู่จิ๋วโยจึง ได้ผ่อนคลายลงมาก แต่เขาก็ยังคงไม่พอใจอย่างมาก หากไม่ใช่ว่า ตกลงกับเติ้งซื่อซีเอาไว้ ให้เติ้งซื่อชีจัดตการเฉิงเฟิงด้วยตนเอง วินาทีนี้ เขาก็อยากจะต่อยสักหมัด ให้เฉินเฟิงกลายเป็นเนื้อบด

“ลุงอู่กำจัดนังตัวดีนี่ซะ!” เติ้งชื่อชีชี้ไปที่เย่ไห่ถัง พลางตะคอกอย่าง

ดุดัน

“ได้” อู่จิ๋วโยพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็กระทึบเท้าลงที่พื้นข้างหนึ่ง อย่างแรง พร้อมทั้งมาโผล่ตรงหน้าเยไห่ถังอย่างรวดเร็วราวกับผี

สีหน้าเยไหถังเปลี่ยนไปทันที

“ไอ้แก่อู่ อย่างแกต้องเจอกับฉัน!”

เวลานี้ ป้าชิงตะโกนออกมา พร้อมทั้งก้าวเท้าออกมาด้านหน้า “แสงของหิ่งห้อย หรือจะแข่งกับแสงจันทรา!” อู่จิ๋วโยยิ้มเยาะอย่าง ดูถูก จากนั้นก็ปล่อยหมัดพุ่งมา ป้าชิงตกใจ หลบหลีกอย่างสุดกำลัง

“พลัก!”

หมัดที่เร็วแรงของอู่จิ๋วโยปะทะเข้าที่บนแขนทั้งสองของป้าชิง ป้าชิง ร้องออกมา ราวกับว่าวที่เชือกขาด กระเด็นลอยไป

“ป้าชิง!” เย่ไห่ถังร้องอย่างตกใจ ทั้งๆ ที่เป็นการหยั่งเชิงของป้าชิง แม้แต่การรุกของอู่จิ๋วโยก็ยังไม่อาจตั้งรับได้!

ทำไมอู่จิ๋วโยถึงน่ากลัวแบบนี้

“สาวน้อย ยอมให้จับเสียดีๆ จะดีกว่า ฉันไม่อยากลงไม้ลงมือกับเธอ เพราะอย่างไรเสียต่อไปเธอก็ต้องเป็นหลานสะใภ้ของฉัน ฉันไม่อยาก ทำร้ายเธอ” อู่จิ๋วโยยืนด้วยมือเดียว สีหน้าหยิ่งผยอง แม้ว่าเขาจะมีวร ยุทธ์ชั้นกลาง แต่ก็ขั้นกลาง มาเจ็ดแปดปีแล้ว ดังนั้นการต่อสู้ของเขา จึงไม่ได้ด้อยกว่า วรยุทธ์ขั้นสูงมากนัก เมื่อต่อสู้กับคนที่มีวรยุทธ์ขั้น ต้นและเคยได้รับบาดเจ็บอย่างหลิ่วชิง ก็เรียกได้ว่าแทบไม่ต้อง ออกแรงอะไรก็ชนะแล้ว

“ฝันไปเถอะ! ” อยู่ให้ถึงขบฟันเสียงดังกรอด พูดจบ เธอก็ยืนด้วย ขาข้างเดียว พุ่งด้วยความเร็วไปหาอู่จิ๋วโย

“ฮ่าๆๆ แม่สาวน้อยนี้ใจกล้าไม่เบา กล้าลงมือกับฉัน!” อู่จิ๋วโยหัวเราะ ร่า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชม ไม่เสียแรงที่เยไหถังมีชื่อเสียงเรื่อง ความเก่งกล้า คนทั่วไปที่มีวรยุทธ์ขั้นสูงเมื่อต้องมาสู้กับเขาที่เป็นอ้าน จิ้งขั้นกลาง จะวิ่งยังวิ่งแทบไม่ทัน คงต้องโทษพ่อแม่ที่ตอนเกิดมาไม่ให้ ขาเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่เยไหถังกลับกล้าที่จะสู้กับเขา แค่ความกล้าหาญ นี้ ก็เพียงพอให้เขาชื่นชมแล้ว ตอนนี้ เติ้งชื่อซีเดินมาตรงหน้าเฉินเฟิงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความ

ดุร้าย

“ไอ้สวะ ถ้าตอนนี้แกยอมคุกเข่า ฉันก็อาจจะให้แกได้มีความสุขสัก

ครั้ง!”

“แกแน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันคุกเข่า” เฉินเฟิงเหลือกตามอง

“ไอ้สวะ ฉันบอกให้แกคุกเข่าลง นี่ก็ถือว่าเป็นพระคุณกับแกมาก แล้ว! คางคกอย่างแก ไม่ควรจะคิดเพ้อฝันถึงไห่ถึง!” สีหน้าของเติ้งซื่อ ดุร้ายอย่างยิ่ง “ได้ยินว่าสวะอย่างแกยังมีเมียที่หน้าตาสะสวย เธอชื่อ อะไรนะเสี้ยเมิ่งเหยาใช่มั้ยแกวางใจเถอะ หลังจากที่แกตายแล้ว ฉัน จะ ดูแล” เมียแกให้อย่างดี ฮาๆๆ!

“ฉันจะหาผู้ชายฉกรรจ์สักสิบกว่าคน ให้พวกเขาแต่ละคน..

“พลัก”

เติ้งซื่อซียังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเฉินเฟิงตัดบทขึ้นมาก่อน

ใช้หมัดตัดบท!

เฉินเฟิงสีหน้าเกรี้ยวกราด ไอ้สารเลวเติ้งชื่อซี ช่างไม่รู้เลยว่าคำว่า ตายสะกดอย่างไร กล้าท่าอัปรีย์หยามเกียรติของเสี้ยเพิ่งเหยาต่อหน้า

เขา

“แก….แกเป็นจอมยุทธ์เหรอ” เติ้งซื่อซีสีหน้าน้ำเสียงตื่นตกใจ หมัด เมื่อครูของเฉินเฟิง เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!

“ใช่แล้วจะทำไม” เฉินเฟิงหัวเราะ ตอนนี้เพิ่งจะมาดูออกว่าเขาเป็น จอมยุทธ์จะดูโง่เกินไปมั้ย หากเติ้งซื่อชีพอจะมีสมองอยู่บ้าง ก็ควรจะ เข้าใจตอนที่หลังจากการวิ่งแข่งขันแล้วเขาน่าจะรู้ว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ ไม่ใช่อย่างตอนนี้

“แก….แก..เติ้งซื่อชีปากสั่น ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ตีเขาให้ ตายก็ยังคิดไม่ถึง ที่แท้เฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ ตอนแรก ไม่ใช่เขาไม่เคยสงสัยมาก่อน ว่าเฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ไป

ได้ แต่พอมาคิดดูแล้ว หากเฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ จะแต่งเข้าไปอยู่ที่ ครอบครัวเล็กๆ อย่างตระกูลเสี้ยได้ยังไง ยอมเป็นกระสอบทรายอยู่ตั้ง สามปี

จอมยุทธ์ผู้สูงส่ง ยอมอัปยศอดสูอยู่ร่วมกับมดแบบนั้นได้อย่างไร

จนกลายเป็นความคิดที่คุ้นชินไปแล้ว ทำให้เติ้งชื่อซีตัดสินใจถึง ความเป็นไปได้นี้ของเฉินเฟิง

แต่ตอนนี้ดูแล้ว เฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์แน่นอน !

“ฉันทำไมล่ะ” เฉินเฟิงหัวเราะร่า จากนั้นก็ปล่อยหมัดใส่หน้าของเติ้ง

ซื้อชี

“พลัก”

เติ้งชื่อซีเป็นเหมือนลูกข่าง ที่หมุนวนอยู่กับที่สามรอบ ยังยืนไม่อยู่ ฟันหลายในปากหักมีเลือดไหลซึมออกมา

แน่นอนว่า หากเฉินเฟิงไม่ยั้งมือ เติ้งชื่อชีตอนนี้ก็อาจจะไม่ใช่แค่ฟัน หักเท่านั้น แต่หัวของเขาอาจแยกออกจากกันเหมือนแตงโม

“ลุงอู่! เขาเป็นจอมยุทธ์!” เติ้งชื่อซีลนลานไปร้องขอความช่วยเหลือ จากคู่จิ๋วโยแม้ว่าเฉินเฟิงจะเป็นจอมยุทธ์ แต่เขาไม่คิดว่า เฉินเฟิงจะ เก่งกาจกว่าคู่จิ๋วโย เฉินเฟิงอย่างมากก็น่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับเย่ ไหถึง ในกลุ่มหมิงจิ้งขั้นสูง

“อะไรนะ จอมยุทธ์เหรอ!” หมัดเดียวของอู่จิ๋วโยที่ทำให้เยไห่ถัง กระเด็นปลิวไปไกลจนน่าตกใจ เขาเป็นจอมยุทธ์เหรอ? ทำไมเมื่อครู่ เขาถึงดูไม่ออก?

อู่จิ๋วโยอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเฉินเฟิง กลับเห็นว่าเฉินเฟิงก็กำลัง มองเขาอยู่

ชั่วเสี้ยววินาที อู่จิ๋วโยรู้สึกสยดสยอง ขนหัวลุก!

ต้องมีอะไรผิดปกติ! ต้องผิดปกติแน่นอน!

อู่จิ๋วโยความคิดพลุ่งพล่าน แทบจะตานั้นเอง เขาก็คิดได้ว่า ปัญหานั้นอยู่ที่ไหน

เฉินเฟิงตรงหน้า มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่ เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันน่ากลัวเมื่อวานที่บนเขา! ดังนั้นพอได้พบกัน เขาจึงดูไม่ออกว่าเฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ เป็นไป

ได้มากว่าเป็นเพราะฝีมือของเฉินเฟิงนั้น สูงกว่าเขามากนัก!

เฉินเฟิงอาจจะปิดบังหลบซ่อนลมหายใจตอนที่อยู่ต่อหน้าเขา! หลังจากตั้งสติขึ้นได้ อู่จิ๋วโยกล้วจนหนาวสั่น หมุนตัววิ่งออกไปเลย “ลุงอู่เหรอ?” เติ้งชื่อลุงอู่ ทำไมถึงวิ่งหนี?

เย่ไห่ถังเองก็ตกใจเช่นกัน ทำไมอู่จิ๋วโยไม่พูดอะไรสักคำ ก็หมุนตัว วิ่งออกไป? เฉินเฟิงน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?

เฉินเฟิงรู้สึกอีกอักพูดไม่ออก อู่จิ๋วโยกล้วจนหัวหดขนาดนี้เลย ไม่ พูดพร่ำทำเพลงก็เผ่นหนีไปเลย แม้แต่จะคิดต่อสู้กับเขาดูสักครั้งก็ไม่ ได้

คนผู้นี้ทำไมกลัวหัวหดได้ขนาดนี้ เหตุใดเขาถึงฝึกวิทยายุทธขั้น กลางได้? เมื่อวานห่างกันหลายร้อยเมตร แม้แต่เงาของเขาก็ยังไม่เห็น อู่จิ๋วโย

ก็หนีไปแล้ว

วันนี้แม้ว่าจะเห็นเขาแล้ว แต่ปฏิกิริยาแรกของอู๋จิ๋วโย ก็ยังวิ่งหนี

ชอบหนีขนาดนี้ จะชื่อว่าอู่จิ๋วโยไปทำไม เปลี่ยนชื่อเป็นผู้วิ่งหนีกระ เจิดกระเจิงอู่ไปเลยดีกว่า เฉินเฟิงคิดอย่างหมดคำพูด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ