ลูกเขยมังกร

บทที่ 482 ยังจะดื้อด้านเข้าไป



บทที่ 482 ยังจะดื้อด้านเข้าไป

“หกเต็มสิบ” เฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พูดไป ความจริงแล้ว เขา จะเอาห้องเลี้ยงรับรองมาจากมือของหวางเต่อฟานั้น มั่นใจ เกิน 100ด้วยซ้ำ แต่ที่ไม่พูดความจริง เพราะกลัวว่าเดี๋ยวหลิน เขียวเสียนจะรู้สึกว่าเขาคิดเพ้อเจ้อ

“หก ในสิบเปอร์เซ็นต์?”

หลินเซียวเสียนพยักหน้าเล็กน้อย พลางหันมามองเฉินเพื่ งด้วยแววตาชื่นชม ถึงแม้ว่าเงินเฟิงไม่มีความสามารถที่จะเอา ห้องโถงรับรองชั้นหนึ่งมาจากหวางเดือฟาได้ แต่การแสดงออก ของเฉินเฟิง เขาถูกใจมาก

“งั้นแก…ไปลองดูแล้วกัน”

หลินเขียวเสียนเน้นทำละค

เฉินเฟิงพยักหน้าให้ จากนั้นก็เดินไปทางพนักงานเปิดประตู ทั้งสองคน

“ให้หวางเต๋อฟามาหาฉันหน่อย” เฉินเพ่งมองไปทางพนักงาน เปิดประตูทั้งสองคนอย่างไร้อารมณ์

พนักงานเปิดประตูทั้งสองคนทำสีหน้าตะลึง เพราะว่าไม่คิด เลยว่าเฉินเฟิงจะใช้น้ำเสียงนี้มาพูดคุยกับพวกเขา เวลานั้นเอง สีหน้าของทั้งสองคนตีหน้าขรึมทันที “แกเป็นใคร? ประธานหวางกับแกสนิทกันมากใช่ไหม?”

“แกอย่ามาสนใจเลยว่าฉันเป็นใคร ขอแค่แกไปทำตามที่ฉัน สั่งก็พอ” เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดตามปกติ

“ถ้าเราไม่ทำตามที่แกพูดล่ะ?!” ทั้งสองคนตีหน้าตาย นัยน์ตา ฉายแววความโกรธขึ้นมา ถึงแม้ว่าตำแหน่งเขาก็แค่พนักงาน เปิดประตู แต่ว่าถึงยังไงพวกเขาก็เป็นพนักงานเปิดประตูของโรง แรมจีนหม่า

ถึงแม้ว่าฐานะของหลินเสวียนจะไม่ได้สูงส่งอะไร แต่การที่พูด คุยกับพวกเขานั้นก็ต้องเกรงอกเกรงใจอยู่ ทว่าเฉินเฟิงนั้น มาถึง ก็ออกคำสั่ง จะให้พวกเขาอดทนไปได้ยังไง?

เฉินเฟิงได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อย และไม่คุยกับพนักงานเปิดประตู สองคนมากมาย พลันยื่นมือออกไปทั้งสองข้าง จับไปที่ปกคอเสื้อ ของทั้งสองคนเอาไว้ จากนั้นก็สะบัดพวกเขาให้ออกไปจากทาง

ภาพที่รุนแรงเช่นนั้น ทำให้คนในตระกูลหลินต่างตกใจอยู่ไม่ น้อย เพราะทุกคนต่างคิดว่าเฉินเพิ่งจะพูดแกมขอร้องพนักงาน เปิดประตู เพื่อให้พนักงานเปิดประตูให้เขาเข้าไปด้านใน แต่ไม่ คิดเลยว่า เฉินเฟิงจะลงไม้ลงมือด้วย

เขาเป็นบ้าไปหรือเปล่าเนี่ย?

หรือว่าเขาไม่รู้ว่าที่นี่คือโรงแรมจินหม่าเหรอ?

หรือว่าเขาไม่รู้ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังของโรมแรมจินหม่า คนที่ เป็นพี่ใหญ่ของวงการธุรกิจเมืองจงให้ไม่ใช่เหรอ?
แล้วตันมาก่อเรื่องที่นี่ เฉินเฟิงชนหาที่ตายชัดๆ สงสัยคงเบื่อ หน่ายกับการใช้ชีวิตไปแล้ว!

พนักงานเปิดประตูทั้งสองคนรีบลุกจากพื้นขึ้น แล้วพ่นคำพูด เกรี้ยวกราดลงในวิทยุสื่อสาร “หัวหน้ารภป.หลิว พาคนมาที่นี่ เร็ว มีคนกำลังก่อเรื่องขึ้น

ทีมรปภ.ของโรมแรมจนหม่ามีปฏิกิริยาเร็วมาก ไม่ถึงสิบ วินาที มีเจ็ดถึงแปดคนที่ใส่ชุดรปภ สีดำเต็มยศพร้อมทั้งในมือ ถือกระบองมาด้วย จากนั้นก็ล้อมตัวเงินเฟิงเอาไว้

เมื่อเห็นภาพแบบนั้น ทุกคนในตระกูลหลินต่างเหมือนๆ กัน “เชอะ ที่พี่เขยพูดว่ามีความเป็นไปได้อยู่หักเปอร์เซ็นต์ในการ มูละลุเข้าไปในโรงแรมจนหม่า…

หลินโย่วทนไม่ได้กับคําถากถาง สําหรับเขาแล้ว เฉินเฟิงคนที่ สมองพิการ เพราะโรงแรมจนหม่าเป็นโรงแรมระดับห้าดาวของ เมืองจงไห่ เจ้าของของโรงแรมนั้นเป็นอภิมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ บางคน ที่ทรัพย์สินมีอยู่เป็นหลายแสนล้าน

ในบรรดาสถานที่ที่จัดอยู่ในระดับสามของเมืองจงไม่นั้น แทบ ไม่มีใครกล้าเข้ามาก่อเรื่องกับทางโรงแรมจินหม่าเลย

ที่เมื่อครู่หลินเสวียนทำไมถึงทำเสียงอ่อนโยนกับพนักงานเฝ้า ประตูทั้งสองคน? เพราะว่ายังคำนึงถึงสถานะของเจ้าของที่อยู่ เบื้องหลังของโรมแรมจินหม่านะสิ

แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากเฉินเฟิง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ลงไม้ลงมือพนักงานเฝ้าประตูสองคนนั้นผลักจนล้ม

เรื่องพรรค์นี้ มันแตกต่างจากอันธพาลข้างถนนยังไง?

“ไอ้ไงนี่มันคิดว่า โรงแรมในพม่าเป็นอะไรไปแล้ว? เป็นที่พัก เล็กๆ แถวบ้านนอกหรือยังไง? มาก่อเรื่องที่นี่ เขาไม่กลัวจะโดน คนทำร้ายหรือยังไงกัน?!” หลิน โย่วยังคงพูดเยาะเย้ยตลอดเวลา แต่ว่าเหยูนฟางดันพูดด่าทอไม่หยุด

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลินหลินไม่พอใจเล็กน้อย “เหยูนฟาง แก พูดว่าใครเป็นไอ้โง่กัน?

“นอกจากไอ้ลูกเขยที่น้ำไหลเข้าสมองนั่นแหละจะมีใครอีก เหยูนฟาง อดทนกับความโกรธเคืองของหลินหลันเอาไว้เริ่ม พูดตอกย้ำ

“ลูกเขยของฉันน้ำเข้าสมองเหรอ? ไร้สาระชัดๆ! ที่ฉันเห็นคนที่ น้ำเข้าสมองน่าจะเป็นแกซะมากกว่ามั้ง! หลินหลับยิ้มให้อย่าง เย็นชา ถ้าเป็นเมื่อก่อน คนอื่นพูดว่าเงินเฟิงน้ำเข้าสมอง เธอก็คง ไม่พูดต่อกรอะไร ไม่แน่ เธอยังช่วยพูดให้อีกสองประโยคด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้ ใครมาพูดว่าน้ำเข้าสมองเฉินเฟิงแล้วละก็ เธอจะเป็น คนแรกที่ไม่เห็นด้วยทันที!

ทายาทของตระกูลเฉิน น้ำจะเข้าสมองไปได้ยังไงกัน?

“น้ำเข้าสมองของฉันงั้นเหรอ?” เซ่หยูนฟางโมโหสุดๆ พลัน รีบพูดกับหลินเซียวเสียน “พ่อ คุณพ่อลองฟังที่หลินหลั่นพูด ไอ้ลูกเขยไร้ประโยชน์นั่นมันดันมาก่อเรื่องที่โรงแรมจินหม่า เธอ พาลมาบอกว่า เข้าสมองฉันได้ชะนี่!
หลินเซียวเสียนได้แต่ขมวดคิ้วไม่พูดไม่จาอะไร เขาก็รู้สึกว่า การแสดงออกของเงินเฟิงนั้นช่างโง่เง่ามาก เพราะว่าที่นี่คือโรง แรมจีนหมา ไม่ใช่โรงแรมกระจอก การมาก่อเรื่องที่นี่ ผู้บริหาร ระดับสูงคงต้องบากหน้าเข้ามา พอถึงเวลานั้น ใครก็ไม่สามารถ คุ้มครองเงินเฟิงได้

“เชอะ เช่นยูนฟาง แกคิดว่าลูกเขยของฉันไม่มีวิธีเรียกร้อง ความเป็นธรรมกับโรงแรมจนหม่าเหรอ?” หลินหลั่นเริ่มแสยะยิ้ม ให้ เพราะว่าเธอเข้าใจดี ว่าทำไมอารมณ์ของเหยูนฟางถึงได้ เดือดพล่าน เพราะว่าเหยูนฟางรู้สึกว่า การเสนอหน้าของ เฉินเฟิง มันจะพาลให้ตระกูลหลินเข้าไปเกี่ยวพันด้วย เพราะว่า ตอนที่เฉินเพิ่งมานั้นก็มากับคนในตระกูลหลิน ถ้ามันเป็นเรื่อง ใหญ่ ตระกูลหลินก็ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วย

“เรียกร้องความยุติธรรมจากโรงแรมจินหม่า?” เซ่หยูนฟาง โมโหจนแสยะยิ้ม “หลินหลิน สมองของแกก็น้ำทะลักเข้าไปแล้ว หรือยังไง? แกรู้สึกว่า ไอ้ลูกเขยไร้ประโยชน์ของแกจะเรียกร้อง ความเป็นธรรมจากโรงแรมจินหม่าได้งั้นเชียว?”

“ลูกเขยฉันจะเรียกร้องความเป็นธรรมจากโรงแรมจินหม่าได้ หรือไม่นั้น เดี๋ยวแกก็รู้เอง” หลินหลันยิ้มให้ แววตาความโง่เง่าที่ มีอยู่น้อยนิดของเหยูนฟางดันไม่รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเฉินเฟิง ถ้าเธอรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินเฟิงแล้ว เธอคงต้องเสียใจที่หลังที่ พูดคำพูดพล่อยๆ นี้ออกมา

เช่นยูนฟางกับหลินหลันกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น อีกฝั่ง รปภ.ของโรงแรมจินหม่าก็เริ่มลงมือแล้ว
ทว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงมือทำให้คนในตระกูลหลินตกใจ ไปตามๆ กัน

เติมคิดว่า รปภ.เจ็ดถึงแปดคนที่แต่งตัวเต็มยศ ใช้เวลาสิบ วินาที ก็สามารถจัดการเงินเพิ่งได้อยู่หมัด

แต่ไม่คิดเลยว่า ขนาดห้าวินาทียังไม่ถึงด้วยซ้ำ

รูปภ.เจ็ดถึงแปดคน นอนกองอยู่กับพื้น

เงินเฟิงลงมือได้เร็วมาก!

มันเร็ว เร็วจนคนมองไม่เห็นว่าเขาลงมือยังไงด้วยซ้ำ

“เสียเพิ่งเหยา ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พี่เขยทำงานเป็นพนักงานส่ง ของ ?!”

หลิน โยวอ้าปากค้าง แถมทำหน้าไม่อยากจะเชื่อสายตา รปภ.เจ็ดแปดคนนั้นต่างเข้าฝึกอบรมมาทั้งนั้น แถมเป็นรูปภ.ที่ แต่งเต็มยศอีกด้วย ไม่ใช่เด็กที่ไร้พิษสงเลย แล้วทำไมมาเจอกับ เฉินเฟิงที่นี่ แค่ห้าวินาทียังไม่สามารถจัดการได้ จนล้มกอง ระเนระนาดกองกับพื้นได้ล่ะ?

ถ้าไม่เห็นกับตา เขาไม่เชื่อภาพที่อยู่ตรงหน้าเลย

เสียเพิ่งเหยาไม่ได้สนใจหลินโย่ว ภาพที่อยู่ตรงหน้า ท่ามกลางสายตาทุกคนในตระกูลหลินต่างตกอกตกใจไปตามๆ กัน แต่สำหรับเธอแล้ว มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาสุดๆ แล้ว นอกจากเสียเมิ่งเหยาและหลินหลับที่ไม่แปลกใจกับการแสดงออกของเฉินเฟิง คู่สองแม่ลูกหลินเล่นและถางรั่วเสงี่ยน ก็ ไม่ได้ตกใจกับการกระทำของเงินเฟิงเลยสักนิด

ที่เมืองหางโจวครั้งที่แล้ว พวกเธอก็เห็นเงินเฟิงลงมือมาแล้ว ครั้งนั้นเงินเฟิงลงมือกับคน มันมากมายกว่าตอนนี้เป็นไหนๆ

ผลลัพธ์ที่ได้ ก็ไม่ได้แปลกไปตามเวลาในตอนนี้

บางเวลา พวกเธอยังสงสัยด้วยซ้ำว่าเมื่อก่อนนี้เฉินเพิ่งเคย เล่นกีฬาวูซูมาก่อน

“เป็นไงล่ะ เซ็หยูนฟาง? ตอนนี้แกยังรู้สึกว่าลูกเขยของฉันน้ำ เข้าสมองอยู่อีกไหม?” หลินหลินมองไปทางเหยูนฟางแถมพูด อย่างได้ใจ ถึงเวลานี้เธอก็ยังไม่เคยบอกฐานะที่แท้จริงของ เฉินเฟิงให้ใครในตระกูลหลินรู้ ก็เพื่ออยากให้เห็นภาพนี้ได้

ถ้าทุกคนในตระกูลหลินต่างล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินเฟิง

แล้วไปก่อกวนเฉินเฟิงล่ะ? งั้นความรู้สึกที่คนในตระกูลหลินมองเธอด้วยความขยะแขยง

เมื่อก่อนนั้น ก็คงไม่มีทางหลุดพ้นไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ