ลูกเขยมังกร

บทที่ 27 ทั้งสองเข้ามาติ่งเฟิง



บทที่ 27 ทั้งสองเข้ามาติ่งเฟิง

แน่นอนเฉินเฟิงไม่ได้โม้อยู่แล้ว วงศ์ตระกูลเล็ก ๆ อย่าง ตระกูลเสี้ยนี้ เขามีเป็นหมื่นวิธีที่จะเล่นให้ตายได้

ถ้าหากเสี้ยหยุนเส็งรู้สึกว่าเซ็นสัญญาโครงการบ้านพัก ตากอากาศยู่ฉวนซานกับหลินจงเหว่ยเสร็จแล้ว ก็จะ สามารถไร้เรื่องให้กังวลแล้วละก็งั้นเขาก็ยังอายุน้อยเกิน ไปแล้ว

เฉินเฟิงยิ้มเสียงเย็น แล้วก็ต่อสายโทรศัพท์ไปหาเฉิน

จง.

อาคารหยุนเส็ง

เสี้ยห้าวมาบริษัทจิตใจแจ่มใสตั้งแต่เช้า เพื่อฉลองที่เสี้ย เมิ่งเหยาโดนไล่ออก เมื่อคืนเขาตั้งใจไปหาสาวน้อยสอง คนที่ไนต์คลับโดยเฉพาะและมีความสุขกันทั้งคืน เพราะ ฉะนั้นวันนี้เขาก็เลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

ได้ทีมงานกลับคืนมาหมดแล้วไม่พอ ยังได้เป็นผู้รับผิด ชอบโครงการยู่ฉวนซานอีกด้วย ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาต้อง ทำก็คือนอนหมุนเงินสบาย ๆ เลย

ยัยเด็กขายตัวเสี้ยเมิ่งเหยา ตอนนี้คงจะโกรธจนตายอยู่ ที่บ้านแล้วมั้ง เสี้ยห้าวคิดอย่างได้ใจ

“ไอ้ลูกชาย เดี่ยวไปบริษัทติ่งเฟิงกับฉันอีกครั้งนะ” พอ เห็นเสี้ยห้าว เสี้ยฉีชาวก็สีหน้าเต็มไปด้วยสว่างไสว “อ่า? โครงการคุยเสร็จหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังต้องไปอีกล่ะ?” เสี้ยห้าวอดที่จะมีนงงไม่ได้ คราวที่แล้ว ตอนที่อยู่ที่บริษัทติ่ง เฟิง หลินจงเหว่ยก็เหลือความทรงจำ ด้านมืดต่อจิตใจให้เขา ทำให้ตอนนี้พอเขาได้ยินคำว่าติ่ง เฟิงในใจก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา

“โครงการคุยเสร็จแล้ว แต่ว่าขั้นตอนการก่อสร้างจะเริ่ม ยังไง ยังไม่ได้คุยกันเลย” เสี้ยฉี่ชาวพูดขึ้น

“พ่อ ให้พวกคุณลุงรองไปแทนไม่ได้เหรอ?” เสี้ยห้าวถาม เสียงอ่อน

เสี้ยสีชาวถลึงตาให้เสี้ยห้าวทีหนึ่งแล้วพูด “ตอนนี้แกเป็น คนรับผิดชอบโครงการยู่ฉวนซาน แล้วจะให้ลุงรองแกไป แทน จะถือเป็นเรื่องอะไร”

“พ่อ ผมรู้ว่าพ่อกังวลอะไร แต่ว่าพ่อวางใจได้ คราวนี้เรามี สัญญาอยู่ในมือ หลินจงเหว่ยเขาก็ไม่กล้าทำอะไรเรา หรอก”

“ผมกลัวยยเด็กขายตัวเสี้ยเมิ่งเหยาจะไปเป่าหูหลินจง เหว่ย แล้วให้หลินจงเหว่ยมาหาเรื่องพวกเรานะซิ” เสี้ยห้าว พูดอย่างเป็นกังวล

“หือ นี่มันไม่ใช่แค่โครงการกี่แสนกี่ล้าน แต่นี่มันเป็น โครงการระดับหลายพันล้านนะ ถ้าหลินจงเหว่ยมันยังมี สมองอยู่สักหน่อยแล้วละก็ คงจะไม่ทำตุกติกกับเรื่องแบบ นี้หรอก เขาเป็นแค่คนรับผิดชอบโครงการยู่ฉวนซาน เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วคนที่มีอำนาจควบคุมยู่ฉวนซานนะ เป็นตระกูลเฉินต่างหาก”
“ถ้าหากหลินจงเหว่ยกล้าหาเรื่องยุ่งยากให้เราตระกูลเฉิ นก็จะต้องไม่ปล่อยเขาไว้แน่ !” เสี้ยฉี่ชาวพูดอย่างมั่นใจ แต่ว่าตีให้ตายเขาก็คิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วคนที่มีอำนาจควบ คุมยู่ฉวนซานจริง ๆ ไม่ใช่ตระกูลเฉินแต่เป็นเฉินเฟิงต่าง หาก lo

“พ่อ งั้นเราก็ไปกันเถอะ”

พูดถึงตระกูลเฉินนั้น เสี้ยห้าวก็ยังรู้สึกอิจฉา เขาฝันก็ยัง อยากจะให้ตระกูลเสี้ยกลายเป็นตระกูลยิ่งใหญ่แบบตระ กูลเฉินเลย เพียงแค่กระทืบเท้า ก็ยังสามารถทำให้ทั้ง ประเทศสั่นสะเทือนได้สามครั้งเลย

แต่ว่าเสี้ยห้าวก็ทำได้แค่คิดเท่านั้นแหละ อย่างตระกูล ใหญ่แบบตระกูลเฉิน ถ้าหากตอนคุณมาเกิดไม่เจอแล้วละ ก็งั้นชาตินี้คุณก็อย่าหวังว่าไล่ตามได้ทันเลย

สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวมาถึงบริษัทติ่งเฟิงอีกครั้ง สิ่งที่แตก ต่างจากคราวที่แล้วคือ คราวที่แล้วพนักงานสาวหน้า เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเย็นชา เสมือนกับว่าพวกเขามีตัวตนอยู่แบบไม่จำเป็น

แต่ครั้งนี้ เสี้ยห้าวรู้สึกอย่างเห็นได้ชัดว่า สายตาที่สาว งามตรงเคาน์เตอร์มองเขาอย่างเป็นกันเองมากขึ้น

เสี้ยห้าวก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที

“ประธานหลิน”

พอเคาะประตูห้องหลินจงเหว่ยเปิดออก เสี้ยฉี่ชาวก็ ทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แต่พอหลินจงเหว่ยเห็นทั้งสองคน สีหน้าก็ขรึมลงทันที

“พวกคุณมาทำอะไร?”

เสี้ยสีชาวสีหน้าแข็งที่อแล้วพูด “ประธานหลิน เมื่อไม่กี่

วันก่อนตระกูลเสี้ยเราเพิ่งเซ็นสัญญาโครงการยู่ฉวนซาน

กับบริษัทของพวกคุณ….

“สัญญา คุณเป็นคนเซ็นเหรอ?” เสี้ยฉี่ชาวยังไม่ทันได้พูด จบ หลินจงเหว่ยก็พูดสวนขึ้นเสียงเรียบ

“อันนี้คือ….ไม่ใช่ครับ” เสี้ยฉี่ชาวหน้ายิ้มแฉ่ง แล้วพูดขึ้น “แต่ไม่ว่าจะใครเป็นคนเซ็น ก็เป็นคนของตระกูลเสี้ยเราทั้ง นั้น ใครมาก็ได้ครับ”

“แล้วถ้าผมต้องการให้เป็นคนที่เซ็นสัญญากับผมมาล่ะ?” หลินจงเหว่ยยักคิ้วแล้วพูดขึ้น

“ประธานหลินทำไมต้องทำให้คนอื่นลำบากใจด้วยล่ะ” ท่าทางของเสี้ยฉี่ชาวมีความแข็งกระด้างเล็กน้อย ตอนนี้ เสี้ยเมิ่งเหยาโดนไล่ออกไปแล้ว จะให้มาได้ยังไงล่ะ

หลินจงเหว่ยสายหัวอย่างดูถูก แล้วพูดขึ้นว่า “กลับไป เถอะ ไว้คุณเสี้ยมาเมื่อไหร่ ผมก็จะคุยเมื่อนั้น”

“ประธานหลิน ช่วงนี้เมิ่งเหยาเขามีธุระ มาไม่ได้จริง ๆ

ครับ”

“งั้นก็รอจนเธอเสร็จธุระแล้วค่อยมาก็ได้ ผมรอไหว” หลินจงเหว่ยพูดขึ้น

พอเห็นท่าทางหลินจงเหว่ยแข็งกร้าว ไม่ไว้หน้าตัวเองสัก นิด สีหน้าของเสี้ยฉ่ชาวก็ดูไม่ได้ขึ้นมาทันที
“ประธานหลิน พวกเราเซ็นสัญญากันแล้วนะครับ” เสี้ยี ชาวพูดขึ้นอีกครั้ง “ใช่แล้วซิ ประธานหลิน คุณจะเอาเหตุผลส่วนตัว มากระ

ทบความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศ

ยู่ฉวนซาน คงไม่ดีมั้งครับ” เสี้ยห้าวพูดขึ้น ในน้ำเสียงแฝง

ไปด้วยการข่มขู่นิดหน่อย

สีหน้าของหลินจงเหว่ยเย็นลงทันที “นี่คุณข่มขู่ผมเห

รอ? !”

เสี้ยห้าวสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ได้แต่กัดฟันแล้วพูด เสียงต่ำว่า “ประธานหลินคุณพูดล้อเล่นแล้ว ผมจะไปกล้า ข่มขู่คุณได้ยังไงครับ”

“หือ” หลินจงเหว่ยหือเสียงเย็น แล้วพูดว่า “ถ้าไม่กล้ายัง ไม่รีบไสหัวไปอีก!”

สองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวสีหน้าทั้งเขียวทั้งแดง พวกเขาคิดไม่ ถึงว่า หลินจงเหว่ยจะคิดว่าตัวเองมีที่พึ่งแล้วจะกล้าเบ่ง ขนาดนี้ หรือว่าเขาไม่กลัวตระกูลเฉินจริง ๆ เหรอ?

พอเห็นสองพ่อลูกเสี้ยฉี่ชาวไม่มีท่าทีจะขยับ หลินจงเหว่ ยก็หือเสียงเย็นอีกครั้ง แล้วพูดว่า ” ยังไง ยังอยากจะให้ผม เชิญพวกคุณออกไปอีกเหรอ?”

พอได้ยินคำพูดแบบนี้ ทั้งสองคนก็ไม่กล้าแกล้งตายอีก ต่อไป รีบร้อนเผ่นออกจากห้องทำงานไป พวกเขาไม่อยาก จะเป็นเหมือนคราวที่แล้ว ที่โดนหลินจงเหว่ย เชิญ ออกไป

หลังจากออกมาจากบริษัทติ่งเฟิงแล้ว ใบหน้าทั้งหน้าของเสี้ยห้าวเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด “เชีย! ไอ้หลินจง เหว่ยนี่ มันกินหัวใจหมีกับความกล้าของเสือเข้าไปหรือไง? มันเป็นแค่หมาตัวหนึ่งของตระกูลเฉินเท่านั้น มันมีสิทธิ์ อะไรมาผยองขนาดนี้?”

โดนหลินจงเหว่ยทำให้อับอายมาถึงสองครั้ง ตอนนี้เสี้ย ห้าวกลายเป็นคนขาดสติสัมปชัญญะไปแล้วจริง ๆ

“หลินจงเหว่ยทำแบบนี้ มันจะต้องมีที่พึ่งแน่ ๆ หรือแม้ กระทั่งอาจจะได้รับการอนุญาตจากตระกูลเฉินแล้วด้วย

ซ้ำ” เสี้ยฉีชาวสีหน้าเหมือนเหล็กขึ้นสนิมพูดอย่างคาดเดา “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว พ่อ พวกเราสู้คดีกับพวกเขาเถอะ ในเมื่อสัญญามีผลตามกฎหมายแล้ว ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผิดสัญญา แค่เงินค่าปรับก็สามพันกว่าล้านแล้ว”

“เจ้าโง่! จะสู้คดีกับตระกูลเฉินสมองของแกโดนรถทับไป แล้วใช่ไหม? ถึงแม้จะสู้ชนะ แล้วตระกูลเฉินให้แกสามพัน กว่าล้าน แกกล้าเอาเหรอ?” เสี้ยฉี่ชาวด่าขึ้น คำพูดนี้เหมือนกับน้ำเย็นกะละมังหนึ่ง สาดจนเสี้ยห้าวตื่น

ขึ้นมาทันที ถ้ากล้าเอาเงินชดเชยจากตระกูลเฉิน กลัวว่า

วันที่สองตระกูลเสี้ยก็คงจะหายไปโลกนี้แน่ ๆ

“งั้นควรทำยังไงดี?” เสี้ยห้าวพูดอย่างไม่ตายใจ “ฉันก็ไม่รู้แล้ว กลับไปถามปู่แกดูก่อนละกัน” เสี้ยฉีชาว ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย

“ต้องโทษยัยเด็กขายตัวเสี้ยเมิ่งเหยาทั้งนั้น เมื่อคืนมัน ต้องไปนอนกับหลินจงเหว่ยมาแน่ ๆ เชี่ย!” เสี้ยห้าวด่าทอความโกรธเกลียดเสี้ยเมิงเหยาที่มีอยู่ในใจก็ยิงมีมากขึ้น

พอกลับถึงบริษัทแล้ว เสี้ยฉี่ชาวก็เอาคำพูดของหลินจง เหว่ยทุกคำไม่เปลี่ยนสักนิดไปบอกกับเสี้ยหยุนเสิ้งต่อ ใบหน้าแก่ย่นของเสี้ยหยุนเส็ง ก็ย่นเข้าหากันจนเป็นปม

อย่าพูดว่าเสี้ยฉีชาวเลย แม้แต่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า หลิน จงเหว่ยจะกล้าไม่สนใจแม้กระทั่งสัญญา

“คุณปู่ ต้องเป็นแผนของเสี้ยเมิ่งเหยาแน่ ๆ ! เธอต้อง โกรธเกลียดการตัดสินใจของคุณปู่เมื่อวานแน่ ๆ” เสี้ยห้าว พูดยุยงอยู่ข้าง ๆ

เสี้ยหยุนเสิ่งคิ้วขมวดกันเป็นปม ไม่พูดอะไรสถานการณ์ แบบที่เสี้ยห้าวพูดนั้น ก็มีความเป็นไปได้ แต่เสี้ยหยุนเสิ้งก ลับรู้สึกว่า เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องมีเหตุผลอื่นคอยกระทบ หลินจงเหว่ยอยู่แน่ ๆ ไม่งั้นลำพังแค่เสี้ยเมิ่งเหยาคนเดียว มันไม่คุ้มกับที่หลินจงเหว่ยต้องทำแบบนี้

หรือว่าจะเป็นเฉินเฟิง? อยู่ ๆ ในหัวสมองของเสี้ยหยุนเสิ้ งก็มีภาพของเฉินเฟิงปรากฏขึ้นมา แต่ว่าแล้วเขาก็ส่ายหัว ถ้าหากเฉินเฟิงมีความสามารถมากขนาดนั้นจริง ๆ ละก็ ก็ คงไม่ต้องแต่งเข้าตระกูลเสี้ยของพวกเขาหรอก และก็ยิ่ง ไม่ต้องโดนคนเหยียบอยู่บนหัวถึงสามปีโดยไม่ร้องอะไร สักคำ

“ห้าว เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงต้องลำบากหลานแล้ว ละ” เสี้ยหยุนเสิ่งมองเสี้ยห้าวทีหนึ่ง แล้วทอดถอนใจพูดขึ้น เสี้ยห้าวสีหน้าเปลี่ยน แล้วพูดว่า “คุณปู่ ความหมายของคุณปู่คือ…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ