ลูกเขยมังกร

บทที่ 880 รักษาโรคที่บ้านตระกูลเซียน



บทที่ 880 รักษาโรคที่บ้านตระกูลเซียน

ระหว่างที่เดินขึ้นบันได เพิ่งซีก็ถามเฉินเฟิงด้วยเสียงเบาๆว่า “คุณรู้จักบ้านตระกูลเชียนด้วยเหรอ?”

เฉินเฟิงแบกกระเป๋ายาไว้ข้างหลัง เดินตามหลังไปทีละก้าว เมื่อเฟิง ถาม เขาก็ตอบด้วยเสียงเบาๆว่า หลังจากออกมาจาก บ้านเขาแล้วก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเลย จากนั้นก็ไปอยู่ที่พวกคุณ ไง?”

เพิ่งพูดด้วยความอยากรู้ว่า “งั้นจะเป็นพวกเขาหรือเปล่าที่ ทำร้ายคุณ? ที่นี่ดูแล้วใหญ่โตขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่เป็นพวกคน ใจบุญมีเมตตาอะไรหรอก”

เฉินเฟิงยิ้มเจื่อนๆ ความคิดของเพิ่งนั้นเขาคงตามไม่ทัน ถ้า

บอกว่าที่นี่ใหญ่โตละก็งั้นคาดว่าตัวเขาก็คงเป็นคนเลวแล้วล่ะ

แต่ว่ามาคิดดูตอนแรกหลงหลินก็เห็นเขาเป็นคนร้ายเหมือน

กัน

“อย่าพูดขั้วไป ถ้าให้พวกเขาได้ยินคุณก็จะลำบากนะ

ทุกคนก็เดินเข้าไปข้างใน เขียนสวน เดิมที่อยากให้ไปพักที่ ห้องโถงก่อนแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แต่หลงหลินกลับบอก ว่า “ไปดูคนป่วยก่อนสำคัญกว่า เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

ถึงแม้เขียนสวยยี่รู้สึกจะเสียมารยาทไปหน่อย แต่ในใจก็ย่อม อยากจะให้รีบรักษาโรคให้หายดีก่อน อีกทั้งหลงหลินก็พูดเช่นนี้แล้ว เขาจึงพาพี่น้องสองสาวตระกูลฉางและเงินเฟิงเข้าไปลาน บ้านด้านหลัง

ยังไม่ทันเข้าไปในห้อง สวนนอกบ้านก็ส่งกลิ่นสมุนไพรโชยมา หลงหลินถามด้วยความสงสัยว่า“รากภูเขา ดอกเรียนเตี้ย มะเขือ ม่วง เห็ดหลินจือหอม สมุนไพรพวกนี้สามารถช่วยบำรุงของ หัวใจที่ติดขัดได้ หรือว่านายท่านตอนนี้จิตใจอารมณ์มีปัญหาเห รอ?”

หลงหลินพูดจบ เขียนสวนก็พูดด้วยความแตกตื่นว่า“สมแล้ว ป็นศิษย์เอกของท่านท่านปูถูถึงกับแค่ดมกลิ่นยาแล้วก็ สามารถทายได้แม่นยำขนาดนี้ ช่างน่าชมเชยจริงๆเลย

หลงหลินพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจว่า “นี่มันไม่มีอะไรมาก เป็นเพียง แค่ความรู้พื้นฐานของการแพทย์เท่านั้น คุณก็ไม่ต้องชมฉันมาก หรอก หากยังไม่เห็นเจ้าตัวนายท่านแล้ว ฉันก็ไม่กล้าจะวินิจฉัย ว่าเขาเป็นโรคอะไรกันแน่

เชียนสวนก็รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก จึงพา พวกเขาสามคนเดินเข้าไปในห้องต่อไป

ผ้าม่านหน้าต่างถูกปิดไว้ จึงค่อนข้างมืด ภายในห้องก็มีคนอยู่ หญิงสาวอายุราว 30 กว่าปีในชุดลำลอง กำลังยืนตรวจดูเครื่อง มืออุปกรณ์อยู่ข้างๆ

ส่วนภายในห้องนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ชิ้นใหญ่ที่สุดก็คือเตียงนอน มีคนนอนอยู่คนหนึ่ง ตอนนี้อยู่ในสภาวะสะลึมสะลือ น่าจะเป็น นายท่านตระกูลเขียนที่เขียนสวนพูดถึง
ดูเหมือนว่าเพื่อรักษาโรคให้กับนายท่านตระกูลเซียนแล้ว บ้านตระกูลเซียนคงทุ่มเทแรงใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ภายในห้องนี้ ดูเหมือนไม่ได้ด้อยกว่าของที่ โรงพยาบาลเลย หรืออาจจะทันสมัยกว่าด้วยซ้ำไป

แต่ในเมื่อเชิญพี่น้องสองสาวตระกูลฉางมาแล้ว นั่นก็แสดงว่า การแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตของนายท่านได้ แล้ว หรืออาจจะพูดไว้ว่ายากที่จะรักษาแล้ว

“ท่านนี้ก็คือพ่อฉันเอง ตั้งแต่เดือนที่แล้วก็สลบไม่รู้สึกตัวมา โดยตลอด ที่โรงพยาบาลก็ไม่มีทางรักษา พูดแต่เพียงว่าสภาวะ หัวใจเสื่อมถอย อาศัยเทคนิคการแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่มีทาง รักษาได้แล้ว”

แต่ว่าหลงหลินกลับไม่อยากจะไปรู้เรื่องพวกนี้ เธอเองก็เดิน เข้าไปใกล้เตียงผู้ป่วย

ความจริงแล้วด้วยฐานะของนายท่านตระกูลเขียนแล้วไม่ใช่ว่า ใครก็สามารถที่จะเข้าไปสัมผัสแตะต้องได้ ดังนั้นขณะที่หลง หลินเดินเข้าไปใกล้ เซียนสวนยี่ กลับไม่ได้ห้ามปราม พยาบาล สาวที่นั่งอยู่หน้าเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์นั้นก็รู้สึกแตกตื่น ตกใจ

หลงหลินตอนแรกก็แหวกหนังตาขึ้นเพื่อดูภายในดวงตาของ นายท่าน แล้วดึงหน้ากากออกซิเจนออก มองเข้าไปในปากของผู้ เฒ่า สุดท้ายก็จับวัดชีพจรของนายท่าน

หลังจากที่ตรวจครบชุดแล้ว ก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
จากนั้นหลงหลินก็เดินไปข้างหน้าเฉินเฟิงพวกเขา เซียนสวน ก็รีบถามด้วยความอยากรู้ว่า “อาการโรคของพ่อฉันตอนนี้เป็น ยังไงบ้างแล้ว ได้สืบทอดวิชาการแพทย์ที่สูงส่งจากท่านท่านป ในโลกนี้ไม่มีใครที่ท่านไม่สามารถรักษาให้หายได้ ฉันคิดว่าคุณ หนูก็จะต้องมีวิธีรักษาให้หายได้เช่นกัน”

ถึงแม้เป็นเพียงคำชมเชย แต่สีหน้าของหลงหลินเย็นชา พูด ด้วยเสียงเข้มว่า “ข้อแรกคือ ในโลกนี้ไม่มีคนที่สามารถรักษาทุก โรคให้หายได้ ต่อให้เป็นอาจารย์ฉันก็ไม่ได้เช่นกัน ข้อที่สองคือ สำหรับอาการของนายท่านอาจจะซับซ้อนเกินกว่าที่ฉันคิดเสียอีก ดังนั้นฉันก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะรักษาให้หายขาดได้

แต่ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ก็ตาม เซียนสวนก็ยังรู้สึกดีใจมาก

“งั้นคุณหนูก็คงมีวิธีรักษาแล้วสิ มีทางรักษาได้ก็พอแล้ว ไม่ว่า จะมีความหวังมากน้อยเพียงใดก็ตาม หวังว่าคุณหนูจะต้องช่วย รักษาพ่อฉันต่อไปด้วย ตระกูลเชียนเราจะรู้สึกซาบซึ้งอย่างหา ที่สุดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของอะไร ขอเพียงแต่ที่บ้านตระกูลเซีย นเรามี ก็สามารถจัดหามามอบให้คุณหนูทั้งนั้น

หลงหลินพูดว่า “เรื่องที่จะขอบคุณค่อยพูดกันวันหลัง ฉัน ต้องการจะตรวจร่างกายของนายท่านก่อน คุณและคนอื่นๆ ออก ไปข้างนอกก่อน”

เชียนสวนก็ย่อมไม่ปฏิเสธ ถึงแม้นางพยาบาลคนนั้นดูลังเล บ้างเล็กน้อย แต่ว่าเซียนสวนก็ส่งสายตาให้ จึงเดินออกนอก ห้องไป สุดท้ายแล้วเขียนสวนมองไปยังเฉินเฟิง
หลงหลินกลับพูดว่า “มีบางเรื่องต้องการความช่วยเหลือจาก เขา ดังนั้นเขาจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นี่

เซียนสวนก็เลยไม่ได้พูดอะไร หลังจากปิดประตูแล้ว ภายใน ห้องก็มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้น

เฉินเฟิงก็นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะมั่วมาถึงที่นี่ได้ อีกทั้งคนที่อยู่

ตรงหน้าก็คือนายท่านของตระกูลเซียน

ถ้าเขาตอนนี้จะจับนายท่านตระกูลเขียนเป็นตัวประกันแล้ว ก็ คาดว่าตระกูลเซียนทุกคนก็ล้วนต้องเชื่อฟังเขาแน่ แต่ว่าเขาก็ เพียงแค่นึกมโนเท่านั้นเอง

ตอนนี้หลงหลินพูดว่า “ยังจะยืนมื้ออยู่ทำไม เอากระเป๋ายามา

เฉินเฟิงถูกตะโกนเรียกจึงสะดุ้งตื่นขึ้นทันที เขาหยิบกระเป๋ายา

แล้วยื่นให้ตรงหน้าหลงหลิน

เพิ่งซีก็มองดูร่างกายของนายท่าน จากนั้นก็พูดกับหลงหลินว่า พ สภาพร่างกายแบบนี้ไม่เหมือนเป็นโรคด้วยตัวเองเลย กลับ เหมือนถูกคนวางยาพิษ

เฉินเฟิงฟังแล้วมองไปด้วยรู้สึกเซอร์ไพรส์ เขากำลังจะถาม รายละเอียด แต่หลงหลินพูดอย่างเย็นชาว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พวกเรา พวกเรารับผิดชอบเพียงแค่ช่วยรักษาคน เรื่องอื่นไม่ใช่ เรื่องที่พวกเราต้องไปยุ่งด้วย

เธอก็หันไปทำตาเขียวใส่เฉินเฟิงแล้วพูดว่า “ออกไปจากที่นี่แล้วก็หุบปากให้สนิทด้วย ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” นี่เป็นคำพูดที่ พูดกับเขาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อคืน ถึงแม้เป็นเพียงแค่คำ เตือนก็ตาม

เฉินเฟิงรีบพูดรับปากว่า “จะไม่พูดอะไรออกไปอย่างเด็ดขาด” “อย่างนี้ดีที่สุดแล้ว” หลงหลินพูดจบก็หันไปดูนายท่านอีกครั้ง แล้วตรวจร่างกายให้กับนายท่าน

นายท่านตระกูลเซียน ดูแล้วอายุก็ราวประมาณเจ็ดแปดสิบ แล้ว ความจริงแล้วอายุปูนนี้แล้ว ถึงแม้จะสามารถช่วยชีวิตมาได้ ก็คงมีชีวิตต่อไปอีกไม่เกินสองปี แต่ก็ไม่มีทางเลือก ใครให้ ตระกูลเซียนมีเงินเยอะล่ะ

ถึงแม้หลงหลินพูดว่าให้เฉินเฟิงช่วยเหลือนั้น ก็แค่อย่างมาก ให้เฉินเฟิงช่วยพยุงนายท่าน เพื่อให้หลงหลินสะดวกในการ ตรวจดูร่างกายในส่วนอื่นๆมากขึ้น สรุปแล้วก็เป็นการใช้ แรงงานเท่านั้นเอง

ทั้งสามคนก็เสียเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว หลงหลินก็หยิบเข็ม เงินสําหรับใช้ฝังเข็มออกมาจากกระเป๋ายา

ให้เฉินเฟิงช่วยพยุงตัวขึ้นมา เธอก็เริ่มฝังเข็มให้กับนายท่าน เมื่อเทียบกับฝีมือการฝังเข็มของเฟิงแล้ว เทคนิคการฝังเข็มของ หลงหลินกลับดูเหนือชั้นกว่ามากเลย เข็มเงินถูกปักลงตรง จุดรวมประสาทหลายแห่ง ระหว่างนั้นไม่มีการสะดุดเลยแม้แต่ นิดเดียว เพียงผ่านไปแค่อึดใจเดียว ก็ฝังเข็มลงไปบนร่างของ นายท่านเต็มไปทั่วร่างหมดแล้ว
“คุณรู้มั้ย? ฝีมือการฝังเข็มของพี่สาวแม้แต่อาจารย์ยังเอ่ย ปากชมเลยล่ะ”

เพิ่งมองเห็นท่าทางที่เฉินเฟิงจ้องมองหลงหลินขณะฝังเข็ม อย่างไม่ละสายตา เธอจึงพูดกับเฉินเฟิงด้วยเสียงเบาๆ ส่วนหลงหลินที่เพิ่งเสร็จจากการฝังเข็มก็ค้อน ใส่เฟิงซี ราวกับ

กำลังจะตำหนิเธอว่าพูดมากไปแล้ว

แต่เฉินเฟิงกลับได้รู้จักตัวตนของหลงหลินได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ถึงแม้รู้ว่าวิชาการแพทย์ของเธอจะร้ายกาจมากก็ตาม แต่ก็ไม่คิด ว่าจะน่าทึ่งถึงเพียงนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ