ลูกเขยมังกร

บทที่ 411 ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน



บทที่ 411 ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน

เสี่ยเมิ่งเหยาที่จู่ๆก็ระเบิดอารมณ์ออกมาแบบนั้น ทำให้ทุกคน ต่างพากันตกใจ โดยเฉพาะหลินหลัน เวลานี้เธอไม่อยากจะเชื่อ จริงๆ ผู้หญิงที่น่าเกรงขามตรงหน้า จะเป็นลูกสาวที่เคยอ่อนโยน ของตน

หลินเล่นเองก็นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แต่เธอดึงสติกลับมาได้อย่าง รวดเร็ว

หลังจากตึงสติกลับมา หลินเป็นโมโหเป็นอย่างมาก เธอหน้า เสียเพิ่งเหยาแล้วดำทอเสียงดัง “คนมีพ่อแต่ไม่มีแม่คอยสั่ง สอน! แกกล้าพูดสิ่งที่แกพูดเมื่อกี้อีกครั้งหนึ่ง…..

“เพียะ” “เพียะ”

ยังไม่ทันพูดจบ เสียงตบเข้าที่ใบหูของหลินเป็นดังขึ้น ขัดจังหวะสิ่งที่เธอกำลังพูด

หลินเย่นนิ่งค้าง

หลินหลันเองก็นั่งค้าง

สีหน้าของทางรั่วเสงี่ยนไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตนเห็น

มีเพียงเสี้ยเพิ่งเหยาเท่านั้นที่นิ่งงัน “ฉันเคยบอกแล้ว ให้เธอ พูดดีๆ หน่อย”

“ทำไมเธอถึงไม่ฟัง
“แก…..แกกล้าตบฉันหรอ?” หลินเป็นกุมหน้าตนเอง มองดู เสี้ยเพิ่งเหยาด้วยแววตานิ่งค้าง เหมือนว่าตนนี้ทำให้เธอถึงกับ ตกตะลึง

“ทําไมต้องไม่กล้าด้วย?”

เสียเพิ่งเหยาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งงัน ความนิ่งสงบของเธอ ทำให้หลินเป็นระบิดอารมณ์ทันที

“อ๊าก! ฉันจะสู้กับแก ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง หลังจากเสียงกรีดร้อง หลินเล่นแยกเขี้ยวทำมือเป็นกรงเล็บ พุ่งเข้าหาเสียเมิ่งเหยา

สีหน้าของเสียเพิ่งเหยาเย็นยะเยือก เธอยกมือขึ้น ตบเข้าที่ หน้าของหลินเล่นอีกครั้ง

“เพียะ”

หลังจากสิ้นเสียงตบ หลินเย่นหมุนตัวหลายตลบอยู่ที่เดิม บน หน้าของเธอมีรอยนิ้วมือห้านิ้ว

“เสี้ยเพิ่งเหยา แกกำลังทำอะไร? ! ” หลินหลั่นทั้งตกใจทั้ง โมโห เธอคิดไม่ถึง เสี้ยเพิ่งเหยาที่อ่อนโยนและถ่อมตนมาโดย ตลอด วันนี้กลับทำตัวต่ำทรามขนาดนี้ ไม่ว่ายังไง หลินเย็นก็อายุ เยอะกว่าเธอ

การที่คนอายุน้อยกว่าตบคนที่อาวุโสกว่า เรื่องนี้ถ้า แพร่งพรายออกไป เสียเพิ่งเหยาต้องถูกคนอื่นแน่นอน เธอคงตายด้วยน้ำลายของคน

“เสี่ยเจิ่งเหยา แก…..แกทำเกินไปแล้ว! กางรั่วเสงี่ยนโมโห จนหน้า หน้าแดง พูดตะกุกตะกัก

เผชิญหน้ากับคำตำหนิของทั้งสอง สีหน้าของเสียเพิ่งเหยายัง คงนิ่งเฉย ไม่มีอารมณ์ใดๆ

หลินเย่นเริ่มด่าทอออกมาด้วยความโกรธ

“รั่วเสงี่ยน เรียกยาม! สั่งให้ยามมาตีคนชั้นต่ำนี้ให้ตาย

เสีย! ”

“คุณจะทำร้ายใคร?” สิ้นเสียงของหลินเย่น ด้านหลังก็มีเสียง เหี้ยมดังขึ้น

หลินเล่นหันไป เธอเพิ่งเห็นว่า เจ้าของเสียงเมื่อครู่ก็คือหลิว

นที่เมื่อกี้เดินออกมาจากห้องพร้อมกับเฉินเฟิง

ข้างกายหลิวคน มีชายหนุ่มร่างท้วมยืนอยู่ ชายหนุ่มคนนี้คือ

จื้อเคอ

หุ่นของทั้งสองแตกต่างกัน แต่เวลานี้ สีหน้าของทั้งสองกลับ เหมือนกัน

สีหน้าของพวกเขาเคร่งขรึม

โดยเฉพาะอู่จื้อเคอ สีหน้าของเขา เคร่งขรึมจนแทบจะ สามารถคั้นน้ำออกมาได้แล้ว

มองดูสีหน้าเคร่งขรึมของทั้งสอง หลินเป็นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น : “พวกคุณจะทำอะไร?

“คุณจะทุบตีคนไม่ใช่หรอ? พูดมาก จะทุบตีใคร?! “หลว นพูดเสียงเย็นยะเยือก

“ไม่ได้ทุบตีใคร ฉันไม่ทุบตีใครทั้งนั้น” คอของหลินเป็นหดสั้น รีบส่ายหน้าไปมา คนตรงหน้าทั้งสองคนนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขา โมโหเธอมาก เวลานี้ถ้าเธอยังไม่รู้ตัว ยังคงมีปัญหากับเสี้ยเพิ่ง เหยา กรมหาที่ตายแล้ว

“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก! “หลิวคุนตวาดด้วยความรำคาญ เขา จัดงานเลี้ยงในวันนี้ขึ้น เพื่อที่จะทำลายเรื่องบาดหมางระหว่าง เขากับเฉินเฟิง แต่เพราะพวกหลินเล่นโผล่ออกมา ทุกอย่างจึงล้ม ไม่เป็นท่า

หลังจากสีหน้า เขียว หลินเยนพาถางรั่วเสงี่ยนออกไปจาก คลับทันที

หลินหลันขยับริมฝีปาก เดิมทีเธออยากจะพูดอะไร แต่พอคำ พูดมาถึงปาก ก็ถูกเธอกลืนกลับเข้าไป

หลิวคุนและอู่จื้อเคอที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์ ที่ไม่ธรรมดากับเฉินเฟิง ดูจากการแต่งตัวของพวกเขาสองคน แล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกผู้ดี สิ่งที่เธอทำกับเฉินเฟิงเมื่อครู่ ทั้ง สองคนคงเห็นหมดแล้ว

เวลานี้ ถ้าเธอพูดอะไรออกมาอีก มีแต่จะทำให้พวกเขาสองคน

สําคาญ
“คุณเสี่ย ผมกับจื้อเคอเป็นเพื่อนของพี่เฟิงครับ หลังจาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลิวดนฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้น

แต่เสียเพิ่งเหยากลับไม่แม้แต่ปรายตามองหลิวคน

หลิวคุณเองก็ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วน เขายังคงแบกหน้าพูด ต่อ : คุณเสียครับ พี่เฟิงกับคุณหลิน ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่าง ที่คุณคิดนะครับ…….”

“พวกเขาจะมีความสัมพันธ์กันแบบไหน ก็ไม่เกี่ยวกับฉัน! ”

ยังไม่รอให้หลิวคุนพูดจบ เสี้ยเพิ่งเหยาพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำ เสียงเย็นชา

หลังจากทิ้งคำพูดนี้ เสียเพิ่งเหยาหมุนตัวหันหลังเดินออกไป เธอไม่ได้ฟังคำอธิบายของหลิวคนแม้แต่น้อย

“พี่คุน ทำยังไงดีครับ?” อู่ซื้อเคออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลิว คุน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะเขาปากพล่อยเรียกหลินหวั่นชีว ว่าพี่สะใภ้ ถ้าไม่มีคำว่าพี่สะใภ้ บางทีเรื่องคงไม่มาถึงขั้นนี้

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลิวคนขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา เจอกับ เสียเพิ่งเหยา ในวันนี้ ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึง

อีกทั้งมองดูแล้ว ความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงและเสียเพิ่งเหยา ยังคงลึกซึ้งมาก

แต่เพราะความลึกซึ้งนี้ จึงทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดในวันนี้ ถึงแม้อาการของหลินหวั่นชีวจะทรงตัวแล้ว แต่เพื่อกันไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นอีก เงินเฟิงจึงเชิญเจียงจูงถึงมา โดยผ่านสื่อโฟ

หลังจากตรวจดูอาการแล้ว เพียงจุงถึงเดินมาตรงหน้าเงินเฟ งด้วยสีหน้าแปลกๆ

“อาเจียง หวั่นชีวเป็นยังไงบ้างครับ?” เฉินเฟิงถามเสียงทุ้ม เจียงจูงถึงไม่ได้ตอบคำถามเฉินเฟิง แต่กลับถามเขา “คุณ เฉิน คุณแน่ใจหรอว่าก่อนหน้านี้คุณหลินถูกรถชน

“แน่ใจครับ” เงียบไปครู่หนึ่ง เฉินเฟิงยิ้มเศร้า เขาพอจะเดา อาการของหลินหวั่นวได้แล้ว

หนึ่งวินาทีถัดมา เจียงจูงถึงยืนยันในสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้ “ร่างกายของคุณหลิน ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ

“ดูเหมือนว่าคุณเฉินไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับอาการของคุณ หลิน?” เจียงจุงถึงอดไม่ได้ที่จะมองเฉินเฟิง อาการของหลินหวั่น ชีว ไม่สามารถใช้คำว่าปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ในการอธิบาย ได้แล้ว

ตามหลักการแล้ว ถูกรถแลนด์โรเวอร์พุ่งชนเข้าอย่างจัง มี ความเป็นไปได้ที่กระดูกจะหักตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว แต่หลินหวั่น ชีวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

สิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือ บาดแผลเล็กน้อยของเธอ ใช้เวลา ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็รักษาหายด้วยตนเอง
เอาเรื่องนี้ไปอยู่ในด้านการแพทย์ เรียกได้ว่าเจอผีหลอกตอน กลางวันแสกๆ

“ไม่แปลกใจครับ เกิดอะไรขึ้นกับตัวของหวั่นว ผมสามารถ เข้าใจได้” เฉินเฟิงพยักหน้า ความเป็นจริงวินาทีที่พลังของเขา เข้าไปในตัวของหลินหวั่นว เขาก็เข้าใจแล้ว คืนนี้หลินหลั่นชีว ไม่มีวันเป็นอะไร

ไม่มีทางเป็นอื่น พลังในตัวหลินหลั่นชีว มันยิ่งใหญ่และ บริสุทธิ์มาก

ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงยังสงสัย มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นพลังของ

จอมยุทธ์ วจิ้งชั้นสุด แต่ว่าตอนนี้ เฉินเพิ่งกลับไม่สงสัยเรื่องนั้นแม้แต่น้อย

ไม่มีทางเป็นของหัวจิ้งชั้นสุด

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็คือมหา ปรมาจารย์!

มีเพียงแค่พลังระดับมหาปรมาจารย์เท่านั้น ที่จะทำให้คนตาย กลับมามีชีวิต!

มีเพียงพลังระดับมหาปรมาจารย์เท่านั้น ที่จะใช้เวลาภายใน ครึ่งชั่วโมง รักษาแผลทั้งหมดของหลินหวั่นชีว

ถึงแม้ฟังดูแล้วจะเหลือเชื่อ แต่เฉินเพิ่งกลับมั่นใจ ทั้งหมดนี้ ต้องเป็นพลังของมหาปรมาจารย์
ตอนนี้ปัญหามาแล้ว มหาปรมาจารย์ที่ให้พลังกับหลินหวั่น

ว……คือใครกันแน่?

ทั่วทั้งหวาเซีย มีมหาปรมาจารย์แค่เก้าคน มหาปรมาจารย์ทั้งเก้าคน เป็นคนที่ยืนอยู่อันดับสูงสุดของ

โลก

พวกเขาวางมือจากโลกไปนานแล้ว ไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลกอีก อีกทั้งยังมีมหาปรมาจารย์อีกหลายคน ที่ไม่ออกมาจากการ บำเพ็ญเพียรนานเกือบสามสิบปีแล้ว

แต่พลังระดับมหาปรมาจารย์ในตัวหลินหวั่นว ไม่สามารถ แสร้งทําขึ้นมาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ