ลูกเขยมังกร

บทที่ 304 สาวน้อย



บทที่ 304 สาวน้อย

โรงแรมดี?

เฉินเฟิงส่ายหน้า โรงแรมดียังไง ก็อยู่สบาย บ้านไม่ได้ แต่สองแม่ลูกหลินเย่นกับถางรั่วเสงี่ยนทำเรื่องแบบนี้ออก มาได้ เขาเองก็คาดไม่ถึง

แต่บ้านเป็นของหลินหลัน หลินหลันไม่ว่าอะไร เขาก็ไม่คิด เข้าไปยุ่ง

เสี้ยเว่ยกั่วกับหลินหลันพากันไปหาโรงแรมอยู่ เฉินเฟิงอยู่ ที่โรงพยาบาลดูแลเสี้ยเมิ่งเหยา

คืนหนึ่งผ่านไปอย่างเงียบสงบ

เช้าวันต่อมา เสี้ยเว่ยกั๋วกับหลินหลินมาผลัดเวรกับ เฉินเฟิงที่โรงพยาบาล

เฉินเฟิงกะจะกลับไปพักผ่อน แล้วพลันนึกขึ้นมาได้ถึงหวา งซูเจินกับหลินหวั่นวที่เมื่อวานเขาช่วยพามาส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ไม่รู้ทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง

เฉินเฟิงมาถึงห้องพักของหวางซูเงิน

พอเข้าห้องคนไข้ เฉินเฟิงก็เห็นหลินหวั่น วนั่งอยู่มุมห้อง กินหมั่นโถวคนเดียว

บางทีเพราะหมั่นโถวค่อนข้างแห้งแข็ง ดังนั้นในการกลืน แต่ละค่า เธอเลยต้อง , นํ้าตามด้วยถึงจะกลืนมันลงคอได้

เฉินเฟิงถอนหายใจยาว เมื่อวานตอนเจอเธอครั้งแรก เขา นึกว่าเธอมีโรคประจำตัวอะไรถึงได้ผอมแห้งแรงน้อยขนาดนั้น แต่พอเห็นภาพเบื้องหน้านี้แล้ว เขาก็เข้าใจ

หลินหวั่นชีวไม่ได้เป็นโรคประจำตัวอะไร การที่เธอผอม ขนาดนี้เพราะวันๆได้กินแต่หมั่นโถว ร่างกายเลยขาดสาร อาหาร

พอเห็นเฉินเฟิงเข้ามา หลินหวั่น วตกใจสะดุ้งเหมือน กระต่ายตัวน้อยๆ รีบลุกขึ้น ซ่อนหมั่นโถวไว้ด้านหลัง และทัก ทายเฉินเฟิงอย่างงกๆเงินๆว่า: “พี่เฉินเฟิง พี่มาแล้วหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ ถามว่า: “กำลังกินอาหารเช้าหรอ?”

“อืม” เธอพยักหน้าอย่างเขินๆ และถามต่อว่า: “พี่เฉินเฟิง พี่…ทานอาหารเช้าหรือยัง?”

“ยังเลย ว่าจะไปกินเนี่ยแหละ” เฉินเฟิงส่ายหน้า เขามอง หลินหวั่น วหนึ่งที: “ไปด้วยกันไหม?”

“หา?”

“ฉัน….ไม่ไปดีกว่าค่ะ พี่เฉินเฟิง ฉันทานอาหารเช้าแล้ว” เธอรีบส่ายหน้าปฏิเสธ ใบหน้าแดงเรือเล็กน้อย

“กินแล้วจะกินอีกไม่ได้หรอ?” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ

“ฉัน..”

“เอาล่ะ ไปกับพี่ละกัน” เธอยังอยากพูดอะไรอีก แต่เฉินเฟิ งดึงเธอไปโดยไม่ให้โอกาสพูดต่อ

“อืม” หลินหวั่นชีวพยักหน้า ก่อนเดินตามเฉินเฟิงไปอย่าง พอออกจากโรงพยาบาล เฉินเฟิงหาร้านซาลาเปาร้านหนึ่ง

ว่าง่าย

เดินเข้าไปนั่ง

“เถ้าแก่ ขอซาลาเปาห้าเข่ง”

“พี่เฉินเฟิง สั่งมาเยอะขนาดนี้ กินหมดหรอ?” เธอถาม เสียงเบา

“พี่กินไม่หมด ยังมีเธอไม่ใช่หรอ? ” เฉินเฟิงหัวเราะ เหตุผล ที่เขาพาเธอมาด้วยมีแค่อย่างเดียว คือช่วยบำรุงร่างกายให้เธอ ดูจากการกินอาหารของเธอแบบที่เห็นแล้ว ไม่เกินอีกหนึ่งเดียว เธอต้องเป็นโลหิตจางขั้นรุนแรงแน่

“ฉัน…แต่ฉันกินขนาดนี้ไม่หมดหรอก” เธอก้มหน้า เสียง เบาเหมือนยุงบิน

“กินไม่หมดก็ต้องกิน” เฉินเฟิงเข้มขึ้นมา

“ ก็ได้”

ไม่นาน ซาลาเปาห้าเข่งก็ยกมาเสิร์ฟ เฉินเฟิงเทจิ๊กโฉ่วยื่น มาตรงหน้าเธอ “กินสิ”

“ค่ะ” เธอพยักหน้าเบาๆ หยิบซาลาเปาออกมาหนึ่งลูกและ กัดเบาๆ

เฉินเฟิงยิ้ม หยิบซาลาเปามาลูกหนึ่งจิ้มจิ๊กโฉ่วเล็กน้อย และเอาเข้าปากเลย

ไม่นานเฉินเฟิงกินเร็วดุจพายุทะลุฟ้า และจัดการ ซาลาเปาสองเบ่งหมดในพริบตา

ส่วนหลินหวั่นวพึ่งกินไปได้สามลูก

“ที่เหลือของเธอหมดเลยนะ” เฉินเฟิงเรอเล็กน้อยก่อน

บอก

“หา?” เธอตกใจอ้าปากน้อยๆ รีบส่ายหน้าปฏิเสธ: “พี่ เฉินเฟิง ฉัน…ฉันกินไม่หมดหรอก”

“ไม่หมดก็ทิ้งละกัน” เฉินเฟิงยิ้มบอก เขาพูดแบบนี้ เพื่อให้ หลินหวั่น วกินเยอะหน่อย ไม่งั้นด้วยนิสัยขี้อายของเธอแล้ว คงไม่กล้ากินจริงจังต่อหน้าเขาแน่

ครั้งนี้เขาพาเธอออกมาก็ไม่มีความหมายน่ะสิ

“ทิ้งก็สิ้นเปลืองเกินไปสิคะ”

“รู้ว่าเปลืองยังไม่รีบกิน?” เฉินเฟิงถลึงตาใส่สาวน้อย สาวน้อยรีบหยิบซาลาเปาเข้าปากต่อ สิบนาทีผ่านมา หลินหวั่นชีวจัดการซาลาเปาหมดไปหนึ่ง เข่งครึ่ง ที่เหลืออีกสองเข่งครึ่ง เฉินเฟิงไม่ได้ทิ้ง แต่ให้ห่อกลับ ให้หลินหวั่น วเอากลับไป เพราะหวางซูเงินยังไม่ได้ทานอะไร เหมือนกัน

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงตอนกลางคืน

สองแม่ลูกหลินเย่นและถางรั่วเสงี่ยนแต่งองค์ทรงเครื่อง ออกจากบ้านเสี้ย

ไปที่ร้านอาหารหงส์ขาว

พอทั้งคู่มาถึง หน้าประตูร้านอาหารก็มีรถหรูจอดอยู่เพียบ

เลย

คนที่สามารถมาทานอาหารที่ร้านนี้ได้ ต้องเป็นคนระดับ ชั้นแนวหน้าของชางโจวเท่านั้น เพราะที่นี่แค่อาหารมื้อเดียวกั ต้องจ่ายขั้นตั๋าห้าหกพัน ถ้ามีเหล่าอีกสักหลายขวดเข้ามาด้วย สามหมื่นห้าหมื่นยังไม่พอเลย

ถางรั่วเสงี่ยนนัดเขามาเลี้ยงอาหารที่นี่ เพื่อให้เกียติหลิน จงเหว่ย

ตอนนี้ที่หน้าร้านอาหาร มีชายหนุ่มร่างท้วมเล็กน้อยยืน สูบบุหรี่อยู่ข้างรถหรูสีขาวพลางหันมองไปมา

พอเห็นถางรั่วเสงี่ยนและหลินเย่น เขาตาเป็นประกายขึ้น มา ก้าวเท้าไปหาสองแม่ลูก และเอ่ยปากทักทาย

“รั่วเสงี่ยน คุณน้า มากันแล้วหรอครับ”

ท่าทีเก๋งห้าวดูสนิทสนมมาก เทียบกันแล้ว ท่าทีถางรั่วเส วียนกลับดูเย็นชา เธอไม่มองเกิ่งห้าวเลยสักนิด และเดินไปทาง ร้านอาหาร

หลินเย่นกลับยิ้มทักทายเก๋งห้าว: “เราคือเก๋งห้าวล่ะสิ เด็ก คนนี้นี่ดูน่ารักจริงเชียว น้าเคยได้ยินรั่วเสงี่ยนพูดถึงเธอด้วย นะ” พอได้ยินหลินเย่นพูดแบบนี้ เกิ่งห้าวตื่นเต้นทันที: “คุณน้า คุณน้าพูดจริงหรอ? รั่วเสงี่ยนพูดถึงผมต่อหน้าคุณน้าบ่อยๆ หรอ?”

“จริงน่ะสิ รั่วเสงี่ยนบอกว่าเราน่ะหน้าตาดี นิสัยอ่อนโยน มาก เป็นหนึ่งในสุดยอดผู้ชายไม่กี่คนที่เธอเคยเจอมาเลยนะ” หลินเย่นโกหกหน้าตาเฉย แต่ในใจค่าเก๋งห้าวไม่เหลือดี

มิน่าล่ะรั่วเสงี่ยนถึงไม่ชอบเก๋งห้าว สมองมีปัญหาแบบนี้ ให้ฟรี รั่วเสงี่ยนยังไม่เอาเลย

“แหะๆ พอได้แหละครับ คุณน้า ที่จริงผมก็ธรรมดานะ ด้อยกว่ารั่วเสวียนนิดหน่อยเอง” เก๋งห้าวยิ้มกว้าง ในใจวาดฝัน ถึงการแต่งงานกับถางรั่วเสงี่ยนไว้เรียบร้อย แม้แต่ลูกของทั้ง สองจะเรียกอะไรก็คิดไว้แล้วด้วย

“เอาล่ะ เก๋งห้าว พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ” ถึงในใจจะ รําคาญ แต่หลินเย่นไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา

ทั้งสามคนมาถึงเขตวีไอพี นสองของร้านอาหารหงส์ขาว

เทียบกับห้องโถง ชั้นหนึ่งแล้ว สภาพแวดล้อมชั้นสองเขต ไอพีเรียกได้ว่าดีกว่ามาก แน่นอน ราคาก็พุ่งสูงด้วย

เก๋งห้าวจองที่นั่งโซนกลางไว้ เป็นที่นั่งที่ดีที่สุดของร้าน

อาหาร

สามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบทั้งหมด แถมตรง ข้ามยังมีการแสดงไวโอลินให้ด้วย

พอนั่งที่ หลินเย่นอดไม่อยู่ถามขึ้น: “เกิ่งห้าว ประธานหลิน ล่ะ ทําไมไม่เห็นเขาล่ะ?”

“ประธานเขามีธุระ จะมาช้าครึ่งชม.นะครับ” เก๋งห้าว

หัวเราะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ